คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 25
เคส จขกท คล้ายๆอันนี้ป่ะนะ คิดถึงรายการนี้เลย
ถูเหลย ผู้เชี่ยวชาญปัญหาครอบครัว : เงินที่ใช้ก็เงินพ่อแม่ทั้งนั้น ถามว่ามันมีประโยชน์มั้ย?...ถามว่างานแต่งต้องการพิธีรีตองมั้ย? ต้องการครับ แต่พิธีรีตองมันพิสูจน์ไม่ได้ว่าฉันรักเธอ...บางคู่เค้ามีความสุขจากขั้นตอนการจัดงานร่วมกันต่างหาก ไม่ใช่จากขนาดของงาน! ที่สำคัญ งานแต่งถึงใหญ่โตแค่ไหนก็แค่แต่งให้คนอื่นดู ตัวคุณเองมีปัญญาระดับไหนคุณยังไม่รู้ตัวเหรอ?

ตอนเต็ม:https://www.facebook.com/shoot2china/videos/1022613487843977/
ถูเหลย ผู้เชี่ยวชาญปัญหาครอบครัว : เงินที่ใช้ก็เงินพ่อแม่ทั้งนั้น ถามว่ามันมีประโยชน์มั้ย?...ถามว่างานแต่งต้องการพิธีรีตองมั้ย? ต้องการครับ แต่พิธีรีตองมันพิสูจน์ไม่ได้ว่าฉันรักเธอ...บางคู่เค้ามีความสุขจากขั้นตอนการจัดงานร่วมกันต่างหาก ไม่ใช่จากขนาดของงาน! ที่สำคัญ งานแต่งถึงใหญ่โตแค่ไหนก็แค่แต่งให้คนอื่นดู ตัวคุณเองมีปัญญาระดับไหนคุณยังไม่รู้ตัวเหรอ?

ตอนเต็ม:https://www.facebook.com/shoot2china/videos/1022613487843977/
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
1) อืมมม ยังไม่ใช่คำถาม อันนี้บ่น
2) จ้ะ อันนี้ไม่ใช่คำถาม แค่บอกเล่า
3) จ้ะ อันนี้ไม่ใช่คำถาม แค่บอกเล่า
4) โอเค คุณเสนอ 1 ล้าน (ตั้งงบไว้ก่อน) อันนี้ก็บอกเล่า โอเคๆ
5) แฟนเสนอแนะให้ไปคุยกับแม่แฟน อันนี้ก็บอกเล่า โอเคๆ
6) แม่แฟนบอก จัดงานที่บ้าน ไม่ต้องใหญ่ // แฟนแอบบอกว่าแม่พูดไปงั้นแหละแม่เพื่อนเยอะนะ อันนี้ก็บอกเล่า โอเคๆ
7) พ่อพี่น้องแฟนไม่โอเคบอกสินสอดน้อยไป // จขกท เสนออสังหา 3 ล้านแทนได้ป่าว
8) แฟนถาม ค่าของหมั้น ค่าจัดงาน ล่ะ...บลาๆๆๆ /// จขกท งง เห้ยไรเยอะแยะ
9) แฟนผมเค้าเลยบอกว่า มีที่ไหนเค้าทำกัน แบบนี้ก็เหมือนเค้าออกเงินจัดงานแต่งให้ตัวเองน่ะสิ ฝ่ายชายต้องเป็นคนออกค่าของหมั้น ค่างานแต่งด้วย...อันนี้ลอก จขกท มาดื้อๆ ย่อไม่ได้แระ
10) แฟนอัฟของหมั้นขอพ่วงบ้านใหม่ที่ จขกท จะซื้อด้วย // จขกท โน อันนี้ทรัพย์สินฝั่งบ้านจขกท
11) แฟนเริ่มงอแง ทำไมไม่ช่วยคิด
11 ข้อยังไม่ได้ข้อสรุป เห้อ ให้ความเห็นในฐานะเคยเป็นเพื่อนเจ้าสาวจัดการมาหลายงาน ให้นะ
คุณตั้งงบ ดีแล้ว แต่ขอเป็นงบเผื่อๆ เจ้าสาวดูดราม่ามากมาย เพราะคงยังไม่ชัดเจนเหมือนกัน
งบหนึ่งล้าน .... คุณคิดว่า จะแบ่งเป็นอะไรบ้าง คุณเป็นคนเริ่มคุยให้ชัดเจนดีกว่า
นี่คุยมา 11 ข้อไม่ได้อะไรเลย ตีเหมาๆ ล้านนึง บางคนว่าพอบางคนว่าน้อยมันแล้วแต่คน
