ศึกคืนนี้ คือตำนาน | เพิ่ม อรรถรสในการเชียร์ รู้ไว้ไม่เสีย
East Midland derby 🔝🏆
มรดกทางวัฒนธรรมและกิจกรรมกีฬาทางด้านกีฬา มีทีมฟุตบอลอยู่ 3 ทีมในภูมิภาคเดียวกัน โดยทีมคู่แข่งร่วมภูมิภาคของสโมสรฟุตบอลดาร์บี้ เคาน์ตี้(Derby County) คือ เลสเตอร์ ซิตี้(Leicester City Football Club) และสโมสรฟุตบอลน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ แต่ละทีมถือว่า เป็นคู่แข่งสำคัญ
💎นอกเหนือจาก East Midland derby 🏆 ลีดส์ เป็นคูปรับมายาวนาน อีกหนึ่งทีม พบกันทีไรเดือดทุกครั้ง มีถ้วยแชมป์และรองแชมป์เป็นเดิมพัน ศึกที่ไม่มีใครยอมใคร
👍กดถูกใจเพจ Derby County Thailand 'FansClub 🏟 #กดแชร์🌏
► จุดกำเนิดชื่อถ้วยไบรอัน คลัฟ 🕵
ไบรอัน คลัฟ คือผู้จัดการทีมที่เป็นประวัติศาสตร์สำหรับทั้งสองสโมสร โดยคลัฟในวัย 37 พาดาร์บี้คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษได้เป็นครั้งแรกในปี 1972 และย้ายข้ามค่ายมาพาฟอเรสต์ได้แชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษครั้งแรกและครั้งเดียวในปี 1977 จากผลงานที่สร้างให้กับสองสโมสรที่เป็นคู่ปรับตลอดกาล "Brian Clough Trophy" จึงถูกตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นเกียรติสำหรับไบรอัน คลัฟ และมอบให้สโมสรที่ชนะครอบครองใน "East Midlands derby"
► คู่ปรับยิ่งนานยิ่งเดือด
ในยุคหลังปี 2010 ทั้งสองทีมตกลงมาเล่นในลีกอันดับสอง แต่ความเข้มข้นของดาร์บี้แมตช์แห่งมิดแลนด์สไม่ได้ลดระดับลง ดุเดือดทั้งเกมในสนาม นอกสนาม และบนโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค ในปีที่แล้ว ดาร์บี้ปลด ไนเจล คลัฟ พ้นตำแหน่งผู้จัดการทีมหลังแพ้ฟอเรสต์ที่ซิติ้ กราวด์ ไม่ถึงชั่วโมง ในขณะที่แมตช์ที่ไอโปร สเตเดี้ยม ดาร์บี้ที่คุมทีมโดย สตีฟ แม็คคลาเรนถล่มฟอเรสต์ 5-0 สกอร์ขาดลอยเทียบเท่าสถิติเดิมที่เคยแพ้สกอร์เดียวกันเมื่อ 116 ปีที่ผ่าน
► ย้ายข้ามค่าย
บิลลี่ เดวี่ย์ส คืออดีตผู้จัดการทีมของทั้งสองสโมสร โดยบิลลี่พาดาร์บี้เลื่อนชั้นจากการชนะเพลย์ออฟเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก คือเกียรติประวัติสูงสุดในการทำทีมของเขา แต่ไม่ประสบความสำเร็จในการคุมทีม น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
สตีฟ แม็คคลาเรน เป็นอีกหนึ่งผู้จัดการทีมของสองสโมสร แม็คคลาเรนล้มเหลวไม่เป็นท่าคุมฟอเรสต์ได้ไม่ถึง 3 เดือน และ 2 ปีต่อมารับงานที่ดาร์บี้
