สวัสดีค่ะ วันนี้อยากจะมารีวิวแบ่งปันประสบการณ์และการเดินทางท่องเที่ยวฮ่องกง เพราะจขกท เองก็อยากตอบแทน pantip ซึ่งจขกท ได้ใช้เป็นแหล่งหาข้อมูลท่องเที่ยวมาก่อนเช่นกัน ภาพทั้งหมดจาก galaxy A9
ทำไมต้อง "ฮ่องกง" คำตอบแรกคือ เป็นสถานที่ในฝันของเราเองเลย เนื่องจากตั้งแต่เด็กน้อยได้ดูหนังจีนฮ่องกง TVB แล้วมีฉากตึกสูงฟ้าใสของฮ่องกงแล้วชอบมากๆ โดยเฉพาะวิวอ่าววิคตอเรีย เลยตั้งใจว่าจะต้องไป "ฮ่องกง" ซักครั้งให้ได้ในชีวิต ปล.ตอนนี้ก้ถึงครั้งที่ 5 แล้ว ^^

"ละเลียดฮ่องกง" สาเหตุที่ใช้ชื่อนี้ ละเลียด แปลว่า ช้าๆ เราเองเคยไปฮ่องกงมา 4 ครั้ง แล้วทั้ง 4 ครั้งดูรีบร้อน มาคราวนี้เลยตั้งใจที่จะไปชิวๆ เก็บบรรยากาศ และ "ละเลียด" ความสุขในสิ่งที่ชอบได้นานๆ
เริ่มต้นการเดินทาง สายการบิน hongkong airline ราคาเดี๋ยวนี้ถูกลง แต่ก้แลกกับการบริการที่ลดลง เพราะที่เคยไปครั้งแรกๆ มีอาหารร้อนแจก แต่มาคราวนี้เป็นแค่ขนมปังและถ้าคุณหลับก็อดกินไปตามระเบียบ
ภาพแรกเป็นภาพวิวระหว่างเดินทางไปที่พัก ทุกรอบจะพักที่ HK Taisan สาขา harilela เหตุผลที่เลือกเพราะ สะดวกติด MTR และป้ายรถกลับสนามบินก็อยู่ด้านหน้าตึกที่พักนั่นเอง แม่บ้านใจดี มีน้ำให้กรอกฟรี เพราะน้ำที่นั่นแพง (อยากพักที่นี่หลังไมค์มาขออีเมล์จองกับเจ้าของได้ค่ะ)
วิธีการเดินทาง พอถึงสนามบิน แวะซื้อ octupus card บัตรนี้ดีต่อใจใช้ทุกอย่าง ตั้งแต่ขึ้นรถ ลงเรือ กินข้าว เข้าเซเว่น ซื้อของ ชอบมาก เพราะไม่อยากกังวลกับเงินทอนเศษเหรียญที่บางทีอาจนับผิดนับถูก หลังจากซื้อเจ้าบัตรปลาหมึกแล้วก้เดินตามป้าย to city เพื่อนั่งรถบัสสาย A21 ลงป้ายที่ 13 พอลงแล้วข้ามถนนมา ทางเข้า guesthouse จะมีป้าย emperor เห็นเด่นชัด (ตึกที่พักติดกับห้าง I square หาง่าย)
"
ละเลียดวันที่ 1" ถึงที่พัก เช็คอินเสร็จอิน ฝากกระเป๋าแล้วไปหม่ำๆโจ๊กร้านประจำ Hung Lee ; Tsim Sha Tsui exit B เดินไปตามถนน Cameron road และเลี้ยวซ้ายเข้าถนน Hau Fook ที่มีเมนูภาษาไทย ปรากฎว่ามาคราวนี้อาหารทุกอย่างแพงขึ้น (ค่าครองชีพคงสูงขึ้น) แต่อร่อยเหมือนเดิม

