สวัสดีครับ กระทู้แรกครับ
ได้ไปทำงานที่เมืองจีนครับ เป็นเมืองที่บ้านนอกหน่อยครับ แปลกตาดีครับ
เมืองนี้ชื่อว่าเซียงหยางครับ
ชอบไหม? ชอบครับ ชอบถนนคนเดินที่นี่มากครับ
ก็เลยเอารูปมาฝากครับ
ต้องกล่าวไว้ ณที่นี้ว่า ทริปนี้เป็น Business tripครับ
ประชุมทุกวัน มีวันว่างมาเดินเล่นแค่วันเดียวจึงไม่มีเวลาจะมาหาข้อมูลหรือว่าหารีวิวอ่านอะไรเลย
อีกทั้งข้อมูลเมืองนี้ก็น้อยมากๆ ถึงขนาดจะเที่ยวเองก็ลำบาก
อย่างผมเองนี่ถ้าไม่ได้ไกด์ท้องถิ่นพาไปเที่ยวก็คงไปไหนแทบไม่เป็นเลยครับ
เพราะฉะนั้นกระทู้นี้จะไม่มีสาระในเรื่องการเดินทางนะครับ
เป็นการเอาภาพบรรยากาศมาให้ชมเท่านั้นครับ

นั่งรถที่ไกด์เฉพาะกิจขับพามา โดยจุดหมายอยู่ที่กำแพงเมืองเซี่ยงหยาง โดยตำแหน่งของกำแพงเมืองเนี่ยจะอยู่ตรงข้ามกับแม่น้ำ Hanshui แม่น้ำสายนี้ถ้าดูจากแผนที่เป็นแม่น้ำเล็กๆที่ไหลผ่ากลางเมืองนี้ ซึ่งพอไปถึงจริงๆหูยย มันไม่เล็กเลยยยย ตอนนั่งรถข้ามสะพานมาเนี่ยก็ใช้เวลาหลายนาทีอยู่ครับ ลองมาวัดในmapทีหลังอยู่ที่3Kmแน่ะ

ริมแม่น้ำก็เหมือนเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนที่นี่เขาแหละครับ ครอบครัวมาเดินเล่น มาตั้งแผงขายของกัน

หมุนตัวกลับมาก็จะเจอเป้าหมายวันนี้ครับ กำแพงเมืองเซี่ยงหยาง
เหตุผลที่มาที่นี่ก็เพราะว่า มันมีที่เที่ยวแค่ไม่กี่ที่ครับ อีกที่ก็จะเป็นอุทยานขงเบ้ง”หุบเขามังกรหลับ” ที่ผมก็เพิ่งไปมาเมื่อเช้า ไว้จะเอารูปมาฝากอีกครั้งนึงครับด้วยความที่เมืองเซี่ยงหยางนี่เป็นเมืองหน้าด่านที่จีนรบกับมองโกลครับ กำแพงเมืองก็เลยมีความใหญ่โตอลังการงานสร้าง และปัจจุบันก็ยังเป็นกำแพงเมืองโบราณจริงๆที่ไม่ได้สร้างขึ้นใหม่ แต่มีการดูแลให้คงสภาพดีอย่างสม่ำเสมอ

*หมายเหตุ จริงๆที่นี่สาวกมังกรหยกจะรู้จักกันดีครับ เพราะที่นี่คือเมืองในมังกรหยกภาคหนึ่งที่ก๊วยเจ๋งประจำอยู่ที่เมืองนี้(เซี่ยงหยาง หรือเซี่ยงเอี๋ยง)คอยต่อต้านการรุกรานของมองโกลนั่นนนเองงงง

ลอดซุ้มประตูทางเข้ามาก่อนครับ เพราะทางขึ้นบนกำแพงจะอยู่ด้านใน (อ้าว แหงล่ะ)