จอห์น แม็คโกเวิร์น และ จอห์น โอแฮร์ โคลิน ท็อดด์ จอห์น โรเบิร์ตสัน อาร์ชี่ เกมมิลล์ คือนักเตะที่ไบรอัน คลัฟใช้งานภายใต้การทำทีมทั้งดาร์บี้และฟอเรสต์ โดย ปีเตอร์ ชิลตัน เคนนี่ เบิร์น ย้ายจากฟอเรสต์ไปร่วมทีมดาร์บี้ในขณะที่คลัฟคุมทีม ส่วน สตีฟ ฮอดจ์ ลาร์ส โบฮิเน่น เป็นนักเตะในยุค 90 ที่ลงเล่นให้กับทั้งสองทีมโดยประสบความสำเร็จกับฟอเรสต์ก่อนถูกขายให้กับสโมสรอื่นแล้วไปสังกัดดาร์บี้ในเวลาต่อมา
ในขณะที่ บิลลี่ เดวี่ย์ส พา ลี แคมป์ เด็กซ์เตอร์ แบล็คสต็อค และ ร็อบ เอิร์นชอว์ ที่เคยเล่นให้ดาร์บี้มาร่วมทีมฟอเรสต์ คริส คอมมอนส์ และ นาธาน ไทสัน คืออีก 2 นักเตะที่ยังคงเล่นอยู่ในปัจจุบันและเคยลงเล่นให้กับทั้งสองสโมสร

🕴#ในยุคทศวรรษที่หกสิบ ดอน เรวีส์ คือกุนซือผู้สร้างความสำเร็จเรืองรองให้กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ขณะที่ ไบรอัน คลัฟ ยังกระจอก ได้งานคุมทีม "แกะเขาเหล็ก"ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ทีมดิวิชั่น 2
ครั้งหนึ่งที่ #สนามเบสบอลกราวน์ ของ #ดาร์บี้ มีโอกาสต้อนรับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในฟุตบอลเอฟเอ คัพ ไบรอัน คลัฟ ดีใจจนเนื้อเต้น เพราะจะได้เจอ "ตัวจริงของจริง" ของยอดกุนซือ ทีมเจอยอดทีม นักเตะเรืองนามจากดิวิชั่น 1 ในสนาม ดาร์บี้ แพ้น่วม ฝีเท้าก็สู้ไม่ได้ ลีดส์ ไม่ยั้งสไตล์เตะโหด ย่ำเละ
ไม่เท่านั้น ดอน เรวีส์ อย่าว่าจะจับมือเลย แต่ปรายตามอง ยังไม่มอง ไบรอัน คลัฟ ด้วยซ้ำ
นั่นคือจุดเริ่มต้นของเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชังของคลัฟที่มีต่อเรวีส์ได้งอกขึ้น จนเป็น "ปม" อื่นๆในเวลาต่อมา
คลัฟบ้าบอลทำทีมดาร์บี้ ดีขึ้นๆตามสไตล์ตนเอง จนเป็นแชมป์ดิวิชั่น 2 ขึ้นสู่ดิวิชั่น 1 ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเขาคือ เพื่อนรักคู่หู ปีเตอร์ เทย์เลอร์ ผู้ช่วยและยอดแมวมอง
เทย์เลอร์นี่แหละคือหลังฉาก เสาแห่งความสำเร็จของ ไบรอัน คลัฟ เป็นคนละเอียดรอบคอบ รู้ตัวตนนักเตะ รู้จุดอ่อนจุดรั่วของทีมมากกว่า ไบรอัน คลัฟ ที่เป็นผู้จัดการทีมเสียอีก เทย์เลอร์มีลูกล่อลูกชนสารพัดที่จะดึงตัวนักเตะมาบรรณาการให้คลัฟได้เสมอ.. ขนาดช่วยกันมอมเหล้าพ่อนักเตะให้เซ็นสัญญาก็ยังทำ
ไบรอัน คลัฟ ทำทีมดาร์บี้ ไต่ขึ้นมาถึงแชมป์ดิวิชั่น 1 เขาและเทย์เลอร์ กลายเป็นคู่หูมหัศจรรย์แห่งวงการลูกหนังอังกฤษ
ครั้งหนึ่ง ในฟุตบอลเอฟเอ คัพ ค.ศ.1968 ดาร์บี้ เจอ ลีดส์ ก่อนที่จะไปเล่นฟุตบอลถ้วยใหญ่ยูโรเปี้ยนคัพรอบสามในสัปดาห์ต่อมา ทุกคนแม้ประธานสโมสรบอกให้เขาจัดทีมสำรองพบกับ ลีดส์ เพื่อเก็บตัวชุดใหญ่ไว้เล่นถ้วยยุโรป แต่คลัฟไม่เชื่อ จัดชุดใหญ่ลงไป ''ชน'' กับ ลีดส์
