ไปด้วยกัน ไปได้นาน ไปได้ไกล
ก่อนอื่นผมขอสวัสดีปีใหม่ 2017 ก่อนเลยน่ะครับ ผมไม่ค่อยได้เขียนกระทู้รีวิวบ่อยสักเท่าไหร่
เพราะผมไม่ค่อยมีเวลาในการท่องเที่ยวมากนัก โอเคครับ งั้นเอาเป็นว่าลองอ่านกระทู้ของผมดูก่อนเนาะ
ติ-ชม กันได้น่ะครับ
เออลืมบอกไปว่า.. ทริปเที่ยวนี้ได้เที่ยวเมื่อช่วงปีใหม่2017 แล้วเพิ่งจะได้เอามาเขียนลงกระทู้
เมื่อฤดูหนาววนเวียนมาบรรจบอีกปีนึงสิ่งแรกที่เกิดขึ้นในความคิดคือการเดินทางท่องเที่ยวหุบเขา ลำเนาไพร
ดูสายหมอกที่เจียงหม่ายยย เมืองล้านนาที่ผมตกหลุมเสน่ห์เข้าแบบจริงจัง ไปกี่ครั้งผมก็ไม่เบื่อ แต่ทริปนี้มันเป็น
ทริปที่พิเศษสำหรับผมมากๆ เพราะการที่ ผมพกกล้อง พกใจ พกนายหมูน้อย ของผมไปเที่ยวด้วยเนี๊ยะ
มันทำให้การเดินทางทั้งวันของพวกเรานั้นมันไม่น่าเบื่อเลยครับ
#1 ไปร้านแกะดำ ฉำฉ่า กันเถอะ ...

เดี๋ยวน่ะๆ นั้นรถไม้น้อยใช่ไหม ? 55555 ผมนี่รีบไปนั่งโยกเยก ไปมาเลยครับ ย้อนความเป็นเด็กอีกครั้ง ฮ่าๆ
แลดูติ้งต๊องเนาะ

แน่นอนครับชื่อร้านมีคำว่าแกะ ก็ต้องมีแกะสิครับ ไม่ใช่ตัวเดียวเสียด้วย
มาเป็นฟาร์มเลยแหละ และยังสามรถให้นม ให้อาหารแกะได้ด้วยสนุกกันเลยทีเดียวงานนี้

เห็นอะไรมั้ยครับ ที่ช้อนนั้นอ่ะ งื้ออออ

คาบฟองนมชัดเลยๆ ว่าจะถ่ายรูปก่อน แต่ดูไอ่หมูทำสิ
จิ้มฟองนมเค้าทะมายยยยย โอเคแต่นั้นมันไม่ใช่ปัญหา
เปิดทุกวัน 9:30 - 19:00 น.
การเดินทาง : ถ้าเริ่มจากแยกตลาดต้นพยอมถนนคันคองชลประทานขับมุ่งไปหางดง ผ่านตลาดแม่เหียะ
ไนท์ซาฟารี เทศบาลหนองควาย จนถนนเริ่มแคบลงเหลือ2 เลนส์ ขับตรงไปเรื่อยๆผ่านวัดโขงขาว ปั๊มปตท.
สังเกตป้ายโรงเรียนบ้านห้วยส้มซ้ายมือ ถัดจากโรงเรียนจะมีป้ายบอกทางไปร้าน
พิกัดอยู่ตำบล น้ำบ่อหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ 50120
ขอบคุณข้อมูลจาก >>> Chiangmai2day.com
#2 ละอ่อนเหนือพากันขึ้นดอยปุย
ดะ ดะ ดอยปุยยยยยย !!! ลุย สิครับทีนี้จะรออะไร เราออกจากบ้านที่อำเภอสันป่าตองประมาณเวลา 6 โมงเช้า
เพื่อการเดินทางที่สะดวกและหลีกเลี่ยงปัญหารถติด ( ถ้าไปสายๆหมอกก็จางสิครับแหม่ ) ยอมรับว่าง่วง
แต่ความง่วงมันก็ไม่ใช่อุปสรรคในการเดินทางเลย ขาลุยซะอย่าง

