* พึ่งจะได้เริ่มเขียน review ครั้งแรก  หากตรงไหนไม่ดีตรงไหนแย่ ก็ขออภัยนะคับ ( ช่วงเที่ยว 13 - 16 ธันวาคม 59 )

    เริ่มกันเลย อย่างแรงทริปนี้ก็ไม่ได้เน้นกินประหยัด หรือกินแพงแต่อย่างใด แค่อยากจะไปเที่ยวภูเก็ตกับแฟน แบบอินเลิฟ ๆ เท่านั้นเอง ขอสรุปรายจ่าย และร้านอาหาร มาให้ได้ดูก่อนจะพาไปเที่ยวกันนะครับ แต่ระหว่างเล่าเรื่องก็จะมีค่าใช้จ่ายสอดแทรกไปด้วย
อะสอง เตรียมเงินไปเยอะ ๆ ละกัน แต่ไม่น่าเกิน 15 k เพราะอาหารทะเลที่นี่สดมาก ราคามีตั้งแต่ปานกลาง – แพงมาก


1,170   รถเช่า 1 วัน 670 (+500 เพราะ high season และ weekend )    
4,990   ทริปออกเกาะพร้อมที่พัก อาหาร 3 วัน 2 คืน            
2,780   ตั๋วเครื่องบิน CMI-BKK 2 ที่นั่ง                            
2,945   ตั๋วเครื่องบิน BKK-PKY 2 ที่นั่ง                            
576      B2 Phuket Hotel 1 คืน                                
12,461  

เที่ยวบิน ถ้าอยากได้ถูก ๆ ก็ต้องจองล่วงหน้าเป็นเดือน ๆ เดิมผมก็เป็นคนเชียงใหม่ ซึ่งก็ได้ตั๋วเครื่องบินถูกของ Air Asia ช่วง Big sale 0 บาทตอนต้นปีมา ( ซึ่งพอไปหาเที่ยวบิน 0 บาท ส่วนใหญ่จะไม่มี T T ) ได้ไปกลับสองคนมา แล้วต้องเสียขาจากเชียงใหม่ไป กทม.อีก

รถเช่า ได้ของ Budget มีคนรู้จักขาย voucher ให้ราคาถูก ได้วันละ 670 บาท ถ้าวันหยุดพิเศษก็นับเพิ่มไป 500 บาท  ( ถือว่าโชคดีมากเลย  เมื่อมารู้ราคาเต็มทีหลัง > < ) พอเอาเข้าจริงอัพเป็น Altis ให้ด้วย ขับสบายเลย

แพ็คเกจทัว ในความคิดผมคิดว่า ราคามันก็ประมาณนี้แหละ  แค่ความสบายจะขึ้นอยู่กับราคาที่จ่ายไป คือโชคดีที่พี่ที่บริษัทหามาให้ อารมคนขาย ไปได้ voucher จากงาน ททท. ที่หอประชุมแห่งสรก.แล้วมาขายต่อ ตอนแรกก็ดีใจที่ได้ราคาถูก พอได้เที่ยวเท่านั้นแหละ  เข้าใจเลยว่าทำไมราคานี้

โรงแรม ผมเชียร์ให้ไปพัก B2 Hotel Phuket เลยครับ จองผ่าน www.Agoda.com ใกล้ตัวเมือง ราคาถูก โดยรวมโอเค แต่ไม่มีข้าวเช้า (เพราะวันที่ไปพักแขกน้อยเขาเลยไม่ทำ) ถ้าอยากจะไปหาด หรือแหลมพหรมเทพ ก็ไม่ได้ไกลเท่าไหร่ ดูใน map google เหมือนจะไกล แต่เอาเข้าจริง ๆ เมืองภูเก็ตไม่ได้ใหญ่อย่างที่คิดเลย ขี่รถแป๊ปๆ ก็ถึงครับ
    * หากท่านใดมีเงินก็ขอแนะนำ Patong Merlin Phuket -> Eastin Yama Hotel Phuket -> และ U Zenmaya Phuket Resort ตามลำดับเลยนะคับ