แล้วก็ เรียบร้อย นักเตะดาร์บี้ถูกบรรดาลูกสมุน ดอน เรวีส์ เล่นบอลโหด สอยทั้งลูกทั้งคน ยำเละ นักเตะเดี้ยงครึ่งค่อนทีม จนต้องเอาตัวสำรองไปเล่นในบอลถ้วยยุโรป ซึ่ง ดาร์บี้ ก็แพ้เละกลับมา
ไบรอัน คลัฟ เรียก ลีดส์ ยูไนเต็ด ว่า The Damned United ก็ครั้งนั้น
หลายซีซั่นต่อมา ไบรอัน คลัฟ อหังการกับบอร์ดบริหาร ด่าทอเรียกร้องบุญคุณ ครั้งหนึ่งทะเลาะกับประธานสโมสรอย่างแตกหัก แทนที่จะสำนึก ไบรอัน คลัฟ กลับยื่นใบลาออก พลอยทำให้ ปีเตอร์ เทย์เลอร์ เดือดร้อน ต้องออกตามด้วย ทั้งที่เขาไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเพื่อนเลย
พอชีวิตตกอับ เทย์เลอร์ก็ยังหางานได้ พากันไปทำทีม ไบรท์ตัน ในดิวิชั่น 2 แต่ก็มีเหตุพลิกชีวิตอีก เมื่อ ดอน เรวีส์ ลาออกจาก ลีดส์ เลื่อนขั้นไปรับงานกุนซือทีมชาติอังกฤษ
บอร์ดบริหารลีดส์ เลือกใครไม่เลือก ดันเลือก ไบรอัน คลัฟ มาทำทีม
เป็นครั้งแรกที่ ปีเตอร์ เทย์เลอร์ ไม่ตามมาด้วย ซ้ำยังทะเลาะถึงตัดเพื่อนกัน โดยเทย์เลอร์บอกว่า..ดอน เรวีส์ สร้างนักเตะลีดส์ชุดนั้นมากับมือ พวกนั้นนับถือเขายังกับพ่อ เอ็งไป ก็ตายลูกเดียว..
แล้วก็จริง นักเตะลีดส์ ทำทีมโดย "ขาใหญ่" บิลลี่ เบรมเนอร์, จอห์นนี่ จายส์ และพลพรรค ไม่มีใจให้เขา ยิ่งพวกนั้น บูชาเรวีส์เท่าไหร่ ก็เกลียดคลัฟยังกับขี้เท่านั้น
เพียง 44 วัน ไบรอัน คลัฟ ก็ถูกปลดจากตำแหน่งผู้จัดการทีมลีดส์ ยูไนเต็ด
แล้วคนที่เขาซมซานกลับมาหาเป็นคนแรก คือ ปีเตอร์ เทย์เลอร์ ที่ ''ตัดเพื่อน'' กันไปแล้ว
เมื่อทั้งคู่จับมือกันลงไปทำทีม "สิงห์สั่งป่า" ทีมน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ก็สร้างปรากฏการณ์ ขึ้นมาสู่แชมป์ดิวิชั่นหนึ่ง..ไม่เท่านั้น ยังผงาดเป็นแชมป์ถ้วยใหญ่ยุโรป ยูโรเปี้ยนคัพ ได้ถึงสองสมัย
ไม่มีกุนซืออังกฤษคนไหนทำได้เช่นนี้อีกแล้ว แต่ถึงแม้ว่าคลัฟจะเป็นกุนซือที่เก่งที่สุดในครั้งนั้น เขาก็ไม่เคยได้เป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษเลย ขณะที่ ดอน เรวีส์ ก็ไมเคยประสบความสำเร็จในการทำทีมชาติ
หนังเรื่องนี้ สอนให้เห็นถึง "ปมมนุษย์" ที่มีทั้งดีและเลว
แต่ปมที่ดีที่สุด น่าจะเป็น "น้ำมิตร" ระหว่าง ไบรอัน คลัฟ กับ ปีเตอร์ เทย์เลอร์ 》อ่านเรื่องเต็ม THE DAMNED UNITED
⚊⚊⚊⚊⚊⚊⚊⚊
ส่วนเลสเตอร์ มีคู่แข่งอีกทีม คือสโมสรฟุตบอลโคเวนทรี้ซิตี้ที่แม้ว่าจะอยู่ในภาคมิดแลนด์ตะวันตก ซึ่งถือว่าอยู่คนละภูมิภาคกัน แต่ก็อยู่ห่างออกไปเพียง 24 ไมล์ ทั้งสองเมืองเชื่อมต่อกันด้วยทางหลวงสาย M69 สื่อจึงมักขนานนามการแข่งขันระหว่างทั้งสองทีมว่า “เอ็ม 69 ดาร์บี้แมตช์” - ซึ่งถือว่าอยู่คนละภูมิภาคกันและอยู่ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง "Leicester Vs Coventry"