อิฐของกำแพงก็ยังคงเก่าครับ แต่บางส่วนที่นำมาซ่อมแซมจะดูใหม่กว่า


เอาเข้าจริงๆก็ไม่ได้สูงมากนะครับ แค่ประมาณตึกสามชั้นเท่านั้นล่ะครับ

พอขึ้นมาก็จะเป็นทางเดินบนกำแพงก็ยาวประมาณนึงครับ เดินไม่เมื่อย มารับพระอาทิตย์ตกพอดี

ปืนใหญ่นี่ไม่รู้ของดั้งเดิมเลยรึเปล่านะครับ

มองออกไปตรงบริเวณลานริมน้ำครับ ตอนถ่ายจากกำแพงนี่ชอบจินตนาการว่าเป็นพลธนู เอากำแพงที่เป็นซี่ๆยังงี้เอาไว้ใช้กำบังลูกธนูครับ

นี่เป็นอีกด้านของกำแพงครับ เดี๋ยวมีรูปตอนไปเดินมาให้ชมครับ

มีสิ่งปลูกสร้างบนนี้ด้วยครับ ดูเก่าๆขลังๆ

ลองเดินมาสุดทางอีกด้านนึง จะมีศาลาประดิษฐานรูปปั้นของใครซักคนอยู่ครับ


เอาเข้าจริงๆจำไม่ได้ว่าเป็นรูปปั้นใครครับ จริงๆมีสตอรี่เพราะไกด์เขาก็อธิบายมาซะละเอียดยิบ จะกลับมาค้นหาข้อมูลก็ไม่รู้จะค้นยังไงครับ จนปัญญา