จากนั่งนั่งเรือไป wanchai เพื่อถ่ายรูปกับ Golden Bauhinia ดอกชงโค สัญลักษณ์บนธงชาติฮ่องกง วิธีเดินทาง --- เดินไปที่ท่าเรือ star ferry ตรงแถวหอนาฬิกาจิมซาจุ่ย ซึ่งจะมี 2 จุดหมาย คือนั่งไป central กับ wan chai ให้เลี้ยวซ้ายเลือกทางไป wan chai
ออกจากท่าเรือก้เดินไปตามทางที่เขียนว่า Golden Bauhinia ได้เลย มีป้ายบอกตลอดทาง ข้างๆจะมีศูนย์แสดงนิทรรศการฮ่องกง เลยได้ถือโอกาสเดินเข้าไปดู กำลังมีแสดงสินค้าพอดี
จากนั้นก้ถึงเวลาชิวๆแล้วโดยเดินเล่นชมวิวริมอ่าว โดยที่มองไปฝั่งตรงข้ามจะเป็นเกาลูน วิวมุมนี้เลยที่เคยเห็นในเรื่อง Forensic heroes 2 และอีกหลายเรื่องที่ตัวละครชอบมาเดินเล่นชิวๆที่มุมนี้
ถ่ายรูปวิวสวยๆเสร็จก็เดินไป MTR Wan Chai มีป้ายบอกตลอดทางอีกเช่นเคย นั่งจาก Wan Chai ---> Central exit A ข้ามสะพานลอย จะเจอตึก exchange square เดินลงบันไดเลื่อนไปใต้ตึก จะเจอ bus terminus นั่งรถตระกูล 6A 6X 260 ไป Repulse bay (โดยที่สาย 6X , 260 จะเป็นรถด่วน) พอเจอตึกที่เป็นรูก็ลงได้เลย (ตึกนี้ประวัติคร่าวๆคือตอนแรกสร้าง กิจการไม่ดี เหมือนปิดทางมังกร ซินแสเลยแนะนำให้เจาะรูตึกเพื่อเป็นทางผ่านให้มังกรลงไปทะเลได้)

ไหว้เจ้าแม่กวนอิม ข้ามสะพานต่ออายุ (ห้ามเดินย้อนกลับ) และชิวๆกับอากาศริมทะเลที่ 20 องศา แต่จะว่าไป หาดทรายและน้ำทะเลบ้านเราสวกว่าเยอะ จริงๆ ^^
ขากลับก็นั่งรถตระกูล 6 กลับทางเดิมมาลง central ระหว่างเห็น ocean park ด้วย เดี๋ยวนี้มี MTR เปิดใหม่มาลงหน้าสวนสนุกเลย แต่เสียดายเวลาน้อยเลยไม่ได้แวะ ครั้งหน้าจะไปตามรอยน้องชายพระเอกเรื่องแค้นสายโลหิตที่เป็นคนแสดงโชว์โลมาที่ ocean park ให้ได้
จาก bus terminus ตรง exchange square ก้เดินผ่านทางเชื่อมเพื่อไป central pier เปลี่ยนบรรยากาศนั่งเรือกลับจิมซาจุ่ย ระหว่างทางสาวกซัมซุงก้แอบแชะกับน้องแอปเปิ้ลซะหน่อย

วิวระหว่างนั่งเรือ ช่วงที่ไป 3 วันอากาศอึมครึมมาก เห็นเค้าว่าเป็นเพราะหมอกควันพัดมาจากเมืองจีน

เสร็จแล้วก้กลับที่พัก นอน 555 บอกแล้วทริปช้าๆชิวๆ เหนื่อยก้กลับมาพักผ่อนแปบนึงค่อยลุยต่อ นี่คือสาเหตที่ต้องเลือกที่พักติด MTR
ด้วยความที่คราวนี้อากาศฟ้าไม่แจ่ม เลยอดขึ้น The Peak เลย ซึ่งส่วนตัวชอบที่นั่นมาก เคยไปตอน HK2nd แล้วชอบมา จะขอเล่าการเดินทางคร่าวๆ ก้จาก Tsim Sha Tsui ขึ้น MTR ไปโผล่ตึก exchange square ที่เดิมที่ไป repulse bay ที่ท่ารถเดียวกัน ขึ้นรถสาย 15 ไป The Peak วิวระหว่างทางผ่านสนามแข่งม้าฮ่องกงด้วย