ดีจังเลย มีคนขับรถส่วนตัวด้วย บริการฟรีตลอดทริปการเดินทาง ( สำหรับคนพิเศษ ) หืมมมม !! 555555
มองสองข้างทางซ้าย ขวาคนเยอะมากจริงๆ ช่วงเทศกาลจะมีนักท่องเที่ยวเยอะมากที่มาไหว้สักการะ
ทำบุญกันที่วัดพระธาตุดอยสุเทพเยอะมาก มากจนรถติดเลยทีเดียว

พักรถ ชมวิว @อุทยานแห่งชาติดอยสุพเทพ-ดอยปุย

ผมชอบนะครับกับการที่มันเป็นบรรยากาศฝนตกเพิ่งเสร็จ กับสายลมหนาวๆ พัดมากระทบร่างกายเบาๆ
โคตรสดชื่นเลยแหละ
อัตราเข้าบริการ
ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
#3 แวะตามทาง แวะพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
ณ ยอดสูงดอย " บวกห้า " ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางตะวันตกประมาณ 22 กิโลเมตร ถือว่าไม่ค่อยไกลเท่าไหร่นัก
มีค่าบริการเข้าชม
* ผู้ใหญ่คนละ 20 บาท
* เด็กนักเรียนคนละ 10 บาท
* ชาวต่างชาติคนละ 50 บาท
โดยส่วนตัวคิดว่าระบบการดูแลความปลอดภัย ดูแลนักท่องเที่ยวที่นี้ถือว่าค่อยข้างดีเลยทีเดียวแหละครับ

มีพันธุ์ดอกไม้นานาชนิดเยอะแยะเต็มไปหมด ดูแล้วก็เพลินตาไม่ใช่น้อยเลยนะเนี๊ยะ
มีทั้งสวนกุหลาบ สวนดอกไม้ เดินไปก็เพลินตาสุดๆ

นี่คือพระตำหนัก
เห็นแล้วก็นึกถึงพระองค์ท่านเนาะ เอาเป็นว่าเจ้าหน้าที่เขาไม่ให้เข้าใกล้บริเวรเขตพระตำหนัก ทำไงละทีนี้
ขึ้นไปชมบรรยากาศด้านบนกันสิครับทีนี้

โมเม้นจับมือกับแฟนก็มีกับเขาด้วยเว้ย 55555

ธรรมชาติสุดๆ บรรยากาศดีสุดๆ ใครชอบธรรมชาติแบบนี้ก็ลองแวะมาเยี่ยมชมกันได้เนาะ

ขึ้นไปบนอ่างเก็บน้ำสิครับ ก้าวขาขึ้นอ่างเก็บน้ำวนไปครับ ฮ่าาาาาๆ

นี่คือบริเวณอ่างเก็บน้ำครับ แต่เดี๋ยวนะหมอกลงจัดมากกกก นี่แต่งเอฟเฟคให้ภาพมันดูมีสีสันขึ้นละนะ หมอกปกคลุมทั่วทุกที่จริงๆ

" เ ห นื่ อ ย ก็ แ ว ะ นั่ ง พั ก ก่ อ น ก็ ไ ด้ "

" ไ ป ลุ ย ที่ ไ ห น อี ก ค รั บ ที นี้ ? "
ก็คงไม่พ้นเป้าหมายที่เราว่งไว้หรอกครับ ดอยปุย ปุ่ย ปุ้ย ปุ๊ย ปุ๋ย ดอยปุยของเรานั้นเองงงง
เราขับรถไม่กี่นาทีสุดท้ายก็เดินทางมาถึงจุดหมายกันสักที ดอยปุยที่รอคอย กว่าตะถึงก็แทบลุ้นตลอดเส้นทางขึ้นเลยแหละครับ
เพราะถนนมันเป็นทางเดียวรถใหญ่ไม่สามารถสวนผ่านกันได้ ต้องใช้แตรเป็นตัวบอกสัญญาณตลอดทาง ทำให้ผมหัวใจเต้น
ไม่เป็นจังหวะเลยครับ หื้ออออๆ

