{REVIEW} a day in 'NAN' วันหนึ่งที่เคยไป

จากคนไม่รู้จัก กลายมาเป็นเพื่อน

จากกรุงเทพ สู่เมืองน่าน . จากมองเขา แหงนมองดาว . จากหุบเขา เข้าชมเมือง

#หกกระดี๋หมีชมน่าน


ฮัลโหลลลลลล สวัสดีค่ะ เรามีที่ที่นึง ที่อยากแนะนำทุกๆคนไป คือตอนแรกเราก็ไม่คิดหรอก ว่ามันจะทำเราชาวแก๊งประทับใจได้ขนาดนี้ แต่มันเกินคาดจริงๆ กับที่นี่ จังหวัดน่าน น่านไงอยู่น่านไง เฮ้อ

นี่เป็นช่วงเวลาหยุดยาวก่อนปีใหม่ เราจึงนึกสนุกคึกคักอยากไปเที่ยว ตอนแรก เราก็นั่งหาที่เที่ยวตามรีวิวต่างๆนี่แหละคะ ไปๆมาๆ ไปเจอสถานที่นึง เห็นแล้วใจเต้นรัว ระริกระรี้อยากจะเที่ยวพรุ่งนี้เลย นั่นคืออุ่นไอมางค่ะ เป็นโฮมสเตย์เล็กๆบ้านๆ อยู่ที่ บ่อเกลือ จังหวัดน่านค่ะ (เหวยแก น่านนะเว้ย นอกจากนี้จะมีอะไรเที่ยวอีกวะ ไปไกลแล้วต้องคุ้ม นี่คิดในใจนะ)

แต่ประเด็น มันไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น สถานที่เที่ยวค่อยหาไปเรื่อยๆ แต่เพื่อนเที่ยวเนี่ย สำคัญ
เอาจริงๆ คือชวนหลายก๊ก หลายหมู่มาก แต่ตามนั้นแหละค่ะ กว่าหลายๆคน จะว่างพร้อมๆกัน 5-6 คน มันยาก เราก้ทำงานกันเกือบหมดแล้ว
คือตอนนี้ เรามีกัน 3 คนหัวหน่อค่ะ แต่จะเที่ยวกัน 3 คนหรอวะ เอาจริง .. 3 คนที่มีอยู่นี่แหละค่ะ เลยช่วยกันหาคนเพิ่ม ผลลัพธ์ที่ได้มาคือ เราหาได้ 1 คน เพื่อนเราหาได้ 2 คน กลายเป็นว่า ส่วนใหญ่ไม่รู้จักกันค่ะ คือเรื่องมันซับซ้อนสับสนมาก

เรียกได้ว่า เป็นทริป จับฉ่าย ที่ตั้งกรุ๊ปคุยกัน ทั้งๆที่ไม่เคยเห็นหน้าเพียงระยะเวลา 1-2 เดือน เราก้ด่าล่อพ่อเล่นแม่กันได้แล้วค่า เลยเป็นที่มาของ หกกระดี๋หมีชมน่าน จับฉ่าย หยาบคาย ดูสนิทกันมาสิบปี มันเลยทำให้ทริปนี้ เป็นทริปที่มันส์เหเหตลอดทั้งทริปเจ้าาา


มาดูแพลนกันค่ะ หลังจากที่ไร้สาระกันไปมากพอ
เราตกลงปลงใจกันกว่า จะอยู่น่าน 4 วัน
24 DEC 2016 : นอนบนดอยเสมอดาว
25 DEC 2016 : นอนอุ่นไอมาง
26 DEC 2016 : นอนตัวเมืองน่าน
27 DEC 2016 : นอนให้อิ่ม เที่ยวให้เต็ม กินให้สุด แล้วค่อยกลับ

ค่าที่พัก ทั้ง 3 คืน รวมแล้ว 1295 บาท เก็บกองกลาง คนละ 1000 บาทเบื้องต้น รวมแล้วตอนนี้เสียคนละ 2295 บาท(แต่ค่าน้ำมันรวมๆ 3000 นิดๆ)

