


ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เขียนบทความโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ถึงเรื่องราว พระอัจฉริยภาพและพระราชกุศโลบายแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งมีพระราชดำริหาแนวทางด้านอาหารราคาถูกที่อุดมไปด้วยโปรตีนให้กับคนไทย อันนำสู่การทูตหยุดโลก กระชับความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น เมื่อพระองค์ท่านทูลเชิญสมเด็จพระจักรพรรดิ อะกิฮิโตะ เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศมกุฎราชกุมารแห่งประเทศญี่ปุ่น และเจ้าหญิงมิชิโกะ หรือสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ เพื่อ “ทอดพระเนตรปลา” พระองค์ทรงนำทั้งสองพระองค์เสด็จฯ ทอดพระเนตรกิจการพิพิธภัณฑ์คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ.2507

เจ้าชายอะกิฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น ในขณะนั้น ทรงมีความสนพระทัยและทรงเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องปลา จึงทรงพระสำราญ ทรงหยิบขวดปลาต่าง ๆ ขึ้นทอดพระเนตร รวมถึงขวด “ปลาบู่” ซึ่งเป็นปลาที่พบในไทยเป็นครั้งแรกของโลก มีชื่อว่า “ปลาบู่มหิดล” ซึ่งเป็นการตั้งชื่อเพื่อเทิดพระเกียรติ จอมพลเรือ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เมื่อเจ้าชายอะกิฮิโตทรงทราบว่าปลาบู่นี้ถูกตั้งชื่อตามพระราชบิดาของกษัตริย์ไทย ทรงบังเกิดความประทับพระทัย


ปลาบู่มหิดล (Mahidolia mystacina) เป็นสัตว์น้ำที่พบเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ณ อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรีเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๙โดย ดร.นพ.ฮิว แมคคอร์มิค สมิธ (Dr. Hugh McCormick Smith M.D.,Ph.D.)และได้ตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ตามพระนามของจอมพลเรือสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ในฐานะที่ได้ทรงอุปถัมภ์และพระราชทานทุนสำหรับส่งคนไทยไปศึกษาต่อด้านการประมงยังต่างประเทศและทรงได้รับถวายพระราชสมัญญานามว่า "พระประทีปแห่งการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำของไทย"
หากใช้ตามกฎเกณฑ์ทางอนุกรมวิธารปลาในปัจจุบันนี้ ปลาบู่มหิดลจัดอยู่ในสกุล Mahidoliaซึ่งมีอยู่ในประเทศไทยที่มีลักษณะเด่นๆ และมีเรื่องราวที่น่าสนใจ คือMahidolia mystacina ซึ่งมีเนื้อหาดังต่อไปนี้
