ประสบการณ์การติด ตม.เกาหลีสุดห่วย

สวัสดีค่ะเราชื่อผักกาดนะคะวันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์โดนตม.กักตัวไม่ให้เข้าประเทศ ขอบอกไว้เลยนะคะประเทศเกาหลีเป็นประเทศที่เคร่งเรื่องกฎหมายมากและคนไทยส่วนมากจะลักลอบเข้า

ประเทศเกาหลีมาทำงานเพราะฉะนั้นตม.เกาหลีจะเพ่งเล็งคนไทยอยู่แล้ว เริ่มเล่าเลยละกันคะ…พอมาถึงสนามบินอินชอนประเทศเกาหลีใต้ก็ลงจากเครื่องเตรียมเอกสารไว้ให้ตม.ตรวจก็ไปยืนรอคิวที่จะเข้าแถว***(ห้ามถ่ายรูปเด็ดขาดเพราะในช่วงที่รอคิวเราเลยไม่กล้าถ่าย)จะมีป้ายบอกห้ามถ่ายอยู่แล้ว...ขณะที่ยืนต่อคิวก็มีคนไทยและต่างชาติที่ยื่นเอกสารแล้วแต่ไม่ผ่านแล้วต้องไปอีกห้องหนึ่งที่สังเกตมีคนไม่ผ่านเยอะมากเราก็เริ่มรู้สึกหวั่นละพอสักพักก็ถึงคิวเราเราก็ได้ยื่นเอกสารให้ตม.เกาหลีไป เจ้าหน้าที่ตม.ผช.ถามว่ามากับใคร...ก็ตอบว่ามาคนเดียวและถามเราอีกรอบว่ามาทำอะไร เราก็ตอบไปว่ามาทำศัลยกรรมและถามอีกทำอาชีพอะไร...ก็บอกว่าเป้นผู้ช่วยหมอแล้วตม.เริ่มงงละพิจารณาดูตั้งหลายรอบว่าจะให้ผ่านดีไหมตอนนั้นลุ้นยิ่งกว่าลุ้นหวยซะอีก555+ถ้าไม่ผ่านงานเข้าแน่ๆ ที่อยากจะ สวยก็จบ.....แน่ๆสุดท้ายตม.ก็ไม่ให้เราผ่านจริงๆโอ๊ยย!วินาทีนั้นคิดไรไม่ออกเลย แล้วโดนเรียกตัวมาอีกห้องหนึ่ง
(นี้คือห้องที่โดนเรียกมาครั้งแรก)
รูปนี้เราแอบถ่าย
***ผู้หญิงคนนี้และค่ะที่นางสามารถพูดไทยได้คนเกาหลีแต่พูดไทยไม่เพราะเอาซะเลย
โอ้ยใจตอนนั้นตุ๊มๆต่อมๆกลัวยังไงก็ไม่รู้เพราะคุยกับเข้าไม่รู้เรื่องแน่ๆเลย แต่โชคยังดีที่เรายังคุยไลน์กับล่ามคนไทยที่เป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่เราจะมาทำศัลยกรรมด้วยคือเราจะคุยกับเขาตลอดตั้งแต่ลงจากเครื่องและใช้ไวไฟของทางสนามบินได้ในช่วงนั้น พอเราไม่ผ่านตม.โดนเรียกมาอีกห้องหนึ่งเราก็รีบบอกพี่เขาว่า พี่หนูแย่ละตม.ไม่ให้หนูผ่านกำลังโดนเชิญไปอีกห้องหนึ่ง พอคุยกับพี่เขาได้สักพักก็โดนตัดสัญญาไวไฟ..มองมาที่โทรศัพท์ฮ่ะ!!!!.....