มันถึงเวลาที่ต้องคุยรายละเอียดแล้ว
1,000,000 = เงินสินสอด 500,000 ทองอีก 200,000 เหลืองบจัดงาน 300,000
ในหัวคุณเป็นแบบนี้รึเปล่า มันพอจะเห็นภาพชัดนะ
คุณพอจะมองออกว่าตกลงสินสอดที่ให้ คือ 700,000 ทางนู้นโอเคมั้ย
ถ้าคนละครึ่ง ส่วนใหญ่รักกันดีๆ มักทางนี้ช่วยกันเก็บ มันคือ
700,000(จขกท) + 700,000 (เจ้าสาว) เท่ากับ 1,400,000 นะ ดูเยอะขึ้นยัง
หรือเค้าจะเอาสินสอดฝั่งคุณคนเดียว 1,000,000 เลยรึเปล่า
งั้นมาดูค่าใช้จ่ายทั่วไป Standard ยาวมาใส่สปอยดีกว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปล จริงๆ ชื่อแขก ควรเริ่ม list ก่อนเลย ว่าจะเชิญใครบ้าง
เพื่อนหลายคู่ตอนจอง รร คิดว่าคนเยอะ จองซะ 500 คน เชิญได้จริงแค่ 200 คิดจนหัวจะแตก ระบุเชิญได้แค่ 200 (จ่ายเกินไปฟรีๆ)
หรือบางทีคิดแบบเจียมตัว 200 ก็พอ ไม่อยากรบกวนซองเพื่อน
กลายเป็นว่าเป็นคนที่เพื่อนรักมากนะ จะให้เพื่อสมัยไหนอยู่ไกลยังไงเค้าก็มา ต้องเพิ่มโต๊ะ ค่าเพิ่มโต๊ะมักจะแพงกว่าปกติ
ตั้งใจตอบโคดๆ ยิ่งกว่าตอบข้อสอบ
2) จ้ะ อันนี้ไม่ใช่คำถาม แค่บอกเล่า
3) จ้ะ อันนี้ไม่ใช่คำถาม แค่บอกเล่า
4) โอเค คุณเสนอ 1 ล้าน (ตั้งงบไว้ก่อน) อันนี้ก็บอกเล่า โอเคๆ
5) แฟนเสนอแนะให้ไปคุยกับแม่แฟน อันนี้ก็บอกเล่า โอเคๆ
6) แม่แฟนบอก จัดงานที่บ้าน ไม่ต้องใหญ่ // แฟนแอบบอกว่าแม่พูดไปงั้นแหละแม่เพื่อนเยอะนะ อันนี้ก็บอกเล่า โอเคๆ
7) พ่อพี่น้องแฟนไม่โอเคบอกสินสอดน้อยไป // จขกท เสนออสังหา 3 ล้านแทนได้ป่าว
8) แฟนถาม ค่าของหมั้น ค่าจัดงาน ล่ะ...บลาๆๆๆ /// จขกท งง เห้ยไรเยอะแยะ
9) แฟนผมเค้าเลยบอกว่า มีที่ไหนเค้าทำกัน แบบนี้ก็เหมือนเค้าออกเงินจัดงานแต่งให้ตัวเองน่ะสิ ฝ่ายชายต้องเป็นคนออกค่าของหมั้น ค่างานแต่งด้วย...อันนี้ลอก จขกท มาดื้อๆ ย่อไม่ได้แระ
10) แฟนอัฟของหมั้นขอพ่วงบ้านใหม่ที่ จขกท จะซื้อด้วย // จขกท โน อันนี้ทรัพย์สินฝั่งบ้านจขกท
11) แฟนเริ่มงอแง ทำไมไม่ช่วยคิด
11 ข้อยังไม่ได้ข้อสรุป เห้อ ให้ความเห็นในฐานะเคยเป็นเพื่อนเจ้าสาวจัดการมาหลายงาน ให้นะ
คุณตั้งงบ ดีแล้ว แต่ขอเป็นงบเผื่อๆ เจ้าสาวดูดราม่ามากมาย เพราะคงยังไม่ชัดเจนเหมือนกัน
งบหนึ่งล้าน .... คุณคิดว่า จะแบ่งเป็นอะไรบ้าง คุณเป็นคนเริ่มคุยให้ชัดเจนดีกว่า
นี่คุยมา 11 ข้อไม่ได้อะไรเลย ตีเหมาๆ ล้านนึง บางคนว่าพอบางคนว่าน้อยมันแล้วแต่คน
มันถึงเวลาที่ต้องคุยรายละเอียดแล้ว
1,000,000 = เงินสินสอด 500,000 ทองอีก 200,000 เหลืองบจัดงาน 300,000