พันธุ์สัตว์น้ำที่ชื่อ Mahidolia mystacina นี้ ดร.นพ.ฮิว แมคคอร์มิค สมิธ (Dr. Hugh McCormick Smith M.D.,Ph.D.)ได้ตีพิมพ์ในหนังสือ “The fresh-water fishes of Siam, or Thailand” (เดิมใช้ชื่อว่า “A monograph of the freshwater fishes of Siam”)ซึ่งเป็นงานอนุกรมวิธารปลาน้ำจืดของไทย และ Mahidolia mystacina ได้ถูกค้นพบหลายครั้งในประเทศต่างๆ จนปัจจุบันได้มีข้อมูลจาก เอกสารทางวิชาการและทางInternet เป็นจำนวนมากว่ามี Mahidolia mystacina ในเขตน้ำกร่อย ของอ่าวไทย(จากการสำรวจในปัจจุบันนี้ มีปลาบู่มหิดลในแถบอ่าวไทยมากที่สุด) ทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย และมหาสมุทรแปซิฟิก เขตที่พบปลาบู่มหิดล นอกจากที่ประเทศไทยแล้ว จะพบ ที่ประเทศญี่ปุ่น ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศอินโดนีเซีย และที่อ่าวเดลากัว ฝั่งตะวันออกของทวีป แอฟริกา
ปัจจุบันนี้ ปลาบู่สกุล Mahidolia ชนิด Mahidolia mystacinaนี้ได้มีการยอมรับกันทั่วโลก และปรากฏในเอกสารวิชาการเกี่ยวกับอนุกรมวิธานปลาไม่ต่ำกว่า๒๐เรื่อง นอกจากนี้เอกสารเล่มแรก เกี่ยวกับปลาบู่มหิดลของมหาวิทยาลัยมหิดล ปรากฎขึ้นในปีพ.ศ.๒๕๓๑เขียนโดยศาสตราจารย์ นพ.สุด แสงวิเชียร ซึ่งเป็นบทความพิเศษเรื่องปลาบู่มหิดลในสารศิริราชของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ที่ระบุชื่อปลาบู่มหิดลว่า Mahidolia mystacina
นอกจากนี้เอกสารจากกรมประมง คุณลือชัย ดรุณชู และคุณคำรณ โพธิพิทักษ์ ได้ศึกษาเรื่องปลาบู่ มหิดล โดยใช้ชื่อเรียกปลาบู่มหิดลว่า Mahidolia mystacinaอีกทั้งจากหนังสือ ๑๐๐ปี สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก ซึ่งคุณวิกัลย์ พงศ์พนิตานนท์ เป็นบรรณาธิการ ได้ศึกษาเรื่องปลาบู่มหิดล โดยใช้ชื่อปลาบู่มหิดลว่า Mahidolia mystacina

ในที่สุด เมื่อปีพ.ศ. ๒๔๘๔ (ค.ศ.๑๙๔๑) ดร.นพ.ฮิว แมคคอร์มิค สมิธ (Dr. Hugh McCormick Smith M.D.,Ph.D.)ได้ตีพิมพ์ผลงานอีกครั้งหนึ่งเกี่ยวกับปลาบู่มหิดล ใช้ชื่อว่า“The gobies Waitea and Mahidolia” ใน Journal of the Washingtion Academy of Sciences,vol.๓๑(๙):๔๐๙-๔๑๕ figs.๑-๒,September ๑๕, ๑๙๔๑ซึ่งได้ตีพิมพ์เผยแพร่ก่อนหน้าวันถึงแก่กรรมของเขาในวันที่ ๒๘กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๔ (ค.ศ.๑๙๔๑) เพียง ๑๓ วัน เท่านั้น เนื่องจาก ดร.นพ.ฮิว แมคคอร์มิค สมิธ (Dr. Hugh McCormick Smith M.D.,Ph.D.)ได้เปรียบเทียบ ปลาบู่ที่พบกับปลาบู่วงศ์ Gobius พบว่ามีความแตกต่างกัน อีกทั้งยังค่อนข้างห่างออกไปมากเมื่อเทียบกับสกุล Waitea ดังนั้นในปี พ.ศ.๒๔๗๕ (ค.ศ.๑๙๓๒) จึงได้ให้ชื่อเป็นสกุลใหม่ว่า Mahidoliaตามพระนามของจอมพลเรือสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก โดย F.P. Koumans ซึ่งได้รับการยอมรับกันว่าเป็นผู้ศึกษาเรื่องปลาบู่มาเป็นเวลานาน และมีความรู้ในเรื่องปลาพวกนี้ดีที่สุดในสมัยนั้น จึงได้คล้อยตามกันว่าเป็นชนิดใหม่ และเสนอชื่อว่า Mahidolia normani ไปพร้อมกับงานให้ชื่อสกุล Mahidoliaของ ดร.นพ.ฮิว แมคคอร์มิค สมิธ (Dr. Hugh McCormick Smith M.D.,Ph.D.)