ไวไฟก็ใช่ไม่ได้อ้าวแล้วไง ช่วงที่เดินเข้าห้องมีแค่ประตูกั้นบานเดียวเองสัญญาก็ไม่มีเลยพยามเดินหาก็ไม่มีแล้วจะมีเก้าอี้อยู่ประมาณ5ตัวให้เราไปนั่งรอแล้วเขาจะเรียกชื่อเราทีละคน   พอเรียกชื่อเราเสร็จก็ไปนั่งคุยกับเขาแต่คุยไม่รู้เรื่องหรอกเพราะคนเกาหลีนี้พูดอังกฤษสำเนียงนี่ยากที่จะเข้าใจมากเขาให้เราแสกนนิ้วและแสกนหน้าก่อนที่จะให้เข้าไปห้องอีกห้องหนึ่งเป็นห้องโถงใหญ่มีโต๊ะมีเก้าอี้ให้นั่งแล้วในห้องนั้นมีคนไทยติดอยู่ในนั้นประมาณได้20ว่าคน พอเราเข้าไปนั่งได้สักพักก็เริ่มมีต่างชาติประมาณ4-5และตามมาด้วยคนไทยอีก10กว่าคนคือเริ่มจะสงสัยละทำไมคนไทยติดกันเยอะจังและทำไมพวกเขาไม่ผ่านกันและเราทำไมไม่ผ่านเหตุผลอะไรที่จะสามารถอธิบายกับเราได้และมีเจ้าหน้าที่ ตม.ผช.คนหนึ่งเดินเข้ามาเรียกชื่อทีละคนตามในพาสปอตต่ลืมบอกไปอย่างหนึ่งค่ะเขาจะยึดพาสปอตเราไว้ตั้งแต่ด่านแรกแล้วเพราะฉะนั้นพาสปอตจะอยู่กับเขาตลอดเราก็คิดอยู่ว่าจะได้คืนไหมน่ะ เข้าจะมีเอกสารมาให้เรากรอกแบบสอบถามแล้วกรอกเสร็จเขาก็จะเรียกเก็บจากเรา

รูปนี้เราแอบถ่าย
เป็นใบการพิสูจน์หลักฐานเกี่ยวกับการเข้าประเทศ
พอผ่านไปสักพักจะมีเจ้าหน้าที่ตม.เรียกชื่อตามพาสปอตเข้าไปที่ห้องอีกห้องหนึ่งทีละคน โดยห้องนั้นจะคล้ายๆห้องให้สอบสวนจะมีโทรศัพท์ให้1เครื่อง และเขาให้เราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาฟังในเสียงนั้นจะมีเสียงผู้หญิงพูดภาษาไทยและแปลเป็นภาษาเกาหลีให้เจ้าหน้าที่ฟังแต่เราไมเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นนะได้ยินแค่เสียงและเขาก็เริ่มถามมากับเราทีละข้อละ บอกเลยสำเนียงคำพูดของนางนี้ไม่ค่อยสุภาพมากพูดจาคล้ายๆหาเรื่องพูดยังกะเราเป็นผู้ต้องหาแล้วต้องการเค้นความจริงว่าเรามาทำอะไรที่นี้และย้ำว่าไม่ได้มาทำงานนะถามอยู่หลายรอบและก็ถาม ทำไมเธอถึงต้องมาทำศัลยกรรมที่นี้ด้วยทั้งที่เธอก็ทำงานเกี่ยวกับศัลยกรรมพอเราตอบว่าที่เกาหลีทำดีกว่าที่ไทยเพราะเราทำที่ไทยไงเราเลยรู้และล่ามคนนั้นแปลให้เจ้าหน้าที่เกาหลีฟังแล้วคนเกาหลีก็หัวเราะ และนางก็ถามเราต่อสำเนียงนางนี่ออกแนวตะคอกมากกว่าคำว่าถามดีๆ นางก็บอกว่าเหตุผลยังไม่เหตุมีเหตุสมควรเราก็งงๆ...ถามต่ออีกว่าทำงานอะไร ที่ไหน เราก็บอกผู้ช่วยแพทย์ นางก็บอกผู้ช่วยแพทย์หรือผู้ช่วยพยาบาลเอาดีๆ อันไหนกันแน่ เราก็บอกเราทำงานช่วยหมอในห้องผ่าตัด ไม่ได้ผู้ช่วยพยาบาลนางก็ชักโมโหเราก็บอกอีกก็ผู้ช่วยพยาบาลก็ได้ สรุปเรากวนนางเองและตำแหน่งเราก็ผู้ช่วยแพทย์แต่จบผู้ช่วยพยาบาลมาเอง5555+นางถามต่อ มากี่วันกลับเมื่อไหร่อะไรยังไงเราก็บอกมา30วันค่ะนางก็ตอบกลับว่าทำอะไรส่วนไหนของใบหน้าทำไมต้องมาถึง30วันเลยหรอเราก็บอกไปเลยว่าทำจมูกกับตาพักฟื้นประมาณ2อาทิตย์แล้วที่เหลือทางโรงพยาบาลจะขอให้เราอยู่ต่อทำรีวิวให้ก่อนและหลังผ่าตัดเพราะเรามาทำครั้งนี้มาด้วยโครงการศัลยกรรมพลิกชีวิตที่เราได้เข้าประกวดของโรงพยาบาลศัลยกรรมมาอินที่ประเทศเกาหลีใต้และได้ส่วนลดมาทำที่นี้50% นางก็ขอเอกสารสัญญาการทำศัลยกรรมจากทางโรงพยาบาล เราก็บอกไปว่ายื่นให้กับเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว นางก็บอกไม่เห็นมีเราก็เถียงใจขาดเลยคะเราก็บอกเดียวไปหยิบสำเนามาอีกฉบับมาให้(คิดในใจดีนะเราถ่ายสำลองไว้ 2 ชุด)
พอจะไปหยิบเจ้าหน้าที่เกาหลีก็บอกไม่ต้องแล้วเราก็เงียบไปสักพักล่ามก็คุยกันกับเจ้าหน้าที่เกาหลี  พอสักพักล่าม นางก็บอกว่าให้กลับไปนั่งรอกับที่ทางเขาจะติดต่อกลับไปยัง รพ.ว่าเป็นความจริงหรือเปล่า และเขาขอเบอร์โทรคนที่เรารู้จักในเกาหลีไป  ตอนที่เรารอเขาเรียกก็มีคนไทยหลายคนเลยที่ตม.ไม่ให้ผ่านแล้วต้องเซ็นส์เอกสารกลับไทย คนไทยทีนั่งข้างๆก็พากันพูดว่าไม่ผ่านแน่ๆเลยเดี่ยวเขาก็ให้น้องเซ็นส์เอกสารกลับไทย  เรากเริ่มคิดมากละจะผ่านไหมนะโอ๊ยยย!!ลุ้นแต่เพื่อเป็นการไม่เครียดเราก็เลยเปิดพลงแจกขนมที่จะเอามาเป็นของฝากพี่ๆเขาซะเลยเพราะคนอื่นเครียดมากละเวลานี้ห้ามเครียดด้วย555+...สักพักเขาก็เรียกตัวเรามาแล้วให้หยิบกระเป๋ามาด้วย แว๊บแรกเรารู้ละต้องผ่านแน่ๆ เรานี่รีบวิ่งเลย สุดท้ายเขาให้เราผ่านแล้ว เย้ๆๆ ผ่านมาแบบงงๆทำไมผ่านมาได้อ่ะทั้งที่มีคนไทยหลายคนมาที่ไม่ผ่านโดนตีกลับประเทศไป พอเราออกมาได้ก็มารับกระเป๋าที่เขากำลังจะเก็บออกไปเพราะตอนนั้นเราติดอยู่ในนั้นนานถึง 4 ชม.เลย  ออกมาแบบโล่งมากกกกกกกก!!!!!!
55555+อยากจะหัวเราะเป็นภาษาเกาหลีแล้วตะโกนไปว่าผ่านแล้วววว^_______^
แล้วเราก็หั่นกลับไปลาคนไทยที่ยังคงนั่งเครียดกันอยู่ทุกคนที่ไม่ผ่านน่าสงสารมากที่ต้องเสียเงินเสียเวลาเสียความรู้สึกกันไป นี่ก็เป็นประสบการณ์ในการมาเกาหลีในครั้งนี้เป็นอะไรที่ไม่รู้ ......ความรู้สึกกับตม.เกาหลี
สุดท้ายที่รอดออกมาได้เพราะทางโรงพยาบาลศัลยกรรมมาอินมาติดต่อมาทางตม.มาเครียให้ต้องขอบคุณทางโรงพยาบาลศัลยกรรมมาอินมากไม่งั้นผักกาดโดนตีกลับประเทศไปละ^^

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่