คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
https://www.facebook.com/Cnamboyd.wee/posts/1422082394508855
รูปอยู่ในเฟสครับ ผมลงไม่ได้
รูปอยู่ในเฟสครับ ผมลงไม่ได้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
เราเป็นผู้ใหญ่ลูกโตวัย 20's
สมมติว่าถ้าเป็นเรา ฝ่ายผู้ชาย... เราจะไม่จ่ายเงินค่าเสียหายใดๆทั้งสิ้น จะไม่โต้ตอบอะไรกับแม่ฝ่ายหญิง ให้เขาไปแจ้งความ และถ้าเขาจะฟ้องศาลเรียกร้องค่าเสียหาย ให้ไปฟ้องศาล และเราจะไปสู้คดีกันที่ศาล ถึงถ้าศาลตัดสินว่าลูกเราผิด และให้จ่ายค่าเสียหาย เราจะสู้กลับ โดยหาทนายที่ไว้ใจได้ ที่มีประสบการณ์ด้านนี้
เรายอมให้ลูกชายเราติดคุก โทษฐานอยากแร่ดไปหาผู้หญิง คือทั้งคู่สมยอมกันเอง (มีหลักฐานคุยผ่านมือถือ) จะได้รู้สึกซะบ้างว่าอยากสนุกทุกข์ถนัด มันเป็นยังไง... เราไม่ใช่แม่ประเภทปกป้องลูก กลัวลุกจะติดคุกและมีประวัติไม่ดี มันไม่ใช่คดีอาญาฆ่าคนตาย
ไม่ใช่เราไม่รักลุกเรา แต่เราจะไม่ให้คนอื่นมาหากินเรียกร้องเอาเงินจากเรา ที่ลูกชายไปหาลูกสาวเขา ในเมื่อลูกสาวเขาเปิดประตูให้เข้าไปเอง
และสมมติว่าผู้หญิงท้อง เราจะรอให้จนถึงเด็กคลอดออกมา จะพาทารกไปตรวจ DNA เพื่อเทียบกับผลเลือดของลุกชาย ว่าเป็นพ่อลูกกันหรือไม่ และเมือ่เป็นพ่อทารกจริง เราจะรับผิดชอบดูแลหลาน แต่จะต้องให้มีความยุติธรรมกัน อย่ามาเรียกร้องเอาแต่เงินๆ โดยไม่เปิดโอกาสให้เราได้เลี้ยงดูหลานด้วย... เรามีประสบกาณณ์เลี้ยงลูกครึ่งของเราเองจนโต และทำงานเป้นพี่เลี้ยงเด็กฝรั่ง เราชอบเลี้ยงเด็ก จากมีประสบกาณณืดีจากลูกๆของตัวเอง
สมมติว่าถ้าเป็นเรา ฝ่ายผู้ชาย... เราจะไม่จ่ายเงินค่าเสียหายใดๆทั้งสิ้น จะไม่โต้ตอบอะไรกับแม่ฝ่ายหญิง ให้เขาไปแจ้งความ และถ้าเขาจะฟ้องศาลเรียกร้องค่าเสียหาย ให้ไปฟ้องศาล และเราจะไปสู้คดีกันที่ศาล ถึงถ้าศาลตัดสินว่าลูกเราผิด และให้จ่ายค่าเสียหาย เราจะสู้กลับ โดยหาทนายที่ไว้ใจได้ ที่มีประสบการณ์ด้านนี้
เรายอมให้ลูกชายเราติดคุก โทษฐานอยากแร่ดไปหาผู้หญิง คือทั้งคู่สมยอมกันเอง (มีหลักฐานคุยผ่านมือถือ) จะได้รู้สึกซะบ้างว่าอยากสนุกทุกข์ถนัด มันเป็นยังไง... เราไม่ใช่แม่ประเภทปกป้องลูก กลัวลุกจะติดคุกและมีประวัติไม่ดี มันไม่ใช่คดีอาญาฆ่าคนตาย
ไม่ใช่เราไม่รักลุกเรา แต่เราจะไม่ให้คนอื่นมาหากินเรียกร้องเอาเงินจากเรา ที่ลูกชายไปหาลูกสาวเขา ในเมื่อลูกสาวเขาเปิดประตูให้เข้าไปเอง
และสมมติว่าผู้หญิงท้อง เราจะรอให้จนถึงเด็กคลอดออกมา จะพาทารกไปตรวจ DNA เพื่อเทียบกับผลเลือดของลุกชาย ว่าเป็นพ่อลูกกันหรือไม่ และเมือ่เป็นพ่อทารกจริง เราจะรับผิดชอบดูแลหลาน แต่จะต้องให้มีความยุติธรรมกัน อย่ามาเรียกร้องเอาแต่เงินๆ โดยไม่เปิดโอกาสให้เราได้เลี้ยงดูหลานด้วย... เรามีประสบกาณณ์เลี้ยงลูกครึ่งของเราเองจนโต และทำงานเป้นพี่เลี้ยงเด็กฝรั่ง เราชอบเลี้ยงเด็ก จากมีประสบกาณณืดีจากลูกๆของตัวเอง