ขบวนแกะ : ไบรอัน คลัฟ คนเดียว☆ ทำฟุตบอลสนุกขึ้นมาก!! The Damned United
East Midland derby 🔝🏆
มรดกทางวัฒนธรรมและกิจกรรมกีฬาทางด้านกีฬา มีทีมฟุตบอลอยู่ 3 ทีมในภูมิภาคเดียวกัน โดยทีมคู่แข่งร่วมภูมิภาคของสโมสรฟุตบอลดาร์บี้ เคาน์ตี้(Derby County) คือ เลสเตอร์ ซิตี้(Leicester City Football Club) และสโมสรฟุตบอลน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ แต่ละทีมถือว่า เป็นคู่แข่งสำคัญ
💎นอกเหนือจาก East Midland derby 🏆 ลีดส์ เป็นคูปรับมายาวนาน อีกหนึ่งทีม พบกันทีไรเดือดทุกครั้ง มีถ้วยแชมป์และรองแชมป์เป็นเดิมพัน ศึกที่ไม่มีใครยอมใคร
👍กดถูกใจเพจ Derby County Thailand 'FansClub 🏟 #กดแชร์🌏
► จุดกำเนิดชื่อถ้วยไบรอัน คลัฟ 🕵
ไบรอัน คลัฟ คือผู้จัดการทีมที่เป็นประวัติศาสตร์สำหรับทั้งสองสโมสร โดยคลัฟในวัย 37 พาดาร์บี้คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษได้เป็นครั้งแรกในปี 1972 และย้ายข้ามค่ายมาพาฟอเรสต์ได้แชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษครั้งแรกและครั้งเดียวในปี 1977 จากผลงานที่สร้างให้กับสองสโมสรที่เป็นคู่ปรับตลอดกาล "Brian Clough Trophy" จึงถูกตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นเกียรติสำหรับไบรอัน คลัฟ และมอบให้สโมสรที่ชนะครอบครองใน "East Midlands derby"
► คู่ปรับยิ่งนานยิ่งเดือด
ในยุคหลังปี 2010 ทั้งสองทีมตกลงมาเล่นในลีกอันดับสอง แต่ความเข้มข้นของดาร์บี้แมตช์แห่งมิดแลนด์สไม่ได้ลดระดับลง ดุเดือดทั้งเกมในสนาม นอกสนาม และบนโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค ในปีที่แล้ว ดาร์บี้ปลด ไนเจล คลัฟ พ้นตำแหน่งผู้จัดการทีมหลังแพ้ฟอเรสต์ที่ซิติ้ กราวด์ ไม่ถึงชั่วโมง ในขณะที่แมตช์ที่ไอโปร สเตเดี้ยม ดาร์บี้ที่คุมทีมโดย สตีฟ แม็คคลาเรนถล่มฟอเรสต์ 5-0 สกอร์ขาดลอยเทียบเท่าสถิติเดิมที่เคยแพ้สกอร์เดียวกันเมื่อ 116 ปีที่ผ่าน
► ย้ายข้ามค่าย
บิลลี่ เดวี่ย์ส คืออดีตผู้จัดการทีมของทั้งสองสโมสร โดยบิลลี่พาดาร์บี้เลื่อนชั้นจากการชนะเพลย์ออฟเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก คือเกียรติประวัติสูงสุดในการทำทีมของเขา แต่ไม่ประสบความสำเร็จในการคุมทีม น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
สตีฟ แม็คคลาเรน เป็นอีกหนึ่งผู้จัดการทีมของสองสโมสร แม็คคลาเรนล้มเหลวไม่เป็นท่าคุมฟอเรสต์ได้ไม่ถึง 3 เดือน และ 2 ปีต่อมารับงานที่ดาร์บี้
