มีโอกาศไปเที่ยวเชียงใหม่คนเดียวเมื่องช่วงประมาน  21-23  ธันวาคม ทริปนี้เป็นทริปแรกที่ได้เที่ยวแบบจริงๆจังๆ และไปคนเดียว(เพื่อนไม่คบ TT ฮ่าๆ)ทริปนี้เดินทางโดยเครื่องบิน(จริงๆตอนจองนึกว่าถูกแต่จริงๆมันก็แพงอยู่ดี55) สายการบิน Vietjet ก็โอเคดีนะ


     วันแรกออกเดินทางถึงสนามบินเชียงใหม่ ประมาน 8.45 หาข้อมูลจะไปดอยอินทนนท์ คือไปขึ้นรถสองแถวเหลือง ที่ประตูเชียงใหม่จะมีรถไปที่วันพระธาตุจอมทอง ค่ารถ 35 บาท ไม่น่าจะเกินนี้ ถ้าเกินก็ตกลงกับคนขับดีๆนะ
แต่เนื่องจากเรานั่งเครื่องลงที่สนามบิน วิธีไปไม่ต้องย้อนกลับไปถึงประตูเชียงใหม่ เดินออกจากสนามบินมา เลี้ยวขวาเดินไปตามทางเรื่อยยยยๆๆๆๆๆ (จนหลง) ไม่ใช่55 ไปทางเซนทรัลแอร์พลอตหรือโรบินสัน เดินไปจนสุด ประมาน 200-300เมตรได้ แล้วข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม ยืนรอรถแถวนั้นได้เลย แต่ถ้าหิวก็เดินไปตามทางเรื่อยๆก็มีร้านอาหารหาไรกินก็ได้  อิ่มแล้วเห็นรถสองแถวเหลืองป้ายจอมทอง โบกแล้วกระโดนขึ้นไปได้เลยย หรือถามเพื่อความแน่ใจก็ได้ (แต่ถ้าไปกันหลายคนอาจจะต้องไปขึ้นที่ประตูเชียงใหม่นะ เพราะรถอาจจะเต็ม) นั่งยาวๆชั่วโมงนิดๆ
ถึงแล้วว วัดพระธาตุจอมทอง ไหว้พระสักหน่อยก่อนไปผจญภัยต่อ


ทางขึ้นอันนี้กลางๆดอยแล้ว ชิววมากก ลมเย็นสบายยย ฟินนน

ขอแปะแผนที่ของดอย

ขับตามทางมาเรื่อยๆ ก็จะมีน้ำตกให้เราแวะพัก เราเลยแวะน้ำตกสิริธาร น้ำเยอะมากก สวยถ้าไม่มีต้นไม้บัง -_- ฮ่าๆๆ แวะพักสักแปปก็ขับต่อไปป เพราะยังไม่มีที่พัก

เรามาโดยไม่ได้เตรียมที่พักมาก่อนเพราะคิดว่าไม่ได้ไปช่วงคนเยอะ เลยกะไปหาเอาข้างหน้า จะนอนเต้นท์เพราะที่พักคงจะเต็ม แต่โชคก็เข้าข้าง Thank god มีที่พัก อยู่เลยที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์มานิสนุง ป้ายเขียนว่า หน่วยจัดการต้นน้ำแม่กลางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เห็นป้ายก็ดิฟรถเข้ามาได้เลย ชื่อบ้านลุงแดง เจ้าของที่นี้ใจดีมากกก น่ารักทุกคนเลย แถมฟรี Wifi ด้วยย ติดต่อโลกภายนอกได้แล้วโว้ยยย ฮ่าๆๆ ห้องที่เราพักราคา 500 บาทต่อคืน มีที่ทำน้ำอุ่น ทีวี ที่นอน 2 เตียงโอเคเลยไม่แพงด้วย (ไม่ได้ถ่ายรูปในห้องพักมา TT)

ได้ที่พักแล้วสบายใจ ก็ไปเที่ยวต่อเลยดีกว่าา  แว้นนนนโล้นน
ขับขึ้นไปเรือยๆจนถึงพระมหาธาตุนภเมทนีดล ค่าเข้าชม 40 บาท ทางขึ้นมาช่วงนี้จะเริ่มชัน ยังไงขาลงก็ระมัดระวังกันด้วยนะ!!
ท้องฟ้าสีฟ้าคราม ลมเย็นๆ แสงแดนอุ่นๆ ที่ตัดกับอากาศเย็นๆบนยอดดอย และภูเขาที่สลับทับซ้อนกัน เป็นความงามที่ต้องไปเห็นด้วยตา มันหายเหนื่อย มันรู้สึกเหมือนได้ผ่อนคลายไม่ต้องคิดอะไร มองวิวไปเรื่อยๆ สบายใจจ