เราวางแผนกันออกเดินทางจากกรุงเทพ เวลา 4 ทุ่ม ของวันที่ 23 DEC 2016 ซึ่งต้องไปรับเพื่อนคนนึงที่ บ้านโป่งก่อนแล้วค่อยตีรถไปน่าน
ซึ่งเราใช้เส้นทาง จากกรุงเทพเข้าบ้านโป่งประมาน 1 ชั่วโมง สรุปประมาณเที่ยงคืนได้เดินทางจริงๆ แล้วเข้า นครปฐม > สุพรรณ > ชัยนาท > นครสวรรค์ > พิจิตร > พิษณุโลก > อุตรดิตถ์ > แพร่ > น่าน รวมๆแล้ว ประมาณ 9 ชั่วโมง

วันหนึ่ง ที่  ดอยเสมอดาว


ค่าเข้าอุทยาน คนละ 25 บาท รวมแล้ว 6 คน 150 บาท
ทุกคนไม่ต้องห่วง เรื่องสวัสดิการบนดอย ถือว่าดีเลยแหละค่ะ

มีห้องน้ำให้เข้า 2 จุดนะคะ ส่วนเรื่องที่พัก สามารถโทรจองเป็นบ้านได้ แต่ถ้าอยากนอนเต๊นท์สามารถจองเต๊นท์ของอุทยานได้ค่ะ หรือว่า จะเอาเต๊นท์ไปเองก็ได้ แต่รีบไปหน่อยนะแก เดวจองที่กางเต๊นท์ดีๆ ไม่ทันนน
ส่วนอาหารการกินเนี้ยยยย มีร้านค้ามากมายอยู่ก่อนถึงลานกางเต๊นท์ค่ะ เดินลงไปนิดเดียว สบายๆ มีบริการชาจแบตด้วย เปรมมมมม สั่งหมูกระทะมากินหน้าเต๊นท์ได้นะคะ เช่าเตาถ่านอุทยานได้ในราคา 100 บาทเบาๆ

ทะแด๊มมมมมม เราได้กางเต๊นท์ตรงนี้ ชาวเรามาถึงดอยตอน 10 โมงได้ คนยังไม่ค่อยเยอะ ถือว่ามุมดี โอเคเบตงงง


หลังจากเรากางเต๊นท์กันเสร็จ ก็ได้เวลา พล่าน คือ อากาศกำลังดี ไม่หนาวไป ไม่ร้อนไป แต่กลางวันก็ร้อนนิดๆ ตามสภาพอากาศเมืองไทยอะค่า


นี่บนจุดชมวิวนะ ที่ตอนเช้าเค้าจะมาดูทะเลหมอกกัน


แต่ความพีคของที่นี่ ไม่ได้อยู่ที่ตอนกลางวัน ..

ใกล้ค่ำแล้ว เริ่มจะหิว ความพิเศษของทริปนี้คือ ชาวเราได้จัดตั้งโครงการ เฝอบนดอย ยอมลงทุนไปซื้อ เฝอ54 แพคซีนใส่กล่องโฟมหมดไป 1200 บาท ให้มันมาเบียดที่วางเท้าบนรถ เพื่อให้ได้กินเฝอบนดอย ตอนอากาศหนาวๆ บวกกับหมูกระทะที่สั่งจากร้านค้าข้างล่างมา ชุดละ 200 บาท

อยากจะบอกว่า มันคุ้มค่ะ คุ้มค่ากับการลงทุนมาก มันบรรยายไม่ถูก แค่รู้สึกว่าคุ้มจริงๆกับสิ่งที่คิดไว้และกับสิ่งที่ได้รับ


เพราะตอนเรากินเฝออยู่นั้น เราเจอบรรยากาศแบบนี้!

และแบบนี้!

โหยยยย แกเอ้ยย แทบจะบ้าตายอยู่ตรงนั้น คือดาวชัด เต็มท้องฟ้า และใกล้มาก คือของจริงสวยมากจริงแกกก ละตอนพระอาทิตย์ตก อื้อหือ คือดีอะแก

ตอนกลางคืน หนาวเข้าไส้เลยจ้า ตายไปเลยจ้าาา เลยรีบตื่นเช้า มาดูทะเลหมอก ตี5 กว่าๆ คนก็เริ่มเข้าห้องน้ำ ไปจองที่ดูทะเลหมอกกันแล้วค่าาา

