เป็นประสบการณ์ที่ไม่อยากจำและไม่เคยลืม
เราเป็นเด็กค่ายค่ะ พ่อเราเป็นนายทหารอยู่ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดแถบภาคตะวันตก ช่วงนั้นอายุประมาณ 17 ปี เราป่วยต้องแอดมิดนอนรพ.อยู่อาทิตย์กว่าๆ
ขอท้าวความนิดหน่อยนะคะ
เริ่มจากเราไปหาหมอเพราะอาการปวดฟันแล้วคอบวม. ไม่ได้อยากไปเลย แต่เพราะแม่บอกว่าเราเป็นคางทูมหรืออะไรสักอย่างนี่แหละ จะพาเราไปเขียนเสือ กวาดยา บลาๆๆ เราเลยเลือกไปหาหมอดีกว่า 55555. เราไปกับพี่สาว รอคิวนานมาก โดนแซงคิวไปเยอะ และพยาบาลวีนใส่ตรูอีก จนพี่เราโวยวาย หมอเลยเรียกเข้าห้องตรวจ พอหมอส่องไฟสำรวจคอเรา ก็ตกใจหนักมาก บอกว่าเราติดเชื้อจากฟันผุ แล้วลามไปถึงคอ ถ้ามาช้ากว่านี้อาจถึงชีวิต สั่งแอดมิดอย่างไว
เราก็แบบเออๆไป เพราะอาการตอนนั้นคือปวดจนเบลอไปหมด เมื่อรถเข็นที่เรานั่งเข็นมาจอดหน้าประตูห้อง เราเงยหน้ามองไปที่ประตูไม้ มีหมายเลข 9 ในใจที่เบลอๆตอนนั้นรู้สึกแบบ ห้องนี้ไม่น่าอยู่ทั้งๆที่ยังไม่ได้เข้าไปในห้องด้วยซ้ำ แต่อีกใจก็คิดแบบ.. เออ! อยู่ๆไปเถอะ วันนี้เจออะไรมาหนักละ ( หลังจากพยาบาลและพี่สาวเราปะทะคารมกันมันมีเรื่องราวหลายอย่างพอสมควร อาทิเช่น พยาบาลบอกรถเข็นหมดให้เราเดินไปที่ตึกเอง จนพ่อเรามาทุกอย่างจึงคลี่คลาย) ห้องที่เราอยู่เป็นห้องพิเศษ 2 เตียง ตอนนั้นห้องว่างมากพี่พลทหารที่เข็นรถก็ให้เราเลือกว่าจะนอนเตียงไหน เราเลือกนอนเตียงฝั่งประตูเข้าออก เพราะไม่อยากนอนติดห้องน้ำ ตอนนั้นคิดแค่นั้น
ี้ แต่... โชคไม่เข้าข้างค่ะ เตียงที่เราเลือกนั้นนนน พัดลมเพดานพังจ้า เลยย้ายเตียง พี่พยาบาลเข้ามาเปิดแอร์ เปิดทีวีให้ทีวีก็พังอีกจ้า!!!! ตอนนั้นคิดละถ้าจะพังขนาดนี้ย้ายห้องเถอะ ถ้าไม่ติดว่าเต็มทุกห้องนะ ไปตั้งแต่อยู่หน้าประตูห้องละ 5555 คืนแรกพี่สาวเรามาเฝ้าค่ะ หอบลูกมานอนด้วยอีก 2 คน ไม่เป็นอันนอนกันเลยจ่ะ หลานร้องไห้ งอแงทั้งคืนเลย วันต่อมามีคนแก่ติดเตียงมาแอดมิดที่ห้องเรามีคนเฝ้าไข้คือลูกสาวของคุณยายค่ะ ตอนนั้นยังไม่มีเรื่อง 5 แพร่งเนอะ. แต่ตอนนี้มีแล้วก็คิดตามได้เลยจ่ะ หลานเราร้องไห้แบบนี้อยู่กี่คืนจำไม่ได้อ่ะ แล้วแม่ก็มานอนเฝ้าแทน จำได้ดีเลยคืนนั้น เรานอนไม่หลับ ช่วงนั้นมีรายการผีของพี่ป๋องอ่ะ จำไม่ได้ว่าชื่อรายการอะไร มันเปิดอยู่ เราก็นอนดูไปแล้วเอาขาพาดลงข้างเตียงอ่ะ (ห้องที่เราอยู่จะมี 2 เตียงอยู่ริมทั้งสองฝั่งของห้อง แล้วมีโซฟายาวหันติดกันอยู่กลางห้อง)เห็นแม่นอนหงายแล้วเหมือนคนเหยียดขาตอนเมื่อยอ่ะค่อยๆเหยียดออกมาข้างๆทีละนิด จนมาสะกิดขาเรา เราก็เอาขาหลบกลัวทำแม่ตื่น ตั้งแต่คืนนั้นก็ไม่มีใครมาเฝ้าไข้เราอีกเลย 5555555
รู้แค่ว่าพ่อทำเรื่องจะย้ายห้องเราไปอยู่ห้องเตียงเดี่ยว ด้วยเหตุผลว่าคนมาเฝ้าจะได้ไม่อึดอัด ตลอดเวลาที่อยู่รพ.เรารู้สึกอึดอัดตลอด นอนไม่ค่อยหลับ มีเย็นวันนึงเราอึดอัดจนออกไปที่ระเบียงหลังห้อง รู้สึกเข้าใจว่าคนที่คิดฆ่าตัวตายมีอารมณ์แบบไหน แต่ไม่คิดกระโดดนะ ยังมีสติอยู่ จนพ่อเราเข้าห้องมา พาเราออกไปเดินเล่น (ทุกๆครั้งที่เรารู้สึกแย่พ่อจะมาทันเวลาตลอด เราเชื่อเรื่องสายสัมพันธ์ก็ช่วงนั้นล่ะ) ไม่รู้ว่าพ่อคิดอะไร บอกจะพาเรากลับไปเอาหนังสือมาอ่าน แล้วก็ไปบอกพยาบาล พยาบาก็อธิบายว่าทำไม่ได้เพราะเราคือคนไข้ที่อยู่ในความดูแลของรพ.หากออกไปแล้งเกิดอุบัติเหตุจะเดือดร้อนถึงรพ. แต่พ่อก็คือพ่อค่ะ! เอาเราออกไปจากรพ.จนได้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าพอเราเข้าถึงบ้านได้เราล้มตัวลงนอนหลับไปประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ พอตื่นพ่อก็ให้เราหยิบหนังสือ แล้วพากลับ รพ.
จนได้ย้ายห้องไปห้องที่มีเตียงเดี่ยวค่ะ พ่อกับแม่จะมานอนเฝ้าแค่ช่วงกลางคืน มาทั้งสองคนเลยค่ะ ตอนเราอยู่ห้องเตียงเดี่ยวไม่เคยรู้สึกอึดอัดเลย สามารถนอนได้ อยู่คนเดียวได้ จนออกจากรพ. แม่ก็มาเล่าให้ฟังว่าคืนนั้นที่แม่มาเฝ้าแม่เจอกับอะไรบ้าง แม่บอกว่าแม่กึ่งหลับกึ่งตื่น แล้วรู้สึกว่ามีคนมาคล่อมตัวแล้วบีบคอ แม่ลืมตาดูเห็นแค่ช่วงเอวลงไปคือเขาใส่กางเกงสีม่วง แม่ว่าเราว่าทำไมไม่เรียกแม่เอาขาหนีแม่ทำไม เราอึ้งมาก อึ้งตั้งแต่กางเกงสีม่วง เพราะเช้าอีกวันนึงเราออกไปตากผ้าเช็ดตัว แล้วเห็นกางเกงของลูกสาวคุณยายตากอยู่ที่ระเบียงเป็นก่งเกงสามส่วนสีม่วง !! แล้วรู้สึกผิดที่ไม่ปลุกแม่ เพราะท่านอนแม่แปลกๆจนแม่เอาขาสะกิดแต่เราก็ยังปล่อยให้แม่นอนต่อไป เลยถึงบางอ้อว่าทำไมถึงถูกปล่อยให้นอนคนเดียวตั้งหลายคืนทั้งๆที่เป็นลูกที่พ่อแม่หวงมาก
