News Detail
ข่าวด่วน
หุ้นฮ็อต!! : ICHI หรือจะหมดยุคเจ้าพ่อชาเขียว หลังกำไรส่อวูบ 2 ปีซ้อน
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -20 ธ.ค. 59 9:30: น.
ICHI กำไรมีแววร่วง 2 ปีซ้อน หลัง 9 เดือน กำไรลด 44.15% เหลือ 423.82 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นดิ่งแตะจุดต่ำสุด 9.10 บาท ก่อนเด้งกลับมายืนเหนือ 10 บาท อีกครั้ง ด้านวงการแนะขาย จากสภาพแข่งขันรุนแรง
บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ICHI ผู้นำตลาดเครื่องดื่มชาเขียวในประเทศไทย ซึ่งเข้าจดทะเบียนเมื่อปี 2557 พร้อมโชว์กำไรในปีนั้น 1,078.76 ล้านบาท แต่หลังจากนั้นกำไรกลับหดตัวลง 24% มาอยู่ที่ 812.74 ล้านบาท ขณะที่ 9 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ กำไรยังหดตัวต่อเนื่อง 44.15% อยู่ที่ 423.82 ล้านบาท
ICHI ประกอบธุรกิจเครื่องดื่มซึ่งน่าจะเป็นที่รู้จักกันดีภายใต้แบรนด์ อิชิตัน กรีนที เครื่องดื่มชาดำพร้อมดื่ม อิชิตัน ดราก้อนแบล็คที เครื่องดื่มสมุนไพร เย็นเย็น และเครื่องดื่มน้ำผลไม้ไม่อัดลม ไบเล่
หุ้น ICHI ถือเป็นหนึ่งในหุ้นที่นักลงทุนให้การตอบรับค่อนข้างดีหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยราคาหุ้นวิ่งขึ้นจาก 16.5 บาท ซึ่งเป็นราคาเปิดการซื้อขาย ไปทำจุดสูงสุดที่ 29.75 บาท เพิ่มขึ้นจากราคาไอพีโอที่ 13 บาท กว่า 100%
แต่ด้วยสภาพการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจชาเขียวพร้อมดื่ม รวมถึงการเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่องของเครื่องดื่มรูปแบบอื่น ซึ่งถือเป็นสินค้าทดแทนกันได้ ส่งผลให้เกิดการแข่งขันด้วยราคา รวมถึงการใช้งบประมาณเพื่อสนับสนุนทางด้านการตลาดและโฆษณา ซึ่งกดดันต่อภาพรวมของกำไรที่บริษัทสามารถทำได้ และสะท้อนออกมาในราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจนไปแตะจุดต่ำสุดที่ 9.10 บาท เมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา
โจทย์สำคัญของ ICHI คงจะหนีไม่พ้นพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคนี้ และกลยุทธ์ทางการตลาดที่อาจจะเคยเป็นจุดขายของบริษัทในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
โดย ICHI พยายามปรับตัวและสรรหากลยุทธ์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ อย่าง น้ำผลไม้ 100% เพื่อให้ออกมาตอบโจทย์ผู้บริโภคและกระแสการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่จากผลประกอบการที่ออกมานั้น คงจะพอสะท้อนได้ว่าบริษัทยังไม่สามารถเติบโจทย์เหล่านี้ได้อย่างตรงจุดเท่าใดนัก
ขณะที่นักวิเคราะห์หลายแห่งยังคงกังวลต่อภาพรวมของอุตสาหกรรม และทิศทางของบริษัทหลังจากนี้ โดยเฉพาะในช่วงหลังจากที่บริษัทประกาศกำไรไตรมาส 3/59 ออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ จึงยังเห็นคำแนะนำขายออกมาจากหลายสำนัก
บล.ทิสโก้ ระบุว่า ได้ปรับลดประมาณการกำไรของ ICHI ลง เพราะเดิมทีคาดว่ากำไรปีนี้จะลดลงเพียง 10% แต่ 9 เดือนที่ผ่านมา กำไรของบริษัทลดลงไปถึง 44% จึงปรับประมาณการณ์กำไรสุทธิปี 60-61 ลดลงจากคาดการณ์เดิม 36% และ 34% ตามลำดับ และปรับรายได้ลดลงจากคาดการณ์เดิมปีละ 16% สะท้อนยอดขายที่ลดลงมากกว่าที่คาดไว้เนื่องจากการแข่งขันเครื่องดื่มที่รุนแรงและมีหลากหลายมากขึ้น รวมถึงกระแสความนิยมชาเขียวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีนี้
คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นปี 60-61 จะอยู่ที่ 27% จากคาดการณ์เดิมที่ 33% เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ลดลงตามยอดขายและการทำการตลาดด้านราคามากขึ้น และคาดว่ากำไรปีนี้จะลดลงถึง 42% จากปีก่อน แต่ยังเชื่อว่ากำไรจะเริ่มเพิ่มขึ้นในปี 60 ราว 12% จากการที่ ICHI หากลยุทธ์ใหม่ๆ ด้วยการปรับเพิ่มขนาดหลากหลาย การออกรสชาติใหม่ๆ และเพิ่มกลุ่มสินค้าน้ำผลไม้ 100% และน้ำผลไม้ส่วนผสมต่ำกว่า 10% เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนบริษัทร่วมทุนที่อินโดนีเซีย คาดจะยังคงรับส่วนแบ่งขาดทุนใน 2 ปีนี้ เนื่องจากอยู่ในช่วงทำการตลาดแนะนำสินค้าใหม่
โดยภาพรวม ยังคงคำแนะนำ “ขาย” หุ้น ICHI จากการแข่งขันที่รุนแรง รวมถึงกระแสความนิยมเครื่องดื่มชาเขียวในประเทศเริ่มอิ่มตัว ทำให้อัตรากำไรเติบโตลดลง โดยให้ราคาเป้าหมายใหม่ปี 60 อยู่ที่ 8 บาท อ้างอิง P/E Sector ที่ 20 เท่า โดยราคาหุ้นปัจจุบันเทรดที่ PEG ปี 60 สูงถึง 2 เท่า และผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้นปี 60 ที่ 8% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มเครื่องดื่มที่ 24%
อย่างไรก็ตาม มองว่าบริษัทยังมีโอกาสจาก การเริ่มทำการตลาดน้ำผลไม้ได้รับการตอบรับดีกว่าคาด และยอดขายที่อินโดนีเซียเริ่มเป็นที่นิยม
เช่นเดียวกับ บล.ซีไอเอ็มบี ซึ่งมองว่า ICHI รายงานกำไรสุทธิน่าผิดหวังในไตรมาส 3/59 ที่ผ่านมา โดยอัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 19.6% และอัตรากำไรสุทธิเหลือ 2.9% หรือต่ำสุดในรอบสี่ปี โดยสาเหตุเกิดจากกลยุทธ์การตั้งราคาขายที่ผิดพลาดในไตรมาส 2/59
ช่วงที่เหลือของปีนี้ มองว่าผลกำไรของ ICHI จะยังไม่ฟื้นตัว เนื่องจากผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่เปิดตัวในไตรมาส 3/59 ยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค จึงยังคงคำแนะนำ "ขาย" หลังปรับลดประมาณการกำไร ให้ราคาเป้าหมาย 8.40 บาท
ICHI เป็นหนึ่งในหุ้นที่นักลงทุนรู้จักเป็นอย่างดี ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะกลยุทธ์การตลาดของบริษัทที่เน้นการชิงรางวัล ทำให้เกิดเป็นกระแสผ่านสื่ออย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยสภาพอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนไป และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นที่น่าจะตาว่าบริษัทจะผ่านสถานการณ์นี้ไปได้อย่างไร เพราะในธุรกิจที่แข่งขันกันอย่างดุเดือนขนาดนี้ คงต้องบอกว่าไม่ง่ายอีกแล้วสำหรับผู้นำเครื่องดื่มชาเขียวอย่างอิชิตัน
เรียบเรียง โดย ดาริน ปริญญากุล
อีเมล์. darin@efinancethai.com
อนุมัติ โดย อนุรักษ์ ลีประเสริฐสุนทร
ichi กำไรส่อวูบ 2 ปีซ้อน
ข่าวด่วน
หุ้นฮ็อต!! : ICHI หรือจะหมดยุคเจ้าพ่อชาเขียว หลังกำไรส่อวูบ 2 ปีซ้อน
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -20 ธ.ค. 59 9:30: น.
