นักการเมืองขาลงลุ้นไม่ขึ้นค่ะ..
ประชาชนยังไม่รีบที่จะรับเอามาดูแลบ้านเมืองและดูแลประชาชน
ลองอ่านโพลดูค่ะ....


สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง ประชาชนคิดอย่างไร ? ต่อการปฏิรูปประเทศและการเลือกตั้ง โดยได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,192 คน ระหว่างวันที่ 2-7 มกราคม 2560 สรุปผลได้ ดังนี้
1 . ประชาชนคิดว่าการปฏิรูปประเทศเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ณ วันนี้ มีความก้าวหน้ามากน้อยเพียงใด ? อันดับ 1 ค่อนข้างก้าวหน้า 35.63% เพราะมีผลงานบางอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรม เป็นการทำงานตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ตามโรดแมป มีคณะทำงานที่รับผิดชอบ ฯลฯ อันดับ 2ยังไม่ค่อยก้าวหน้า 29.81% เพราะมีปัญหาที่จะต้องปฏิรูปหลายเรื่องปัญหาสะสมมาหลายสิบปี ต้องใช้เวลาในการดำเนินการแก้ไข ฯลฯ อันดับ 3 ก้าวหน้า 17.70% เพราะนายกฯ ให้ความสำคัญ มีความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหา มีแนวทางการทำงานที่ชัดเจน ฯลฯ อันดับ 4 ไม่ก้าวหน้า 16.86% เพราะเป็นไปได้ยาก ยังไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม ยังมีความขัดแย้ง ประชาชนยังลำบาก ชีวิตความเป็นอยู่ยังไม่ดีขึ้น ฯลฯ
2. ประชาชนคิดว่า การปฏิรูปประเทศมีความเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งหรือไม่ ? อย่างไร ? อันดับ 1 เกี่ยวข้อง 71.08% เพราะการปฏิรูปประเทศช่วยให้ระบบการเลือกตั้งมีความโปร่งใส เป็นธรรม มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดการซื้อสิทธิ์ขายเสียงอาจน้อยลง ฯลฯอันดับ 2 ไม่เกี่ยวข้อง 28.92% เพราะที่ผ่านมาถึงแม้จะมีมาตรการป้องกัน แต่ก็ยังมีการทุจริต การเลือกตั้งเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของนักการเมือง ฯลฯ
3. ระหว่างการเลือกตั้งกับการปฏิรูปประเทศ ประชาชนคิดว่า รัฐบาลควรดำเนินการอย่างไร ? อันดับ 1 ปฏิรูปประเทศก่อนแล้วค่อยเลือกตั้ง 41.19% เพราะบ้านเมืองมีปัญหาหลายด้าน ควรจะแก้ปัญหาต่างๆ ให้เสร็จก่อน จะได้มีความพร้อมและไม่เกิดปัญหาขัดแย้งภายหลัง บ้านเมืองจะได้เดินหน้าอย่างมั่นคง มีเสถียรภาพ ฯลฯ อันดับ 2 เลือกตั้งก่อนแล้วค่อยปฏิรูปประเทศ 38.06% เพราะจะได้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นตัวแทนของประชาชน เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ทำให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพ ได้รับการยอมรับ ฯลฯอันดับ 3 เลือกตั้งและปฏิรูปประเทศไปพร้อมกัน 20.75% เพราะการปฏิรูปประเทศต้องใช้เวลานาน การเลือกตั้งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูป เป็นเรื่องสำคัญที่ควรทำไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้ ฯลฯ
4. ประชาชนคิดว่าสถานการณ์บ้านเมือง ณ วันนี้ พร้อมจะเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งหรือไม่ ? อันดับ 1 ยังไม่พร้อม 51.23% เพราะ ยังมีความขัดแย้ง กังวลว่าบ้านเมืองจะไม่สงบ อาจเกิดการชุมนุมเคลื่อนไหว ปัญหาการเมืองไทยแก้ไขได้ยาก สถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะที่ยังไม่พร้อม จะมีพระราชพิธีสำคัญ ฯลฯอันดับ 2 พร้อมแล้ว 48.77% เพราะ เป็นไปตามโรดแมปที่กำหนดไว้ อยากให้บ้านเมืองเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย มีการเลือกตั้งที่มาจากความต้องการของประชาชน ประชาชนตื่นตัวและให้ความสำคัญกับการเลือกตั้ง ฯลฯ
