10 หนังทำเงินสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ (ข้อมูลล่าสุด มกราคม 2560)

เริ่มต้นปีใหม่ ด้วยการจัดอันดับ " 10 หนังทำเงินสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ "
ขอขอบคุณข้อมูลอัพเดทล่าสุดจาก WIKIPEDIA ที่มีข้อมูลดีๆมาให้นำเสนอเพื่อนๆแฟนหนังกัน
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันเลยย !




10 | Iron Man 3 (2013)
กำหนดฉายในไทย : 1 พฤษภาคม 2013
นำโดย : โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์

โทนี่ สตาร์ก | ไอรอนแมน มหาเศรษฐีใจบุญพ่อค้าอาวุธแห่งบริษัท สตาร์ก อินดัสตรี้ คราวนี้เขาได้ถูกศัตรูทำลายโลกส่วนตัวของเขาเขาจึงออกตามหาคนที่ต้องรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น

จุดเด่นของเรื่องนี้ คือ ความเป็นฮีโร่ที่ค่อนข้างเป็นไปได้ในโลกความเป็นจริงของเรามากที่สุดในบรรดาฮีโร่ของมาร์เวล คนดูเลยชอบเรื่องความ Make Sense ของเนื้อหาและเรื่องราวการนำเสนอ ด้วยความที่เป็นภาค 3 เราจะเห็นอะไรๆที่โตขึ้นจากภาคก่อนๆ เยอะขึ้นมากมาย
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


9 | Frozen (2013)
กำหนดฉายในไทย : 5 ธันวาคม 2013
นำโดย : คริสเตน เบลล์ | ไอดินา แมนเซล

ภาพยนตร์เพลง ผสมรสชาติคอมเมดี้ เรื่องราวของราชินีผู้กล้าที่ผจญภัยไปกับมนุษย์น้ำแข็ง กวางเรนเดียร์ และมนุษย์หิมะผู้อับโชคเพื่อค้นหาพี่สาวที่ห่างเหินซึ่งมีพลังน้ำแข็งที่ทำให้อาณาจักรตกอยู่ภายใต้ฤดูหนาวชั่วนิรันดร์โดยไม่ได้ตั้งใจ

Frozen เป็นหนังที่ได้เค้าโครงเรื่องมาจาก ราชินีหิมะ (Snow Queen) ถือว่าเป็นอนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จมากๆในปีนั้น การันตีความดีงามด้วยการคว้ารางวัลออสก้า สาขา อนิเมชั่นยอดเยี่ยมไปครองได้อย่างเฉียบขาด อันนา เอลซ่า กลับกลายเป็นตัวละคร ขวัญใจเด็กๆไปโดยปริยาย พร้อมประกาศศักดาด้วยเพลงฮิตที่มีชื่อว่า " Let it go "
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


8 | Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 2 (2011)
กำหนดฉายในไทย : 14 กรกฎาคม 2011
นำโดย : แดเนียล แรดคลิฟฟ์

แฮร์รี่ออกเดินทางตามหาฮอร์ครักซ์ 7 ชิ้น ยังเหลือฮอร์ครักซ์ที่ยังไม่ถูกทำลายอยู่ 4 ชิ้น เขาเลือกที่จะเผชิญหน้ากับโวลเดอมอร์ พร้อมด้วยกองทัพแห่งฮอกวอตส์และเหล่าผู้เสพความตาย ศึกครั้งนี้จึงเป็นศึกสุดท้ายที่มีโลกเวทมนตร์และโลกมนุษย์เป็นเดิมพัน

ภาคนี้เป็นภาคที่เราชอบที่สุด หลังจากหน่วงๆมาหลายภาคช่วงหลังๆ และมันค่อนข้างทำเงิน พร้อมด้วยผลตอบรับออกมาดีจากแฟนๆ และจบได้อย่างคุณค่าที่คุณคู่ควร
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


7 | The Avengers : Age of Ultron (2015)
กำหนดฉายในไทย : 30 เมษายน 2015
นำโดย : โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์

เหล่าซูเปอร์ฮีโร่ผู้ทรงพลังอย่าง ไอรอนแมน, กัปตันอเมริกา, ธอร์, ดิ อินเครดิเบิ้ล ฮัลค์, แบล็ค วิโดว์ และ ฮอว์คอาย ต้องเผชิญกับบททดสอบอันยิ่งใหญ่โดยมีชะตากรรมของโลกแขวนอยู่บนเส้นด้าย เมื่อ "อัลตรอน" สุดยอดวายร้ายได้ถือกำเนิด มีเพียงเหล่าอเวนเจอร์สเท่านั้นที่จะสามารถหยุดยั้งเขาและแผนการอันชั่วร้ายของเขาได้

