ทะเลาะกันเพราะแฟนอยากซื้อรถยุโรปในฝัน แต่เราคิดว่าเค้ายังไม่พร้อม

สวัสดีค่ะ
                ขออนุญาต เอาเรื่องราวมาปรึกษา ขอความเห็นเพื่อนๆในพันทิปหน่อยนะคะ
คือแฟนเรากำลังจะซื้อรถยุโรป ราคา 1.7 ล้าน (ได้ส่วนลดพิเศษ เพราะทำงานที่นี่)
....ปัญหาอยู่ตรงที่เรามองว่ามันแพงไป สำหรับเค้า
                เล่าก่อนว่า เรากับแฟน(อายุมากกว่า) คบกันมาปีกว่า ตอนแรกที่จะคบก็ลังเลเหมือนกัน
แต่ก็ประทับใจตรงที่เค้ารู้จักใช้เงิน ไม่มีหนี้บัตรเครดิต ไม่ใช้แบรนเนม ไม่ติดกินร้านหรู
ดูขยันทำงาน .... เค้าเคยพูดว่าไม่อยากมีหนี้ ตอนนี้เค้าก็โอเคกับชีวิต
               เราใช้รถยุโรปส่วนเค้าใช้รถญี่ปุ่นซึ่งรถเค้าก็ 5 ปีกว่าแล้ว ขับมา ไมล์แสนกว่า รถติดแก๊ส เครื่องดูหลวมๆ เรากลัวไม่ปลอดภัย เราเป็นคนบอกให้เค้าควรเปลี่ยนรถเอง พูดมาสักพัก แต่เดิมเค้าบอกว่าไม่อยากเป็นหนี้ เค้าใช้รถขับไม่ไกล มีขับเข้ากรุงเทพบ้าง...(จุดเปลี่ยนคือล่าสุดเค้าต้องขับรถเข้ากรุงเทพ แล้วเค้ารู้สึกรถเครื่องมันหลวมๆ ดูไม่ปลอดภัย เค้าเลยเริ่มอยากได้รถใหม่)
ใจอยากให้เค้าดูประมาณรถประมาณ 8-9แสนไปถึงล้านนิดๆ ก็ได้...ซึ่งในงาน motor expo ที่ผ่านมา เค้าก็ไปจองค่ะ จอง Mazda 3....แต่ต่อมาเค้าก็ดูลังเล (ทิ้งเงินจองไปแล้ว )..อยากได้เป็น CX5 บ้าง CRV บ้าง
                    แต่มาล่าสุด มีรถ demo ยุโรปมา เค้าบอกเค้าขอส่วนลดพิเศษได้มา 1.7 ล้าน (ไม่รวมดอกเบี้ย) อยากจองมาก เป็นรถในฝันเค้า
   ซึ่งเค้าทำงานรายได้ไม่แน่นอน เฉลี่ยปีที่แล้วประมาณ 60,000/mo แต่บางเดือนก็ 30,000
ที่เรารู้เค้ามีเงินเก็บ ประมาณ 500,000 ไม่มีอะไรต้องผ่อนอีก (เค้ามีบ้านอยู่กับพี่ แต่ตอนนี้ย้ายมาอยู่คอนโดเรา น้ำไฟค่าเน็ตบ้านส่วนใหญ่เราจ่ายหมด บางเดือนเค้าจะช่วยจ่ายค่าไฟ ต้องใช้รถขับไปทำงานทุกวัน ที่ทำงานไม่ไกลขับประมาณ 30 นาที)
ถ้าซื้อรถคันนี้ดาว์น 700,000 (เอาเงินเก็บ 400,000 มา กับขายรถเก่า 300,000)
แพลนผ่อนเดือนละ 16,000 กว่าๆ