5. ประชาชนมีความคิดเห็นอย่างไร ? ถ้าการเลือกตั้งจะเลื่อนออกไปเป็นปี 2561 อันดับ 1 เห็นด้วย 36.99%เพราะ ปี 2560 จะมีพระราชพิธีสำคัญ ยังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ นักการเมือง พรรคการเมือง และ กกต. ได้มีเวลาเตรียมความพร้อมให้มากขึ้น ฯลฯ อันดับ 2 ไม่เห็นด้วย 32.21% เพราะอยากให้เป็นไปตามโรดแมปที่กำหนดไว้ หากเลื่อนออกไปอาจมีปัญหาต่างๆ ตามมา อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ จะได้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ฯลฯ อันดับ 3 ไม่แน่ใจ 30.80% เพราะสถานการณ์บ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับการบริหารประเทศของรัฐบาล กังวลว่าบ้านเมืองจะไม่สงบสุข สนใจเรื่องปากท้องชีวิตความเป็นอยู่มากกว่า ฯลฯ
นั่นเป็นผลสำรวจความเห็นของประชาชนล่าสุดของ "สวนดุสิตโพล" ที่เพิ่งเปิดเผยออกมา ซึ่งเป็นการสะท้อนความรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า พวกเขามีความต้องการแบบไหน อีกด้านหนึ่งยังเหมือนกับเป็นการตบหน้าพวก "นักการเมือง" บางพวก ที่ออกมากดดันให้รัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีการเลือกตั้งตามกำหนด ตามโรดแมป
ทั้งนี้ ตามกำหนดในโรดแมปจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในปลายปี 2560 หรือราวๆ เดือนธันวาคม แต่ที่ผ่านมามีเสียงท้วงติงออกมาว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวอาจไม่ทัน โดยเฉพาะความเห็นของ สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติคนที่หนึ่ง ที่ระบุว่าอาจติดเงื่อนไขในเรื่องกฎหมายลูกสำคัญ 4 ฉบับ เช่น กฎหมายเกี่ยวกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง กฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายที่เกี่ยวกับที่มาของ ส.ว. และการเลือกตั้ง ส.ส. ไม่ทันตามกำหนด
นอกจากนี้ ยังมีความเห็นตามมาว่าในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นช่วงที่จะมี "พระราชพิธีสำคัญ" คือพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เป็นช่วงที่คนไทยอยู่ในอาการโศกเศร้า ไม่สมควรที่จะมีบรรยากาศของการหาเสียงของพวกนักการเมือง สมควรเลื่อนเวลาการเลือกตั้งออกไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมามีตัวแทนพรรคการเมือง โดยเฉพาะจากพรรคเพื่อไทย ออกมาโวยวายกล่าวว่าทำนองว่า เป็นแผนยื้ออำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวมไปถึงมีการข่มขู่ถึงขั้นที่ว่า อาจมีการลุกฮือของชาวบ้านที่ไม่พอใจ
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาบุคคลที่ถือว่าทรงอำนาจมากที่สุดที่กำหนดทิศทางในบ้านเมืองนี้ ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า "ไม่เลื่อน" การเลือกตั้ง ไม่ขยายเวลาโรดแมป ทุกอย่างยังเป็นไปตามกำหนดเดิมทุกประการ ทำให้เสียงโวยวายดังกล่าวค่อยๆ เงียบเสียงลงไป
แม้ว่าในคำยืนยันดังกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นการยืนยันในหลักการ ตามกำหนดเงื่อนไขเวลาตามรัฐธรรมนูญทั้งฉบับชั่วคราวและฉบับถาวรที่เพิ่งผ่านประชามติไปเมื่อ วันที่ 7 สิงหาคม 2559 ก็ตาม อย่างไรก็ดี เขาก็มี "แต่" ปนมาด้วย นั่นคือ ทุกอย่างขึ้นอยู่การการพิจารณาของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และสภานิติบัญญัติ ว่าจะสามารถพิจารณาร่างกฎหมายลูกสำคัญทั้ง 4 ฉบับได้ทันตามกำหนดเวลาหรือไม่ ซึ่งไม่เกี่ยวกับรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
หากให้สรุปในเวลานี้ ถือว่าทุกอย่างยังเป็นไปตามโรดแมป นั่นคือ การเลือกตั้งน่าเป็นไปตามกำหนดคือ ปลายปี 2560 หากคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณากฎหมายลูกสำคัญ 4 ฉบับได้ทันเวลา
แต่สิ่งที่น่าพิจารณากันก็คือ ผลสำรวจความเห็นของชาวบ้านล่าสุดของสวนดุสิตโพล ที่ระบุว่า ยังไม่อยากให้มีการเลือกตั้งในช่วงเวลาตามโรดแมป นั่นคือไม่อยากให้เลือกตั้งในปลายปีนี้ โดยชาวบ้านต้องการให้มีการปฏิรูปแล้วค่อยจัดให้มีการเลือกตั้ง และที่สำคัญ มีความเห็นในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่จะมีพระราชพิธีสำคัญ เป็นช่วงไว้อาลัย ไม่สมควรที่จะมีการหาเสียงเลือกตั้ง
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจดังกล่าวยังเป็นเสมือนการ "ตบหน้า" พวกนักการเมืองที่มีความพยายามเร่งรัดให้มีการเลือกตั้ง เท่ากับว่า เป็นการ "สวนทาง" กับความรู้สึกของชาวบ้าน ว่ามีความต้องการไปอีกทางหนึ่ง เป็นสะท้อนให้เห็นความรู้สึกของชาวบ้านกับนักการเมืองมันยังต่างกันสุดขั้ว คนละเรื่องอย่างชัดเจน !!
http://m.manager.co.th/Politics/detail/9600000002316
บทความนี้นักการเมืองต้องอ่านค่ะ...55


((มาลาริน)) นักการเมือจะว่ายังไงคะ... ^_^ เมื่อชาวบ้านอยากปฏิรูปก่อน ยังไม่พร้อมเลือกตั้ง จากผลสำรวจโพลของสวนดุสิต..^_^
ประชาชนยังไม่รีบที่จะรับเอามาดูแลบ้านเมืองและดูแลประชาชน
ลองอ่านโพลดูค่ะ....
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง ประชาชนคิดอย่างไร ? ต่อการปฏิรูปประเทศและการเลือกตั้ง โดยได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,192 คน ระหว่างวันที่ 2-7 มกราคม 2560 สรุปผลได้ ดังนี้
1 . ประชาชนคิดว่าการปฏิรูปประเทศเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ณ วันนี้ มีความก้าวหน้ามากน้อยเพียงใด ? อันดับ 1 ค่อนข้างก้าวหน้า 35.63% เพราะมีผลงานบางอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรม เป็นการทำงานตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ตามโรดแมป มีคณะทำงานที่รับผิดชอบ ฯลฯ อันดับ 2ยังไม่ค่อยก้าวหน้า 29.81% เพราะมีปัญหาที่จะต้องปฏิรูปหลายเรื่องปัญหาสะสมมาหลายสิบปี ต้องใช้เวลาในการดำเนินการแก้ไข ฯลฯ อันดับ 3 ก้าวหน้า 17.70% เพราะนายกฯ ให้ความสำคัญ มีความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหา มีแนวทางการทำงานที่ชัดเจน ฯลฯ อันดับ 4 ไม่ก้าวหน้า 16.86% เพราะเป็นไปได้ยาก ยังไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม ยังมีความขัดแย้ง ประชาชนยังลำบาก ชีวิตความเป็นอยู่ยังไม่ดีขึ้น ฯลฯ
