ประสบการณ์ การทำพาสปอร์ต และทริปเดินทาง ต่างประเทศ (ญี่ปุ่น) กับเด็กพิเศษ

บอกก่อนนะคะว่า ยังไม่ได้เดินทาง เราจะไปกันเดือนกุมภาพันธ์ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการเตรียมตัว เลยอยากจะแชร์ประสบการณ์ เพราะมันมีความยุ่งยากเล็ก ๆ อยู่ในทุก ๆ ขั้นตอน ทีแรกด้วยความที่กลัวความยุ่งยาก พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับการพาเด็กพิเศษไปต่างประเทศ ซึ่งมีคนแชร์ประสบการณ์อยู่บ้าง แต่มันไม่ค่อยตรงกับสิ่งที่อยากจะรู้เท่าไหร่ จะรู้ได้ก็คงต้องลองลงมือทำเองเลย ลองผิดลองถูกกันไป อยากจะแชร์เรื่องนี้ไว้ เผื่อเป็นประโยชน์กับบ้านที่มีเด็กพิเศษแล้วอยากจะพาน้องไปท่องเที่ยวด้วยค่ะ

ทีแรกเราตัดสินใจว่า ถ้าวันหนึ่งเราไปเที่ยวต่างประเทศ เราจะพาเค้าไปฝากคุณยายคุณตาที่อยู่เชียงใหม่ ... แต่พอถึงวันที่ตั้งใจจะจองตั๋ว ใจก็อดคิดไม่ได้ว่าเราจะสนุกกันเต็มที่ยังไง เมื่อเราเอาลูกไปฝากพ่อแม่ไว้คนนึงแล้วพาอีกคนนึงไป ... เลยตัดสินใจกดจองตั๋วไป ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีพาสปอร์ตกันซักคน ยกเว้นตัวเราเองคนเดียว

เห็นหิมะ เคลิ้ม และมือลั่นจองไปแล้ว เมื่อมีข้อความตัดเงินในบัตรโผล่มา ก็ใจหายว๊าบบบเลยทีเดียว จองราคาโปร คืนเงินไม่ได้ อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิดละนะ หลังจากจองบัตรไปวันที่ 30 ธันวาคม 2559 ก็ต้องจองห้องพักค่ะ

ห้องพักราคา 2 คนก็อีกอย่าง พอบอกว่า 3 คน (ลูกชายอายุ 13 ย่าง 14 ในเวปถือว่าคิดเป็นผู้ใหญ่) เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี อีก 1 คน โอ้วววว ราคาที่พัก หาถูกยากเลยทีเดียว ทั้งไปกับลูกเล็ก และ เด็กพิเศษ คงเป็นทริปที่สนุกสนาน อลเวงตามสไตล์บ้านเราน่าดู จองไปค่ะ ย่าน Asakusa ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ถลำตัวเติมที่ ที่พักต้องอยู่ใกล้สถานีพอสมควร ไม่เดินไกลจนเกินไป เนื่องจากเป็นฤดูหนาว ซึ่งเค้าว่า กุมภาพันธ์ หนาวสุดแล้ว สำหรับญี่ปุ่น (อยากเห็นหิมะตกซักครั้ง ก็ต้องยอม)

ถึงเวลาต้องติดต่อกับทางราชการ เราจองคิวผ่านทางอินเตอร์เน็ต สะดวก รวดเร็ว สำหรับเด็กที่ยังไม่มีบัตรประชาชน สามารถพ่วงกับผู้ปกครองที่จะไปทำได้ 1 คนค่ะ สำหรับลูกชาย มีบัตรประชาชนแล้ว เราจองด้วยเลข 13 หลักบนบัตรประชาชนของเค้าแล้วกรอกข้อมูลของเค้าเองเลยค่ะ เลือกสถานที่ที่จะไปทำที่อยู่ใกล้เรา และ เวลาที่เหลืออยู่ ซึ่งจะมีบอกอย่างละเอียดค่ะ ทำตามขั้นตอนไม่ยุ่งยาก
https://www.passport.in.th (ตามลิงค์ได้เลยค่ะ)

      เมื่อถึงวันทำพาสปอร์ต ก็ต้องไปเข้าแถวก่อนเวลานัดครึ่งชั่วโมง พร้อมกับเตรียมเอกสารต่าง ๆ ของลูก การทำพาสปอร์ตให้ลูก ต้องเอาเอกสารสูติบัตรตัวจริง พร้อมทั้ง พ่อและแม่ เอกสารบัตรประชาชนพ่อแม่ ไปด้วยกันเท่านั้น
กรณีพ่อหรือแม่ทำการหย่ามาก่อน ต้องมีเอกสารใบหย่า และ ใบบันทึกว่า ลูกอยู่ในความปกครองของผู้ที่พาเด็กมาทำพาสปอร์ต จึงจะสามารถทำให้ได้ และเราก็ติดตรงใบบันทึกนี่แหละค่ะ
ตอนสแกนนิ้วมือ ลายนิ้วมือลูกชาย ทั้ง 2 ข้าง ได้นิ้วก้อยนิ้วเดียวทั้ง 2 ข้าง เพราะนิ้วเค้าตบ ตี ขูด อยู่ตลอดเวลา ลายนิ้วมือลายอื่นจึงเก็บไม่ได้เลย เพราะนิ้วลอกทุกนิ้ว เจ้าหน้าที่ก็ต้องเรียกหัวหน้ามาเซ็นรับทราบ รอบที่หนึ่ง
ตอนถ่ายรูป ต้องให้มองกล้อง มันยากมาก ไม่ใช่แค่มองกล้อง แต่ต้องไม่เห็นฟัน ... ทำไงดี ทำท่าให้ดูก็แล้ว เอามือปิดก็แล้ว เห็นฟันทั้งแผงเลยค่ะ ... เจ้าหน้าที่ก็ใจดีมาก บอกว่า จะเรียกหัวหน้ามาเซ็นรับรอง เพราะน้องมีความผิดปกติ
ยกเว้นได้ สรุปปล้ำกันอยู่ 10 นาที ได้รูปแล้ว แต่ๆๆๆๆๆ นึ่กว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ง่ายดาย ก็คิดว่าเราเตรียมเอกสารครบถ้วนแล้ว แต่สุดท้าย ก็ยังคงติด ไม่ว่าจะหย่ากี่ 10 ปี ไม่เกี่ยว เอกสารยังคงต้องครบทุกอย่าง เปลี่ยนชื่อ นามสกุล ขนตัวจริงไปให้หมดค่ะ
ในกรณีที่หาอะไรไม่เจอ ต้องไปขอคัดสำเนา ซึ่งทีแรกเราไปทำวันเสาร์ เขตที่ใกล้ที่สุดไม่รับคัดสำเนาวันเสาร์ค่ะ ต้องรอวันทำการปกติ ก็เลยต้องรอเป็นวันจันทร์ ตอนนี้ เราคัดสำเนามาได้แล้ว ประโยคที่บอกว่า ลูกอยู่ภายใต้การดูแลของใคร สำคัญที่สุดค่ะ

ตอนนี้ทำนัดใหม่ในวันเสาร์ที่จะถึง แล้วจะมาอัพเดทให้นะคะว่าจะผ่านไปได้ด้วยดีหรือไม่ เอาใจช่วยด้วยนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  บันทึกนักเดินทาง Backpack เที่ยวต่างประเทศ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่