อย่างไรก็ตามในปีพ.ศ.๒๔๗๘ (ค.ศ.๑๙๓๕) F.P. Koumans ได้รับตัวอย่างและผลงานของ D.S.Jordan and A.Seale ทำให้เกิดความสับสน ในปีเดียวกันนั้นเองได้ตีพิมพ์คล้อยตามผลงานนั้นแล้วแจ้งว่าปลาบู่มหิดลหรือปลาสกุล Mahidoliaเป็นปลาในสกุล Waiteaซึ่งเป็นชื่อเก่ากว่าที่ต้องนำมาใช้ตามกฎเกณฑ์ทางอนุกรมวิธารปลา นอกจากนี้ ในปีเดียวกันกับที่ดร.นพ.ฮิว แมคคอร์มิค สมิธ (Dr. Hugh McCormick Smith M.D.,Ph.D.)ได้ให้ชื่อเป็นสกุลใหม่ว่า Mahidolia ตามพระนามของจอมพลเรือสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ปีพ.ศ.๒๔๗๕ (ค.ศ.๑๙๓๒) ดร.นพ.ฮิว แมคคอร์มิค สมิธ (Dr. Hugh McCormick Smith M.D.,Ph.D.)ได้เดินทางกลับเข้าทำงานในพิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาของสถาบัน สมิทโซเนียน กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งที่เกษียณอายุแล้ว ในตำแหน่งพิเศษคือเป็นผู้ช่วยภัณฑารักษ์แผนกปลา กองสัตววิทยา เพื่อเขียนงานอนุกรมวิธารปลาน้ำจืดของไทยที่เขารวบรวมตัวอย่างไว้มากมายคือเรื่อง “A monograph of the freshwater fishes of Siam”) ซึ่งถือกันว่าเป็นงานเด่นที่สุดในชีวิตการทำงานของผู้เชี่ยวชาญท่านนี้ (แต่ตีพิมพ์ได้เสร็จในปี พ.ศ.๒๔๘๘ (ค.ศ.๑๙๔๕) ซึ่งเป็นปีที่ประเทศไทยเริ่มเสนอเปลี่ยนชื่อจากประเทศสยามเป็นประเทศไทย ดร.นพ.ฮิว แมคคอร์มิค สมิธ (Dr. Hugh McCormick Smith M.D.,Ph.D.)จึงได้เปลี่ยนชื่อหนังสือเป็น “The fresh-water fishes of Siam, or Thailand” ซึ่งในขณะนั้นอยู่ในระหว่างการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่ ๒) นอกจากนี้ดร.นพ.ฮิว แมคคอร์มิค สมิธ (Dr. Hugh McCormick Smith M.D.,Ph.D.)ก็มีงานตีพิมพ์ชิ้นเล็กๆเกี่ยวกับทรัพยากรปลาและสัตว์น้ำอื่นๆ ของประเทศไทย ด้วยความมั่นใจในการเสนอชื่อสกุลMahidolia สำหรับพันธุ์สัตว์น้ำจากแหลมสิงห์ ที่กล่าวมาแล้ว ดร.นพ.ฮิว แมคคอร์มิค สมิธ (Dr. Hugh McCormick Smith M.D.,Ph.D.)จึงได้ทำความค้นคว้าเพื่อเปรียบเทียบในกรอบที่กว้างขึ้น เพื่อแก้ไขความสับสนต่างๆ ที่เกิดขึ้นจาก F.P. Koumans โดยอาศัยตัวอย่างที่เกี่ยวข้องที่เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ต่างๆเช่น ที่นครปารีส ประเทศฝรั่งเศส,เมืองไลเดน ประเทศเนเธอร์แลนด์ , สถาบันสนิทโซเนียน กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เคยใช้เป็นหลักพิจารณาการกำหนดชื่อนักวิทยาศาสตร์ทุกท่านที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด
และจากฐานข้อมูลชนิดพันธุ์ที่ถูกคุกคามในประเทศไทยของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมระบุว่าปัจจุบันปลาบู่มหิดลมีแนวโน้มใกล้จะสูญพันธุ์ ผู้เขียนจึงได้นำปลาบู่มหิดลมาใช้ขับเคลื่อนในงานวิจัยจากการปฏิบัติจริงเพื่อศึกษาถึงผลกระทบทางด้านสังคม(Social Impact Assessmnt : SIA) ด้วยการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นในชุมชนชาวประมงมาประยุกต์ใช้ผสมผสานกับความรู้สมัยใหม่ที่ได้รับจากมหาวิทยาลัยมหิดล