ถึง The Peak แล้ว ขึ้นไปบนตึกชมวิว ค่าบัตร 48 HKD วิวสวยมาก แนะนำไปตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ตกดินจนค่ำ ถ่ายภาพในเวลาต่างๆกัน ประทับใจอีกแล้ว




ต่อหลังจากพักผ่อนกายาแล้ว ก็ไปทานข้าวแถวที่พัก พวก yoshinoya หรือ cafe de coral ง่ายๆดี เราไม่ค่อยตามรีวิวร้านดัง ขอแค่สะดวกไว้ก่อน จากนั้นก้มาเดินชิวริมอ่าววิคตอเรียมองฝั่งฮ่องกง อากาศดีมากๆ ตั้งใจจะรอดู symphony of light ตอนสองทุ่ม แต่ระหว่างเดินมาตรง star ferry ที่เดิมที่นั่งไป Wan Chai ก้เห็นมีทัวร์นั่งเรือดู SOL ด้วย ราคา 220 HKD เวลาลงเรือ 19.25 เอาน่ะลองประสบการณ์ใหม่ดู ที่จริงก็อยากนั่งเรือสำเภาแดง แต่ไม่ได้ซื้อตั๋วจากไทยไปก่อนและอยากนั่งบัดนาวเลย เลยเลือก star ferry
ซึ่งฟินสุดๆ กับการอากาศ 18-20 องศา ลมเย็นพัดเข้าหน้า ชื่นใจที่สุด 555 ชอบตรงที่เห็นพร้อมกันทั้งฝั่งเกาลูน ฝั่งฮ่องกง ได้ถ่ายรูปใกล้ๆด้วย ซึ่งระหว่างที่ดู SOL ดูกลางทะเลแบบนี้ยิ่งฟิน ปกติเราจะมองจากฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ซึ่งเรามักนั่งชมที่ฝั่งเกาลูน ดูตึกฝั่งฮ่องกงเล่นแสงสี จนบางคนคิดว่าไม่เห็นน่าตื่นเต้น มีนิดเดียว แต่มาได้เห็นทั้งสองฝั่งยิ่งประทับใจ เพราะไม่เคยมองในมุม SOL ของฝั่งเกาลูนเลย



"ละเลียดวันที่ 2" ตื่นเช้ามารีบนั่ง MTR ไปสถานี Tung Chung โดยนั่งจาก Tsim Sha Tsui ไปเปลี่ยนเป็นสายสีส้มที่ Lai King (ออกเสียงแนวไทยๆเองว่า ไร่ขิง จะได้จำง่าย) เนื่องจากตอนนี้กระเช้านองปิงปิด 5 เดือน เลยต้องนั่งรถบัสสาย 23 ไป ส่วนตารางเวลารถต้องเข้าเว็บ www.newlantaobus.com (สามารถดูเวลารถสาย 11 ไป Tai O ได้ด้วย เผื่อใครจะนั่งยาวไป Tai O ก่อนแล้วค่อยลงมานองปิงก้ได้) เราไปเที่ยว 8.10 ถึงนองปิงเกือบ 9 โมง แต่ส่วนองค์พระใหญ่เปิด 10.00 ระหว่างนั้นก้เดินไปไหว้พระที่วัดโปลินกันก่อน ปล.ดอกไม้ในวัดบานสวยมาก