ร้านข้าวที่แนะนำรวมไว้ตรงนี้ จาก ขหสต. เลย
1. เพียงไพร (https://goo.gl/maps/s4VqNMtMntE2 )
2. โกเบ๊น ( https://goo.gl/maps/6HoFwzid9Xm )
3. ตู้กับข้าว ( https://goo.gl/maps/rGwmG5b3Huj )
4. ทุ่งคากาแฟ ( https://goo.gl/maps/zQhGE3R3dEx )
5. ปากน้ำซีฟู้ด(สาขาถลาง) ( https://goo.gl/maps/xr78SKnXcbU2 )
6. แหลมหิน (https://goo.gl/maps/bpJZPwzvebM2 )
7. หมี่ต้นโพธิ์ หมี่ฮกเกี้ยน ( https://goo.gl/maps/xtSF5Xv1aw62 )
8. ร้านโพธิ์ทอง
9. หมอมุดง ( https://goo.gl/maps/3kY65mQuW7r )
10. โกซ้ง คนโบราณ ( https://goo.gl/maps/RqCmrNsvCrT2 )
11. ร้านชวนชิม ( https://goo.gl/maps/NTdUbstuxR82 )



     ลงจากสนามบินภูเก็ตซักบ่าย ก่อนจะออกจากสนามบิน คนที่ไม่เคยมา อาจจะงงว่า บริษัททัวร์อะไรเยอะแยะมารอหน้าทางออก ก็ไม่รอช้า ผมก็มุ่งตรงไปรับรถที่ Budget เลย ไม่ได้สนใจทัวร์ที่ล้อมรอบ ซึ่งเค้าเต้ออยู่หน้าทางออกเลย เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา และนี่ก็คือรถ altis ที่เช่ามาครับ สภาพใหม่เอี่ยมมมม



จากนั้นก็ขี่รถเข้าเมือง ในระหว่างทางที่จะเข้าเมืองจะมีสวนยางอยู่ ซึ่งถ้าหามุมดี ๆ ได้รูปสวย ๆ แน่นอน แบบนี้



Credit : พี่ Theerasak Saksritawee ( pupamon ) ช่างกล้องมือโปรฯของประเทศไทย และนางแบบคนสวยพี่มิหร่าครับ

ภาพตัวเมืองก่อนไปกินข้าวครับ



ข้าวเที่ยงวันนี้  ร้านเย็นตาโฟสามพี่น้อง ( https://goo.gl/maps/yYAthNsZy3q ) เจ้าแรก อร่อยสมราคาจริง ๆ ครับ
ซ้ายเป็นเกาหลารวม และด้านขวาเป็นเย็นตาโฟขึ้นชื่อของร้านนี้





ตบด้วยของหวานตาม เป็น โอ้เอ๋ว ของหวานขึ้นชื่อเมืองภูเก็ต คือข้างในจะเป็นก้อนคล้าย ๆ วุ้น แต่คนขายบอกว่าทำมาจาก ต้นตาล พอกินแล้วก็ให้ความหอมที่แปลกไป รวมมื้อนี้ 132 บาท



พอกินข้าวเสร็จก็ หาโรงแรมเพื่อเก็บของที่ รร. B2 ก่อน พักผ่อนนิดนึงก่อน เพื่อมุ่งหน้าสู่แหลมพหรมเทพ
ระหว่างทางก็อยากจะแวะวัด แต่ก็กลัวไม่ทันพระอาทิตย์ตก เลยไม่ได้แวะเลย เสียดายเหมือนกัน วัดชึ้นชื่อที่ว่านี้
คือ วัดพระใหญ่ ( https://goo.gl/maps/CBKTzLHrixM2 )  และวัดไชยธาราราม ( https://goo.gl/maps/7bfQ4rQQz3G2 )
ซึ่งเป็นวัดสำคัญของจังหวัด ภูเก็ต สามารถไปชมความงดงามของสองวัดนี้ได้
พอถึงแหลมพหรมเทพแล้ว จะพบกับนักท่องเที่ยวเยอะแยะ และภาพสวย ๆ แบบนี้



เสียดายที่วันนั้นฟ้าไม่เปิด  แต่อากาศกำลังดีไม่ร้อนมาก ^ ^





     หลังจากตั้งหน้าตั้งตาถ่ายวิวสวย ๆ ของแหลมพหรมเทพแล้ว มื้อเย็นมาต่อด้วย หมอมุดง ของเขาเด็ดจริง บอกเลย สั่งมาหา 4 อย่าง ปูจ๊อ, แกงส้ม, ผัดผักบุ้ง, ปูนึ่ง (โลละ 400) *คำเตือน  ของเผ็ด ๆ ทั้งหลาย  เผ็ดของจริง ผมกินทีน้ำหูน้ำตาไหลเลยทีเดียว มื้อนี้
รวม 680 บาท


จบเรื่องเล่าของวันแรกกก นอนนน



ข้าวเช้าต้องต้องร้านนี้เลย  จ่วนง ( https://goo.gl/maps/ngWJvZCUYsE2 ) รวมมื้อนี้ 180 บาท ตามรูป แต่ผมกับแฟนผมออกเป็นเสียงเดียวกันว่า ร้านนี้ไม่ได้อร่อยเท่าที่เขารีวิวกัน ให้ 7 /10 เอ๊าะ ออกจากร้านมองหน้ากัน ยังไม่อิ่มเลย ต่อด้วย ข้าวต้มหมูภูเก็ต (https://goo.gl/maps/BZttLUjcrrC2 ) ละกัน เห็นคนเยอะดี ก็อร่อยดีไปอีกแบบ แต่ก็ยังไม่หร่อยเท่าโจ๊กที่เชียงใหม่ ลิ้นมันตายด้านแล้วสิทำไงดี ^ ^


          สำหรับในวันที่ 2 เน้นเที่ยวตัวเมืองเก่าเป็นหลัก คือเมืองเก่าภูเก็ตเนี่ย ให้ความรู้สึกคล้าย ๆ กับตลาดวโรรสที่เชียงใหม่มากเลย ซึ่งผมก็พยายามหาภาพวาดกำแพง ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อเมืองนี้ แต่ก็ไม่เจอเหมือนที่เพื่อน ๆ ผมโพสในเฟสเลย เจอแต่ภาพในหลวง กับบางรูปเอง เสียใจไว้ครั้งหน้าไปตามหาภาพวาดใหม่...


          เนื่องจากเวลาหมดต้องไปหาทัวร์ที่ซื้อไว้ ซึ่งนัดเขาให้มารับที่ Patong Merlin Hotel  คือทัวร์ที่ซื้อนี้ก็ดีนะ เขาไปรับไปส่งให้ ( ตอนนั้นยังไม่รู้อะไรเดี๋ยวมาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น ) คือดีงามจุงเบย  ก่อนระหว่างรอ ก็มาเที่ยวหาดป่าตอง  หาดนี้นักท่องเที่ยวจะเยอะ แต่โดยรวมก็เป็นหาดที่น่าพักผ่อนได้ดีระดับนึง


          ต่อจากนั้นก็มาคืนรถที่ budget แล้วขอทาง Patong Merlin Hotel นั่งรอหัวหน้าทัวร์ มารับ  เขาชื่อ  “ชา”  คนใต้เรียก “บังชา” บังที่แปลว่าพี่ชาย ส่วน จ๊ะ จะแปลว่าพี่สาว


          ซึ่งรอบังชานานมาก ชั่วโมงครึ่ง แต่ก็โกรธเขาไม่ได้ เพราะทัวร์ครั้งนี้ฝากชีวิตไว้กับเขา 5555  พอคุณบังชามาถึง เขาก็เป็นคนคุยดีนะ พูดนู่นนี่นั่น เล่าไปเที่ยวภาคเหนือเป็นไง เราฟังแล้วก็เพลินดี คุยกันไปคุยกันมา ก็มาถึงท่าเรือบางโรง


          โดยเรือที่ผมขึ้นเป็น speed boat จะออกทุกชั่วโมง ขาละ 200 บาท อันนี้บังชาเขาก็ออกให้ทั้งขาไปและกลับ และแล้วความซวยก็เกิดขึ้น เมื่อรู้ว่า บังชา เขาไม่ไปนำทัวร์กับเราด้วย > < ซึ่งพอถึงท่าเรือเกาะยาวน้อย จะมีร้านน้ำผลไม้ปั่นแถวนั้นด้วย อร่อยมากแนะนำ ( ย่อหน้าต่อไป ใครขี้เกียจอ่านข้ามได้เลยครับ บ่น ๆ ๆ  555 )


ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้คือ โดนปล่อยเกาะ T T ลงเรือมาไม่รู้ไปไหน คนที่มารอรับ ก็ไม่มีวี่แวว ว่าจะมารับเรา    ซักพักก็มีสายเข้า  พอรับเขาก็บอกว่าเป็น เจ้าของรีสอร์ทบนเกาะยาวน้อย  ทำงานร่วมกับคุณบังชา เขาก็บอกให้หาคนที่หน้าตาแบบนั้น ๆ ยืน ๆ แถว ๆ ท่าเรือให้รับมารส. พอวางสายเสร็จ เราก็มองหาคนลักษณะแบบนั้น ก็เจอจริง โล่งไปหนึ่งเปาะ  ซึ่งความคิดตอนนั้น กลัวว่าจะโดนจับไปออกทะเล กลับบ้านไม่ได้ ฯลฯ  คือตัวเองดูหนังเยอะไปจริง ๆ 555 ระหว่างทางจากท่าเรือไปเกาะ เป็นเมืองเล็ก ๆ ต้นไม้ริมทางเยอะแยะ ซึ่งให้อารมแบบ  ปล่อยเกาะ  จริง ๆ เพราะเสียงไม่ดัง โวยวาย คนไม่พลุกพ่าน ซึ่งรส.ที่เราพักชื่อ Holiday Resort (https://goo.gl/maps/Qs7G7LG7dDS2 ) เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ให้อารมเหมือนบ้านตาตอนเด็กมาก ไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วยสิ เพราะตอนนั้นกลุ้มว่า ทำไมคุณบังชา ไม่ว่าไง พรุ่งนี้ก็จะเที่ยวแล้ว หายเงียบไปเลย เจ้าของรส.ดันบอกนอนคืนเดียวใช่มั้ย ? ซึ่งจริง ๆ เราควรได้นอสองคืน อะไรก็ไม่รู้งงไปหมด ก็พยายามโทรหาคุณบังชา สรุป ถ้าวันพรุ่งนี้อยากเที่ยวที่เกาะต่อก็เดี๋ยวโทรบอกให้อีกคืน ถ้าไม่ก็กลับมาตัวเมืองภูเก็ต กลายเป็นเราต้องเที่ยวเองหากินเองหมดเมื่ออยู่เกาะนั้น แล้วพรุ่งนี้เขาจะพาไปเที่ยวหมู่เกาะที่อยู่ตรงหน้ารีส. ผมกับแฟนเลยตัดสินใจกลับมาเช็คเอ้าท์ออก แล้วกลับตัวเมืองภูเก็ตละกัน เพราะแฟนและผมเองก็ไม่รู้จะทำอะไรที่เกาะนี้เท่าไหร่ เพราะไม่ใช่แนวของเรา  คืออารมปล่อยเกาะ ปลีกวิเวก อินดี้ ไม่สนว่าเวลาจะเดินไปยังไง  จริง ๆ มันมีที่เที่ยวอยู่นะ น้ำตก, จุดชมวิวพระอาทิตย์ตก  นั่งดริ้งก์กลางหาดทราย ฯลฯ


พอทุกอย่างลงตัว เราก็เช่ารถมอไซ วันละ 150 บาท น้ำมันแยกอีกต่างหาก (60 บาทน่าจะวนรอบเกาะได้ซัก 10 รอบครับ) ซึ่งผมก็ขี่ไปหาร้านข้าวเย็นกินก่อน เพราะตอนนั้นหิวมากครับ เพราะไม่ได้กินไรมาตั้งแต่เที่ยง แบบข้าวเช้าที่กินสายและเยอะหนะ แหะ ๆ : P เลยอยู่ถึงตอนนี้ได้ ร้านที่มาทานข้าวเย็นคือ Pasai Seafood (https://goo.gl/maps/QQhg2x1j2TE2 ) อร่อยทุกอย่างครับ วิวดี กินบนทราย ชมพระจันทร์ขึ้น ซึ่งราคาที่จ่ายไปก็สูงเช่นกัน ตามวิวสวย ๆ ในรูป มื้อนี้ราคา 480 บาท มีข้าวผัดทะเล, ยำทะเล, คาโบนาล่า