จากนั้นก็แว้นต่อไป ณ จุดสูงสุดแดนสยามประเทศ ตรงนี้มีหอดูดาวด้วยนะ ใครว่างๆก็ลองแวะเข้าไป เราไม่ได้เข้าไป

เริ่มเย็นแล้ว แว้นกลับที่พักได้ ทางระหว่างกลับ ขับวนไปป ต้นไม้สีเขียวสองข้างทาง สลับกับสีน้ำตาลของบางต้น แสงแดดยามเย็นส่องลอดช่องว่างของต้นไม้ ลมพัดผ่านหน้าเย็นๆ ฟินอีกตามเคย ~~

ก่อนถึงที่พักจะมีตลาดเล็กๆ ขายพวกผลไม้เมืองหนาว เยอะแยะเลย สตรอเบอรี่หวานมากกกกก แนะนำลองชิมเลย มีใส่แก้ว 20 บาทเอง

จบวันที่ 1 นอนพักด้วยอากาศ 12 องศา ชิวๆ


ถ้าจะไปดูหมอกก็แนะนำ ตื่นตั้งแต่ตี5 แล้วขึ้นไปต่อคิวรอได้เลย แต่เนื่องจากเป็นคนที่ขยันมากเลยไม่ตื่น ฮ่าๆ  เพราะความไม่ชินทางแล้วเช้ามากๆอากาศก็โครตเย็น กลัวว่าจะไปไม่ถึงกิ่วแม่ป่าน จะแข็งตายข้างทางซะก่อน เลยออกไปถึงเกือบ 8 โมง เห้อออ หมอกกู สลายไปหมดแล้วว TT ครั้งหน้าจะไปใหม่นะ รอคิวขึ้นก็นานพอสมควรยิ่งไปคนเดียวจะเดินไปไหนก็ไม่ได้ เดียวโดนแย่งคิว ยืนทนไปป และแล้วก็ได้เวลาเดินป่ากันนน ณ ตอนนั้น 11 องศา
เดินกิ่วแม่ปานต้องมีไกด์พาไป ค่าไกด์200 บาท ก็หาพี่ที่ยืนรอคิวขอเกาะกลุ่มไปกับเค้า ซึ่งตอนเราไปเจ้าหน้าที่จะให้ไปแต่กับคนรู้จัก เพราะคนมาก่อนเรา 2 คนก็ให้ขึ้นไปแค่ 2 คน ไม่ให้ไปกับกลุ่มอื่น คงเพราะว่าตอนเรากลับ เราไม่ได้เดินครบเส้นทาง เดินแค่ถึงจุดถ่ายรูปก็วนกลับ เพราะคนที่ไปด้วยเหนื่อยซะก่อน แต่เราก็ขอบคุณที่ให้เราติดไปด้วยย นี้คงเป็นเหตุผลที่เค้าให้ไปแต่กลุ่มตัวเองมั้ง กลุ่มเรา5 คน ก็คนละ 40 บาท

พักก่อนเหนื่อย ยังเรียนไม่จบเลยเดินขึ้นแค่นี้แต่เหนื่อย ฮ่าๆๆๆ  แต่พอออกจากป่ามาเท่านั้นแหละ ทุกอย่างมันหายเหนื่อยเลย วิวข้างหน้ามันสวยมากกก ทุ่งหญ้าสีเหลือง ท้องฟ้าสีคราม เมฆก้อนน้อยๆ ลอยไปตามลม พร้อมน้ำมูกใสๆของตูค่อยๆไหลลงมา ฮ่าๆ


อิ่มกับวิวเรียบร้อย ก็ถึงเวลาบ๊ายบาย ดอยอินทนนท์ ด้วยความที่ตื่นสาย และต้องคืนรถก่อนเที่ยง เลยรีบกลับที่พักและ แว๊นด้วยความเร็วแสงลงดอยเพื่อไปคืนรถให้ทัน เลยมา 10 กว่านาที แต่ก็ไม่โดนปรับอะไร บอกแล้วเจ้าของร้านใจดี ฮ่าๆๆ
แวะเติมพลังสักหน่อย ข้างๆร้านเช่ารถจะมีร้านชื่อ มีแมวคาเฟ่ อาหารสไตล์อิตาเลี่ยน ราคากลางๆ รถชาติใช้ได้เลย อย่าลืมไปชิมกันนะ