เกี่ยวกับระบบบอกตำแหน่งบนพื้นผิวโลกน่าจะเป็นเทคโนโลยีทางเลือกที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เมื่อผนวกเข้ากับการใช้องค์ความรู้และนวัตกรรมที่อาศัยการคำนวณจากสัญญาณนาฬิกาที่ส่งมาจากดาวเทียมที่โคจรอยู่รอบโลกซึ่งเมื่อทราบตำแหน่งแล้ว ทำให้สามารถบอกตำแหน่งณจุดที่สามารถรับสัญญาณได้ทั่วโลกเพื่อใช้คำนวณความเร็วและทิศทางนำมาใช้ร่วมกับโปรแกรมแผนที่สำหรับใช้ในการนำทางเพื่อค้นหาปลาบู่มหิดลได้(Global Positioning System : GPS)
จากงานวิจัยเรื่อง การมีส่วนร่วมของบุคลากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสร้างองค์ความรู้'ปลาบู่มหิดล'ในพื้นที่แหล่งที่พบปลาบู่มหิดลนอกจากเป้าหมายดังกล่าวข้างต้นแล้ว เจตนารมณ์ที่สำคัญผู้เขียนก็คือการมุ่งเทิดพระเกียรติจอมพลเรือสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกเพราะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ เนื่องจากพระองค์ให้ความสำคัญด้วยการที่ทรงอุปถัมภ์และพระราชทานทุนสำหรับคนไทยไปศึกษาต่อยังต่างประเทศด้านการประมง(โดยเฉพาะเกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงและอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ)ทำให้พระองค์ทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่า“พระประทีปแห่งการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำของไทย”
ปลาบู่มหิดลมีลักษณะเด่น คือ หัวค่อนข้างโต และแบนข้างมาก ปากกว้างจนมีกระดูกขากรรไกรที่ยื่นไปทางข้างเลยขอบหลังตา ฟันมีขนาดเล็ก และมีแถวเดียวที่ขากรรไกรบนแต่มีหลายแถวที่ขากรรไกรล่าง ลำตัวสั้น ไม่มีเกล็ดบนหัว บนฝาเหงือกมีเกล็ดค่อนข้างใหญ่และมีจุดสีน้ำเงิน 2 จุดบนครีบบน เป็นปลาที่มีจุดเด่นและมีลักษณะเฉพาะ
รำลึก "ปลาบู่มหิดล"
ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เขียนบทความโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ถึงเรื่องราว พระอัจฉริยภาพและพระราชกุศโลบายแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งมีพระราชดำริหาแนวทางด้านอาหารราคาถูกที่อุดมไปด้วยโปรตีนให้กับคนไทย อันนำสู่การทูตหยุดโลก กระชับความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น เมื่อพระองค์ท่านทูลเชิญสมเด็จพระจักรพรรดิ อะกิฮิโตะ เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศมกุฎราชกุมารแห่งประเทศญี่ปุ่น และเจ้าหญิงมิชิโกะ หรือสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ เพื่อ “ทอดพระเนตรปลา” พระองค์ทรงนำทั้งสองพระองค์เสด็จฯ ทอดพระเนตรกิจการพิพิธภัณฑ์คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ.2507
เจ้าชายอะกิฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น ในขณะนั้น ทรงมีความสนพระทัยและทรงเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องปลา จึงทรงพระสำราญ ทรงหยิบขวดปลาต่าง ๆ ขึ้นทอดพระเนตร รวมถึงขวด “ปลาบู่” ซึ่งเป็นปลาที่พบในไทยเป็นครั้งแรกของโลก มีชื่อว่า “ปลาบู่มหิดล” ซึ่งเป็นการตั้งชื่อเพื่อเทิดพระเกียรติ จอมพลเรือ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เมื่อเจ้าชายอะกิฮิโตทรงทราบว่าปลาบู่นี้ถูกตั้งชื่อตามพระราชบิดาของกษัตริย์ไทย ทรงบังเกิดความประทับพระทัย