ICHI กำไรมีแววร่วง 2 ปีซ้อน หลัง 9 เดือน กำไรลด 44.15% เหลือ 423.82 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นดิ่งแตะจุดต่ำสุด 9.10 บาท ก่อนเด้งกลับมายืนเหนือ 10 บาท อีกครั้ง ด้านวงการแนะขาย จากสภาพแข่งขันรุนแรง
บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ICHI ผู้นำตลาดเครื่องดื่มชาเขียวในประเทศไทย ซึ่งเข้าจดทะเบียนเมื่อปี 2557 พร้อมโชว์กำไรในปีนั้น 1,078.76 ล้านบาท แต่หลังจากนั้นกำไรกลับหดตัวลง 24% มาอยู่ที่ 812.74 ล้านบาท ขณะที่ 9 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ กำไรยังหดตัวต่อเนื่อง 44.15% อยู่ที่ 423.82 ล้านบาท
ICHI ประกอบธุรกิจเครื่องดื่มซึ่งน่าจะเป็นที่รู้จักกันดีภายใต้แบรนด์ อิชิตัน กรีนที เครื่องดื่มชาดำพร้อมดื่ม อิชิตัน ดราก้อนแบล็คที เครื่องดื่มสมุนไพร เย็นเย็น และเครื่องดื่มน้ำผลไม้ไม่อัดลม ไบเล่
หุ้น ICHI ถือเป็นหนึ่งในหุ้นที่นักลงทุนให้การตอบรับค่อนข้างดีหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยราคาหุ้นวิ่งขึ้นจาก 16.5 บาท ซึ่งเป็นราคาเปิดการซื้อขาย ไปทำจุดสูงสุดที่ 29.75 บาท เพิ่มขึ้นจากราคาไอพีโอที่ 13 บาท กว่า 100%
แต่ด้วยสภาพการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจชาเขียวพร้อมดื่ม รวมถึงการเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่องของเครื่องดื่มรูปแบบอื่น ซึ่งถือเป็นสินค้าทดแทนกันได้ ส่งผลให้เกิดการแข่งขันด้วยราคา รวมถึงการใช้งบประมาณเพื่อสนับสนุนทางด้านการตลาดและโฆษณา ซึ่งกดดันต่อภาพรวมของกำไรที่บริษัทสามารถทำได้ และสะท้อนออกมาในราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจนไปแตะจุดต่ำสุดที่ 9.10 บาท เมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา
โจทย์สำคัญของ ICHI คงจะหนีไม่พ้นพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคนี้ และกลยุทธ์ทางการตลาดที่อาจจะเคยเป็นจุดขายของบริษัทในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
โดย ICHI พยายามปรับตัวและสรรหากลยุทธ์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ อย่าง น้ำผลไม้ 100% เพื่อให้ออกมาตอบโจทย์ผู้บริโภคและกระแสการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่จากผลประกอบการที่ออกมานั้น คงจะพอสะท้อนได้ว่าบริษัทยังไม่สามารถเติบโจทย์เหล่านี้ได้อย่างตรงจุดเท่าใดนัก
ขณะที่นักวิเคราะห์หลายแห่งยังคงกังวลต่อภาพรวมของอุตสาหกรรม และทิศทางของบริษัทหลังจากนี้ โดยเฉพาะในช่วงหลังจากที่บริษัทประกาศกำไรไตรมาส 3/59 ออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ จึงยังเห็นคำแนะนำขายออกมาจากหลายสำนัก
บล.ทิสโก้ ระบุว่า ได้ปรับลดประมาณการกำไรของ ICHI ลง เพราะเดิมทีคาดว่ากำไรปีนี้จะลดลงเพียง 10% แต่ 9 เดือนที่ผ่านมา กำไรของบริษัทลดลงไปถึง 44% จึงปรับประมาณการณ์กำไรสุทธิปี 60-61 ลดลงจากคาดการณ์เดิม 36% และ 34% ตามลำดับ และปรับรายได้ลดลงจากคาดการณ์เดิมปีละ 16% สะท้อนยอดขายที่ลดลงมากกว่าที่คาดไว้เนื่องจากการแข่งขันเครื่องดื่มที่รุนแรงและมีหลากหลายมากขึ้น รวมถึงกระแสความนิยมชาเขียวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีนี้
คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นปี 60-61 จะอยู่ที่ 27% จากคาดการณ์เดิมที่ 33% เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ลดลงตามยอดขายและการทำการตลาดด้านราคามากขึ้น และคาดว่ากำไรปีนี้จะลดลงถึง 42% จากปีก่อน แต่ยังเชื่อว่ากำไรจะเริ่มเพิ่มขึ้นในปี 60 ราว 12% จากการที่ ICHI หากลยุทธ์ใหม่ๆ ด้วยการปรับเพิ่มขนาดหลากหลาย การออกรสชาติใหม่ๆ และเพิ่มกลุ่มสินค้าน้ำผลไม้ 100% และน้ำผลไม้ส่วนผสมต่ำกว่า 10% เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนบริษัทร่วมทุนที่อินโดนีเซีย คาดจะยังคงรับส่วนแบ่งขาดทุนใน 2 ปีนี้ เนื่องจากอยู่ในช่วงทำการตลาดแนะนำสินค้าใหม่
โดยภาพรวม ยังคงคำแนะนำ “ขาย” หุ้น ICHI จากการแข่งขันที่รุนแรง รวมถึงกระแสความนิยมเครื่องดื่มชาเขียวในประเทศเริ่มอิ่มตัว ทำให้อัตรากำไรเติบโตลดลง โดยให้ราคาเป้าหมายใหม่ปี 60 อยู่ที่ 8 บาท อ้างอิง P/E Sector ที่ 20 เท่า โดยราคาหุ้นปัจจุบันเทรดที่ PEG ปี 60 สูงถึง 2 เท่า และผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้นปี 60 ที่ 8% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มเครื่องดื่มที่ 24%
อย่างไรก็ตาม มองว่าบริษัทยังมีโอกาสจาก การเริ่มทำการตลาดน้ำผลไม้ได้รับการตอบรับดีกว่าคาด และยอดขายที่อินโดนีเซียเริ่มเป็นที่นิยม
เช่นเดียวกับ บล.ซีไอเอ็มบี ซึ่งมองว่า ICHI รายงานกำไรสุทธิน่าผิดหวังในไตรมาส 3/59 ที่ผ่านมา โดยอัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 19.6% และอัตรากำไรสุทธิเหลือ 2.9% หรือต่ำสุดในรอบสี่ปี โดยสาเหตุเกิดจากกลยุทธ์การตั้งราคาขายที่ผิดพลาดในไตรมาส 2/59
ช่วงที่เหลือของปีนี้ มองว่าผลกำไรของ ICHI จะยังไม่ฟื้นตัว เนื่องจากผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่เปิดตัวในไตรมาส 3/59 ยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค จึงยังคงคำแนะนำ "ขาย" หลังปรับลดประมาณการกำไร ให้ราคาเป้าหมาย 8.40 บาท
ICHI เป็นหนึ่งในหุ้นที่นักลงทุนรู้จักเป็นอย่างดี ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะกลยุทธ์การตลาดของบริษัทที่เน้นการชิงรางวัล ทำให้เกิดเป็นกระแสผ่านสื่ออย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยสภาพอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนไป และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นที่น่าจะตาว่าบริษัทจะผ่านสถานการณ์นี้ไปได้อย่างไร เพราะในธุรกิจที่แข่งขันกันอย่างดุเดือนขนาดนี้ คงต้องบอกว่าไม่ง่ายอีกแล้วสำหรับผู้นำเครื่องดื่มชาเขียวอย่างอิชิตัน
เรียบเรียง โดย ดาริน ปริญญากุล
อีเมล์. darin@efinancethai.com
อนุมัติ โดย อนุรักษ์ ลีประเสริฐสุนทร