ข้อดีอย่างนึงของการมาแต่เช้าคือ คุณจะได้วิวสวยๆโดยปราศจากผู้คนรบกวน จริงที่สุด ปกติมานองปิง คนจะเยอะ ทำให้รูปที่ถ่ายออกมามีแต่คน และก้คน ซึ่งคราวนี้เรากลับได้ภาพสวยที่มีแต่วิวที่อยากถ่ายเท่านั้น ^^ และอีกอย่างจุดขอพรพระใหญ่ที่จำลองจากฟอฟ้าเทียนถาน ปกติคนจะต่อคิวเยอะ แต่เรามาเช้าไม่ต้องแย่งกับใคร และขอพรได้เต็มที่ไม่ต้องเร่งรีบ


ลงจากพระใหญ่ ก็ช็อปที่ citygate ตามระเบียบ แต่เราจะชอบเข้า supermarket มากกว่า ซึ่งที่ citygate ของน่าซื้อมาก ตอนไปได้เห็ดหอมแห้งอย่างดีมาฝากที่บ้าน ลดราคา 2 ห่อ (1 kg) เหลือ 145 HKD แพ้ใจต่อของใน super ที่ฮ่องกงตลอดตลอด ^^
กลับจาก citygate ก้ไป SKY100 ที่ซื้อบัตรจากเมืองไทย (แนะนำ wowhk ซื้อซิมซื้อบัตรเที่ยวของที่นี่ตลอด ได้ของเร็วประทับใจ) การเดินทาง ไปที่ star ferry นั่งเรือไป Central เดินผ่านทางเชื่อมที่ไปถ่ายรูป shop apple คราวนี้เดินเข้าไปในตัวห้าง IFC mall ที่มี shop apple จะมีป้ายบอกทาง MTR hongkong เดินตามโล้ด จากสถานี hongkong นั่งต่อไปสถานี kowloon (โดยส่วนตัวคิดว่านั่งเรือสะดวกกว่า เพราะจะเจอสถานี hongkong ก่อน ถ้านั่ง MTR จะเจอสถานี central แล้วก้ต้องเดินมาสถานี Hongkong เหมือนเดิม) exit D จะเข้ามาในห้าง element เดินตามป้าย SKY100 เลย

มหานครแห่งตึก ^^



ขอบคุณที่ติดตามรับชม เดี๋ยวกลับมาต่อ Episode2 ค่ะ
HongKong In my Dream "ละเลียดฮ่องกง" HK5th 9-11 Jan 2017 Episode I
ทำไมต้อง "ฮ่องกง" คำตอบแรกคือ เป็นสถานที่ในฝันของเราเองเลย เนื่องจากตั้งแต่เด็กน้อยได้ดูหนังจีนฮ่องกง TVB แล้วมีฉากตึกสูงฟ้าใสของฮ่องกงแล้วชอบมากๆ โดยเฉพาะวิวอ่าววิคตอเรีย เลยตั้งใจว่าจะต้องไป "ฮ่องกง" ซักครั้งให้ได้ในชีวิต ปล.ตอนนี้ก้ถึงครั้งที่ 5 แล้ว ^^
"ละเลียดฮ่องกง" สาเหตุที่ใช้ชื่อนี้ ละเลียด แปลว่า ช้าๆ เราเองเคยไปฮ่องกงมา 4 ครั้ง แล้วทั้ง 4 ครั้งดูรีบร้อน มาคราวนี้เลยตั้งใจที่จะไปชิวๆ เก็บบรรยากาศ และ "ละเลียด" ความสุขในสิ่งที่ชอบได้นานๆ
เริ่มต้นการเดินทาง สายการบิน hongkong airline ราคาเดี๋ยวนี้ถูกลง แต่ก้แลกกับการบริการที่ลดลง เพราะที่เคยไปครั้งแรกๆ มีอาหารร้อนแจก แต่มาคราวนี้เป็นแค่ขนมปังและถ้าคุณหลับก็อดกินไปตามระเบียบ