ในหัวคุณเป็นแบบนี้รึเปล่า มันพอจะเห็นภาพชัดนะ
คุณพอจะมองออกว่าตกลงสินสอดที่ให้ คือ 700,000 ทางนู้นโอเคมั้ย
ถ้าคนละครึ่ง ส่วนใหญ่รักกันดีๆ มักทางนี้ช่วยกันเก็บ มันคือ
700,000(จขกท) + 700,000 (เจ้าสาว) เท่ากับ 1,400,000 นะ ดูเยอะขึ้นยัง
หรือเค้าจะเอาสินสอดฝั่งคุณคนเดียว 1,000,000 เลยรึเปล่า
งั้นมาดูค่าใช้จ่ายทั่วไป Standard ยาวมาใส่สปอยดีกว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปล จริงๆ ชื่อแขก ควรเริ่ม list ก่อนเลย ว่าจะเชิญใครบ้าง
เพื่อนหลายคู่ตอนจอง รร คิดว่าคนเยอะ จองซะ 500 คน เชิญได้จริงแค่ 200 คิดจนหัวจะแตก ระบุเชิญได้แค่ 200 (จ่ายเกินไปฟรีๆ)
หรือบางทีคิดแบบเจียมตัว 200 ก็พอ ไม่อยากรบกวนซองเพื่อน
กลายเป็นว่าเป็นคนที่เพื่อนรักมากนะ จะให้เพื่อสมัยไหนอยู่ไกลยังไงเค้าก็มา ต้องเพิ่มโต๊ะ ค่าเพิ่มโต๊ะมักจะแพงกว่าปกติ
ตั้งใจตอบโคดๆ ยิ่งกว่าตอบข้อสอบ
ความคิดเห็นที่ 5
ถ้าไม่ไหวก็แค่ถอนตัวค่ะ
เราอ่านแล้วยังเหนื่อยแทนเลย
จะต้องการอะไรมากขนาดนี้
เยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ปล. ยังมีผู้หญิงอีกมากมายที่ไม่ได้ต้องการทรัพย์สินเงินทองเยอะแยะจากฝ่ายชาย และไม่ต้องการพิธีกรรมเยอะแยะมากมายขนาดนี้ด้วย
ถ้าจะมีพิธีกรรมเยอะ ควรมีตามพิธี แต่ไม่ใช่สิ้นเปลืองจนเกินไป ยกเว้นแต่งงานกันในวงเศรษฐี
ปล.2 คิดเยอะ ๆ ค่ะ ว่าใช่คนนี้แน่เหรอ เราคิดว่าคนรักกัน เวลาจะแต่งงานเค้าต้องเข้าข้างเราสิ ไม่ใช่พยายามทำให้เราลำบากมากขึ้นในทุก ๆ ทางนะ ถ้าเธอเอาทุกอย่างไปจากคุณหมด เธออาจจะรักคุณ แต่รักตัวเองมากกว่ารักคุณเยอะ คิดดูดี ๆ
เราอ่านแล้วยังเหนื่อยแทนเลย
จะต้องการอะไรมากขนาดนี้
เยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ปล. ยังมีผู้หญิงอีกมากมายที่ไม่ได้ต้องการทรัพย์สินเงินทองเยอะแยะจากฝ่ายชาย และไม่ต้องการพิธีกรรมเยอะแยะมากมายขนาดนี้ด้วย
ถ้าจะมีพิธีกรรมเยอะ ควรมีตามพิธี แต่ไม่ใช่สิ้นเปลืองจนเกินไป ยกเว้นแต่งงานกันในวงเศรษฐี
ปล.2 คิดเยอะ ๆ ค่ะ ว่าใช่คนนี้แน่เหรอ เราคิดว่าคนรักกัน เวลาจะแต่งงานเค้าต้องเข้าข้างเราสิ ไม่ใช่พยายามทำให้เราลำบากมากขึ้นในทุก ๆ ทางนะ ถ้าเธอเอาทุกอย่างไปจากคุณหมด เธออาจจะรักคุณ แต่รักตัวเองมากกว่ารักคุณเยอะ คิดดูดี ๆ
ความคิดเห็นที่ 26
คุณทำอะไรไม่สมฐานะแฟนคุณ
คุณคิดว่าคนรายได้เดือนล่ะแสน จะจัดงานแต่งงานโรงแรม 2-3 ดาวหรือโรงพยาบาลสงฆ์หรือค่ะ มันไม่ใช่
ระดับรายได้เดือนล่ะแสน เพื่อน ๆ ที่เขาคบ ๆ สนิท ๆ ก็คงมีรายได้ประมาณ 6 หมื่นขั้นต่ำ ชีวิตคงจะไฮ ๆ เที่ยวต่างประเทศกันบ่อย ๆ ด้วย