ประเด็นคือ
1. เราถามว่าเค้าจะผ่อนไหวหรอ ?
แล้วถ้าเค้ามีเรื่องต้องใช้เงินด่วน หรือต่อไปผ่อนไม่ไหวจะทำยังไง เราบอกว่าค่าเมนเทนแนนซ์มันสูงนะ เค้าก็บอกว่ามี BSI อยู่แล้ว แต่เราบอกว่ายังไงมันก็อาจจะมีอะไรเพิ่มระหว่างทาง ค่าประกันก็แพง ค่ายางยังแพงเลย เค้าก็บอกเด๋วค่อยหาเงินเพิ่ม
      เรารู้ว่าถ้าผ่อนจริงๆ เค้าก็คงทำได้ แต่เค้าจะกลายเป็นคนอายุใกล้ 40 ที่ไม่มีเงินสดสำรองติดตัว เวลาเจ็บป่วยฉุกเฉินทำไง เรายกเหตุผลต่างๆนานามาพูดจนสุดท้ายเค้าก็บอกถ้าไม่ไหวจะขายทิ้ง เราทะเลาะกันหนักมาก เราผิดหวังที่เค้ามีความคิดแบบนี้ ....เราเอากระทู้พันทิปเก่าๆให้เค้าดู ให้เค้าอ่านความเห็นคนอื่น รวมถึงกระทู้พวกแฟนกันทะเลาะหรือเลิกกัน กันเพราะเรื่องเงิน.....เค้าก็บอกว่าเราอ่านอะไรมากไป ชีวิตเราถึงราบเรียบ ไม่มีความเสี่ยง ทำไมเค้าต้องมาใช้ชีวิตแบบเรา
       เค้าพูดว่าต้องเป็นอาชีพอย่างเธอหรอถึงขับรถยี่ห้อนี้ได้ .... เราก็บอกว่าพี่ก็มีได้ ถ้าพี่มีรายได้มากกว่านี้พี่จะซื้อก็ซื้อ เราก็จะไม่ห้ามเลย

2. เค้าบอกว่า เราเป็นคนมีเหตุผลมากเกินไป ถ้าเค้าคิดแบบเรา เค้าก็จะชวดโอกาสดีๆแบบนี้ เค้าซื้อรถด้วย emotion เราเลยสงสัยว่าเราเครียด/วิตกจริตในการใช้ชีวิตเกินไปจริงๆหรอ

3. เค้า *บอกว่าเราเป็นคนเห็นแก่ตัว เพราะเรากลัวว่า ถ้าเค้าซื้อรถมาแล้วมาประหยัดอย่างอื่น เราจะได้รับผลกระทบไปด้วย แบบจากกินอาหารร้านดีๆ ต้องมากินถูกๆ หรือเค้ากลัวเราจะมองว่าเราต้องมาเลี้ยงข้าวเค้าบ่อยขึ้น .....(คือเรามองว่าถ้าใช้รถแพง แต่ต้องมานั่งอดมื้อกินมื้อ มันก็ไม่ใช่ ทุกวันนี้เวลากินข้าวก็หารกันบ้าง สลับกันเลี้ยงบ้าง บางทีเราก็อาสาออกมากกว่า) .....เราเลยงง ว่าการเตือนเค้าแบบนี้คือ เราเห็นแก่ตัว?
4. เรากำลังสับสนว่าสิ่งที่เราทำมันคือเราทำถูกมั้ย หรือเราเยอะไป เมื่อคืนเค้าพิมพ์มาว่า จำไว้นะว่าเธอคือคนที่ขัดขวางความสุขของเค้า เราอ่านแล้วรู้สึกแย่มาก เค้าไม่จองเพราะไม่อยากทะเลาะ ไม่อยากมีปัญหากับเรา แต่ไม่ได้เข้าใจว่าควรใช้เงินยังไง....(เราบอกเค้าว่า ถ้าพี่เป็นคนอื่น เราจะไม่ตือนอะไรเยอะเลย คงทักนิดหน่อย  แต่อยากทำอะไรก็ทำ แต่นี่พี่เป็นแฟนกัน ก็ไม่อยากให้พี่คิดอะไรแค่ผิวเผิน) เราก็มาย้อนคิดว่าหรือเราคิดมากไปหรือเปล่า เราบอกว่าให้เค้าไปทำยอดให้ได้รายรับมากกว่าแสนติดต่อกัน 6 เดือนก่อน แล้วค่อยมาซื้อ เค้าก็บอกว่าคันนี้ก็ไม่มีแล้ว ตอนนั้นก็ไม่ได้อยากได้แล้ว ....เราบอกงั้นไปจอง ผ่อนไปแล้วก็มาเปิดบัญชีร่วมกัน เก็บเงินฉุกเฉินเดือนละ 20,000 (เรา 10,000 เค้า10,000 ถ้าเลิกกันก็หาร2) เหมือนเป็นการบังคับว่าก็ควรต้องมีเงินเก็บทุกเดือน เค้าก็ดูไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ บอกแต่ว่าไม่จองแล้วก็ได้ ไม่เปลี่ยนรถแล้วจะใช้คันนี้ไปเรื่อยๆ ไม่อยากได้อะไรแล้ว