ปลาบู่มหิดล (Mahidolia mystacina) เป็นสัตว์น้ำที่พบเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ณ อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรีเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๙โดย ดร.นพ.ฮิว แมคคอร์มิค สมิธ (Dr. Hugh McCormick Smith M.D.,Ph.D.)และได้ตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ตามพระนามของจอมพลเรือสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ในฐานะที่ได้ทรงอุปถัมภ์และพระราชทานทุนสำหรับส่งคนไทยไปศึกษาต่อด้านการประมงยังต่างประเทศและทรงได้รับถวายพระราชสมัญญานามว่า "พระประทีปแห่งการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำของไทย"
หากใช้ตามกฎเกณฑ์ทางอนุกรมวิธารปลาในปัจจุบันนี้ ปลาบู่มหิดลจัดอยู่ในสกุล Mahidoliaซึ่งมีอยู่ในประเทศไทยที่มีลักษณะเด่นๆ และมีเรื่องราวที่น่าสนใจ คือMahidolia mystacina ซึ่งมีเนื้อหาดังต่อไปนี้
พันธุ์สัตว์น้ำที่ชื่อ Mahidolia mystacina นี้ ดร.นพ.ฮิว แมคคอร์มิค สมิธ (Dr. Hugh McCormick Smith M.D.,Ph.D.)ได้ตีพิมพ์ในหนังสือ “The fresh-water fishes of Siam, or Thailand” (เดิมใช้ชื่อว่า “A monograph of the freshwater fishes of Siam”)ซึ่งเป็นงานอนุกรมวิธารปลาน้ำจืดของไทย และ Mahidolia mystacina ได้ถูกค้นพบหลายครั้งในประเทศต่างๆ จนปัจจุบันได้มีข้อมูลจาก เอกสารทางวิชาการและทางInternet เป็นจำนวนมากว่ามี Mahidolia mystacina ในเขตน้ำกร่อย ของอ่าวไทย(จากการสำรวจในปัจจุบันนี้ มีปลาบู่มหิดลในแถบอ่าวไทยมากที่สุด) ทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย และมหาสมุทรแปซิฟิก เขตที่พบปลาบู่มหิดล นอกจากที่ประเทศไทยแล้ว จะพบ ที่ประเทศญี่ปุ่น ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศอินโดนีเซีย และที่อ่าวเดลากัว ฝั่งตะวันออกของทวีป แอฟริกา
ปัจจุบันนี้ ปลาบู่สกุล Mahidolia ชนิด Mahidolia mystacinaนี้ได้มีการยอมรับกันทั่วโลก และปรากฏในเอกสารวิชาการเกี่ยวกับอนุกรมวิธานปลาไม่ต่ำกว่า๒๐เรื่อง นอกจากนี้เอกสารเล่มแรก เกี่ยวกับปลาบู่มหิดลของมหาวิทยาลัยมหิดล ปรากฎขึ้นในปีพ.ศ.๒๕๓๑เขียนโดยศาสตราจารย์ นพ.สุด แสงวิเชียร ซึ่งเป็นบทความพิเศษเรื่องปลาบู่มหิดลในสารศิริราชของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ที่ระบุชื่อปลาบู่มหิดลว่า Mahidolia mystacina
นอกจากนี้เอกสารจากกรมประมง คุณลือชัย ดรุณชู และคุณคำรณ โพธิพิทักษ์ ได้ศึกษาเรื่องปลาบู่ มหิดล โดยใช้ชื่อเรียกปลาบู่มหิดลว่า Mahidolia mystacinaอีกทั้งจากหนังสือ ๑๐๐ปี สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก ซึ่งคุณวิกัลย์ พงศ์พนิตานนท์ เป็นบรรณาธิการ ได้ศึกษาเรื่องปลาบู่มหิดล โดยใช้ชื่อปลาบู่มหิดลว่า Mahidolia mystacina