การจัดงานขั้นต่ำก็โรงแรม 4 ดาว(ยังงอน ๆ เลย)
1 สังคมของเธอเพื่อน ๆ ก็รายได้ระดับสูงประหยัดได้อย่างไร อายชาวบ้าน
2 สัก 20-25 โต๊ะน่าจะโอเค งานระดับกลาง ๆ (จำไว้โรงแรมหรูเงินช่วยเยอะ ไม่ได้กะเอาเงินช่วยนะ แต่แขกที่มาก็เกรงใจ)
เอาสรุปทุกข้อนะ ฟัง ๆ ดูสังคมแฟนคุณมันสูงเกิน ถ้าจะแต่งงานกันก็ต้องทำตามเขา อย่าดึงเขามาต่ำ มันไม่ใช่ปัญหาแค่เรื่องแต่งงานแล้ว ถ้าใช้ชีวิตด้วยกัน บ้านที่จะซื้อ ก็คงเป็นบ้านหลัง 10 ล้านขี้น โซฟาแต่งบ้านก็คงราคาขั้นต่ำ 5 หมื่น
แฟนคุณไม่ได้ทำอะไรเกินฐานะของเธอเลย อายุน่าจะไม่เกิน 35 เงินเดือนเกีอบแสนนี้ แถมถ้าเดาพ่อแม่น่าจะเคยเป็นข้าราชการระดับ ซี 8 ขึ้นทั้งคู่อีก
ถ้ายังตกลงเรื่องแค่นี้ไม่ได้อย่าสร้างครอบครัวเลย เพราะฐานะของแฟนคุณ ถ้ามีลูกเขาอาจจะอยากให้ลูกเรียนนานาชาติอีก อยู่ด้วยกันอาจจะต้องจ่ายค่าแม่บ้าน อีก
และที่สำคัญ ก่อนจะแต่งเราว่าจากฐานะของแฟนคุณ(เธอไม่ผิดนะ เพราะเธอรวยไง แต่เป็นผู้หญิง) คุยกันเรื่องเงินในครอบครัวก่อนมั้ยว่าใครจะออกค่าอะไรบ้าง ไม่ใช่คุณต้องจ่ายค่าผ่อนบ้าน น้ำไฟ อาหารในบ้าน มีลูกค่าเทอม ค่าประกัน ค่าทุกอย่าง เงินเดือนเธอแค่ช็อปซื้อของสวย ๆ พอมีปัญหาเธอก็บอกเธอก็จ่ายค่าเสี้อผ้าของเล่นลูกไง(ซื้อเพราะอยากได้เอง)
เรื่องแต่งงานี้เล็กเลย ถ้ายังไม่คุยกันเรื่องรายจ่ายในบ้าน วางแผนโรงเรียนลูก เตี่อนไว เน้นอีกทีว่าแฟนคุณไม่ผิดอะไรเพราะเธอรวย
คุณคิดว่าคนรายได้เดือนล่ะแสน จะจัดงานแต่งงานโรงแรม 2-3 ดาวหรือโรงพยาบาลสงฆ์หรือค่ะ มันไม่ใช่
ระดับรายได้เดือนล่ะแสน เพื่อน ๆ ที่เขาคบ ๆ สนิท ๆ ก็คงมีรายได้ประมาณ 6 หมื่นขั้นต่ำ ชีวิตคงจะไฮ ๆ เที่ยวต่างประเทศกันบ่อย ๆ ด้วย
การจัดงานขั้นต่ำก็โรงแรม 4 ดาว(ยังงอน ๆ เลย)
1 สังคมของเธอเพื่อน ๆ ก็รายได้ระดับสูงประหยัดได้อย่างไร อายชาวบ้าน
2 สัก 20-25 โต๊ะน่าจะโอเค งานระดับกลาง ๆ (จำไว้โรงแรมหรูเงินช่วยเยอะ ไม่ได้กะเอาเงินช่วยนะ แต่แขกที่มาก็เกรงใจ)
เอาสรุปทุกข้อนะ ฟัง ๆ ดูสังคมแฟนคุณมันสูงเกิน ถ้าจะแต่งงานกันก็ต้องทำตามเขา อย่าดึงเขามาต่ำ มันไม่ใช่ปัญหาแค่เรื่องแต่งงานแล้ว ถ้าใช้ชีวิตด้วยกัน บ้านที่จะซื้อ ก็คงเป็นบ้านหลัง 10 ล้านขี้น โซฟาแต่งบ้านก็คงราคาขั้นต่ำ 5 หมื่น
แฟนคุณไม่ได้ทำอะไรเกินฐานะของเธอเลย อายุน่าจะไม่เกิน 35 เงินเดือนเกีอบแสนนี้ แถมถ้าเดาพ่อแม่น่าจะเคยเป็นข้าราชการระดับ ซี 8 ขึ้นทั้งคู่อีก
