ภรรยาบอกว่า การลงวิ่งมาราธอนเป็นการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย

ดิฉันอาจจะเห็นต่างจากคนอื่นนะคะ

1. ถ้าวิ่งเพื่อออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพ วิ่งที่ไหนก็ได้ วิ่งได้ทุกวันแบบไม่ต้องไปมาราธอนทุกเดือน หรืออาจลงทุนซื้อลู่วิ่งแบบในฟิตเนสมาไว้ที่บ้านเลย (ที่บ้านทำแบบนี้ ได้ใช้ทั้งคู่) สิ่งสำคัญกว่าเรื่องเงินคือการได้อยู่บ้านพร้อมหน้าพร้อมตา ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ค่ำมืดแค่ไหนก็วิ่งได้ จัดการเรื่องบ้านเรื่องลูกให้เรียบร้อยก่อน โดยเฉพาะวันหยุดที่ถือว่าเป็นวันครอบครัวหรือวันทำงานบ้านของมนุษย์เงินเดือนเลยทีเดียว แฟนคุณอาจจะมีความต้องการนี้ซ่อนเร้นอยู่ก็ได้ ลองถามตรงๆดู แล้วค่อยปรับจูนเข้าหากัน นานๆค่อยไปมาราธอนสักทีเพื่อเพิ่มแรงจูงใจ เธอน่าจะรับได้

2. ถ้าวิ่งเพราะหลงใหลการวิ่ง สังคมใหม่ๆ และติดรสชาติของความสำเร็จเมื่อวิ่งเข้าเส้นชัย แต่ไม่ได้เป็นนักวิ่งอาชีพ โดยเรื่องสุขภาพกลายเป็นผลพลอยได้ (แต่ส่วนใหญ่ชอบเอามาเป็นเหตุผลหลัก) อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณและแฟนคุณจะทำความเข้าใจกันเอง ถ้าแฟนคุณไม่มีประสบการณ์และอารมณ์เดียวกับคุณ ก็ยากจะเข้าใจ คุณต้องหาวิธีทำให้เธอเข้าใจ แนะนำให้บอกตรงๆค่ะ แต่อย่าอ้างเรื่องสุขภาพ เธอจะไม่ฟังค่ะ (กลับไปอ่านข้อ 1 ค่ะ 555)

ดิฉันเคยเป็นแบบแฟนคุณเมื่อหลายปีก่อน (สามีปั่นจักรยาน) แต่ไม่ได้งอแงเรื่องเงิน เป็นเรื่องเวลาและภารกิจที่บ้านกับลูกที่ยังเล็ก ซึ่งดิฉันทำงานหนักมาก (โดยลักษณะของงานจะเหนื่อยและเครียดกว่าเค้า) วันหยุดเลยอยากพักผ่อน อยากให้เค้าอยู่ช่วยดูแลลูก อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ก็พยายามปรับเข้าหากัน สองสามเดือนไปปั่นยาวๆต่างจังหวัดสักที พอรับได้ จนถึงปัจจุบัน ลูกโตแล้ว มีคนทำงานบ้านให้ งานดิฉันเบาลง บอกเค้าว่าไปได้บ่อยขึ้นนะแต่ก็ไม่เค้าเห็นจะไปบ่อยขึ้น ส่วนมากปั่นเสาร์ อาทิตย์ เช้า ตี 5 ถึง 8 โมงเช้า นานๆไปต่างจังหวัดสักที ปีละ 2-3 ครั้ง วันธรรมดาก็วิ่งบนลู่วิ่งที่บ้านบ้าง ไปตีแบดกับเพื่อนหลังเลิกงานอาทิตย์ละครั้งบ้าง

ลองดูนะคะว่าแฟนคุณคิดแบบไหน แต่อย่าอ้างเพื่อสุขภาพค่ะ เพราะทางเลือกเพื่อสุขภาพไม่จำเป็นต้องมาราธอนทุกเดือน เธอจะพาลโกรธเอา

คุยกันด้วยเหตุผลครับ

ค่าใช้จ่ายไปวิ่งเท่าไหร่ รวมมาให้หมด
- ค่าสมัคร 800
- ค่าเดินทาง 500-600 (วิ่งไกลก็แพงหน่อยนะ เอาใกล้ๆ ก็พอ)
- ค่าที่พัก 500-600 (ถูกๆ หน่อยนะ ประหยัด หรือจะนอนเต้นท์ก็ดี)
- ค่ากิน (ไม่นับละกัน คนต้องกินทุกวันอยู่แล้ว)
รวมซัก 2,000 บาท / เดือน

ไม่แพงมาก แต่ก็เยอะอยู่นะ ถ้าไปทุกเดือน ลองคุยกันว่าจะลด จะประหยัดกันอย่างไร
แต่ขอให้ฉันได้ไปวิ่งไปแตะขอบฟ้าตามความฝันของฉันเถอะนะ

ชีวิต มีเงินมามันก็ต้องเอามาซื้อ สุขภาพ ซื้อความสุข ซื้อความฝันกันบ้าง
ถ้ามันไม่ถึงกับเดือดร้อนขัดสนกันจนเกินไป

(พ่อบ้านนักปั่นเจอลำบากกว่านี้อีก อิอิ)

เราเคยฟังมนุษย์เมียบ่นเรื่องนี้ค่ะ
คือเราซึ้งเลย หลายคนเป็นแบบนี้จริงๆ

เมียทำงานบ้านเยอะมากค่ะ คุณผู้ชายออกกำลังกายตลอด แต่กลับไม่ช่วยงานบ้าน
กลับมาถึงบ้าน วางทุกอย่าง ข้าวของอะไรขนมาก็วาวกองตรงนั้น กินข้าวไม่เคยล้างจาน บ้านช่องไม่เคยช่วยกวาด แต่เปลี่ยนชุดไปออกกำลังกาย
เพื่อนเราที่เล่า ร้องไห้เลยค่ะ เค้าเหนื่อยมาก ทั้งทำงานนอกบ้าน ทั้งลูก ทั้งงานบ้าน
ตัวเค้าเองเหนื่อย ในขณะที่อีกคน แทนที่จะใช้แรงที่มีมาช่วยกันทำงาน กลับออกไปซ้อมวิ่ง หาแรงบันดาลใจ ในขณะคนที่บ้านท้อแท้ใจถึงขีดสุดแล้วกับภารกิจในบ้าน
(นี่ยังไม่นับว่าบ้านไหนเงินเก็บไม่เยอะ คงมีปัญหาอื่นอีก)

ใจเขาใจเราอะค่ะ

บางอย่าง..ต้องจัดการภายในให้เรียบร้อยก่อน ก่อนออกไปหาแรงบันดาลใจภายนอก