2. ประชาชนคิดว่า การปฏิรูปประเทศมีความเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งหรือไม่ ? อย่างไร ? อันดับ 1 เกี่ยวข้อง 71.08% เพราะการปฏิรูปประเทศช่วยให้ระบบการเลือกตั้งมีความโปร่งใส เป็นธรรม มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดการซื้อสิทธิ์ขายเสียงอาจน้อยลง ฯลฯอันดับ 2 ไม่เกี่ยวข้อง 28.92% เพราะที่ผ่านมาถึงแม้จะมีมาตรการป้องกัน แต่ก็ยังมีการทุจริต การเลือกตั้งเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของนักการเมือง ฯลฯ
3. ระหว่างการเลือกตั้งกับการปฏิรูปประเทศ ประชาชนคิดว่า รัฐบาลควรดำเนินการอย่างไร ? อันดับ 1 ปฏิรูปประเทศก่อนแล้วค่อยเลือกตั้ง 41.19% เพราะบ้านเมืองมีปัญหาหลายด้าน ควรจะแก้ปัญหาต่างๆ ให้เสร็จก่อน จะได้มีความพร้อมและไม่เกิดปัญหาขัดแย้งภายหลัง บ้านเมืองจะได้เดินหน้าอย่างมั่นคง มีเสถียรภาพ ฯลฯ อันดับ 2 เลือกตั้งก่อนแล้วค่อยปฏิรูปประเทศ 38.06% เพราะจะได้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นตัวแทนของประชาชน เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ทำให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพ ได้รับการยอมรับ ฯลฯอันดับ 3 เลือกตั้งและปฏิรูปประเทศไปพร้อมกัน 20.75% เพราะการปฏิรูปประเทศต้องใช้เวลานาน การเลือกตั้งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูป เป็นเรื่องสำคัญที่ควรทำไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้ ฯลฯ
4. ประชาชนคิดว่าสถานการณ์บ้านเมือง ณ วันนี้ พร้อมจะเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งหรือไม่ ? อันดับ 1 ยังไม่พร้อม 51.23% เพราะ ยังมีความขัดแย้ง กังวลว่าบ้านเมืองจะไม่สงบ อาจเกิดการชุมนุมเคลื่อนไหว ปัญหาการเมืองไทยแก้ไขได้ยาก สถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะที่ยังไม่พร้อม จะมีพระราชพิธีสำคัญ ฯลฯอันดับ 2 พร้อมแล้ว 48.77% เพราะ เป็นไปตามโรดแมปที่กำหนดไว้ อยากให้บ้านเมืองเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย มีการเลือกตั้งที่มาจากความต้องการของประชาชน ประชาชนตื่นตัวและให้ความสำคัญกับการเลือกตั้ง ฯลฯ
5. ประชาชนมีความคิดเห็นอย่างไร ? ถ้าการเลือกตั้งจะเลื่อนออกไปเป็นปี 2561 อันดับ 1 เห็นด้วย 36.99%เพราะ ปี 2560 จะมีพระราชพิธีสำคัญ ยังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ นักการเมือง พรรคการเมือง และ กกต. ได้มีเวลาเตรียมความพร้อมให้มากขึ้น ฯลฯ อันดับ 2 ไม่เห็นด้วย 32.21% เพราะอยากให้เป็นไปตามโรดแมปที่กำหนดไว้ หากเลื่อนออกไปอาจมีปัญหาต่างๆ ตามมา อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ จะได้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ฯลฯ อันดับ 3 ไม่แน่ใจ 30.80% เพราะสถานการณ์บ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับการบริหารประเทศของรัฐบาล กังวลว่าบ้านเมืองจะไม่สงบสุข สนใจเรื่องปากท้องชีวิตความเป็นอยู่มากกว่า ฯลฯ
นั่นเป็นผลสำรวจความเห็นของประชาชนล่าสุดของ "สวนดุสิตโพล" ที่เพิ่งเปิดเผยออกมา ซึ่งเป็นการสะท้อนความรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า พวกเขามีความต้องการแบบไหน อีกด้านหนึ่งยังเหมือนกับเป็นการตบหน้าพวก "นักการเมือง" บางพวก ที่ออกมากดดันให้รัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีการเลือกตั้งตามกำหนด ตามโรดแมป