ภาพแรกเป็นภาพวิวระหว่างเดินทางไปที่พัก ทุกรอบจะพักที่ HK Taisan สาขา harilela เหตุผลที่เลือกเพราะ สะดวกติด MTR และป้ายรถกลับสนามบินก็อยู่ด้านหน้าตึกที่พักนั่นเอง แม่บ้านใจดี มีน้ำให้กรอกฟรี เพราะน้ำที่นั่นแพง (อยากพักที่นี่หลังไมค์มาขออีเมล์จองกับเจ้าของได้ค่ะ)
วิธีการเดินทาง พอถึงสนามบิน แวะซื้อ octupus card บัตรนี้ดีต่อใจใช้ทุกอย่าง ตั้งแต่ขึ้นรถ ลงเรือ กินข้าว เข้าเซเว่น ซื้อของ ชอบมาก เพราะไม่อยากกังวลกับเงินทอนเศษเหรียญที่บางทีอาจนับผิดนับถูก หลังจากซื้อเจ้าบัตรปลาหมึกแล้วก้เดินตามป้าย to city เพื่อนั่งรถบัสสาย A21 ลงป้ายที่ 13 พอลงแล้วข้ามถนนมา ทางเข้า guesthouse จะมีป้าย emperor เห็นเด่นชัด (ตึกที่พักติดกับห้าง I square หาง่าย)
"ละเลียดวันที่ 1" ถึงที่พัก เช็คอินเสร็จอิน ฝากกระเป๋าแล้วไปหม่ำๆโจ๊กร้านประจำ Hung Lee ; Tsim Sha Tsui exit B เดินไปตามถนน Cameron road และเลี้ยวซ้ายเข้าถนน Hau Fook ที่มีเมนูภาษาไทย ปรากฎว่ามาคราวนี้อาหารทุกอย่างแพงขึ้น (ค่าครองชีพคงสูงขึ้น) แต่อร่อยเหมือนเดิม
จากนั่งนั่งเรือไป wanchai เพื่อถ่ายรูปกับ Golden Bauhinia ดอกชงโค สัญลักษณ์บนธงชาติฮ่องกง วิธีเดินทาง --- เดินไปที่ท่าเรือ star ferry ตรงแถวหอนาฬิกาจิมซาจุ่ย ซึ่งจะมี 2 จุดหมาย คือนั่งไป central กับ wan chai ให้เลี้ยวซ้ายเลือกทางไป wan chai
ออกจากท่าเรือก้เดินไปตามทางที่เขียนว่า Golden Bauhinia ได้เลย มีป้ายบอกตลอดทาง ข้างๆจะมีศูนย์แสดงนิทรรศการฮ่องกง เลยได้ถือโอกาสเดินเข้าไปดู กำลังมีแสดงสินค้าพอดี
จากนั้นก้ถึงเวลาชิวๆแล้วโดยเดินเล่นชมวิวริมอ่าว โดยที่มองไปฝั่งตรงข้ามจะเป็นเกาลูน วิวมุมนี้เลยที่เคยเห็นในเรื่อง Forensic heroes 2 และอีกหลายเรื่องที่ตัวละครชอบมาเดินเล่นชิวๆที่มุมนี้
ถ่ายรูปวิวสวยๆเสร็จก็เดินไป MTR Wan Chai มีป้ายบอกตลอดทางอีกเช่นเคย นั่งจาก Wan Chai ---> Central exit A ข้ามสะพานลอย จะเจอตึก exchange square เดินลงบันไดเลื่อนไปใต้ตึก จะเจอ bus terminus นั่งรถตระกูล 6A 6X 260 ไป Repulse bay (โดยที่สาย 6X , 260 จะเป็นรถด่วน) พอเจอตึกที่เป็นรูก็ลงได้เลย (ตึกนี้ประวัติคร่าวๆคือตอนแรกสร้าง กิจการไม่ดี เหมือนปิดทางมังกร ซินแสเลยแนะนำให้เจาะรูตึกเพื่อเป็นทางผ่านให้มังกรลงไปทะเลได้)