ถ้ายังตกลงเรื่องแค่นี้ไม่ได้อย่าสร้างครอบครัวเลย เพราะฐานะของแฟนคุณ ถ้ามีลูกเขาอาจจะอยากให้ลูกเรียนนานาชาติอีก อยู่ด้วยกันอาจจะต้องจ่ายค่าแม่บ้าน อีก
และที่สำคัญ ก่อนจะแต่งเราว่าจากฐานะของแฟนคุณ(เธอไม่ผิดนะ เพราะเธอรวยไง แต่เป็นผู้หญิง) คุยกันเรื่องเงินในครอบครัวก่อนมั้ยว่าใครจะออกค่าอะไรบ้าง ไม่ใช่คุณต้องจ่ายค่าผ่อนบ้าน น้ำไฟ อาหารในบ้าน มีลูกค่าเทอม ค่าประกัน ค่าทุกอย่าง เงินเดือนเธอแค่ช็อปซื้อของสวย ๆ พอมีปัญหาเธอก็บอกเธอก็จ่ายค่าเสี้อผ้าของเล่นลูกไง(ซื้อเพราะอยากได้เอง)
เรื่องแต่งงานี้เล็กเลย ถ้ายังไม่คุยกันเรื่องรายจ่ายในบ้าน วางแผนโรงเรียนลูก เตี่อนไว เน้นอีกทีว่าแฟนคุณไม่ผิดอะไรเพราะเธอรวย
ความคิดเห็นที่ 27
เจ้าสาวอยากได้งานแต่งงานหรูๆ ก็ไม่ผิดหรอก แต่ควรออกค่าใช้จ่ายเองนะ เพราะฝ่ายชายก็จ่ายค่าสินสอดแล้ว
หรือไม่งั้น ก็ต้องแชร์ค่าใช้จ่ายด้วย เพราะฐานะการเงินก็ดีกว่าบ้านฝ่ายชาย
ไม่ใช่อยากได้งานแต่งหรูเลิศ แต่เห็นแก่ตัวไม่ยอมออกค่าใช้จ่ายอะไรสักอย่าง
ธรรมเนียมจีน เจ้าบ่าวให้สินสอดเท่าไร เจ้าสาวก็จะทบสินสอดให้อีกเท่าตัว แล้วคืนให้คู่บ่าวสาว
ธรรมเนียมไทย เจ้าบ่าวให้สินสอด เจ้าสาวออกค่าจัดงาน
ธรรมเนียมฝรั่ง เจ้าบ่าวให้แหวนแต่งงาน เจ้าสาวจ่ายค่าจัดงานแต่งงาน อยากจัดใหญ่แค่ไหนก็ได้เพราะออกค่าใช้จ่ายเอง
ธรรมเนียมอินเดีย ที่เจ้าสาวต้องให้สินสอดฝ่ายชาย เพราะหลังแต่งฝ่ายชายต้องเป็นฝ่ายดูแลครอบครัว
แต่เท่าที่อ่านดู เจ้าสาวฐานะดี รายได้ดี แล้วแชร์ค่าใช้จ่ายงานแต่งอะไรบ้าง
การแต่งงานเป็นเรื่องของคนสองคน ก็ควรช่วยกันสร้างช่วยกันหาไม่ใช่เหรอ
ไม่ควรเป็นภาระฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ทางที่ดี ก็คุยกับฝ่ายเจ้าสาว ว่าเธอเรียกร้องแบบนี้ แล้วเธอจะแชร์ค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
ไม่ใช่ อยากแต่จะได้อย่างเดียว แต่ไม่อยากจ่ายอะไรเลย
หรือไม่งั้น ก็ต้องแชร์ค่าใช้จ่ายด้วย เพราะฐานะการเงินก็ดีกว่าบ้านฝ่ายชาย
ไม่ใช่อยากได้งานแต่งหรูเลิศ แต่เห็นแก่ตัวไม่ยอมออกค่าใช้จ่ายอะไรสักอย่าง
ธรรมเนียมจีน เจ้าบ่าวให้สินสอดเท่าไร เจ้าสาวก็จะทบสินสอดให้อีกเท่าตัว แล้วคืนให้คู่บ่าวสาว
ธรรมเนียมไทย เจ้าบ่าวให้สินสอด เจ้าสาวออกค่าจัดงาน
ธรรมเนียมฝรั่ง เจ้าบ่าวให้แหวนแต่งงาน เจ้าสาวจ่ายค่าจัดงานแต่งงาน อยากจัดใหญ่แค่ไหนก็ได้เพราะออกค่าใช้จ่ายเอง
ธรรมเนียมอินเดีย ที่เจ้าสาวต้องให้สินสอดฝ่ายชาย เพราะหลังแต่งฝ่ายชายต้องเป็นฝ่ายดูแลครอบครัว