การเดินทางกลับก็นั่งรถเหลืองจากหน้าวัดพระธาตุจอมทองได้เลย ป้ายจอมทองเหมือนขามาไปลงที่ประตูเชียงใหม่ ค่ารถ 40 บาท เพราะจะไปพักต่อที่นิมมาน พอถึงเชียงใหม่ก็งง ไปทางไหนต่อ คนขับรถเหลืองก็แนะนำว่าไปขึ้นรถตรงไหน ใจดีมาก พอขึ้นรถแดงตามพันทิปชอบบอกว่า เค้าจะคิดแพง แต่เราลองใช้ทริกที่มีคนแนะนำมาว่าไม่ต้องถามราคาแค่ถามว่าผ่านไหม เราโบกเสร็จไปนิมมานไหม เค้าบอกไป ก็ขึ้นเลย พอลงเราก็จ่ายไป20 บาท เค้าไม่ทักไรเราก็เดินออกไปเลย ฮ่าๆๆ เรามาพักที่ บ้านเมฆ โฮสเทล ซ.17 ราคาคืนละ 450 บาท ก็โอเคเลย เพราะเป็นโฮสเทลแบบห้องเล็กๆสไตลญี่ปุ่นเพื่อใครไม่ชอบแบบเตียงรวม อาจจะแพงกว่าหน่อยแต่ก็เป็นส่วนตัวดี
รูปจากอินเตอร์เน็ต เครดิตตามรูปเลยย

จริงๆวันที่แผลนว่าจะไปต่อที่ดอยสุเทพแต่เนื่องจากกว่าจะถึงที่พักก็เกือบ 4 โมงเย็นแล้ว เหนื่อยมากเลยนอนเลย แล้วเย็นๆก็ออกมาหาอะไรกินที่นิมมาน ซึงปวดหัวมากเพราะร้านเยอะเกินเลือกไม่ถูกเลย ฮ่าๆ ของกินไม่รีวิวละกันเพราะในพันทิปมีเยอะเลยที่แนะนำ ซึ่งบ้างร้านบอกว่าอร่อยเราไปก็เฉยๆนะ เชิญเลือกตามสไตล์ที่ชอบเลยย ฮ่าๆๆ


ตื่นมาหาไรกิน เช็คเอาท์ และฝากของที่โฮสเทลไว้ เพราะกลัวกลับมาไม่ทัน
นั่งรถแดงไปหน้าม.เชียงใหม่เพื่อไปขึ้นรถไปดอยสุเทพ รถแดงจากนิมมานมามอ เหมือนเดิมถามว่าไปหน้ามอไหม เค้าบอกไป ขึ้นโลดด จ่ายไป20 บาทเหมือนเดิม ทั้งๆที่เรานั่งมาคนเดียวเลย ฮ่าๆ
ตอนแรกจะไปแค่ดอยสุเทพแต่ว่าคนที่มารอคิวจะขึ้นไปถึงดอยปุยด้วย เลยโอเคไป 3 ที่เลยก็ได้ 140 บาทถ้วน
รถจะขับขึ้นไปถึงดอยปุยก่อนเพราะอยู่ไกลสุด คันนึงก็ประมาน 10 คน เรารู้สึกว่าดอยปุยไม่ค่อยมีอะไรเลย มีของขายเยอะใครชอบซื้อของคงจะชอบ แต่มีชุดม้งให้เช่าถ่ายรูป คนขับจอดให้เดินเล่นประมาน 1 ชม


จากนั้นก็เดินทางต่อไปพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ เหมือนเดิมมีดอกไม้เยอะแยะ ซึ่งไม่ค่อยเหมาะกับผู้ชายอย่างเราสักเท่าไร ฮ่าๆ ต้องซื้อบัตรเข้าชม 20 บาท


จากนั้นก็มาต่อที่สุดท้ายที่พระธาตุดอยสุเทพ Landmark อีกที่ที่ไม่มาเหมือนมาไม่ถึงเชียงใหม่  บันใดทางขึ้นนั้นก็ช่างสูงซะเหลือเกินเกือบจะขึ้นไปไม่ถึง ฮ่าๆ


กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับบ