สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ขอออกตัวก่อนว่า ปกติที่บ้านเราเลี้ยงน้องหมามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ จนเราใกล้ๆ จะจบมหาวิทยาลัยเราก็รับลูกสาว ชื่อ แชมเปญ มาเลี้ยงเองค่ะ น่าตาน่ารักค่ะ เลี้ยงง่าย และทานได้ทุกอย่างเลยค่ะ

ลูกปกติก็ให้ทานอาหารที่ทำเองบ้าง ให้ทานอาหารเม็ดค่ะ เพราะบ้านเราหลายคนทำงานคนละจังหวัด เราก็จะอยู่กันไม่กี่คนเลยค่อยจะมีเวลาเตรียมอาหารมากเท่าไหร่ จนช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาครอบครัวเราก็ขับรถกลับบ้านที่ต่างจังหวัดกัน ก็เอาน้องแชมเปญไปด้วย เรากับแฟนก็เก็บกระเป๋าเตรียมตัวไปเรียบร้อย เตรียมอาหารทั้งคน และลูกสาวไว้เรียบร้อย ออกจากบ้านไปได้ประมาณเกือบๆ ชม. แฟนอยากกินแซนวิช เราก็หันไปหลังรถปรากฏว่า ลืมเอามา ซึ่งก็ไม่ได้อยากจะย้อนกลับไปเอา เพราะว่ามาไกลแล้ว รถก็ค่อนข้างเยอะค่ะ เลยแวะหาอะไรทานในห้างแถวๆ นั้น หลังจากทานข้าวเสร็จเราก็ เตรียมไว้นิดหน่อยค่ะ และก็ซื้ออาหารของลูกสาว เตรียมไว้ก็ 1 ถุง (กลับต่างจังหวัด 5 วัน) พอถึงเวลาเราก็ให้น้องแชมเปญทานตามปกติค่ะ ผ่านได้ซัก 2-3 วัน เราเริ่มรู้สึกว่า น้องอึไม่เหม็นเหมือนครั้งก่อนๆ กลิ่นตัวก็ไม่แรงเหมือนก่อน เราก็กลัวจะคิดไปเอง เราเลยไม่ได้พูดอะไร จนแฟนเราพูดขึ้นมา ว่า “เดี่ยวนี้พอใจไม่อึเหม็นแล้วหรอคะ” (มันเป็นอารมณ์มุ้งมิ้งของผู้ชายเวลาเล่นกับน้องหมาหน่ะค่ะ) เราเลยคุยกับแฟนว่า เราก็รู้สึก ก็พยายามหาสาเหตุกัน ตอนแรกก็เดาว่า เพราะอยู่ในรถนาน แอร์เย็นเลยตัวไม่เหม็น หลังๆ เริ่มเห็นว่าขนร่วงน้อยลง เลยเดาว่าน่าจะเป็นที่อาหารค่ะ เลยเอาซองที่เหลือมาดูว่ายี่ห้ออะไร มันชื่อว่า “Ole(โอเล่)” เป็นโลโก้วงกลมสีฟ้าๆ นะคะ เราซื้อรสตับ แบบ 3 shape มาให้น้องทานค่ะ ราคาประมาณ 65 หรือ 70 บาทค่ะ น้ำหนัก 1 กิโลกรัม (ของที่บ้านไกล้หมดแล้วก็เลยซื้อไว้เลยค่ะ) จนกลับมาถึง กทม เมื่อวันที่ 2 เราก็ยังให้น้องแชมเปญทาน โอเล่ อยู่เป็นประจำ จนตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่า สุขภาพน้องดีขึ้นกว่าเดิม ร่าเริงมากขึ้น วิ่งแล้วก็ไม่ค่อยหอบเหมือนก่อนค่ะ ขนของน้องพอใจก็ไม่ค่อยร่วง แถมสวยขึ้นจนสะดุดตาเลยค่ะ ... จริงๆ แล้วเราก็มีน้องแมวด้วยนะคะ แต่เดี๋ยวจะมารีวิวให้ฟังอีกรอบว่า เราไปตามหา โอเล่ สำหรับน้องแมวมา ให้ทานแล้วเป็นอย่างไร จะมาเล่าให้ฟังคราวหน้านะคะ ขอตัวไปก่อน ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