ภูเขาน้อยใหญ่ลูกปกคลุมด้วยเมฆหมอก โอ๊ยยยย !!! ดูแล้วเพลินตาซะเหลือเกิน

นู้นไงๆ หมู่บ้านดอยปุย บ้านเล็กในป่าใหญ่จริงๆ
เอ๊ะ ! แต่เดี๋ยวนะ เวลาเที่ยวของเราทำไมมันผ่านไปไวจัง แต่ก็ได้ประสบการณ์อะไรหลายๆอย่าง เยอะแยะมากมายในการเดินทางทริปนี้
หลังจากลงดอยปุยมาแล้ว ผมก็มุ่งหน้ากลับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่เพื่อที่จะกลับบ้านไปพักผ่อนร่างกาย แต่ระหว่างนั้นมาเชียงใหม่ทั้งที
ไม่ไหว้พระธาตุดอยสุเทพได้ไงหละเนาะ พูดแล้วก็ต้องแวะสักการะกันสักหน่อย

ดูทางขึ้น กับทางลงสิครับ คนเยอะสุดยอดดด ! แต่ก็ไม่แปลกหรอกครับเพราะมันเป็นช่วงเทศกาลหนิเนาะ คนก็เยอะเป็นเรื่องปกติ
ปล. ผมไปในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2017 น่ะครับ