แสดงความคิดเห็น
เด็ก14-15 นัดกันไปในเคหะสถานของฝ่ายหญิง ในยามวิกาล ถือว่าพากย์ผู้เยาว์ ไหม (ฝ่ายหญิงเป็นคนนัดแนะ)
น้องเรา อายุ15 เรียนอยู่ ม.3
น้องผู้หญิง อายุ 14 ย่าง 15 เรียนอยู่ ม.2
เกิดเรื่อง วันนี้ตอน สี่โมงเย็น แม่ฝ่ายหญิงโทรมาว่าจะไปแจ้งความว่าน้องเราไปปีนบ้าน หาลูกสาวเขายามวิการ(ช่วงตีสอง) ของวันศุกร์ที่ 13 ม.ค. 60 พอแม่รู้ข่าวก็ตกใจ และตกลงจะไปคุยกับบ้านฝ่ายหญิงวันนี้เมื่อตอน 6โมงเย็น
ประเด็นแรก น้องเราเคยพาน้องผู้หญิงมาไหว้แม่แล้ว และน้องผู้หญิงเคยมาที่บ้านเราแล้ว ช่วงกลางวัน อยู่ในสายตาแม่ตลอด เคยมาประมาณ สองถึงสามครั้ง
*แต่น้องผู้หญิง กับบอกทางครอบครัวว่าไม่เคยมา
ประเด็นที่สอง ครอบครัวฝ่ายหญิงบอกว่าน้องเราปีนเขาบ้าน
*แต่น้องผู้หญิงเป็นคนเปิดประตูให้เข้า เพราะบ้านน้องผู้หญิงเป็นห้องแถวสองถึงสามชั้น (ใครจะไปปีนได้) และน้องผู้หญิงเป็นคนนัดแนะทุกอย่างตามภาพประกอบเลย น้องเคยไปบ้านน้องผู้หญิงมาแล้ว 4-5ครั้ง
ประเด็นที่สาม ทางฝั่งเราพร้อมรับถ้าเกิดน้องท้องขึ้นมา ทางเราจะรับเลี้ยงเด็กเอง แต่ถ้าน้องตรวจแล้วไม่ได้ท้องก็จะไปขอขมาทางครอบครัวฝ่ายหญิง และจ่ายค่าทำขวัญให้ แต่ครอบครัวฝ่ายหญิงไม่ยอม
ประเด็นที่สี่ ครอบครัวฝ่ายหญิงเสนอให้จ่ายค่าทำขวัญ 1 แสนบาท เป็นเงินสดเท่านั้น ตอนนั้น และเดียวนั้น ใครจะไปหาเงินจำนวนนั้นมาให้ได้แบบทันทีทันใด ครอบครัวทางฝ่ายหญิงพยายามจะให้ต่อรองราคาและให้บอกเป็นจำนวนเงินที่พร้อมจ่าย ณ เวลานั้นเลย แต่แม่เราขอเวลาอีก 1 วัน เพื่อปรึกษากันก่อนว่าจะไปหาเงินจำนวนนี้มาให้ยังไง เพราะทางครอบครัวฝ่ายหญิงไม่ยอมให้ผ่อนจ่าย จะเอาเป็นเงินก้อนเท่านั้น
เข้าใจน่ะว่าน้องผู้หญิงเสียหาย ถ้าน้องท้องขึ้นมา แต่จะให้ฝ่ายเรารับผิดชอบทุกอย่างฝ่ายเดียว มันก็ไม่ไหว แต่ทางมันถึงที่สุดก็ต้องสู้คดีกันไป
ขออนุญาติเพิ่มรูปภาพ/ เนื่องจากเพิงได้รับการอนุมัติจากพันทิป 24/1/17
ผมไม่โทษน้องผู้หญิงฝ่ายเดียวน่ะครับ เพราะเราเข้าใจว่าฝ่ายชายน้องเราก็คงไม่ใช่ย่อยเหมือนกัน ถึงได้ ไปรัวๆๆๆๆ ขนาดนั้น
ตอนแก้ไขโพสนี้ ปัญหาต่างๆได้จบลงแล้วน่ะครับ
ขอสรุปเรื่องคดีน่ะครับ
ตอนนี้ทางผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเคลียร์ เรียบร้อยแล้วน่ะครับ
และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วครับ
อยากจะฝากเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับทุกครอบครัวน่ะครับ
ว่าให้ใส่ใจบุตรหลานในทุกๆด้าน เพราะนอกสายตาเรา เราไม่รู้เลยว่าเขาจะไปแอบทำอะไรลับหลังรึป่าว
เราไม่สามารถตามติดทุกพฤติกรรมเด็กได้เลย แม้เราจะเด็ดขาดขนาดไหน
เชื่อมั้ยครับ น้องผมมันยังปกป้องน้องผู้หญิงอยู่เลย มันลบบทสนทนาทุกอย่างออกหมด
