รถยี่ห้อนิสสันรุ่นมาร์ช ตัวท๊อปค่ะ
อายุการใช้งาน 6 ปี
เนื่องจากก่อนหน้านี้มีอาการเร่งไม่ขึ้น เหยียบคันเร่งแล้ววืด แต่งานยุ่งไม่ได้เอาไปทำสักที
จนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมารถเกิดอาการอีกทีก็เลยดับค่ะ
คือสตาร์ทติดสัก 10 วินาที ไม่ทันเข้าเกียร์ก็ดับ
แต่ไฟหน้าจอยังขึ้นเห็นสัญลักษณ์ น้ำมันเครื่อง แบตเตอรี่ พวงมาลัยพาวเวอร์ สัญลักษณ์เครื่องยนต์
ก็คุยกับอู่นะคะ อู่คาดว่าน่าจะเป็นที่ปั๊มติ๊กไม่ก็คอยล์ จากนั้นก็ให้รถมายกไป
วันต่อมาช่างเช็คให้บอกว่าไม่ได้เป็นที่ปั๊มติ๊กแต่เป็นที่หัวฉีด มีปัญหา 1 หัว
แฟนเราอยู่กับช่างโทรมาคุยกับเราว่าช่างแนะนำให้เปลี่ยน 3 หัวพร้อมกันไปเลย
แต่เราเลือกให้เขาเปลี่ยนแค่ตัวเดียวไปก่อน
หลังจากวางสายไปแฟนโทรกลับมาบอกว่าเปลี่ยน 3 หัวเลยไหม
เพราะอีก 2 หัว ไส้กรองหัวฉีดมันเปราะแตกหมดแล้ว แต่เราไม่ได้อยู่หน้างานเรายืนกรานที่เปลี่ยนหัวเดียว
คือแฟนเราเป็นประเภทอยากเปลี่ยนของใหม่มือ 1 ทั้งเซ็ตทั้งชุด
พอวางสายไปแฟนเราโทรมาอีก ช่างบอกคอยล์ก็ต้องเปลียนอีก 3 ตัว
เพราะกำลังไฟแรง ไฟแล็บแฟนบอก แต่ถ้ายังไม่เปลี่ยนช่างจะปรับแต่งให้ใช้ได้ไปก่อน
คือพี่ที่เป็นเจ้าของอู่เขาดีนะคะ เพียงแต่ข้อมูลที่เรารับมามันเยอะและขัดแย้งกันจนตัดสินใจไม่ถูกน่ะค่ะ
ตอนนี้วิ่งได้แล้วค่ะ แต่อยากจะรบกวนสอบถามหน่อยค่ะว่า
1.เราควรเปลี่ยนอะไรก่อนระหว่างหัวฉีดที่ไม่มีไส้กรอง กับคอลย์ 3 ตัว อันไหนสำคัญมากกว่ากัน
2.เราควรเข้าไปเปลี่ยนเลยไหม หรือควรให้มีอาการก่อน
3.เราควรเปลี่ยนอะไหล่มือ 1 หรือใช้แค่มือ 2 ก็ได้คะ?
เหตุผลที่เราถามเพราะ
1. เกือบทั้งหมดของคนรอบตัวเรา ยกเว้นแฟนเรากับช่าง จะแนะนำให้ว่า
- รถน่ะให้มีอาการก่อนค่อยซ่อม ซ่อมเฉพาะที่เสีย อันไหนไม่เสียไม่ต้องไปซ่อม ไม่ต้องไปเปลี่ยน
- ใช้อะไหล่มือสองก็ได้ ใช้ได้ดีเหมือนกัน
2.ที่ผ่านมาเราซ่อมศูนย์ตลอด เป็นทีก็จ่ายหนักค่ะ หลังๆมาเริ่มเข้าอู่ รู้สึกว่าค่าใช้จ่ายต่างกันมากเลย เช่น ลูกหมากเสื่อมก็เปลี่ยนลูกหมาก แต่ศูนย์จะให้เราเปลี่ยนปีกนกทั้ง 2 ข้าง (ไม่รู้เรียกแบบนี้หรือเปล่า) แอร์มีปัญหาเข้าศูนย์เสียเงินไปเยอะออกมาแปปเดียวก็เป็นอีก แต่พอเอาไปเข้าอู่เขาตรวจเช็คแจ้งอาการแล้วซ่อมให้ถูกกว่า และใช้งานได้ดีน่ะค่ะ ในเคสนี้เป็นเกี่ยวกับเครื่องยนต์เราไม่รู้เรื่องเลยค่ะ
รบกวนผู้รู้ผู้มีประสบการณ์ช่วยให้คำแนะนำหน่อยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ (ด่าได้บ่นได้ค่ะ
)