ไหว้เจ้าแม่กวนอิม ข้ามสะพานต่ออายุ (ห้ามเดินย้อนกลับ) และชิวๆกับอากาศริมทะเลที่ 20 องศา แต่จะว่าไป หาดทรายและน้ำทะเลบ้านเราสวกว่าเยอะ จริงๆ ^^
ขากลับก็นั่งรถตระกูล 6 กลับทางเดิมมาลง central ระหว่างเห็น ocean park ด้วย เดี๋ยวนี้มี MTR เปิดใหม่มาลงหน้าสวนสนุกเลย แต่เสียดายเวลาน้อยเลยไม่ได้แวะ ครั้งหน้าจะไปตามรอยน้องชายพระเอกเรื่องแค้นสายโลหิตที่เป็นคนแสดงโชว์โลมาที่ ocean park ให้ได้
จาก bus terminus ตรง exchange square ก้เดินผ่านทางเชื่อมเพื่อไป central pier เปลี่ยนบรรยากาศนั่งเรือกลับจิมซาจุ่ย ระหว่างทางสาวกซัมซุงก้แอบแชะกับน้องแอปเปิ้ลซะหน่อย
วิวระหว่างนั่งเรือ ช่วงที่ไป 3 วันอากาศอึมครึมมาก เห็นเค้าว่าเป็นเพราะหมอกควันพัดมาจากเมืองจีน
ด้วยความที่คราวนี้อากาศฟ้าไม่แจ่ม เลยอดขึ้น The Peak เลย ซึ่งส่วนตัวชอบที่นั่นมาก เคยไปตอน HK2nd แล้วชอบมา จะขอเล่าการเดินทางคร่าวๆ ก้จาก Tsim Sha Tsui ขึ้น MTR ไปโผล่ตึก exchange square ที่เดิมที่ไป repulse bay ที่ท่ารถเดียวกัน ขึ้นรถสาย 15 ไป The Peak วิวระหว่างทางผ่านสนามแข่งม้าฮ่องกงด้วย
ถึง The Peak แล้ว ขึ้นไปบนตึกชมวิว ค่าบัตร 48 HKD วิวสวยมาก แนะนำไปตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ตกดินจนค่ำ ถ่ายภาพในเวลาต่างๆกัน ประทับใจอีกแล้ว
ต่อหลังจากพักผ่อนกายาแล้ว ก็ไปทานข้าวแถวที่พัก พวก yoshinoya หรือ cafe de coral ง่ายๆดี เราไม่ค่อยตามรีวิวร้านดัง ขอแค่สะดวกไว้ก่อน จากนั้นก้มาเดินชิวริมอ่าววิคตอเรียมองฝั่งฮ่องกง อากาศดีมากๆ ตั้งใจจะรอดู symphony of light ตอนสองทุ่ม แต่ระหว่างเดินมาตรง star ferry ที่เดิมที่นั่งไป Wan Chai ก้เห็นมีทัวร์นั่งเรือดู SOL ด้วย ราคา 220 HKD เวลาลงเรือ 19.25 เอาน่ะลองประสบการณ์ใหม่ดู ที่จริงก็อยากนั่งเรือสำเภาแดง แต่ไม่ได้ซื้อตั๋วจากไทยไปก่อนและอยากนั่งบัดนาวเลย เลยเลือก star ferry
ซึ่งฟินสุดๆ กับการอากาศ 18-20 องศา ลมเย็นพัดเข้าหน้า ชื่นใจที่สุด 555 ชอบตรงที่เห็นพร้อมกันทั้งฝั่งเกาลูน ฝั่งฮ่องกง ได้ถ่ายรูปใกล้ๆด้วย ซึ่งระหว่างที่ดู SOL ดูกลางทะเลแบบนี้ยิ่งฟิน ปกติเราจะมองจากฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ซึ่งเรามักนั่งชมที่ฝั่งเกาลูน ดูตึกฝั่งฮ่องกงเล่นแสงสี จนบางคนคิดว่าไม่เห็นน่าตื่นเต้น มีนิดเดียว แต่มาได้เห็นทั้งสองฝั่งยิ่งประทับใจ เพราะไม่เคยมองในมุม SOL ของฝั่งเกาลูนเลย
