จขกท. ขอเรียกแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นจริงๆเลยนะคะ ชื่อ "ฟอย" นะคะ

คือฟอยเนี่ยพื้นฐานเป็นคนรักสัตว์มากกกกกถึงมากที่สุด แล้วจะไปเที่ยวญี่ปุ่นกับที่บ้านปีละครั้ง หลังปีใหม่ที่ผ่านมานี้ก็มีโอกาสได้ไปโอซาก้ามา และเคยได้ยินว่าที่นั่นมีคาเฟ่แปลกๆเยอะแยะ อย่างคาเฟ่งู(ที่หลายๆคนตะลึงตึงตึงกันมาแล้ว) คาเฟ่เม่น หนูแฮมสเตอร์ และอื่นๆ

แต่ที่สะดุดตา สะดุดใจ และอยากจะลองไปสักครั้งก็คาเฟ่ "นกฮูก" นี่แหละค่าา เพราะไม่คิดว่าจะมีคนทำคาเฟ่นกค่ะ และนี่คือรูปปลากรอบ รูปแรกค่ะ

หน้าร้านของคาเฟ่มันเป็นแบบนี้เลย คิกขุอาโนเนะตามสไตล์พี่ยุ่น ร้านชื่อ Lucky Owl Café ค่ะ อยู่แถวๆ DenDenTown (พิกัดร้านพรุ่งนี้จะมาแจ้งอีกทีค่ะ) เปิดให้บริการตั้งแต่ เที่ยง ถึง สองทุ่ม ค่ะ







เมื่อเดินเข้าไปในร้านแล้ว ก็มีพนักงานญี่ปุ่นหน้าตาน่ารักเดินมาต้อนรับอย่างดี พร้อมชี้แจงว่าค่าเข้าชม 1500 เยน เดส( 465 บาท) พร้อมเครื่องดื่มฟรีหนึ่งอย่าง และ  ให้เวลาเราเข้าชม 1 ชม. ค่ะ

และนี่คือ เมนูเครื่องดื่มที่เราสามารถเลือกได้ค่ะ



**ฟอยออเดอร์ชาเขียวเย็นไปค่ะ เพราะเค้าถามว่า เอาแบบ cold or hot แต่พอบอก cold ไป เจ้าของกลับอกว่าน้ำแข็งไม่มี เค้าคง งงว่า มาดิ่มชาเขียวเย็นอะไรตอนหน้าหนาวฟระะะะ **


หลังจากออเดอร์เครื่องดิ่มเสดปุ๊ป พนักงานสาวคิกขุคนเดิม ก็มาอธิบายรายละเอียด และ วิธีการเข้าชมคาเฟ่อย่างถูกต้องค่ะ คือคาเฟ่เนี่ย จะไม่ได้เอาที่นั่งกินกาแฟกับที่ดูนกมารวมกันนะคะ เค้ามีห้องแยกสำหรับเอาไว้ดูและเล่นกับนกเลยค่ะ





กฏหลักๆเลยก็คือ ก่อนอื่น เราต้องล้างมือเพื่อทำการกำจัดเชื้อโรค ด้วยสเปรย์ที่เค้าเตรียมมาให้ก่อน
และ
1. ห้ามถ่ายรูปโดยใช้แสงแฟลชค่ะ เพราะอาจจะทำให้นกฮูกตาบอดได้ค่ะ
2.จับได้เฉพาะจมูกนกเท่านั้นค่ะ เพราะถ้าเราไปจับส่วนตัว หรือ หัว อาจจะทำให้นกเครียด และรู้สึกไม่ปลอดภัยได้ค่ะ
3. ไม่ควรส่งเสียงดัง และไม่ควรโบกหรือแกว่งมือตรงด้านหน้านกด้วยค่ะ

ซึ่งจริงๆ ฟอยอ่านไม่ละเอียดค่ะ คือทำตามกฏหมด ยกเว้นข้อที่บอกว่าห้ามโบกมือค่ะ นี่โบกไปเต็มๆเลยค่ะ หลายรอบด้วย โชคดีเค้าไม่ทันสังเกตค่ะ


พอเข้าไปปุ๊ป อู้ยยยยย สตั๊นท์เลยค่า มันน่ารักกว่าที่คิดไว้มากกกกกก และเราก็ถึงเนื้อถึงตัวมันได้เลยยยย (แต่ต้องไม่ลืมกฏจับได้เฉพาะจมูกนะคะ)

ตัวนี้เป็นแบบสายพันธ์ตัวเล็กๆค่ะ ตอนแรกคิดว่ามันคือนกฮูกเด็ก แต่ถามพนักงานแล้ว เค้าบอกว่า มันโตเต็มวัยแล้วค่า




เจ้าตัวนี้มาใหม่ค่ะ ยังไม่มีชื่อ เค้าให้ฟอยเสนอชื่อด้วย ฟอยคิดในใจว่าจะให้มันชื่อ monkey เพราะมันเหมือนลิงม๊ากกกกกก เป็นตัวที่คึกทีสุดค่ะ เวลาจับจมูก มันจะพยายามมากัดนิ้วด้วยค่ะ แต่ไม่เจ็บ 555