ถ้าครอบครัวผมเลยสอนและบอกกล่าว ว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ที่จะช่วยเหลือกรณีอย่างนี้
ต่อไปถ้ามีอีก หรือกลับไปคบหากับ ผญ คนเดิมอีก ก็จะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
ถือว่าคุณโตแล้ว ต้องยอมรับกำผลที่คุณได้กระทำลงไป ด้วยตัวคุณเอง
ส่วนเรื่องคดี จากการสอบถามตำรวจ และพนักงานสอบสวน
ถ้าเกิดเคส ทำนองนี้ ให้แจ้งความเลยครับ ผิดทั้งสองฝ่าย
ผู้เยาว์ทั้งคู่ ถือว่า ร่วมกันกระทำความผิด ทั้งสองฝ่าย และไปสู้กันในชั้นศาล
ส่วนกรณีไปบ้านฝ่ายหญิงยามวิการ ถือว่าไม่ผิดครับ เพราะเป็นการชักชวน เป็นการนัดแนะให้ฝ่ายชายมาหา
และเปิดประตูให้ฝ่ายชายเขาโดยสมัครใจ ถึงจะไม่ใช่เจ้าบ้าน แต่เป็นบุตรสาวเจ้าบ้านก็ตามครับ
ส่วนเรื่องซัมติ่ง ผิดทั้งสองฝ่ายตามตัวกฎหมาย แต่ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ถ้าเกิดแจ้งความดำเนินคดี ก็จะมีประวัติติดตัวเด็กไป ทางเราจึงเลือกวิธี ที่จะออมชอม ทั้งสองฝ่าย
คือให้เงินจำนวน 30,000 บาท แก่ครอบครัวฝ่ายหญิง ตามที่แม่ฝ่ายหญิงเสนอมา ในขั้นต้นเสนอมา 100,000 บาท
แต่เราไม่ต่อรอง โดยให้ข้อเสนอไปว่า ถ้าหน่งแสนเราไม่จ่าย และจะดำเนินคดีไปตามตัวกฎหมาย
แม่ฝ่ายหญิงจึงเสนอมาภายหลังว่า ขอค่าเสียหายจำนวน สามหมื่นบาท และทุกบาททุกสตางค์ต้องได้ภายในวันนี้
เวลา 13.00น. ที่โรงพักมีนบุรี เน้นว่าฝ่ายเราห้ามมาสายแม้แต่นาทีเดียว ขู่ไปอีกครับ
แต่เชื่อไหม ครอบครัวผมไปรอตั้งแต่เที่ยงครึ่ง ครอบครัวฝ่ายหญิงมาตอนบ่ายโมงยี่สิบ
และจะพาฝ่ายผมไปคุยกับตำรวจที่รู้จัก พวกสายสืบ แต่ฝ่ายผมไม่ยอมเพราะตกลงกันมาแล้ว
แม่ฝ่ายหญิงพยายาม ขยั่น ขยอ ให้ฝ่ายเราไปให้ได้ ฝ่ายเราจึงสวนกลับไปว่าถ้างั้นไปแจ้งความ สู้คดีกันเลย
แม่ฝ่ายหญิงจึงยอมและมาลงบันทึกประจำวันต่อหน้าเจ้าพนักงาน และตอนให้ข้อมูลของลูกสาวในการลงบันทึกประจำวัน
พยายามที่จะโกหกว่าลูกเรียนอีกสถานศึกษาหนึ่ง ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง ผมเลยสวนกลับไปต่อหน้าเลยว่าใช่หรอครับคุณแม่
คิดให้ดีๆน่ะ เขาจึงยอมบอกตำรวจตามจริง มันน่าหน่ายใจมากครับ แต่ก็ถือว่าพ้นเคราะห์ พ้นโศกไปสักทีครับ
ขอจบแต่เพียงเท่านี้น่ะครับ ขอบคุณที่ช่วยกันแสดงความคิดเห็นครับ
ฝากรูปสุดท้ายครับ
ตอนแม่ฝ่ายหญิง กับพี่ชายของน้องผู้หญิง ช่วยกันนับเงิน ต่อหน้าเจ้าหน้าที่เพื่อเป็นหลักฐาน ว่าฝ่ายเราให้เงินครบ ตามที่ตรงลงรึป่าว
ทุกบาท ทุกสตางค์ ครบถ้วนครับ เพราะเราไม่อยากตามไปใช้ชาติหน้า
ไม่รู้น่ะใครคิดยังไง มองผมว่าประจานไหม แต่ผมอยากให้เห็นว่าเงินทอง ที่หามาก็มาจากน้ำพักน้ำแรงเราเหมือนกัน
แต่ต้องมาเสียไปกับเรื่องที่ไม่สมควรจะต้องเสียแบบนี้ แต่เราก็ยอมรับว่ามันก็คือความผิดของครอบครัวเราเหมือนกัน
ที่สอนน้องชายมาได้ไม่ดีพอ ขอบคุณครับ