แต่เท่าที่อ่านดู เจ้าสาวฐานะดี รายได้ดี แล้วแชร์ค่าใช้จ่ายงานแต่งอะไรบ้าง
การแต่งงานเป็นเรื่องของคนสองคน ก็ควรช่วยกันสร้างช่วยกันหาไม่ใช่เหรอ
ไม่ควรเป็นภาระฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ทางที่ดี ก็คุยกับฝ่ายเจ้าสาว ว่าเธอเรียกร้องแบบนี้ แล้วเธอจะแชร์ค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
ไม่ใช่ อยากแต่จะได้อย่างเดียว แต่ไม่อยากจ่ายอะไรเลย
แสดงความคิดเห็น
ปัญหาคลาสสิค สินสอดครับ ประสบกับตัวเองแล้ว
แต่ก็คุยกันตลอด เจอกันทุกเดือน ไปเที่ยว ตจว ตปท กันบ้างตามโอกาส ไปกันทุกปี
คุยกันได้ทุกเรื่อง ระหว่างคบกัน ค่ากินค่าเที่ยว ก็สลับกันเลี้ยงบ่อยๆ โดยมากผมจะเลี้ยงเป็นส่วนใหญ่
พ่อแม่ของผมกับแฟน เกษียณแล้วทั้งหมด
แฟนรายได้เดือนนึงประมาณหนึ่งแสน
ค่าใช้จ่ายของพ่อแม่ผม ผมเป็นคนให้ หักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วผมก็เหลือเก็บเดือนละ2-30000แล้วแต่เดือน
ปีที่แล้ว ก็คุยกันเรื่องแต่งงานกันบ่อยขึ้น
ส่วนใหญ่ที่คุย ก็ไม่ค่อยได้ข้อสรุปอะไรเท่าไหร่ครับ
ประเด็นที่คุยกันส่วนใหญ่ ก็เรื่อง รูปแบบงานแต่ง ค่าใช้จ่าย(สินสอด เป็นต้น)
1) โดยมากแฟนผมไม่ค่อยปลื้มกับสิ่งที่ผมบอกครับ เพราะเวลาเธอ ผมก็จะตอบเหมือนเดิม
ว่าขอแนวประหยัด อย่าให้มันมีค่าใช้จ่ายสูงมากนัก
ผมมีแนวคิดว่า พิธีแต่งงานตามธรรมเนียมเช่นการ ผูกข้อมือ รับพรจากผู้ใหญ่ เป็นสิ่งที่ยอมรับได้
แต่งานเลี้ยงแต่งงาน เป็นสิ่งที่ค่อนข้างฟุ่มเฟือย ถ้าลดได้ก็ดี นี่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเช่นการถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง ฯลฯ งบจะบานปลายไปเรื่อยๆ
(และมีเหตุผลด้านอารมณ์ร่วมคือ ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่ตัวผมเลยที่ต้องเป็นเจ้าบ่าว ทักทายแขกจำนวนมากๆในงานแบบนั้น ถึงมันจะครั้งเดียวในชีวิตก็เถอะ)
2) แฟนผมก็ให้เหตุผลแย้งว่า ญาติผู้ใหญ่ของพ่อแม่เค้ามีค่อนข้างมาก ถ้าจัดงานเล็ก ก็เหมือนไม่ให้เกียรติไม่ไว้หน้าพ่อแม่ของเค้า
เพื่อนเค้าก็เยอะ
3) แฟนผมก็เคยถามนะว่า ทำไมผมไม่ไปขอความเห็นจากพ่อแม่ผมบ้าง อาจจะไม่เหมือนที่ผมคิดนะ แฟนผมมักบอกว่าผมคิดไม่เหมือนคนอื่น
ผมก็เคยตอบไปว่า ถามไป สุดท้าย คนจัดการเรื่องค่าใช้จ่าย ก็ผมอยู่ดีแหละ เพราะผมไม่อยากให้พ่อแม่ต้องเอาเงินเก็บมา ให้เก็บไว้ใช้ตอนแก่เผื่อฉุกเฉิน
(บ้านผมเดิมปากกัดตืนถีบครับ เงินเก็บมีน้อย วินัยการเงินหลุดบ่อย เพิ่งลืมตาอ้าปากรุ่นผม)
แรกๆ ก็คุยกันประมาณนี้ครับ คุยกันบ่อย แต่ก็วนเวียนประเด็นเดิมๆ