ห้องพิเศษหมายเลข9
เราเป็นเด็กค่ายค่ะ พ่อเราเป็นนายทหารอยู่ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดแถบภาคตะวันตก ช่วงนั้นอายุประมาณ 17 ปี เราป่วยต้องแอดมิดนอนรพ.อยู่อาทิตย์กว่าๆ
ขอท้าวความนิดหน่อยนะคะ
เริ่มจากเราไปหาหมอเพราะอาการปวดฟันแล้วคอบวม. ไม่ได้อยากไปเลย แต่เพราะแม่บอกว่าเราเป็นคางทูมหรืออะไรสักอย่างนี่แหละ จะพาเราไปเขียนเสือ กวาดยา บลาๆๆ เราเลยเลือกไปหาหมอดีกว่า 55555. เราไปกับพี่สาว รอคิวนานมาก โดนแซงคิวไปเยอะ และพยาบาลวีนใส่ตรูอีก จนพี่เราโวยวาย หมอเลยเรียกเข้าห้องตรวจ พอหมอส่องไฟสำรวจคอเรา ก็ตกใจหนักมาก บอกว่าเราติดเชื้อจากฟันผุ แล้วลามไปถึงคอ ถ้ามาช้ากว่านี้อาจถึงชีวิต สั่งแอดมิดอย่างไว
เราก็แบบเออๆไป เพราะอาการตอนนั้นคือปวดจนเบลอไปหมด เมื่อรถเข็นที่เรานั่งเข็นมาจอดหน้าประตูห้อง เราเงยหน้ามองไปที่ประตูไม้ มีหมายเลข 9 ในใจที่เบลอๆตอนนั้นรู้สึกแบบ ห้องนี้ไม่น่าอยู่ทั้งๆที่ยังไม่ได้เข้าไปในห้องด้วยซ้ำ แต่อีกใจก็คิดแบบ.. เออ! อยู่ๆไปเถอะ วันนี้เจออะไรมาหนักละ ( หลังจากพยาบาลและพี่สาวเราปะทะคารมกันมันมีเรื่องราวหลายอย่างพอสมควร อาทิเช่น พยาบาลบอกรถเข็นหมดให้เราเดินไปที่ตึกเอง จนพ่อเรามาทุกอย่างจึงคลี่คลาย) ห้องที่เราอยู่เป็นห้องพิเศษ 2 เตียง ตอนนั้นห้องว่างมากพี่พลทหารที่เข็นรถก็ให้เราเลือกว่าจะนอนเตียงไหน เราเลือกนอนเตียงฝั่งประตูเข้าออก เพราะไม่อยากนอนติดห้องน้ำ ตอนนั้นคิดแค่นั้น
ี้ แต่... โชคไม่เข้าข้างค่ะ เตียงที่เราเลือกนั้นนนน พัดลมเพดานพังจ้า เลยย้ายเตียง พี่พยาบาลเข้ามาเปิดแอร์ เปิดทีวีให้ทีวีก็พังอีกจ้า!!!! ตอนนั้นคิดละถ้าจะพังขนาดนี้ย้ายห้องเถอะ ถ้าไม่ติดว่าเต็มทุกห้องนะ ไปตั้งแต่อยู่หน้าประตูห้องละ 5555 คืนแรกพี่สาวเรามาเฝ้าค่ะ หอบลูกมานอนด้วยอีก 2 คน ไม่เป็นอันนอนกันเลยจ่ะ หลานร้องไห้ งอแงทั้งคืนเลย วันต่อมามีคนแก่ติดเตียงมาแอดมิดที่ห้องเรามีคนเฝ้าไข้คือลูกสาวของคุณยายค่ะ ตอนนั้นยังไม่มีเรื่อง 5 แพร่งเนอะ. แต่ตอนนี้มีแล้วก็คิดตามได้เลยจ่ะ หลานเราร้องไห้แบบนี้อยู่กี่คืนจำไม่ได้อ่ะ แล้วแม่ก็มานอนเฝ้าแทน จำได้ดีเลยคืนนั้น เรานอนไม่หลับ ช่วงนั้นมีรายการผีของพี่ป๋องอ่ะ จำไม่ได้ว่าชื่อรายการอะไร มันเปิดอยู่ เราก็นอนดูไปแล้วเอาขาพาดลงข้างเตียงอ่ะ (ห้องที่เราอยู่จะมี 2 เตียงอยู่ริมทั้งสองฝั่งของห้อง แล้วมีโซฟายาวหันติดกันอยู่กลางห้อง)เห็นแม่นอนหงายแล้วเหมือนคนเหยียดขาตอนเมื่อยอ่ะค่อยๆเหยียดออกมาข้างๆทีละนิด จนมาสะกิดขาเรา เราก็เอาขาหลบกลัวทำแม่ตื่น ตั้งแต่คืนนั้นก็ไม่มีใครมาเฝ้าไข้เราอีกเลย 5555555
รู้แค่ว่าพ่อทำเรื่องจะย้ายห้องเราไปอยู่ห้องเตียงเดี่ยว ด้วยเหตุผลว่าคนมาเฝ้าจะได้ไม่อึดอัด ตลอดเวลาที่อยู่รพ.เรารู้สึกอึดอัดตลอด นอนไม่ค่อยหลับ มีเย็นวันนึงเราอึดอัดจนออกไปที่ระเบียงหลังห้อง รู้สึกเข้าใจว่าคนที่คิดฆ่าตัวตายมีอารมณ์แบบไหน แต่ไม่คิดกระโดดนะ ยังมีสติอยู่ จนพ่อเราเข้าห้องมา พาเราออกไปเดินเล่น (ทุกๆครั้งที่เรารู้สึกแย่พ่อจะมาทันเวลาตลอด เราเชื่อเรื่องสายสัมพันธ์ก็ช่วงนั้นล่ะ) ไม่รู้ว่าพ่อคิดอะไร บอกจะพาเรากลับไปเอาหนังสือมาอ่าน แล้วก็ไปบอกพยาบาล พยาบาก็อธิบายว่าทำไม่ได้เพราะเราคือคนไข้ที่อยู่ในความดูแลของรพ.หากออกไปแล้งเกิดอุบัติเหตุจะเดือดร้อนถึงรพ. แต่พ่อก็คือพ่อค่ะ! เอาเราออกไปจากรพ.จนได้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าพอเราเข้าถึงบ้านได้เราล้มตัวลงนอนหลับไปประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ พอตื่นพ่อก็ให้เราหยิบหนังสือ แล้วพากลับ รพ.
จนได้ย้ายห้องไปห้องที่มีเตียงเดี่ยวค่ะ พ่อกับแม่จะมานอนเฝ้าแค่ช่วงกลางคืน มาทั้งสองคนเลยค่ะ ตอนเราอยู่ห้องเตียงเดี่ยวไม่เคยรู้สึกอึดอัดเลย สามารถนอนได้ อยู่คนเดียวได้ จนออกจากรพ. แม่ก็มาเล่าให้ฟังว่าคืนนั้นที่แม่มาเฝ้าแม่เจอกับอะไรบ้าง แม่บอกว่าแม่กึ่งหลับกึ่งตื่น แล้วรู้สึกว่ามีคนมาคล่อมตัวแล้วบีบคอ แม่ลืมตาดูเห็นแค่ช่วงเอวลงไปคือเขาใส่กางเกงสีม่วง แม่ว่าเราว่าทำไมไม่เรียกแม่เอาขาหนีแม่ทำไม เราอึ้งมาก อึ้งตั้งแต่กางเกงสีม่วง เพราะเช้าอีกวันนึงเราออกไปตากผ้าเช็ดตัว แล้วเห็นกางเกงของลูกสาวคุณยายตากอยู่ที่ระเบียงเป็นก่งเกงสามส่วนสีม่วง !! แล้วรู้สึกผิดที่ไม่ปลุกแม่ เพราะท่านอนแม่แปลกๆจนแม่เอาขาสะกิดแต่เราก็ยังปล่อยให้แม่นอนต่อไป เลยถึงบางอ้อว่าทำไมถึงถูกปล่อยให้นอนคนเดียวตั้งหลายคืนทั้งๆที่เป็นลูกที่พ่อแม่หวงมาก