ขอข้อมูลจากผู้รู้และเคยมีประสบการณ์ ร่วมค่ะ เข้าเรื่องเลย
กรณีที่เกิดขึ้นคือ มีพี่ที่รู้จักกันเขามีครอบครัว และ เลิกกันโดยการ หย่าขาด และไม่มีการติดต่อกันอีกเลย
โดยในตอนนั้นเขาได้ซื้อรถยนต์ 1 คัน โดยเป็นชื่อของทางฝ่ายชาย และเมื่อตอนเลิกกันได้มีการเซ็นเอกสารการเปลี่ยนชื่อรถ จากฝ่ายชายให้เป็นของทางฝ่ายหญิง โดยมีพยานเป็นแม่ และพี่ชายฝ่ายหญิง ซึ่งเอกสารที่เซ็นนั้นก็เซ็นที่บ้านฝ่ายหญิงเพราะพี่ชายฝ่ายหญิงทำงานศุนย์รถยนต์ที่ออกมาจึงนำเอกสารมาเซ็นที่บ้าน และหลังจากนั้นมาไม่ได้มีการติดต่อกันอีกเลย
ปัญหาที่เกิดคือ
1.มีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่า รถมีการขายทอดสู่ตลาด โดยที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนชื่อ ทั้งที่ฝ่ายชายยืนยันว่ามีการเซ็นเอกสารจริง
2.เจ้าที่แจ้งว่าเนื่องจากรถเป็นชื่อของฝ่ายชายและต้องมีการชำระค่าส่วนต่างดังนั้นฝ่ายชายจึงต้องเป็นคนรับผิดชอบในส่วนของค่าส่วนต่างในยอด 130,000 บาท
อยากทราบว่าใครเคยเจอปัญหาแบบนี้บ้าง ขอข้อมูลหน่อยค่ะ เพราะพี่เขาทำงานหาเช้ากินค่ำ และเขาก็ไม่ได้ใช้รถ ที่สำคัญคือเขาไม่มีเงินก้อนมากพอที่จะจ่ายแน่นอน และกรณีผ่อนชำระทางเจ้าหน้าที่ก็ขอเงินก้อนครึ่งหนึ่งของวงเงิน ซึ่งพี่เขาก็ไม่สามารถหาได้อีก จึงอยากขอคำปรึกษาผู้รู้ และใครที่เคยเจอปัญหาแบบนี้ รบกวนช่วยหน่อยค่ะ สงสารพี่เขาเพราะเขาตัวคนเดียว ครอบครัวก็หาเช้ากินค่ำไปวันๆ
ปล.พี่เขามีงานประจำก็จริงแต่เขาเป็นลูกจ้างรายวันซึ่งรายได้ต่อเดือนก็พอกินพอใช้ไม่ได้มีเงินเก็บบ้านก็เช่าไม่ได้มีบ้านของตัวเอง
ช่วยข่อยแหน่
กรณีที่เกิดขึ้นคือ มีพี่ที่รู้จักกันเขามีครอบครัว และ เลิกกันโดยการ หย่าขาด และไม่มีการติดต่อกันอีกเลย
โดยในตอนนั้นเขาได้ซื้อรถยนต์ 1 คัน โดยเป็นชื่อของทางฝ่ายชาย และเมื่อตอนเลิกกันได้มีการเซ็นเอกสารการเปลี่ยนชื่อรถ จากฝ่ายชายให้เป็นของทางฝ่ายหญิง โดยมีพยานเป็นแม่ และพี่ชายฝ่ายหญิง ซึ่งเอกสารที่เซ็นนั้นก็เซ็นที่บ้านฝ่ายหญิงเพราะพี่ชายฝ่ายหญิงทำงานศุนย์รถยนต์ที่ออกมาจึงนำเอกสารมาเซ็นที่บ้าน และหลังจากนั้นมาไม่ได้มีการติดต่อกันอีกเลย
ปัญหาที่เกิดคือ
1.มีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่า รถมีการขายทอดสู่ตลาด โดยที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนชื่อ ทั้งที่ฝ่ายชายยืนยันว่ามีการเซ็นเอกสารจริง
2.เจ้าที่แจ้งว่าเนื่องจากรถเป็นชื่อของฝ่ายชายและต้องมีการชำระค่าส่วนต่างดังนั้นฝ่ายชายจึงต้องเป็นคนรับผิดชอบในส่วนของค่าส่วนต่างในยอด 130,000 บาท
อยากทราบว่าใครเคยเจอปัญหาแบบนี้บ้าง ขอข้อมูลหน่อยค่ะ เพราะพี่เขาทำงานหาเช้ากินค่ำ และเขาก็ไม่ได้ใช้รถ ที่สำคัญคือเขาไม่มีเงินก้อนมากพอที่จะจ่ายแน่นอน และกรณีผ่อนชำระทางเจ้าหน้าที่ก็ขอเงินก้อนครึ่งหนึ่งของวงเงิน ซึ่งพี่เขาก็ไม่สามารถหาได้อีก จึงอยากขอคำปรึกษาผู้รู้ และใครที่เคยเจอปัญหาแบบนี้ รบกวนช่วยหน่อยค่ะ สงสารพี่เขาเพราะเขาตัวคนเดียว ครอบครัวก็หาเช้ากินค่ำไปวันๆ
ปล.พี่เขามีงานประจำก็จริงแต่เขาเป็นลูกจ้างรายวันซึ่งรายได้ต่อเดือนก็พอกินพอใช้ไม่ได้มีเงินเก็บบ้านก็เช่าไม่ได้มีบ้านของตัวเอง