รีวิว อาหารหมาๆ
ลูกปกติก็ให้ทานอาหารที่ทำเองบ้าง ให้ทานอาหารเม็ดค่ะ เพราะบ้านเราหลายคนทำงานคนละจังหวัด เราก็จะอยู่กันไม่กี่คนเลยค่อยจะมีเวลาเตรียมอาหารมากเท่าไหร่ จนช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาครอบครัวเราก็ขับรถกลับบ้านที่ต่างจังหวัดกัน ก็เอาน้องแชมเปญไปด้วย เรากับแฟนก็เก็บกระเป๋าเตรียมตัวไปเรียบร้อย เตรียมอาหารทั้งคน และลูกสาวไว้เรียบร้อย ออกจากบ้านไปได้ประมาณเกือบๆ ชม. แฟนอยากกินแซนวิช เราก็หันไปหลังรถปรากฏว่า ลืมเอามา ซึ่งก็ไม่ได้อยากจะย้อนกลับไปเอา เพราะว่ามาไกลแล้ว รถก็ค่อนข้างเยอะค่ะ เลยแวะหาอะไรทานในห้างแถวๆ นั้น หลังจากทานข้าวเสร็จเราก็ เตรียมไว้นิดหน่อยค่ะ และก็ซื้ออาหารของลูกสาว เตรียมไว้ก็ 1 ถุง (กลับต่างจังหวัด 5 วัน) พอถึงเวลาเราก็ให้น้องแชมเปญทานตามปกติค่ะ ผ่านได้ซัก 2-3 วัน เราเริ่มรู้สึกว่า น้องอึไม่เหม็นเหมือนครั้งก่อนๆ กลิ่นตัวก็ไม่แรงเหมือนก่อน เราก็กลัวจะคิดไปเอง เราเลยไม่ได้พูดอะไร จนแฟนเราพูดขึ้นมา ว่า “เดี่ยวนี้พอใจไม่อึเหม็นแล้วหรอคะ” (มันเป็นอารมณ์มุ้งมิ้งของผู้ชายเวลาเล่นกับน้องหมาหน่ะค่ะ) เราเลยคุยกับแฟนว่า เราก็รู้สึก ก็พยายามหาสาเหตุกัน ตอนแรกก็เดาว่า เพราะอยู่ในรถนาน แอร์เย็นเลยตัวไม่เหม็น หลังๆ เริ่มเห็นว่าขนร่วงน้อยลง เลยเดาว่าน่าจะเป็นที่อาหารค่ะ เลยเอาซองที่เหลือมาดูว่ายี่ห้ออะไร มันชื่อว่า “Ole(โอเล่)” เป็นโลโก้วงกลมสีฟ้าๆ นะคะ เราซื้อรสตับ แบบ 3 shape มาให้น้องทานค่ะ ราคาประมาณ 65 หรือ 70 บาทค่ะ น้ำหนัก 1 กิโลกรัม (ของที่บ้านไกล้หมดแล้วก็เลยซื้อไว้เลยค่ะ) จนกลับมาถึง กทม เมื่อวันที่ 2 เราก็ยังให้น้องแชมเปญทาน โอเล่ อยู่เป็นประจำ จนตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่า สุขภาพน้องดีขึ้นกว่าเดิม ร่าเริงมากขึ้น วิ่งแล้วก็ไม่ค่อยหอบเหมือนก่อนค่ะ ขนของน้องพอใจก็ไม่ค่อยร่วง แถมสวยขึ้นจนสะดุดตาเลยค่ะ ... จริงๆ แล้วเราก็มีน้องแมวด้วยนะคะ แต่เดี๋ยวจะมารีวิวให้ฟังอีกรอบว่า เราไปตามหา โอเล่ สำหรับน้องแมวมา ให้ทานแล้วเป็นอย่างไร จะมาเล่าให้ฟังคราวหน้านะคะ ขอตัวไปก่อน ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