ในที่สุด เมื่อปีพ.ศ. ๒๔๘๔ (ค.ศ.๑๙๔๑) ดร.นพ.ฮิว แมคคอร์มิค สมิธ (Dr. Hugh McCormick Smith M.D.,Ph.D.)ได้ตีพิมพ์ผลงานอีกครั้งหนึ่งเกี่ยวกับปลาบู่มหิดล ใช้ชื่อว่า“The gobies Waitea and Mahidolia” ใน Journal of the Washingtion Academy of Sciences,vol.๓๑(๙):๔๐๙-๔๑๕ figs.๑-๒,September ๑๕, ๑๙๔๑ซึ่งได้ตีพิมพ์เผยแพร่ก่อนหน้าวันถึงแก่กรรมของเขาในวันที่ ๒๘กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๔ (ค.ศ.๑๙๔๑) เพียง ๑๓ วัน เท่านั้น เนื่องจาก ดร.นพ.ฮิว แมคคอร์มิค สมิธ (Dr. Hugh McCormick Smith M.D.,Ph.D.)ได้เปรียบเทียบ ปลาบู่ที่พบกับปลาบู่วงศ์ Gobius พบว่ามีความแตกต่างกัน อีกทั้งยังค่อนข้างห่างออกไปมากเมื่อเทียบกับสกุล Waitea ดังนั้นในปี พ.ศ.๒๔๗๕ (ค.ศ.๑๙๓๒) จึงได้ให้ชื่อเป็นสกุลใหม่ว่า Mahidoliaตามพระนามของจอมพลเรือสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก โดย F.P. Koumans ซึ่งได้รับการยอมรับกันว่าเป็นผู้ศึกษาเรื่องปลาบู่มาเป็นเวลานาน และมีความรู้ในเรื่องปลาพวกนี้ดีที่สุดในสมัยนั้น จึงได้คล้อยตามกันว่าเป็นชนิดใหม่ และเสนอชื่อว่า Mahidolia normani ไปพร้อมกับงานให้ชื่อสกุล Mahidoliaของ ดร.นพ.ฮิว แมคคอร์มิค สมิธ (Dr. Hugh McCormick Smith M.D.,Ph.D.)
อย่างไรก็ตามในปีพ.ศ.๒๔๗๘ (ค.ศ.๑๙๓๕) F.P. Koumans ได้รับตัวอย่างและผลงานของ D.S.Jordan and A.Seale ทำให้เกิดความสับสน ในปีเดียวกันนั้นเองได้ตีพิมพ์คล้อยตามผลงานนั้นแล้วแจ้งว่าปลาบู่มหิดลหรือปลาสกุล Mahidoliaเป็นปลาในสกุล Waiteaซึ่งเป็นชื่อเก่ากว่าที่ต้องนำมาใช้ตามกฎเกณฑ์ทางอนุกรมวิธารปลา นอกจากนี้ ในปีเดียวกันกับที่ดร.นพ.ฮิว แมคคอร์มิค สมิธ (Dr. Hugh McCormick Smith M.D.,Ph.D.)ได้ให้ชื่อเป็นสกุลใหม่ว่า Mahidolia ตามพระนามของจอมพลเรือสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ปีพ.ศ.๒๔๗๕ (ค.ศ.๑๙๓๒) ดร.นพ.ฮิว แมคคอร์มิค สมิธ (Dr. Hugh McCormick Smith M.D.,Ph.D.)ได้เดินทางกลับเข้าทำงานในพิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาของสถาบัน สมิทโซเนียน กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งที่เกษียณอายุแล้ว ในตำแหน่งพิเศษคือเป็นผู้ช่วยภัณฑารักษ์แผนกปลา กองสัตววิทยา เพื่อเขียนงานอนุกรมวิธารปลาน้ำจืดของไทยที่เขารวบรวมตัวอย่างไว้มากมายคือเรื่อง “A monograph of the freshwater fishes of Siam”) ซึ่งถือกันว่าเป็นงานเด่นที่สุดในชีวิตการทำงานของผู้เชี่ยวชาญท่านนี้ (แต่ตีพิมพ์ได้เสร็จในปี พ.ศ.๒๔๘๘ (ค.ศ.๑๙๔๕) ซึ่งเป็นปีที่ประเทศไทยเริ่มเสนอเปลี่ยนชื่อจากประเทศสยามเป็นประเทศไทย ดร.นพ.ฮิว แมคคอร์มิค สมิธ (Dr. Hugh McCormick Smith M.D.,Ph.D.)จึงได้เปลี่ยนชื่อหนังสือเป็น “The fresh-water fishes of Siam, or Thailand” ซึ่งในขณะนั้นอยู่ในระหว่างการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่ ๒) นอกจากนี้ดร.นพ.ฮิว แมคคอร์มิค สมิธ (Dr. Hugh McCormick Smith M.D.,Ph.D.)