หลังจากภาคแรกฟาดรายได้ไปค่อนข้างสูง ภาคนี้จึงค่อนข้างกดดันและการสร้างภาคต่อ ย่อมีโอกาสถูกเปรียบเทียบสูง แต่ด้วยความยิ่งใหญ๋ และองค์ประกอบการปูเรื่องฉายเดี่ยวของตัวละครแล้ว ทำให่เกิดฐานแฟนคลับของตัวละคร ซึ่งมันไม่มีทางเลยที่จะขายไม่ได้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


6 | Fast And Furious 7 (2015)
กำหนดฉายในไทย : 2 เมษายน 2015
นำโดย : วิน ดีเซล

หลังจากการสูญเสีย พอล วอร์คเกอร์ ไป ทำให้แฟนโฟกัสไปเรื่องสุดท้ายของเขา (แต่ไม่ท้ายสุด) มันจึงเป็นอีกประเด็นที่ทำให้หนังมีรายได้สูงพอสมควร อีกทั้งตัวหนังได้ทำลูกไม้เชื่อมเรื่องจริงกับเรื่องในหนังเข้าไว้ด้วยกันอย่างมีนัยยะ มันเลยทำให้คนดูยิ่งอินการจากไปเข้าไปอีก เป็นอีกเรื่องที่จบได้สวยงามที่สุด จนเป็นกระแสอยู่ช่วงหนึ่ง ท่ามกลางความร่ำไห้ของแฟนคลับ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


5 | The Avengers (2012)
กำหนดฉายในไทย : 1 พฤษภาคม 2012
นำโดย : โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์

เป็นหนังเรื่องเดียวที่ติด 10 อันดับหนังทำเงิน ทั้ง 2 ภาค เลยทีเดียว ถือว่าฐานแฟนคลับเยอะจริงๆ เรื่องนี้เป็นการเปิดตัว แหล่งขุมพลังฮีโร่ครั้งแรกของมาร์เวล ทำให้รู้สึกคุ้มค่ามาก ที่ดูหนังเรื่องได้ แต่เห็นฮีโร่เกือบทุกตัว ไม่ต้องฉายเดี่ยวเหมือนก่อนๆ และแน่นอนความบ้าคลั่ง ถล่มโลกามันก็ต้องยิ่งใหญ่ตามไปด้วยเช่นกัน แถมดูได้ทุกวัยโดยเฉพาะวัยเด็ก อาจจะมีอารมณ์แบบวิ่งไล่กันในโรงหนังก็เป็นได้ ตบท้ายด้วยวายร้ายที่หล่อจนสาวๆต้องเทย์ เอ้ย ต้องคลั่งไคล้ อย่างโลกิ เข้าไป ทำเอาฟินจนต้องอยากดูต่อ วายร้ายที่ดีต่อใจเหล่าสาวแก่แม่ม้าย (เกี่ยวมั้ย)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


4 | Jurassic World (2015)
กำหนดฉายในไทย : 11 มิถุนายน 2015
นำโดย : คริส แพร็ตต์

หลังจากหนังโลกไดโนเสาร์ชื่อดังห่างหายจอเงินไปกว่า 14 ปี ได้กลับมาอีกครั้ง ในชื่อใหม่ และเจนเนเรชั้นใหม่ อะไรใหม่ๆ ที่ให้เหมาะสำหรับยุคสมัย และได้ดาราที่กำลังเป็นยุคทองของเค้านั่นคือ คริส แพร็ตต์ ที่แสดงเรื่องไหน เรื่องนั้นเป็นอันดังระเบิด

ภาคนี้เป็นเรื่องราวของไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ที่เกิดจากการสร้างขึ้นมาทางพันธุกรรมโดยมนุษย์ มีความดุร้าย และฉลาดเฉียบแหลมกว่าตัวใดๆในสวนสนุกไดโนเสาร์แห่งนี้ แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ต้องไปติดตามต่อเองนะครับ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


3 | Star Wars: The Force Awakens (2015)
กำหนดฉายในไทย : 17 ธันวาคม 2015
นำโดย : เดซี ริดลีย์

ห่างหายไปจากแฟนคลับ 10 ปี ก็กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง ไม่ต้องพูดถึงสรรพคุณของฐานแฟนคลับทั่วโลกกันอยู่แล้วเรื่องนี้ ภาคนี้จะเป็นการเกริ่นเรื่อง โดยใช้ตัวละครใหม่ๆเข้ามาเสริมแบบเนียนๆ ให้ดูกลมกลืน แล้วใช้ตัวละครเก่าๆ (ที่ตอนนี้อายุก็ค่อนข้างเยอะ) มาประกบเดินเรื่องหนัง เราจะได้เห็นดาราเก่าๆ ทำให้รู้สึกถึงหนังให้อารมณ์แบบคนถึงบ้านแล้วได้กลับถึงบ้าน อารมณ์ประมานนั้นเลย