"ละเลียดวันที่ 2" ตื่นเช้ามารีบนั่ง MTR ไปสถานี Tung Chung โดยนั่งจาก Tsim Sha Tsui ไปเปลี่ยนเป็นสายสีส้มที่ Lai King (ออกเสียงแนวไทยๆเองว่า ไร่ขิง จะได้จำง่าย) เนื่องจากตอนนี้กระเช้านองปิงปิด 5 เดือน เลยต้องนั่งรถบัสสาย 23 ไป ส่วนตารางเวลารถต้องเข้าเว็บ www.newlantaobus.com (สามารถดูเวลารถสาย 11 ไป Tai O ได้ด้วย เผื่อใครจะนั่งยาวไป Tai O ก่อนแล้วค่อยลงมานองปิงก้ได้) เราไปเที่ยว 8.10 ถึงนองปิงเกือบ 9 โมง แต่ส่วนองค์พระใหญ่เปิด 10.00 ระหว่างนั้นก้เดินไปไหว้พระที่วัดโปลินกันก่อน ปล.ดอกไม้ในวัดบานสวยมาก
ข้อดีอย่างนึงของการมาแต่เช้าคือ คุณจะได้วิวสวยๆโดยปราศจากผู้คนรบกวน จริงที่สุด ปกติมานองปิง คนจะเยอะ ทำให้รูปที่ถ่ายออกมามีแต่คน และก้คน ซึ่งคราวนี้เรากลับได้ภาพสวยที่มีแต่วิวที่อยากถ่ายเท่านั้น ^^ และอีกอย่างจุดขอพรพระใหญ่ที่จำลองจากฟอฟ้าเทียนถาน ปกติคนจะต่อคิวเยอะ แต่เรามาเช้าไม่ต้องแย่งกับใคร และขอพรได้เต็มที่ไม่ต้องเร่งรีบ
ลงจากพระใหญ่ ก็ช็อปที่ citygate ตามระเบียบ แต่เราจะชอบเข้า supermarket มากกว่า ซึ่งที่ citygate ของน่าซื้อมาก ตอนไปได้เห็ดหอมแห้งอย่างดีมาฝากที่บ้าน ลดราคา 2 ห่อ (1 kg) เหลือ 145 HKD แพ้ใจต่อของใน super ที่ฮ่องกงตลอดตลอด ^^
กลับจาก citygate ก้ไป SKY100 ที่ซื้อบัตรจากเมืองไทย (แนะนำ wowhk ซื้อซิมซื้อบัตรเที่ยวของที่นี่ตลอด ได้ของเร็วประทับใจ) การเดินทาง ไปที่ star ferry นั่งเรือไป Central เดินผ่านทางเชื่อมที่ไปถ่ายรูป shop apple คราวนี้เดินเข้าไปในตัวห้าง IFC mall ที่มี shop apple จะมีป้ายบอกทาง MTR hongkong เดินตามโล้ด จากสถานี hongkong นั่งต่อไปสถานี kowloon (โดยส่วนตัวคิดว่านั่งเรือสะดวกกว่า เพราะจะเจอสถานี hongkong ก่อน ถ้านั่ง MTR จะเจอสถานี central แล้วก้ต้องเดินมาสถานี Hongkong เหมือนเดิม) exit D จะเข้ามาในห้าง element เดินตามป้าย SKY100 เลย
มหานครแห่งตึก ^^
ขอบคุณที่ติดตามรับชม เดี๋ยวกลับมาต่อ Episode2 ค่ะ