มุมพลธนูอีกซักรูป ณ สุดทางกำแพงครับ

รูปสุดท้ายบนกำแพงครับ เห็นได้ว่าเมืองนี้ดูค่อนข้างเหงาๆครับ คนไม่ค่อยพลุกพล่าน หมอกก็ลงตลอด
เดี๋ยวจะต่อด้วยรูปของถนนคนเดินด้านในกำแพงนะครับ
[CR] [CR] <พาเที่ยวด้วยรูป> ถนนคนเดิน ณ เมืองเซี่ยงหยาง เมืองลับแลที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก
ได้ไปทำงานที่เมืองจีนครับ เป็นเมืองที่บ้านนอกหน่อยครับ แปลกตาดีครับ
เมืองนี้ชื่อว่าเซียงหยางครับ
ชอบไหม? ชอบครับ ชอบถนนคนเดินที่นี่มากครับ
ก็เลยเอารูปมาฝากครับ
ต้องกล่าวไว้ ณที่นี้ว่า ทริปนี้เป็น Business tripครับ
ประชุมทุกวัน มีวันว่างมาเดินเล่นแค่วันเดียวจึงไม่มีเวลาจะมาหาข้อมูลหรือว่าหารีวิวอ่านอะไรเลย
อีกทั้งข้อมูลเมืองนี้ก็น้อยมากๆ ถึงขนาดจะเที่ยวเองก็ลำบาก
อย่างผมเองนี่ถ้าไม่ได้ไกด์ท้องถิ่นพาไปเที่ยวก็คงไปไหนแทบไม่เป็นเลยครับ
เพราะฉะนั้นกระทู้นี้จะไม่มีสาระในเรื่องการเดินทางนะครับ
เป็นการเอาภาพบรรยากาศมาให้ชมเท่านั้นครับ
นั่งรถที่ไกด์เฉพาะกิจขับพามา โดยจุดหมายอยู่ที่กำแพงเมืองเซี่ยงหยาง โดยตำแหน่งของกำแพงเมืองเนี่ยจะอยู่ตรงข้ามกับแม่น้ำ Hanshui แม่น้ำสายนี้ถ้าดูจากแผนที่เป็นแม่น้ำเล็กๆที่ไหลผ่ากลางเมืองนี้ ซึ่งพอไปถึงจริงๆหูยย มันไม่เล็กเลยยยย ตอนนั่งรถข้ามสะพานมาเนี่ยก็ใช้เวลาหลายนาทีอยู่ครับ ลองมาวัดในmapทีหลังอยู่ที่3Kmแน่ะ
ริมแม่น้ำก็เหมือนเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนที่นี่เขาแหละครับ ครอบครัวมาเดินเล่น มาตั้งแผงขายของกัน
หมุนตัวกลับมาก็จะเจอเป้าหมายวันนี้ครับ กำแพงเมืองเซี่ยงหยาง
เหตุผลที่มาที่นี่ก็เพราะว่า มันมีที่เที่ยวแค่ไม่กี่ที่ครับ อีกที่ก็จะเป็นอุทยานขงเบ้ง”หุบเขามังกรหลับ” ที่ผมก็เพิ่งไปมาเมื่อเช้า ไว้จะเอารูปมาฝากอีกครั้งนึงครับด้วยความที่เมืองเซี่ยงหยางนี่เป็นเมืองหน้าด่านที่จีนรบกับมองโกลครับ กำแพงเมืองก็เลยมีความใหญ่โตอลังการงานสร้าง และปัจจุบันก็ยังเป็นกำแพงเมืองโบราณจริงๆที่ไม่ได้สร้างขึ้นใหม่ แต่มีการดูแลให้คงสภาพดีอย่างสม่ำเสมอ
*หมายเหตุ จริงๆที่นี่สาวกมังกรหยกจะรู้จักกันดีครับ เพราะที่นี่คือเมืองในมังกรหยกภาคหนึ่งที่ก๊วยเจ๋งประจำอยู่ที่เมืองนี้(เซี่ยงหยาง หรือเซี่ยงเอี๋ยง)คอยต่อต้านการรุกรานของมองโกลนั่นนนเองงงง
ลอดซุ้มประตูทางเข้ามาก่อนครับ เพราะทางขึ้นบนกำแพงจะอยู่ด้านใน (อ้าว แหงล่ะ)
อิฐของกำแพงก็ยังคงเก่าครับ แต่บางส่วนที่นำมาซ่อมแซมจะดูใหม่กว่า
เอาเข้าจริงๆก็ไม่ได้สูงมากนะครับ แค่ประมาณตึกสามชั้นเท่านั้นล่ะครับ
พอขึ้นมาก็จะเป็นทางเดินบนกำแพงก็ยาวประมาณนึงครับ เดินไม่เมื่อย มารับพระอาทิตย์ตกพอดี
ปืนใหญ่นี่ไม่รู้ของดั้งเดิมเลยรึเปล่านะครับ
มองออกไปตรงบริเวณลานริมน้ำครับ ตอนถ่ายจากกำแพงนี่ชอบจินตนาการว่าเป็นพลธนู เอากำแพงที่เป็นซี่ๆยังงี้เอาไว้ใช้กำบังลูกธนูครับ
นี่เป็นอีกด้านของกำแพงครับ เดี๋ยวมีรูปตอนไปเดินมาให้ชมครับ
มีสิ่งปลูกสร้างบนนี้ด้วยครับ ดูเก่าๆขลังๆ
ลองเดินมาสุดทางอีกด้านนึง จะมีศาลาประดิษฐานรูปปั้นของใครซักคนอยู่ครับ
เอาเข้าจริงๆจำไม่ได้ว่าเป็นรูปปั้นใครครับ จริงๆมีสตอรี่เพราะไกด์เขาก็อธิบายมาซะละเอียดยิบ จะกลับมาค้นหาข้อมูลก็ไม่รู้จะค้นยังไงครับ จนปัญญา
มุมพลธนูอีกซักรูป ณ สุดทางกำแพงครับ
รูปสุดท้ายบนกำแพงครับ เห็นได้ว่าเมืองนี้ดูค่อนข้างเหงาๆครับ คนไม่ค่อยพลุกพล่าน หมอกก็ลงตลอด
เดี๋ยวจะต่อด้วยรูปของถนนคนเดินด้านในกำแพงนะครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น