ส่วนตัวนี้ก็เฟรนด์ลี่มากๆเช่นกันค่ะ วิ๊งให้ด้วยค่าาา อ๊างงงงง  



สองตัวนี้หลับเพลินค่ะ ตอนที่ฟอยเอามือไปลูบจมูก มันก็โยกหัวไปมาด้วยค่ะ



ตัวนี้ชื่อว่าน้องมาร์คสึขุ (พยายามออกเสียงเหมือนคนญี่ปุ่นนะคะ) พนักงานเดินมาถามฟอยว่า อยากลองให้มันมาเกาะมั้ย ก็เลยตอบเอาสิๆๆๆ เค้าเลยให้ใส่ถุงมือ แล้วลากเจ้ามาร์คคคค สึขุ มาเกาะแขนค่าา ฟินนนจัง ตาแป๋วมั่กๆ ใส่บิ๊กอายหรือเปล่าจ้ะ อีกอย่างคือ ถ้าหากนกไม่มองกล้อง เค้าจะเอาของเล่นนก แบบที่เหมือนของเล่นแมว มาล่อสายตาให้มันมองกล้องด้วยค่ะ พนักงานใส่ใจรายละเอียดมากจริงๆ ปรบมือ



มีคลิปปลากรอบตอนถ่ายกับน้องมาร์คสึขุด้วยนะค้าาา อยู่ข้างล่างๆของกระทู้ค่ะ


แถมน้องมาร์คสึขุตอนนอน หลับตาพริ้ม พริมใจ อ้อ และถ้าสังเกตที่ขาน้องนกฮูกนะคะ จะมีห่วงคล้องอยู่ คือเอาไว้กันมันบินหนีค่ะ เห็นแล้วก็สงสารมากๆเหมือนกันค่ะ



ตัวนี้พลาดไม่ได้เลยค่าาา มันชื่อเจ้า แฮรี่ ค่ะ ตัวนี้คือป๊อปปูล่าที่สุดเลยค่ะ มีแต่คนมารุมถ่ายรูป เพราะชื่อเจ้าแฮรี่ ก็มาจาก harry potter นี่แหละค่ะ มันเป็นนกฮูกสายพันธ์เดียวกับเจ้าเฮ็ดวิกเลยค่ะ (นกฮูกของแฮรี่) ไหนขอแม่เซลฟี่ด้วยหน่อยลูกกก





มีความใกล้เคียงกับเจ้าเฮ็ดวิกจริงๆค่ะ


เจ้าตัวนี้ก็น่ารักมั่กกกกก แจกความฉดไฉ อิอิ พนักงานบอกว่าตัวนี้เค้าลุคแบบ princess หน่อยๆเลยจัดแจงให้เหมือนกับว่าน้องอยู่ในกรงมุ้งมิ้งๆค่ะ




และนี่คือภาพอื่นๆภายในคาเฟ่ค่ะ จริงๆคาเฟ่นี้ไม่ได้ใหญ่มากนะคะ ถ้าใครที่อยากชมนกเยอะๆ หรือชื่นชอบคาเฟ่ใหญ่ๆ  ก็อาจจะไม่ได้ชอบใจคาเฟ่แห่งนี้มากนัก แต่ที่นี่รับรองว่าอบอุ่น และพนักงานบริการดีมากๆเลยค่ะ พูดภาษาอังกฤษก็ถือว่าสื่อสารใช้ได้เลยค่ะ





แถมภาพเจ้าแคนนอน  (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ จำชื่อไม่ค่อยได้ค่ะ เพราะเยอะ และเรียกยาก55 ) ตาปรือมากค่ะ ง่วงสินะลูก




อ้อ และอาจจะมีคนสงสัยใช่มั้ยคะ ว่าเจ้านกฮูกเนี่ย กินอะไรเป็นอาหาร เมื่อสอบถามจากพนักงานแล้ว ก็พบว่า... มันกินหนูแช่แข็ง หรือ ลูกเจี๊ยบแช่แข็งค่ะ กินกันวันละมื้อเดียว มื้อละประมาณสามตัวค่ะ


ส่วนถ้าใครอยากเห็นเพิ่ม ก็สามารถเข้าไปชมได้ในลิ้งค์นี้ค่ะ อันนี้ฟอยอัพโหลดลงยูทูปไปเมื่อวานนี้เองค่ะ อันนี้จะเห็นแบบเคลื่อนไหวเลย หลายตัวด้วยย


อันนี้เป็นอีกคลิปที่ฟอยพึ่งอัพโหลด ถ่ายโดย คุณแม่ฟอยเองค่า เป็นคลิปตอนที่พนักงานเอาเจ้ามาร์คสึขุมาถ่ายรูปด้วยค่ะ (พอดีคุณแม่ถ่ายเป็นแนวตั้ง อาจจะดูไม่ค่อยชัดนิดนึง ขอประทานอภัยด้วยค่ะ)