ทั้งนี้ ตามกำหนดในโรดแมปจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในปลายปี 2560 หรือราวๆ เดือนธันวาคม แต่ที่ผ่านมามีเสียงท้วงติงออกมาว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวอาจไม่ทัน โดยเฉพาะความเห็นของ สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติคนที่หนึ่ง ที่ระบุว่าอาจติดเงื่อนไขในเรื่องกฎหมายลูกสำคัญ 4 ฉบับ เช่น กฎหมายเกี่ยวกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง กฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายที่เกี่ยวกับที่มาของ ส.ว. และการเลือกตั้ง ส.ส. ไม่ทันตามกำหนด
นอกจากนี้ ยังมีความเห็นตามมาว่าในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นช่วงที่จะมี "พระราชพิธีสำคัญ" คือพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เป็นช่วงที่คนไทยอยู่ในอาการโศกเศร้า ไม่สมควรที่จะมีบรรยากาศของการหาเสียงของพวกนักการเมือง สมควรเลื่อนเวลาการเลือกตั้งออกไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมามีตัวแทนพรรคการเมือง โดยเฉพาะจากพรรคเพื่อไทย ออกมาโวยวายกล่าวว่าทำนองว่า เป็นแผนยื้ออำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวมไปถึงมีการข่มขู่ถึงขั้นที่ว่า อาจมีการลุกฮือของชาวบ้านที่ไม่พอใจ
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาบุคคลที่ถือว่าทรงอำนาจมากที่สุดที่กำหนดทิศทางในบ้านเมืองนี้ ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า "ไม่เลื่อน" การเลือกตั้ง ไม่ขยายเวลาโรดแมป ทุกอย่างยังเป็นไปตามกำหนดเดิมทุกประการ ทำให้เสียงโวยวายดังกล่าวค่อยๆ เงียบเสียงลงไป
แม้ว่าในคำยืนยันดังกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นการยืนยันในหลักการ ตามกำหนดเงื่อนไขเวลาตามรัฐธรรมนูญทั้งฉบับชั่วคราวและฉบับถาวรที่เพิ่งผ่านประชามติไปเมื่อ วันที่ 7 สิงหาคม 2559 ก็ตาม อย่างไรก็ดี เขาก็มี "แต่" ปนมาด้วย นั่นคือ ทุกอย่างขึ้นอยู่การการพิจารณาของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และสภานิติบัญญัติ ว่าจะสามารถพิจารณาร่างกฎหมายลูกสำคัญทั้ง 4 ฉบับได้ทันตามกำหนดเวลาหรือไม่ ซึ่งไม่เกี่ยวกับรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
หากให้สรุปในเวลานี้ ถือว่าทุกอย่างยังเป็นไปตามโรดแมป นั่นคือ การเลือกตั้งน่าเป็นไปตามกำหนดคือ ปลายปี 2560 หากคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณากฎหมายลูกสำคัญ 4 ฉบับได้ทันเวลา
แต่สิ่งที่น่าพิจารณากันก็คือ ผลสำรวจความเห็นของชาวบ้านล่าสุดของสวนดุสิตโพล ที่ระบุว่า ยังไม่อยากให้มีการเลือกตั้งในช่วงเวลาตามโรดแมป นั่นคือไม่อยากให้เลือกตั้งในปลายปีนี้ โดยชาวบ้านต้องการให้มีการปฏิรูปแล้วค่อยจัดให้มีการเลือกตั้ง และที่สำคัญ มีความเห็นในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่จะมีพระราชพิธีสำคัญ เป็นช่วงไว้อาลัย ไม่สมควรที่จะมีการหาเสียงเลือกตั้ง
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจดังกล่าวยังเป็นเสมือนการ "ตบหน้า" พวกนักการเมืองที่มีความพยายามเร่งรัดให้มีการเลือกตั้ง เท่ากับว่า เป็นการ "สวนทาง" กับความรู้สึกของชาวบ้าน ว่ามีความต้องการไปอีกทางหนึ่ง เป็นสะท้อนให้เห็นความรู้สึกของชาวบ้านกับนักการเมืองมันยังต่างกันสุดขั้ว คนละเรื่องอย่างชัดเจน !!
http://m.manager.co.th/Politics/detail/9600000002316
บทความนี้นักการเมืองต้องอ่านค่ะ...55