จอห์น แม็คโกเวิร์น และ จอห์น โอแฮร์ โคลิน ท็อดด์ จอห์น โรเบิร์ตสัน อาร์ชี่ เกมมิลล์ คือนักเตะที่ไบรอัน คลัฟใช้งานภายใต้การทำทีมทั้งดาร์บี้และฟอเรสต์ โดย ปีเตอร์ ชิลตัน เคนนี่ เบิร์น ย้ายจากฟอเรสต์ไปร่วมทีมดาร์บี้ในขณะที่คลัฟคุมทีม ส่วน สตีฟ ฮอดจ์ ลาร์ส โบฮิเน่น เป็นนักเตะในยุค 90 ที่ลงเล่นให้กับทั้งสองทีมโดยประสบความสำเร็จกับฟอเรสต์ก่อนถูกขายให้กับสโมสรอื่นแล้วไปสังกัดดาร์บี้ในเวลาต่อมา
ในขณะที่ บิลลี่ เดวี่ย์ส พา ลี แคมป์ เด็กซ์เตอร์ แบล็คสต็อค และ ร็อบ เอิร์นชอว์ ที่เคยเล่นให้ดาร์บี้มาร่วมทีมฟอเรสต์ คริส คอมมอนส์ และ นาธาน ไทสัน คืออีก 2 นักเตะที่ยังคงเล่นอยู่ในปัจจุบันและเคยลงเล่นให้กับทั้งสองสโมสร
🕴#ในยุคทศวรรษที่หกสิบ ดอน เรวีส์ คือกุนซือผู้สร้างความสำเร็จเรืองรองให้กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ขณะที่ ไบรอัน คลัฟ ยังกระจอก ได้งานคุมทีม "แกะเขาเหล็ก"ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ทีมดิวิชั่น 2
ครั้งหนึ่งที่ #สนามเบสบอลกราวน์ ของ #ดาร์บี้ มีโอกาสต้อนรับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในฟุตบอลเอฟเอ คัพ ไบรอัน คลัฟ ดีใจจนเนื้อเต้น เพราะจะได้เจอ "ตัวจริงของจริง" ของยอดกุนซือ ทีมเจอยอดทีม นักเตะเรืองนามจากดิวิชั่น 1 ในสนาม ดาร์บี้ แพ้น่วม ฝีเท้าก็สู้ไม่ได้ ลีดส์ ไม่ยั้งสไตล์เตะโหด ย่ำเละ
ไม่เท่านั้น ดอน เรวีส์ อย่าว่าจะจับมือเลย แต่ปรายตามอง ยังไม่มอง ไบรอัน คลัฟ ด้วยซ้ำ
นั่นคือจุดเริ่มต้นของเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชังของคลัฟที่มีต่อเรวีส์ได้งอกขึ้น จนเป็น "ปม" อื่นๆในเวลาต่อมา
คลัฟบ้าบอลทำทีมดาร์บี้ ดีขึ้นๆตามสไตล์ตนเอง จนเป็นแชมป์ดิวิชั่น 2 ขึ้นสู่ดิวิชั่น 1 ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเขาคือ เพื่อนรักคู่หู ปีเตอร์ เทย์เลอร์ ผู้ช่วยและยอดแมวมอง
เทย์เลอร์นี่แหละคือหลังฉาก เสาแห่งความสำเร็จของ ไบรอัน คลัฟ เป็นคนละเอียดรอบคอบ รู้ตัวตนนักเตะ รู้จุดอ่อนจุดรั่วของทีมมากกว่า ไบรอัน คลัฟ ที่เป็นผู้จัดการทีมเสียอีก เทย์เลอร์มีลูกล่อลูกชนสารพัดที่จะดึงตัวนักเตะมาบรรณาการให้คลัฟได้เสมอ.. ขนาดช่วยกันมอมเหล้าพ่อนักเตะให้เซ็นสัญญาก็ยังทำ
ไบรอัน คลัฟ ทำทีมดาร์บี้ ไต่ขึ้นมาถึงแชมป์ดิวิชั่น 1 เขาและเทย์เลอร์ กลายเป็นคู่หูมหัศจรรย์แห่งวงการลูกหนังอังกฤษ
ครั้งหนึ่ง ในฟุตบอลเอฟเอ คัพ ค.ศ.1968 ดาร์บี้ เจอ ลีดส์ ก่อนที่จะไปเล่นฟุตบอลถ้วยใหญ่ยูโรเปี้ยนคัพรอบสามในสัปดาห์ต่อมา ทุกคนแม้ประธานสโมสรบอกให้เขาจัดทีมสำรองพบกับ ลีดส์ เพื่อเก็บตัวชุดใหญ่ไว้เล่นถ้วยยุโรป แต่คลัฟไม่เชื่อ จัดชุดใหญ่ลงไป ''ชน'' กับ ลีดส์