สำหรับดอยเสมอดาวแล้ว เป็นความประทับใจแรกที่มาถึงน่านของชาวเรา ก็ว่าได้ค่ะ



วันหนึ่ง ที่  อุ่นไอมาง



วันต่อมา เราข้ามเขาไปอำเภอปัว และบ่อเกลือค่ะ นั่งรถระบมอยู่เหมือนกัน แต่ก่อนที่จะไปถึงบ่อเกลือ เราต้องผ่านปัวแวะเที่ยวก่อนค่ะ
ที่ปัวมีร้านกาแฟ กลางทุ่งนานะเฮ้ยย แล้วก็เป็นร้านขายผ้าทอไทลื้อด้วย เฮ้ยๆ สถานที่นั้นคือลำดวนผ้าทอ หรือร้านกาแฟไทลื้อ นั่นเอง

ตอนเราไป มันเป็นหน้าที่เค้าเกี่ยวข้าวไปแล้วค่ะ บรรยากาศเลยไม่ค่อยเหมือนในรีวิวที่เค้ารีวิวกัน สภาพก็ตามภาพด้านบนค่ะ แต่คาดว่าถ้าไปตอนนาเขียว ต้องดีแน่ๆ! เราเลยไปแค่แชะภาพตีมขาวดำของเราเท่านั้นเอง ห้าห้าห้าห้า


ถึงเวลาเอาจริง!
นี่คือ pround to present มากค่ะ
นั่งรถอยู่ 2ชั่วโมง ด้วยทางขึ้นเขาอันน่ากลัว ชวนขนลุก หักไปหักมา แต่บางช่วง ยอมรับว่าข้างทางสวยจริงค่ะ ต้องไปลองเอง ถึงจะรู้

ในที่สุดชาวเราก็ถึงจ้า!
อุ่นไอมางเป็นโฮมสเตย์เล็กๆที่อยู่ท่ามกลางหุบเขา และมีน้ำห้วยไหลผ่านด้านหลังจ้า มีทั้งแบบกระโจมและบ้านให้เลือกนอน เราจองแบบกระโจมไป ตกคนละ 800 บาท รวมอาหารเช้าเย็นเด่อค่าเด่อออออ

ความประทับใจแรกเลย พอลงจากรถแล้วเจออากาศหนาวๆเย็นๆ แล้วคือวิวดีมากแก มีจักรยานให้ขี่ในหมู่บ้าน มีน้ำห้วยให้เล่น

บรรยากาศที่นี่ดีจริงๆค่ะ คนที่นั่นบอกว่า ที่นี่เย็นทั้งปี ถึงจะมีแดดร้อน แต่อากาศก็เย็นค่ะ
ก็เหมือนเดิม หลังจากที่เก็บกระเป๋าเคลียตัวเองกันเสร็จ เราก็ไปพล่านกันตามเคย ก่อนที่จะไปกินข้าวเย็น

แกดูสิ แกดู๊ คือมันดีมั้ยละ เห็นกระโจมข้างหลังนั่นมั้ย นั่นของชาวเราเอง กลางคืนไม่มียุง ไม่มีแมลงกวนใจนะบอกเลยยยย แต่ละกระโจมจะมีระเบียงน้อยๆให้นั่งเล่นริมห้วย โหยยยยย คุ้ม!

ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว มีกับข้าว 4 อย่างนะ ชาวเราได้มา 2 ชุด เติมได้ตลอด กับข้าวพื้นๆเลย แต่อร่อย อร่อยจริง ไม่ได้ขาย แต่อร่อยจริง

กินข้าวเสร็จก็นั่ง-ลมเม้ากันสักพัก ก็ถึงเวลาคอพับ เอาจริง หนาว! นั่งระเบียงไม่ไหวหรอก หนาวกว่าบนดอยอีก ตอนกลางคืน 15 องศาได้ ก็ไม่คิดว่าจะหนาวขนาดนี้ เสื้อกันหนาวหนาๆไม่ได้เอามา ฟัคแม้ว มากค่ะ

ข่มตาหลับกันไป เสียงนาฬิกาปลุกดัง เชี้ยยยยไปทำงานนน ตกใจเบาๆ นึกขึ้นได้นี่หยุดยาวแล้ว ไหนๆก้ไหนๆละ เปิดกระโจมดูข้างนอกหน่อย
พ่ามมมมม! โอยคือระ ภาพที่เห็นทำเราตื่นเลยแก รีบเรียกอิผีข้างๆให้ลุกมาดู

ดี คือดี เอาจริงคือบรรยากาศที่แท้จริง คือหมอกลงถึงพื้นนะ แต่ข้างบนหมอกหนากว่า
แล้วดูนี่ ดู!