" ด อ ย สุ เ ท พ เ ป็ น ศ รี "
...........................................
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าเราจะเที่ยวกับใคร ใช้กล้องแพงแค่ไหน มันไม่สำคัญเท่าการที่เราใช้ใจอยู่กับสิ่งที่เรารักหรอกครับ
ผมไม่รู้หรอกว่าใครชอบเที่ยวแบบไหน แต่สิ่งที่ผมรู้คือ การท่องเที่ยวก็คือ การพักและการผ่อน เมื่อสองคำนี้มาอยู่ด้วยกันมันดีเสมอ
ไม่ว่าคุณจะเหนื่อยหนักจากการงานที่ทำ หรือคุณจะเหนื่อยหน่ายกับชีวิตของคนรอบตัว ลองสิครับ ลองหาเวลาเที่ยวสักวันสองวัน
มันจะช่วยให้จิตใจของคุณสบายมากขึ้น และรับรองว่าคุณจะกลับไปเดินได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง จนคนรอบข้างอิจฉาคุณเลยแหละ
* ขอบขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้น่ะครับ
* ผิดพลาด ประการใดสามารถคอมเม้นส์ติชมได้น่ะครับ
แล้วเจอกันใหม่กระทู้หน้าครับผม ^^
[CR] จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อสองละอ่อนเหนือเที่ยวเล่นพากันขึ้นเขา ณ เมืองเชียงใหม่
ก่อนอื่นผมขอสวัสดีปีใหม่ 2017 ก่อนเลยน่ะครับ ผมไม่ค่อยได้เขียนกระทู้รีวิวบ่อยสักเท่าไหร่
เพราะผมไม่ค่อยมีเวลาในการท่องเที่ยวมากนัก โอเคครับ งั้นเอาเป็นว่าลองอ่านกระทู้ของผมดูก่อนเนาะ
ติ-ชม กันได้น่ะครับ
เออลืมบอกไปว่า.. ทริปเที่ยวนี้ได้เที่ยวเมื่อช่วงปีใหม่2017 แล้วเพิ่งจะได้เอามาเขียนลงกระทู้
เมื่อฤดูหนาววนเวียนมาบรรจบอีกปีนึงสิ่งแรกที่เกิดขึ้นในความคิดคือการเดินทางท่องเที่ยวหุบเขา ลำเนาไพร
ดูสายหมอกที่เจียงหม่ายยย เมืองล้านนาที่ผมตกหลุมเสน่ห์เข้าแบบจริงจัง ไปกี่ครั้งผมก็ไม่เบื่อ แต่ทริปนี้มันเป็น
ทริปที่พิเศษสำหรับผมมากๆ เพราะการที่ ผมพกกล้อง พกใจ พกนายหมูน้อย ของผมไปเที่ยวด้วยเนี๊ยะ
มันทำให้การเดินทางทั้งวันของพวกเรานั้นมันไม่น่าเบื่อเลยครับ
#1 ไปร้านแกะดำ ฉำฉ่า กันเถอะ ...
เดี๋ยวน่ะๆ นั้นรถไม้น้อยใช่ไหม ? 55555 ผมนี่รีบไปนั่งโยกเยก ไปมาเลยครับ ย้อนความเป็นเด็กอีกครั้ง ฮ่าๆ
แลดูติ้งต๊องเนาะ
มาเป็นฟาร์มเลยแหละ และยังสามรถให้นม ให้อาหารแกะได้ด้วยสนุกกันเลยทีเดียวงานนี้
เห็นอะไรมั้ยครับ ที่ช้อนนั้นอ่ะ งื้ออออ
จิ้มฟองนมเค้าทะมายยยยย โอเคแต่นั้นมันไม่ใช่ปัญหา
เปิดทุกวัน 9:30 - 19:00 น.
การเดินทาง : ถ้าเริ่มจากแยกตลาดต้นพยอมถนนคันคองชลประทานขับมุ่งไปหางดง ผ่านตลาดแม่เหียะ
ไนท์ซาฟารี เทศบาลหนองควาย จนถนนเริ่มแคบลงเหลือ2 เลนส์ ขับตรงไปเรื่อยๆผ่านวัดโขงขาว ปั๊มปตท.
สังเกตป้ายโรงเรียนบ้านห้วยส้มซ้ายมือ ถัดจากโรงเรียนจะมีป้ายบอกทางไปร้าน
พิกัดอยู่ตำบล น้ำบ่อหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ 50120
ขอบคุณข้อมูลจาก >>> Chiangmai2day.com
#2 ละอ่อนเหนือพากันขึ้นดอยปุย
ดะ ดะ ดอยปุยยยยยย !!! ลุย สิครับทีนี้จะรออะไร เราออกจากบ้านที่อำเภอสันป่าตองประมาณเวลา 6 โมงเช้า
เพื่อการเดินทางที่สะดวกและหลีกเลี่ยงปัญหารถติด ( ถ้าไปสายๆหมอกก็จางสิครับแหม่ ) ยอมรับว่าง่วง
แต่ความง่วงมันก็ไม่ใช่อุปสรรคในการเดินทางเลย ขาลุยซะอย่าง
ดีจังเลย มีคนขับรถส่วนตัวด้วย บริการฟรีตลอดทริปการเดินทาง ( สำหรับคนพิเศษ ) หืมมมม !! 555555
มองสองข้างทางซ้าย ขวาคนเยอะมากจริงๆ ช่วงเทศกาลจะมีนักท่องเที่ยวเยอะมากที่มาไหว้สักการะ
ทำบุญกันที่วัดพระธาตุดอยสุเทพเยอะมาก มากจนรถติดเลยทีเดียว
พักรถ ชมวิว @อุทยานแห่งชาติดอยสุพเทพ-ดอยปุย
ผมชอบนะครับกับการที่มันเป็นบรรยากาศฝนตกเพิ่งเสร็จ กับสายลมหนาวๆ พัดมากระทบร่างกายเบาๆ