4) พักหลัง ผมเลยเสนอว่า ถ้าผมจัดงบประมาณให้ 1 ล้าน เนี่ย พอมั้ย
เค้าก็เลยถามครับว่า 1 ล้าน ค่างานแต่งอย่างเดียวหรือ แล้วค่าสินสอดกับของหมั้นล่ะ
ผมตอบว่าไม่ใช่ รวมทุกอย่าง ทั้งสินสอด และ ค่าจัดงานเลี้ยง
ก็เลยมีคำถามจากแฟนผมว่า แบบนี้สินสอดจะเป็นจำนวนเท่าไหร่
ผมเสนอว่า ก็ต้องจัดสรรเอาเองครับ จัดงานเลี้ยงใหญ่ สินสอดก็ต้องลดลง ถ้าต้องการให้เหลือสินสอดเยอะ งานเลี้ยงก็ต้องลด
แฟนผมก็เงียบไป เราก็เลยไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ไปซักพัก
ต่อมาไม่นาน ก็ได้คุยกันเรื่องนี้อีก
5) แฟนผมเค้าก็เลยบอกว่า งั้นให้ไปคุยกับแม่แฟนเองแล้วกัน เพราะว่าเพื่อนแม่มีค่อนข้างมาก สังคมเยอะ และ แม่น่าจะแนะแนวทางการบริหารจัดการได้
ถ้าจะให้จัดแบบ งานเล็ก ตามที่ผมเสนอ ถ้าแม่แฟนไม่เห็นด้วย เค้าก็ช่วยอะไรไม่ได้
แล้ววันนั้นก็มาถึง
ปกติผมไปบ้านแฟน ประมาณ เดือนละครั้ง แต่ปีนึง ไม่ถึง 12 ครั้ง
ผมเตรียมใจไปแล้วครับ
พอไปถึง หลังจากทักทายกัน พอได้เวลาส่วนตัว ที่แม่แฟน กับผม อยู่กันสองคน แม่เค้าก็บอกว่าแฟนผม เอาเรื่องการแต่งงานมาปรึกษา ตอนนี้ได้ข้อสรุปรึยัง
ตอนที่คุยกับแม่แฟน ส่วนใหญ่แม่แฟนจะเป็นฝ่ายพูดนะครับ
6) สรุปได้ความว่า แม่แฟนผม ให้แนวคิดว่า งานเลี้ยงไม่จำเป็นต้องใหญ่ และคงไม่เชิญแขกมาก เพราะ เพื่อนๆแม่นั้นส่วนใหญ่มีอายุและเดินทางไม่สะดวก จัดงานที่บ้านได้ สินสอด มีพอเป็นพิธี เห็นคนรู้จักอีกทั้งคนมีชื่อเสียง แต่งงานกันใหญ่โต ก็ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าจะอยู่กันยืด สินสอด ก็ให้ผมกับแฟนตกลงกันเอง แม่เค้าคงไม่ยุ่ง
พอคุยกันเสร็จ ผมก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาก แล้วแฟนผมมาถามตอนหลังว่าคุยกันเป็นยังไงบ้าง
ผมก็เล่าไปตามนั้น แฟนผมบอกว่า ยังไม่รู้จักแม่เค้านะ แม่เค้าอาจจะประเมินต่ำไป จริงๆ เพื่อนแม่มีมาก แล้วพอทำๆ ไปเดี๋ยวมันก็จะเกินจากที่คุยกันอีกมากนะ
แม่เค้าตอบให้ผมรู้สึกดีแบบนั้นเอง
อ้าว ผมนี่ได้ฟังจากแฟนแล้ว จากที่รู้สึกใจชึ้นมา ก็มึนไปอีกรอบ
แฟนผมเลยบอกว่า เดี๋ยวเค้าไปถามแม่อีกทีว่า ที่คุยกับผมไป เป็นแบบที่ผมเล่าหรือเปล่า
ล่าสุด คุยกันทางโทรศัพท์
7) แฟนผมได้คุยกับที่บ้านเธอแล้ว แฟนผมบอกว่า พ่อกับพี่น้องของแฟนผม ไม่เห็นด้วย
เพราะ ถ้าสินสอดน้อย คนเขาจะดูถูก
สินสอดต้องเรียกเยอะ เพราะ จะได้เป็นหลักประกันว่า ผมจะไม่นอกลู่นอกทาง และหากไปกันไม่รอด แฟนผมจะได้มีหลักประกัน เนื่องจากต้องกลายเป็นหญิงหม้าย เป็นฝ่ายเสียหาย ทั้งที่ระหว่างคบกัน ผมก็ไม่นอกลู่นอกทางเลย