                         สุดท้าย ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบและร่วมแบ่งปันประสบการณ์ เราน้อมรับทุกความเห็น เรากำลังสับสนว่าเราควรปล่อยให้เค้าได้ทำตามฝันของเค้า ให้เค้าสู้รับผิดชอบของเค้าไป มีปัญหาก็ค่อยแก้ ..... หรือเป็นแบบเราตอนนี้ที่มีโอกาสก็ห้ามไว้ก่อนดี หรือเราเป็นคนเยอะจริงจังกับชีวิตมากไป

ขอบคุณค่ะ

*แก้คำผิด
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ถ้าคิดแค่คบเป็นแฟน ก็ตามใจเขาเถอะ

แต่อย่าคิดสร้างครอบครัวกับคนแบบนี้เลย
บอกได้เท่านี้แหละ เชื่อหรือไม่เชื่อ

ก็ตามใจ
ความคิดเห็นที่ 26
เรามองว่าผู้ชายคนนี้ มีบั๊ฟเฟ่อร์สำรองคือจขกท. ที่ดูเป็นคนใจป้ำ สมมติว่าผู้ชายเกิดช้อตเงิน ชักหน้าไม่ถึงหลังเมื่อไร... เขาจะมีคุณนั่นแหล่ะที่จะคอยโปะเงินช่องโหว่นั้น

เพราะเขาไม่เคยลำบากจริงๆ มีคุณเป็นแฟน ถึงล้มไปก็ไม่เจ็บ เพราะจะมีคุณประคับประคองแน่ เมื่อถึงเวลานั้น
สภาพการเงินของคุณคล่องตัวกว่าของผู้ชายไกลโข

แบบนี้เราจะไม่เอาเป็นสามี เราสอนให้ลูกสาวเราต้องพึ่งตัวเองให้เป็น อย่าหาห่วงภาระผู้ชายที่ไม่เป็นผู้นำมาผูกคอ
ความคิดเห็นที่ 12
ลามไปถึงผู้ชายไทยกันได้เลยทีเดียว มันไม่เสมอไปหรอกครับ
ความคิดเห็นที่ 2
คุณ มองในมุม ชีวิตคู่
เขา มองในมุม ชีวิตของเขา ซึ่งมีคุณเป็น คนขัดขวางความสุข

คุณก็คิดมากๆหน่อย เรื่องอนาคตของ ชีวิตคู่

อย่างไรก็ตาม ชีวิตคนนั้น เกิดก็มาคนเดียว ตายก็ไปคนเดียว
แค่มาร่วมทุกข์สุขกัน สั้นบ้าง ยาวบ้าง ตามบุญกรรมที่ทำร่วมกันมา
ความคิดเห็นที่ 47
รถเก่า 5ปี วิ่งแสนกว่าโล มันไม่ได้เครื่องหลวมอะไรเท่าไหร่หรอกครับ บำรุงรักษาตามสภาพใช้งานได้อีก 5ปีสบายๆ

ถ้าคุณเป็นน้องสาวผม ผมคงแนะนำให้คุณค่อยๆ ถอยห่างจากผู้ชายคนนี้
วัยนี้แล้วมันควรมองอนาคตมากกว่าทำอะไรตามความฝัน
การทำตามความฝันมันไม่ผิด ถ้าในโลกความจริงมันมีโอกาสเป็นไปได้
แต่ถ้าต้องการทำตามความฝัน แล้วอนาคตค่อยวัดดวงเอา แบบนี้มันไม่ใช่แล้วครับ
ถ้ามีรถคันใหม่จะต้องผ่อนอีกกี่ปี  ซึ่งทั่วไปก็ 4-5ปี แล้วในช่วงนี้ไม่คิดที่จะแต่งงานมีครอบครัวหรือไง
แต่งงานแล้วไม่คิดจะมีลูกหรือไง เรื่องพวกนี้มีรายจ่ายทั้งนั้น
แทนที่จะเก็บเงินไว้สร้างครอบครัว สร้างอนาคตให้ลูก แต่กลับจะเอาเงินทั้งหมดมาทุ่มเพื่อรถเพียงคันเดียว
คนแบบนี้อย่าเอามาเป็นพ่อของลูกเด็ดขาด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่