แล้วก็ เรียบร้อย นักเตะดาร์บี้ถูกบรรดาลูกสมุน ดอน เรวีส์ เล่นบอลโหด สอยทั้งลูกทั้งคน ยำเละ นักเตะเดี้ยงครึ่งค่อนทีม จนต้องเอาตัวสำรองไปเล่นในบอลถ้วยยุโรป ซึ่ง ดาร์บี้ ก็แพ้เละกลับมา
ไบรอัน คลัฟ เรียก ลีดส์ ยูไนเต็ด ว่า The Damned United ก็ครั้งนั้น
หลายซีซั่นต่อมา ไบรอัน คลัฟ อหังการกับบอร์ดบริหาร ด่าทอเรียกร้องบุญคุณ ครั้งหนึ่งทะเลาะกับประธานสโมสรอย่างแตกหัก แทนที่จะสำนึก ไบรอัน คลัฟ กลับยื่นใบลาออก พลอยทำให้ ปีเตอร์ เทย์เลอร์ เดือดร้อน ต้องออกตามด้วย ทั้งที่เขาไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเพื่อนเลย
พอชีวิตตกอับ เทย์เลอร์ก็ยังหางานได้ พากันไปทำทีม ไบรท์ตัน ในดิวิชั่น 2 แต่ก็มีเหตุพลิกชีวิตอีก เมื่อ ดอน เรวีส์ ลาออกจาก ลีดส์ เลื่อนขั้นไปรับงานกุนซือทีมชาติอังกฤษ
บอร์ดบริหารลีดส์ เลือกใครไม่เลือก ดันเลือก ไบรอัน คลัฟ มาทำทีม
เป็นครั้งแรกที่ ปีเตอร์ เทย์เลอร์ ไม่ตามมาด้วย ซ้ำยังทะเลาะถึงตัดเพื่อนกัน โดยเทย์เลอร์บอกว่า..ดอน เรวีส์ สร้างนักเตะลีดส์ชุดนั้นมากับมือ พวกนั้นนับถือเขายังกับพ่อ เอ็งไป ก็ตายลูกเดียว..
แล้วก็จริง นักเตะลีดส์ ทำทีมโดย "ขาใหญ่" บิลลี่ เบรมเนอร์, จอห์นนี่ จายส์ และพลพรรค ไม่มีใจให้เขา ยิ่งพวกนั้น บูชาเรวีส์เท่าไหร่ ก็เกลียดคลัฟยังกับขี้เท่านั้น
เพียง 44 วัน ไบรอัน คลัฟ ก็ถูกปลดจากตำแหน่งผู้จัดการทีมลีดส์ ยูไนเต็ด
แล้วคนที่เขาซมซานกลับมาหาเป็นคนแรก คือ ปีเตอร์ เทย์เลอร์ ที่ ''ตัดเพื่อน'' กันไปแล้ว
เมื่อทั้งคู่จับมือกันลงไปทำทีม "สิงห์สั่งป่า" ทีมน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ก็สร้างปรากฏการณ์ ขึ้นมาสู่แชมป์ดิวิชั่นหนึ่ง..ไม่เท่านั้น ยังผงาดเป็นแชมป์ถ้วยใหญ่ยุโรป ยูโรเปี้ยนคัพ ได้ถึงสองสมัย
ไม่มีกุนซืออังกฤษคนไหนทำได้เช่นนี้อีกแล้ว แต่ถึงแม้ว่าคลัฟจะเป็นกุนซือที่เก่งที่สุดในครั้งนั้น เขาก็ไม่เคยได้เป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษเลย ขณะที่ ดอน เรวีส์ ก็ไมเคยประสบความสำเร็จในการทำทีมชาติ
หนังเรื่องนี้ สอนให้เห็นถึง "ปมมนุษย์" ที่มีทั้งดีและเลว
แต่ปมที่ดีที่สุด น่าจะเป็น "น้ำมิตร" ระหว่าง ไบรอัน คลัฟ กับ ปีเตอร์ เทย์เลอร์ 》อ่านเรื่องเต็ม THE DAMNED UNITED
⚊⚊⚊⚊⚊⚊⚊⚊
ส่วนเลสเตอร์ มีคู่แข่งอีกทีม คือสโมสรฟุตบอลโคเวนทรี้ซิตี้ที่แม้ว่าจะอยู่ในภาคมิดแลนด์ตะวันตก ซึ่งถือว่าอยู่คนละภูมิภาคกัน แต่ก็อยู่ห่างออกไปเพียง 24 ไมล์ ทั้งสองเมืองเชื่อมต่อกันด้วยทางหลวงสาย M69 สื่อจึงมักขนานนามการแข่งขันระหว่างทั้งสองทีมว่า “เอ็ม 69 ดาร์บี้แมตช์” - ซึ่งถือว่าอยู่คนละภูมิภาคกันและอยู่ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง "Leicester Vs Coventry"