ประเด็น ของเหตุการณ์ การผิดชำระหนี้ ของบริษัทที่ออกตั๋ว BE หรือจะลามไปหุ้นกู้ ตัวอื่นๆในอนาคต ไหมนั้น
จากที่เคยเขียนคราวๆไปเมื่อสิ้นปี ที่ทิ้งท้ายไว้ที่รอดูกันต่อไป โดนเฉพาะกลุ่ม พลังงานทางเลือก และอสังหาริมทรัพย์ รายเล็ก
ล่าสุดโดยสรุปที่มีการขอเลื่อนชำระ หรือ ผิดนัดชำระ จาก
NMG KC IFEC EFOEL RICH
นี้คือการเริ่มต้น หรือ จุดสิ้นสุด
มันอาจจะเป็นแค่การเริ่มต้น ของการทยอย ให้เห็น ของผลกระทบแบบลูกโซ่ ของการขาดสภาพคล่อง ของบริษัทประเภทที่หวังใช้เงินหมุน ออกตั๋ว ยัดใส่กองทุน แล้วทำการ หมุนเงิน refinance โดยการต่อตั๋ว ผ่านการขายกองทุนประเภทเทอมฟันด์ High yield ไปเลื่อยๆ ต่อตั๋วไปตามรอบ และวันหนึ่ง ที่ไม่สามารถขายกองทุนนั้นได้ สภาพคล่องที่จะมาช่วยต่อตั๋วนั้นๆ หายไป บริษัทเหล่านั้นหมุนเงินไม่ทัน กองทุนยกเลิกไป ตราสารที่กองทุนลงทุนแบบนี้พร้อมกัน 5-6บริษัท ที่ใช้การหมุนเงินแบบเดียวกัน ก็จะกระทบไปพร้อมๆกัน
จนถึง ความน่าเชื่อถือของตราสารประเภทนี้โดยรวมจะลดลงไป และนี้อาจจะเป็นแค่จุดเริ่ม ที่ทำให้ ต้นทุนการเงินของบริษัทเหล่านี้จะสูงขึ้นทันที และยังไม่รวมกับ ดอกเบี้ยระยะสั้นที่ปรับตัวขึ้น ในอนาคตที่จะถึงนี้อีก
จากเหตุการณ์ ทั้งหมดที่เกิดและกำลังจะเกิดเพิ่มขึ้น เพราะ การหวังแค่ผลตอบแทน และไม่ดูความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นของ กองทุนที่ไปลงทุน บวกกับการขายกองทุนประเภทนี้ ทีขาดการควบคุม วิเคราะห์ตราสารที่ดี และขาดการการกระจายความเสี่ยงที่ดี
จริงๆแล้วตราสารหนี้ประเภท High Yield ไม่ใช่สิ่งไม่ดี หรือ น่ากลัวขนาดนั้น แต่มันขึ้นกับ คนแนะนำการลงทุน และผู้จัดการลงทุน ที่มีการดูแลเอาใจใส่ วิเคราะห์ คัดเลือกตราสารอย่างไร กระจายการลงทุน
https://www.facebook.com/IMchatchaphol 
แค่เริ่มต้น ของเบี้ยวหนี้ ตั๋ว BE
จากที่เคยเขียนคราวๆไปเมื่อสิ้นปี ที่ทิ้งท้ายไว้ที่รอดูกันต่อไป โดนเฉพาะกลุ่ม พลังงานทางเลือก และอสังหาริมทรัพย์ รายเล็ก
ล่าสุดโดยสรุปที่มีการขอเลื่อนชำระ หรือ ผิดนัดชำระ จาก
NMG KC IFEC EFOEL RICH
นี้คือการเริ่มต้น หรือ จุดสิ้นสุด
มันอาจจะเป็นแค่การเริ่มต้น ของการทยอย ให้เห็น ของผลกระทบแบบลูกโซ่ ของการขาดสภาพคล่อง ของบริษัทประเภทที่หวังใช้เงินหมุน ออกตั๋ว ยัดใส่กองทุน แล้วทำการ หมุนเงิน refinance โดยการต่อตั๋ว ผ่านการขายกองทุนประเภทเทอมฟันด์ High yield ไปเลื่อยๆ ต่อตั๋วไปตามรอบ และวันหนึ่ง ที่ไม่สามารถขายกองทุนนั้นได้ สภาพคล่องที่จะมาช่วยต่อตั๋วนั้นๆ หายไป บริษัทเหล่านั้นหมุนเงินไม่ทัน กองทุนยกเลิกไป ตราสารที่กองทุนลงทุนแบบนี้พร้อมกัน 5-6บริษัท ที่ใช้การหมุนเงินแบบเดียวกัน ก็จะกระทบไปพร้อมๆกัน
จนถึง ความน่าเชื่อถือของตราสารประเภทนี้โดยรวมจะลดลงไป และนี้อาจจะเป็นแค่จุดเริ่ม ที่ทำให้ ต้นทุนการเงินของบริษัทเหล่านี้จะสูงขึ้นทันที และยังไม่รวมกับ ดอกเบี้ยระยะสั้นที่ปรับตัวขึ้น ในอนาคตที่จะถึงนี้อีก
จากเหตุการณ์ ทั้งหมดที่เกิดและกำลังจะเกิดเพิ่มขึ้น เพราะ การหวังแค่ผลตอบแทน และไม่ดูความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นของ กองทุนที่ไปลงทุน บวกกับการขายกองทุนประเภทนี้ ทีขาดการควบคุม วิเคราะห์ตราสารที่ดี และขาดการการกระจายความเสี่ยงที่ดี
จริงๆแล้วตราสารหนี้ประเภท High Yield ไม่ใช่สิ่งไม่ดี หรือ น่ากลัวขนาดนั้น แต่มันขึ้นกับ คนแนะนำการลงทุน และผู้จัดการลงทุน ที่มีการดูแลเอาใจใส่ วิเคราะห์ คัดเลือกตราสารอย่างไร กระจายการลงทุน
https://www.facebook.com/IMchatchaphol