โคตรสดชื่นเลยแหละ
อัตราเข้าบริการ
ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
#3 แวะตามทาง แวะพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
ณ ยอดสูงดอย " บวกห้า " ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางตะวันตกประมาณ 22 กิโลเมตร ถือว่าไม่ค่อยไกลเท่าไหร่นัก
มีค่าบริการเข้าชม
* ผู้ใหญ่คนละ 20 บาท
* เด็กนักเรียนคนละ 10 บาท
* ชาวต่างชาติคนละ 50 บาท
โดยส่วนตัวคิดว่าระบบการดูแลความปลอดภัย ดูแลนักท่องเที่ยวที่นี้ถือว่าค่อยข้างดีเลยทีเดียวแหละครับ
มีพันธุ์ดอกไม้นานาชนิดเยอะแยะเต็มไปหมด ดูแล้วก็เพลินตาไม่ใช่น้อยเลยนะเนี๊ยะ
มีทั้งสวนกุหลาบ สวนดอกไม้ เดินไปก็เพลินตาสุดๆ
นี่คือพระตำหนัก
เห็นแล้วก็นึกถึงพระองค์ท่านเนาะ เอาเป็นว่าเจ้าหน้าที่เขาไม่ให้เข้าใกล้บริเวรเขตพระตำหนัก ทำไงละทีนี้
ขึ้นไปชมบรรยากาศด้านบนกันสิครับทีนี้
โมเม้นจับมือกับแฟนก็มีกับเขาด้วยเว้ย 55555
ธรรมชาติสุดๆ บรรยากาศดีสุดๆ ใครชอบธรรมชาติแบบนี้ก็ลองแวะมาเยี่ยมชมกันได้เนาะ
ขึ้นไปบนอ่างเก็บน้ำสิครับ ก้าวขาขึ้นอ่างเก็บน้ำวนไปครับ ฮ่าาาาาๆ
นี่คือบริเวณอ่างเก็บน้ำครับ แต่เดี๋ยวนะหมอกลงจัดมากกกก นี่แต่งเอฟเฟคให้ภาพมันดูมีสีสันขึ้นละนะ หมอกปกคลุมทั่วทุกที่จริงๆ
" เ ห นื่ อ ย ก็ แ ว ะ นั่ ง พั ก ก่ อ น ก็ ไ ด้ "
" ไ ป ลุ ย ที่ ไ ห น อี ก ค รั บ ที นี้ ? "
ก็คงไม่พ้นเป้าหมายที่เราว่งไว้หรอกครับ ดอยปุย ปุ่ย ปุ้ย ปุ๊ย ปุ๋ย ดอยปุยของเรานั้นเองงงง
เราขับรถไม่กี่นาทีสุดท้ายก็เดินทางมาถึงจุดหมายกันสักที ดอยปุยที่รอคอย กว่าตะถึงก็แทบลุ้นตลอดเส้นทางขึ้นเลยแหละครับ
เพราะถนนมันเป็นทางเดียวรถใหญ่ไม่สามารถสวนผ่านกันได้ ต้องใช้แตรเป็นตัวบอกสัญญาณตลอดทาง ทำให้ผมหัวใจเต้น
ไม่เป็นจังหวะเลยครับ หื้ออออๆ
ภูเขาน้อยใหญ่ลูกปกคลุมด้วยเมฆหมอก โอ๊ยยยย !!! ดูแล้วเพลินตาซะเหลือเกิน
นู้นไงๆ หมู่บ้านดอยปุย บ้านเล็กในป่าใหญ่จริงๆ
เอ๊ะ ! แต่เดี๋ยวนะ เวลาเที่ยวของเราทำไมมันผ่านไปไวจัง แต่ก็ได้ประสบการณ์อะไรหลายๆอย่าง เยอะแยะมากมายในการเดินทางทริปนี้
หลังจากลงดอยปุยมาแล้ว ผมก็มุ่งหน้ากลับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่เพื่อที่จะกลับบ้านไปพักผ่อนร่างกาย แต่ระหว่างนั้นมาเชียงใหม่ทั้งที
ไม่ไหว้พระธาตุดอยสุเทพได้ไงหละเนาะ พูดแล้วก็ต้องแวะสักการะกันสักหน่อย
ดูทางขึ้น กับทางลงสิครับ คนเยอะสุดยอดดด ! แต่ก็ไม่แปลกหรอกครับเพราะมันเป็นช่วงเทศกาลหนิเนาะ คนก็เยอะเป็นเรื่องปกติ
ปล. ผมไปในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2017 น่ะครับ
" ด อ ย สุ เ ท พ เ ป็ น ศ รี "
...........................................
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าเราจะเที่ยวกับใคร ใช้กล้องแพงแค่ไหน มันไม่สำคัญเท่าการที่เราใช้ใจอยู่กับสิ่งที่เรารักหรอกครับ
ผมไม่รู้หรอกว่าใครชอบเที่ยวแบบไหน แต่สิ่งที่ผมรู้คือ การท่องเที่ยวก็คือ การพักและการผ่อน เมื่อสองคำนี้มาอยู่ด้วยกันมันดีเสมอ
ไม่ว่าคุณจะเหนื่อยหนักจากการงานที่ทำ หรือคุณจะเหนื่อยหน่ายกับชีวิตของคนรอบตัว ลองสิครับ ลองหาเวลาเที่ยวสักวันสองวัน
มันจะช่วยให้จิตใจของคุณสบายมากขึ้น และรับรองว่าคุณจะกลับไปเดินได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง จนคนรอบข้างอิจฉาคุณเลยแหละ
* ขอบขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้น่ะครับ
* ผิดพลาด ประการใดสามารถคอมเม้นส์ติชมได้น่ะครับ
แล้วเจอกันใหม่กระทู้หน้าครับผม ^^