ผมก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้น ผมเปลี่ยนงบ 1m เป็นอสังหา3m แทนได้มั้ย
ที่ผมเสนอแบบนี้ เพราะ ผมเองไม่มีเงินสดมากขนาดนี้หรอกครับ เลยเสนอไป
8) แฟนผมเค้าก็ถามว่า ถ้าโอนชื่อให้เป็นสินสอด แล้วค่าของหมั้น กับค่าจัดงานล่ะ จะจ่ายยังไง
ผมติดสะตันนิดนึง เลยถามว่า ขอรวบยอดค่าใช้จ่ายไม่ได้หรือ แล้วของหมั้น คืออะไรอีก ( ตอนนั้นผมงงจริงครับ ว่ามีอะไรยุบยิบจริง)
ผมบอกว่า ก็ขอจำกัดค่าใช้จ่ายทั้งหมด เป็นการโอนให้ แล้วให้แฟนผมจัดสรรเอาเองได้เลยครับ (แฟนผมมีเงินสดมากกว่าผม) เพราะผมไม่มีเงินสด
9) แฟนผมเค้าเลยบอกว่า มีที่ไหนเค้าทำกัน แบบนี้ก็เหมือนเค้าออกเงินจัดงานแต่งให้ตัวเองน่ะสิ
ฝ่ายชายต้องเป็นคนออกค่าของหมั้น ค่างานแต่งด้วย
ผมก็เลยไม่รู้จะยังไงต่อ ก็ถามไปตรงๆ ว่าจะให้ทำยังไงอีก
(ตอนนี้เลยมี สินสอดให้พ่อแม่ฝ่ายหญิง ของหมั้นให้แฟน ค่าจัดงาน )
10) เค้าเหมือนจะเสนอว่าขอที่อยู่ใหม่ที่ผมจะซื้อด้วยครับ เป็นของหมั้นอีก
ผมปฏิเสธครับ ผมบอกไปว่า ขอให้มีอะไรไว้ทางฝั่งผมบ้าง เกิดผมตายไปปุบปับ พ่อแม่ผมจะได้มีเหลือไว้ใช้
แฟนผมเค้าก็บอกว่า ก็ยังมีบ้านที่พ่อแม่ผมอาศัยอยู่ ไม่ได้เอามาหมดซักหน่อย ทำไมผมพูดเหมือนเค้าอยากได้ของผม
ทำไมไม่คิดบ้างว่าถ้าผมตายไป เค้าก็ต้องดูแลพ่อแม่ผมนั่นแหละ
11) แล้วก็บอกผมว่า ทำไมที่ผ่านมา รูปแบบงานพิธีอะไรๆ ก็ไม่ค่อยออกความเห็น ให้เค้า(แฟนผม)จัดการอยู่ฝ่ายเดียว
ผมก็ตอบไปว่า ผมอยากจัดงานเล็ก ผูกข้อมือ งานเลี้ยงร่วมรับประทานอาหารคนในครอบครัว แค่นั้นเอง
ทางฝ่ายผม
( ถ้าเชิญที่ผมสะดวกใจจะเชิญจริง ญาติผู้ใหญ่ไม่น่าจะเกิน 10 คนนะครับ ส่วนเพื่อนกับเพื่อนที่ทำงานคงเชิญน้อยมาก)
งานที่เหลือ เป็นส่วนที่เค้าอยากทำเพิ่ม พวกงานโรงแรมหรือรูปแบบการจัดเลี้ยงใดใด เค้าน่าจะเป็นคนเสนอไอเดียมานะครับ ผมไม่ได้มีแนวทางเพราะไม่ได้มองแนวทางแบบนั้นไว้
แฟนผม : งานเล็กยังไง จัดที่บ้านเหรอ บ้านเค้าที่ไม่พอหรอก ที่แคบ
ผม: งั้นก็หาเช่าโรงแรมนะ หรือจะไปจัด รพ สงฆ์ก็ได้นะ เห็นมีคนไปจัดเยอะแยะ
แฟนผม : ไม่ต้องมาพูดเรื่อง รพ สงฆ์เลย ใครเค้าจัดแบบนั้นกัน.....เหมือนเค้าอยากแต่งอยู่ฝ่ายเดียว ผมทำเหมือนกับว่าไม่อยากแต่ง
แค่นี้นะ
วางสายกันไป
หมดแล้วครับ
ผมงงมากครับ แฟนผมนิสัยดี ดูแลกันดี แต่พอพูดเรื่องงานแต่งแล้ว ถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้
ขอบคุณครับ
ปล. ของดความเห็นที่ว่า "ทำท้องเลย" ครับ