ความพิเศษที่เราชอบในหนังเรื่องนี้ มันรู้สึกมีมนตร์ขลังสะกดอารมณ์เวลาดู ซึ่งมันน่าติดตามจริงๆ (นี่เราพูดในฐานะไม่ใช่แฟนคลับซี่รี่ย์นี้นะครับ) แต่ดูแล้วรู้สึกชอบมาก
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


2 | Titanic (1997)
กำหนดฉายในไทย : 24 ธันวาคม 1997
นำโดย : ลีโอนาโด ดิคาปริโอ

" ชู้รักเรือร่ม " ในนามที่ใครๆก็รู้จักกันดี ต้องบอกก่อนว่าหนังเรื่องนี้ เค้าได้คิดรายได้เรื่องค่าเงิน เงินเฟ้อ สมัยก่อนกับสมัยนี้ให้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นหนังที่สุดยอดมากๆ สมัยก่อนตั๋วหนังแค่ 50 บาท หรือง่ายๆว่า ถูกกว่าตอนนี้ แต่สามารถทำรายได้มหาศารขนาดนี้ ก็ถือว่าเหมาะและคู่ควรกับการเป็นตำนานหนังรายได้สูงที่สุดมาตลอด 12 ปีเลยทีเดียว (สุดยอดมาก)

ไททานิก ได้รับรางวัลระดับแนวหน้าของโลกจำนวนมาก แต่ที่เป็นที่กล่าวถึงมากที่สุด คือ การที่สามารถชนะเลิศรางวัลออสการ์ ได้ถึง 11 สาขา ซึ่งในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ ไม่เคยมีภาพยนตร์เรื่องใดที่ได้รางวัลออสการ์มากกว่า 11 สาขาเลย รออะไรล่ะ ไปหามาดูด่วน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


1 | Avatar (2009)
กำหนดฉายในไทย : 17 ธันวาคม 2009
นำโดย : แซม เวิร์ธธิงตัน

เป็นผู้กำกับคนเดียวที่สามารถทำรายได้หนังมหาศาลที่สุดในประวัติศาสตร์ แถมขึ้นแท่นทั้ง 2 เรื่อง Avatar หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ทุ่มทุนสร้างสูงที่สุดในโลก (ณ ตอนนั้น) และ ณ ตอนนี้เป็นหนังที่งฟาดรายได้ไปสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์เช่นกัน รายได้ทั่วโลกทั้งหมด เกือบ 10 เท่าของทุนสร้าง (กำไรอื้อ)

ความพิเศษของเรื่องนี้คือ การใช้เทคนิคทางการถ่ายทำที่ไม่เคยมีหนังเรื่องไหนทำมาก่อน ถือว่าเป็นหนังที่เบิกทาง VFX ให้หนังหลายๆเรื่องหลังจากนั้นตามมา ทั้งการออกแบบ 3D ที่ดูตระการตาที่สุดในสมัยนั้น ถึงไม่แปลกที่คนดูต้องการไปดูอะไรใหม่ๆ จากวงการหนังบ้าง และก็ได้ผลจริงๆ

ไม่นานนี้ (2018) จะมีภาคต่อของ Avatar ที่ห่างหายไปนานซุ่มเงียบโปรเจคนี้เกือบ 9 ปีเลยทีเดียว แน่นอนหนังมันทำเงิน ผู้สร้างก็อยากทำต่อ ตอนนี้วางแผนไปถึง Avatar 5 แล้ว (2018-2020-2022-2023 ตามลำดับ)

ประเด็นสำคัญคือ หายไปนานมันก็ต้องไม่ธรรมดาหน่อยสิ เจมส์ คาเมรอน เลยงัดไม้เด็ด Avatar ภาคต่อไป จะเป็นหนัง 3D เรื่องแรกที่ไม่ต้องใส่แว่น (โอ้วโห้ มันทำได้ยังไง) เอาเป็นว่ารอดูกันดีกว่าว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไง
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ก็จบไปแล้วนะครับสำหรับ 10 หนังทำเงินสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ (ข้อมูลล่าสุด มกราคม 2560)
งั้นขอแนะนำตัวนะครับ เราเป็นเพจหนัง น้องใหม่ที่ทำด้วยความรักการดูหนัง และชื่นชอบเรื่องราวที่เกี่ยวกับหนังจริงๆ ดูหนังมากว่า 10 ปี
เพจของเรามีชื่อว่า " หนีแม่มาแลหนัง " Link: https://www.facebook.com/hidemomseefilms/
เนื้อหาเพจ: รีวิวหนัง(อย่างตรงไปตรงมา), คำคม ครับ
เข้ามาพบปะพูดคุย เสวนาหนังด้วยกันนะครับ
ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่