รบกวนแนะนำความเหมาะสมในการซ่อมรถหน่อยค่ะ หัวฉีดไม่มีไส้กรองและคอยล์ค่ะ
อายุการใช้งาน 6 ปี
เนื่องจากก่อนหน้านี้มีอาการเร่งไม่ขึ้น เหยียบคันเร่งแล้ววืด แต่งานยุ่งไม่ได้เอาไปทำสักที
จนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมารถเกิดอาการอีกทีก็เลยดับค่ะ
คือสตาร์ทติดสัก 10 วินาที ไม่ทันเข้าเกียร์ก็ดับ
แต่ไฟหน้าจอยังขึ้นเห็นสัญลักษณ์ น้ำมันเครื่อง แบตเตอรี่ พวงมาลัยพาวเวอร์ สัญลักษณ์เครื่องยนต์
ก็คุยกับอู่นะคะ อู่คาดว่าน่าจะเป็นที่ปั๊มติ๊กไม่ก็คอยล์ จากนั้นก็ให้รถมายกไป
วันต่อมาช่างเช็คให้บอกว่าไม่ได้เป็นที่ปั๊มติ๊กแต่เป็นที่หัวฉีด มีปัญหา 1 หัว
แฟนเราอยู่กับช่างโทรมาคุยกับเราว่าช่างแนะนำให้เปลี่ยน 3 หัวพร้อมกันไปเลย
แต่เราเลือกให้เขาเปลี่ยนแค่ตัวเดียวไปก่อน
หลังจากวางสายไปแฟนโทรกลับมาบอกว่าเปลี่ยน 3 หัวเลยไหม
เพราะอีก 2 หัว ไส้กรองหัวฉีดมันเปราะแตกหมดแล้ว แต่เราไม่ได้อยู่หน้างานเรายืนกรานที่เปลี่ยนหัวเดียว
คือแฟนเราเป็นประเภทอยากเปลี่ยนของใหม่มือ 1 ทั้งเซ็ตทั้งชุด
พอวางสายไปแฟนเราโทรมาอีก ช่างบอกคอยล์ก็ต้องเปลียนอีก 3 ตัว
เพราะกำลังไฟแรง ไฟแล็บแฟนบอก แต่ถ้ายังไม่เปลี่ยนช่างจะปรับแต่งให้ใช้ได้ไปก่อน
คือพี่ที่เป็นเจ้าของอู่เขาดีนะคะ เพียงแต่ข้อมูลที่เรารับมามันเยอะและขัดแย้งกันจนตัดสินใจไม่ถูกน่ะค่ะ
ตอนนี้วิ่งได้แล้วค่ะ แต่อยากจะรบกวนสอบถามหน่อยค่ะว่า
1.เราควรเปลี่ยนอะไรก่อนระหว่างหัวฉีดที่ไม่มีไส้กรอง กับคอลย์ 3 ตัว อันไหนสำคัญมากกว่ากัน
2.เราควรเข้าไปเปลี่ยนเลยไหม หรือควรให้มีอาการก่อน
3.เราควรเปลี่ยนอะไหล่มือ 1 หรือใช้แค่มือ 2 ก็ได้คะ?
เหตุผลที่เราถามเพราะ
1. เกือบทั้งหมดของคนรอบตัวเรา ยกเว้นแฟนเรากับช่าง จะแนะนำให้ว่า
- รถน่ะให้มีอาการก่อนค่อยซ่อม ซ่อมเฉพาะที่เสีย อันไหนไม่เสียไม่ต้องไปซ่อม ไม่ต้องไปเปลี่ยน
- ใช้อะไหล่มือสองก็ได้ ใช้ได้ดีเหมือนกัน
2.ที่ผ่านมาเราซ่อมศูนย์ตลอด เป็นทีก็จ่ายหนักค่ะ หลังๆมาเริ่มเข้าอู่ รู้สึกว่าค่าใช้จ่ายต่างกันมากเลย เช่น ลูกหมากเสื่อมก็เปลี่ยนลูกหมาก แต่ศูนย์จะให้เราเปลี่ยนปีกนกทั้ง 2 ข้าง (ไม่รู้เรียกแบบนี้หรือเปล่า) แอร์มีปัญหาเข้าศูนย์เสียเงินไปเยอะออกมาแปปเดียวก็เป็นอีก แต่พอเอาไปเข้าอู่เขาตรวจเช็คแจ้งอาการแล้วซ่อมให้ถูกกว่า และใช้งานได้ดีน่ะค่ะ ในเคสนี้เป็นเกี่ยวกับเครื่องยนต์เราไม่รู้เรื่องเลยค่ะ
รบกวนผู้รู้ผู้มีประสบการณ์ช่วยให้คำแนะนำหน่อยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ (ด่าได้บ่นได้ค่ะ