ก็มีงานตีพิมพ์ชิ้นเล็กๆเกี่ยวกับทรัพยากรปลาและสัตว์น้ำอื่นๆ ของประเทศไทย ด้วยความมั่นใจในการเสนอชื่อสกุลMahidolia สำหรับพันธุ์สัตว์น้ำจากแหลมสิงห์ ที่กล่าวมาแล้ว ดร.นพ.ฮิว แมคคอร์มิค สมิธ (Dr. Hugh McCormick Smith M.D.,Ph.D.)จึงได้ทำความค้นคว้าเพื่อเปรียบเทียบในกรอบที่กว้างขึ้น เพื่อแก้ไขความสับสนต่างๆ ที่เกิดขึ้นจาก F.P. Koumans โดยอาศัยตัวอย่างที่เกี่ยวข้องที่เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ต่างๆเช่น ที่นครปารีส ประเทศฝรั่งเศส,เมืองไลเดน ประเทศเนเธอร์แลนด์ , สถาบันสนิทโซเนียน กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เคยใช้เป็นหลักพิจารณาการกำหนดชื่อนักวิทยาศาสตร์ทุกท่านที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด
และจากฐานข้อมูลชนิดพันธุ์ที่ถูกคุกคามในประเทศไทยของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมระบุว่าปัจจุบันปลาบู่มหิดลมีแนวโน้มใกล้จะสูญพันธุ์ ผู้เขียนจึงได้นำปลาบู่มหิดลมาใช้ขับเคลื่อนในงานวิจัยจากการปฏิบัติจริงเพื่อศึกษาถึงผลกระทบทางด้านสังคม(Social Impact Assessmnt : SIA) ด้วยการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นในชุมชนชาวประมงมาประยุกต์ใช้ผสมผสานกับความรู้สมัยใหม่ที่ได้รับจากมหาวิทยาลัยมหิดล เกี่ยวกับระบบบอกตำแหน่งบนพื้นผิวโลกน่าจะเป็นเทคโนโลยีทางเลือกที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เมื่อผนวกเข้ากับการใช้องค์ความรู้และนวัตกรรมที่อาศัยการคำนวณจากสัญญาณนาฬิกาที่ส่งมาจากดาวเทียมที่โคจรอยู่รอบโลกซึ่งเมื่อทราบตำแหน่งแล้ว ทำให้สามารถบอกตำแหน่งณจุดที่สามารถรับสัญญาณได้ทั่วโลกเพื่อใช้คำนวณความเร็วและทิศทางนำมาใช้ร่วมกับโปรแกรมแผนที่สำหรับใช้ในการนำทางเพื่อค้นหาปลาบู่มหิดลได้(Global Positioning System : GPS)
จากงานวิจัยเรื่อง การมีส่วนร่วมของบุคลากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสร้างองค์ความรู้'ปลาบู่มหิดล'ในพื้นที่แหล่งที่พบปลาบู่มหิดลนอกจากเป้าหมายดังกล่าวข้างต้นแล้ว เจตนารมณ์ที่สำคัญผู้เขียนก็คือการมุ่งเทิดพระเกียรติจอมพลเรือสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกเพราะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ เนื่องจากพระองค์ให้ความสำคัญด้วยการที่ทรงอุปถัมภ์และพระราชทานทุนสำหรับคนไทยไปศึกษาต่อยังต่างประเทศด้านการประมง(โดยเฉพาะเกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงและอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ)ทำให้พระองค์ทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่า“พระประทีปแห่งการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำของไทย”
ปลาบู่มหิดลมีลักษณะเด่น คือ หัวค่อนข้างโต และแบนข้างมาก ปากกว้างจนมีกระดูกขากรรไกรที่ยื่นไปทางข้างเลยขอบหลังตา ฟันมีขนาดเล็ก และมีแถวเดียวที่ขากรรไกรบนแต่มีหลายแถวที่ขากรรไกรล่าง ลำตัวสั้น ไม่มีเกล็ดบนหัว บนฝาเหงือกมีเกล็ดค่อนข้างใหญ่และมีจุดสีน้ำเงิน 2 จุดบนครีบบน เป็นปลาที่มีจุดเด่นและมีลักษณะเฉพาะ