เพิ่มเติมในส่วนของนกฮูก หรือ นกเค้าแมวนะคะ สำหรับผู้ที่สนใจ

นกเค้า หรือ นกเค้าแมว หรือ นกฮูกเป็นนกที่อยู่ในอันดับ Strigiformes มีรูปใบหน้าคล้ายแมว จับสัตว์เล็ก ๆ กินเป็นอาหาร เช่น หนู, งู หรือสัตว์เลื้อยคลานหรือสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำเล็ก ๆ ในขณะที่บางชนิดที่มีขนาดใหญ่อาจจับปลา หรือปูกินได้ด้วย จัดเป็นนกล่าเหยื่อจำพวกหนึ่งเหมือนเหยี่ยว, อินทรี และแร้ง ที่หากินในเวลากลางวัน ส่วนนกเค้าแมวนั้นมักหากินในเวลากลางคืน ทำให้มีเล็บโค้งแหลมและมีปากงุ้มแหลมสำหรับจับสัตว์กินค่ะ

เหตุที่หากินในเวลากลางคืน เป็นเพราะนกเค้าแมวเป็นนกที่ไม่อาจสู้กับนกล่าเหยื่อในเวลากลางวัน อย่าง เหยี่ยวหรืออินทรีได้ อีกทั้งบางครั้งยังถูกนกที่มีขนาดเล็กกว่าอย่าง นกเอี้ยงหรือนกกิ้งโครงไล่จิกตีอีกต่างหาก โถถถถ น่าสงสารจังลูกกก

เนื่องจากเป็นสัตว์ที่หากินในเวลากลางคืน จึงมีดวงตาโตกว่าเหยี่ยวและอินทรีมาก ดวงตาอยู่ด้านหน้าของใบหน้าเหมือนมนุษย์และสัตว์ตระกูลแมว หัวหมุนได้เกือบรอบตัวได้ถึง 270 องศา เนื่องจากมีกระดูกสันหลังตรงคอ 14 ชิ้น ซึ่งมากกว่าสัตว์ชนิดใด ๆ ในโลก หูของนกเค้าแมวมีความไวมากเป็นพิเศษสำหรับการฟังเสียงในเวลากลางคืนและหาเหยื่อ มีขนปีกอ่อนนุ่ม บินได้เงียบเพื่อไม่ให้เหยื่อรู้ตัว และมีประสาทสายตาที่มองเห็นได้ดีกว่ามนุษย์ถึง 100 เท่า โดยปกติแล้วตัวเมียมีขนาดโตกว่าตัวผู้ ตัวเมียเป็นตัวที่กกไข่ ตัวผู้ไม่กกไข่ มักพบก้อนที่สำรอกคายออกทิ้งลงมาที่พื้นเบื้องล่างในรังหรือบริเวณใกล้เคียงกับรัง เพราะนกเค้าแมวมักกลืนเหยื่อเข้าไปทั้งตัว กระดูกและขนที่ไม่ย่อยก็สำรอกออกมาเป็นก้อนทิ้งทีหลัง

เครดิต : Wikipedia


ส่วนของการเดินทาง อันนี้อาจจะต้องขออนุญาติไปรื้อฟื้นความทรงจำนิดนึงนะคะ แต่ไปไม่ยากเลยค่ะ ง่ายมากๆ มีถ่ายรูปถนนแถวๆนั้น และจุดสังเกตมาด้วยค่ะ เดี๋ยวขอมาอัพเดทต่อวันพรุ่งนี้นะค้า วันนี้ง่วงมากจริงๆค่า

วันนี้เอาพิกัดร้านมาลงให้แล้วนะคะ จริงๆจะเขียนชื่อร้าน Lucky Owl café ไปเลยใน google map ก็ได้ค่ะ หรือจะเอาเลข 34.665573, 135.505199 ก๊อปวางเลยก็ได้ค่ะ แล้วก็กด Direction


ส่วนนี่คือจุดสังเกตในซอยของร้านนะคะ ถ้าหากหาไม่เจอจริงๆ เอารูปพวกนี้ให้คนญี่ปุ่นแถวนั้นดูก็ได้ค่ะ เพราะคนญี่ปุ่นใจดีมากๆ พาเราไปถึงร้านแน่นอนค่ะ

Kuromon Market คือถนนฝั่งตรงข้ามกับซอยนกฮูกของเราค่ะ


และพอเดินเข้าไปปุ๊ป ก็จะเจอ Misono Parking ซึ่งเป็นที่จอดรถของ Misono Restaurant ค่ะ ป้ายเขียวๆนี่แหละค่ะ ถัดป้ายไปก็จะเห็นรูปนกฮูก และเจอทางเข้าคาเฟ่เองค่ะ





ถ้าหากชอบใจช่วยกดโหวต และ คอมเม้นท์ให้เค้าหน่อยน้าาา มือใหม่หัดรีวิวค่ะ