ดูดูดูดูดูดู

เห้ยยย คือ มันเกิน 800 ที่เสียไป จริงๆ ตอนเช้านี่ 13 องศาได้ อิผีเอ้ยคุ้มแล้วเห้ยทริปนี้

หลังจากที่ทำตัวเวิ่นเว้อทำตัวเป็นนางเอกเอ็มวีชมนกชมไม้เสร็จ ก็ได้เวลากินข้าวเช้า ละอาบน้ำแต่งตัวเตรียมล่ำลาบรรยากาศแล้วออกเดินทางสู่ตัวเมืองน่าน

แต่ก่อนจะกลับจากบ่อเกลือ เราด็ไม่พลาดร้านอาหารรชื่อดังของบ่อเกลือค่ะ ชาวเราแวะกินข้าวเที่ยงกันที่บ่อเกลือวิว บรรยากาศดี มองเห็นบ่อเกลือทั้งหมดเลย

พอกินข้าวเสร็จเราก็ไม่พลาดที่จะไปบ่อเกลือโบราณ ซึ่งเป็นสถานที่ทำเกลือบริสุทธิ์ค่ะ


วันหนึ่ง ที่  เมืองน่าน


ชาวเราพักกันที่ เฮือนช้างเผือก ห้องละ 990 พร้อมอาหารเช้า 2 คน ค่ะ มีบริการจักรยานฟรี มีร้านกาแฟอยู่ที่ lobby ห้องสะอาด ทันสมัย น่านอนค่ะ

แต่ต้องขอบอกก่อนเลย ว่า เราไปถึงตัวเมืองเกือบเย็นแล้วค่ะ ทำได้แค่ขี่จักรยานเที่ยวรอบเมือง แล้วแวะ night bazaar เท่านั้นเอง

เอาละ เตรียมไปพล่านกันตามสเตปเดิม งานนี้บอกเลยว่า หลง!

ช่วงเวลานั้นคนเลิกงาน เลิกเรียนกันพอดีค่ะ ขี่ไปทักเด็กนักเรียนไป ทำตัวเหมือนเป็นจิ๊กโก๋เมืองน่าน หรือเรียกอีกอย่างคือ ปัญญาอ่อนค่ะ ถ้าแม่รู้แม่จะเสียใจ ทำไมมีลูกแบบนี้ ถถถถถถถถ
และแล้วก็ถึง night bazaar น่านค่ะ มีตลาด มีของกิน มีดนตรี อยู่ในเวิ้งเดียวกันค่ะ

หลังจากนั้น เราก็ไม่หยุดพล่านค่ะ หาวิธีกินข้าวเย็นกันแบบเมาๆ เกิดอะไรขึ้นคะ ความพังไง เราตรงดิ่งไปกาดน่าน ซึ่งเป็นย่านร้านเหล้าของน่านค่ะ
จริงๆแพลนไว้ว่าจะไป วัด ไปกินร้านเฮือนฮอม ไปร้านขนมหวานป้านิ่ม พอความแฮงค์เข้าสิง เราจึงเหลือเพียงสถานที่ที่เอาไว้กระแทกปากแก้แฮงค์ค่ะ จอบอจริงๆ

กว่าจะออกจากที่พักก็เที่ยงบ่ายค่ะ แวะเฮือนฮอมเจ้าดัง ร้านอาหารพื้นเมืองน่าน และขนมหวานป้านิ่ม รวมแล้วก้เกือบเย็นแล้วค่ะ เที่ยววัดไหว้พระไม่ทันแล้ว เพิ่งมานึกขึ้นได้ตอนกลับ เหมือนไปไม่ถึงน่านเฉย

ถ้ามีโอกาส อยากกลับไปอีกนะ มันเป็นความประทับใจตั้งแต่เรื่องมิตรภาพ ยันบรรยากาศ หลังจากทุกคนอ่านจบแล้ว อยากให้ลองวางแพลนไปกันค่ะ เสียเงินไม่มากเพื่อแลกกับบรรยากาศที่มากกว่าค่ะ


วันหนึ่ง เราจะกลับไป
a day in NAN


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่