[CR] [Review] : นั่งรถไฟไปปีนัง เมืองชิคๆ ที่ใครๆก็เที่ยวได้ชิวๆ สบายกระเป๋าตัง อิอิ

สวัสดีคร้าบบชาวพันทิปที่น่ารักทู๊กคนนน นี่เป็นกระทู้แรกของเค้าเลย อยากมาแชร์การเดินทางไปต่างแดนด้วยตัวเองครั้งแรก โดยเป็นช่วงปิดเทอมเล็ก หลังปีใหม่ อยากหนีไปผ่อนคลายบ้าง เพราะช่วงปี 3 เทอมแรก เรียนมาอย่างหนัก เลยถือโอกาสช่วงเวลาที่ปิดไปลองดูสักครั้ง ลุยโล้ดด ตอนแรกก็กลัวๆนะ เพราะเราต้องไปลุยเอง ไม่พึ่งทัวร์ใดๆ ทั้งสิ้น 555+ พอตกลงกับเพื่อนได้ เลือกว่าจะไปที่ "รัฐปีนัง" เพราะสถานที่น่าหลงไหล และเดินทางจากหาดใหญ่สะดวกมว๊ากๆๆ อิอิ ก็เลยหาข้อมูล จองที่พัก และก็แลกเงินนนน โชคเข้าช้างเรามากๆๆ เพราะช่วงที่เราไป ค่าเงินริงกิตอ่อนตัวลง  ริงกิต เท่ากับ 7.96 บาทเอง  โอ้ยแบบนี้ฟินกระจายยย โดยรีวิวครั้งนี้ อาจไปได้ไม่ครบแลนมารค์ทั้งหมดในเมืองปีนังน้า แต่อยากมาแชร์การเดินทาง การนอน การท่องเที่ยวแบบรวมๆมากกว่า จะได้เห็นภาพ และสร้างแรงบันดาลใจ ในการออกท่องเที่ยวของเพื่อนๆบ้างง

ปล.ต้องขออภัยก่อนเลยน้า ภาพในทริปนี้อาจไม่สวยนะ เพราะเราใช้แค่กล้องมือถือธรรมดาถ่ายมา เอาเป็นว่า ไปครั้งหน้าจะแบกกล้องไปน้า

อ่ะเริ่มมมเดินทางไปด้วยกันนนน

#วันแรกของการเดินทาง [05/01/2016]
   เช้าวันนึ้อากาศเป็นใจฝนไม่ตก ผมเริ่มออกเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่ ทริปนี้ผมเลือกเดินทางไปด้วยรถไฟเพราะราคาถูกใจและสนุกกว่ารถตู้ (ความคิดเห็นผมนะค้าบ) โดยการเดินไปปีนังทางรถไฟจะแบ่งเป็น 3 ตอนนะคับ ตอนที่ 1 คือเดินทางจากหาดใหญ่ไปปาดังเบซาร์ ราคาตั๋ว 70 บาทค้าบ รถเที่ยวแรกออกจากสถานีชุมทางหาดใหญ่เวลา 07.30 ผมมาซื้อตั๋วรถไฟที่ชุมทางหาดใหญ่ ปกติจะขายตั้งแต่ 6 โมงเช้าของวันที่จะเดินทาง (ปล.เอาบัตรประชาชนมาด้วยนะคับ) พอได้ตั๋วแล้วก้อเดินหาไรกินเล่นรอเวลา 7.30 น. สักประมาณ 7.15 น. รถไฟก็เข้าสู่ชานชาลา ก็เลยขึ้นมานั่งรอที่บนรถ พอ 7.30 น.ปุ๊ป รถออกแล้ววว เย่ๆๆ จุดพลุ ฮ่าๆ โดยปกติจะไม่ใช่ตู้แบบนี้ คุณลุงเจ้าหน้าที่บอกว่าตู้เสียเลยต้องใช้ตู้เก่าไปก่อน ว๊าแย่จัง (ไว้ไปใหม่ก็ได้ ^^) นั่งรถมาก็ดูข้างทางไปเรื่อย จนในที่สุดก็มาถึงที่ปาดังเบซาร์แล้ววว ประมาณ 45 - 55 นาที อย่าเพิ่งลงก่อน เราก็นั่งหล่อๆไปก่อน เอิ๊กๆๆ หลังจากนั้นรถก็จะมาส่งที่ฝั่งมาเลย์เซีย เราก็เอาของทั้งหมดลง เผื่อทำเรื่องเข้ามาเลย์เซีย จบตอนที่ 1








การเดินทางตอนที่ 2 พอลงรถไฟไทยเสร็จ ก็รีบมากกลัวไม่ทันรถไฟตอน 9 โมงไทย (อ่านจากอินเตอร์เน็ตมา) เลยรีบเขียนใบ boarding pass ทั้งขาเข้าและขาออก ส่งให้กับ ต.ม.ไทย พร้อมกับพาสปอต และผ่านการตรวจจาก ต.ม. มาเลย์เซีย ก็ยื่นพาสปอตไปให้ สแกนนิ้วชี้สองข้างก็เสร็จแล้ว โชคดีตอนไหนคนไม่เยอะ เลยแปปเดียว



เข้าแถวเพื่อยื่นเอกสารเพื่อให้ ต.ม. ตรวจสอบ

พอเสร็จแล้วก้อเดินขึ้นมาชั้น 2 ซื้อตั๋วรถไฟเพื่อเดินทางไปบัตเตอร์เวอร์ธ ผมมารถไฟ KTM ราคา 11.4 ริงกิต พอดูเวลาอ้าว 10.33 ที่นี้ คือประมาณ 9.33 บ้านเรา งั้นก็นั่งชิวๆๆ รอเวลา คริๆๆ ระหว่างรอก็เข้าห้องน้ำ ปรับเวลาให้เรียบร้อยจะได้ไม่งง พอประมาณ 10.30 รถไฟก็มาถึง เราอย่าเพิ่งขึ้นรอคนลงให้หมดก่อน เพราะที่นี้คือสถานี้ปลายทางของเค้า และสายของเราาา





พอคนหมดก็ตาเราล่ะ ขึ้นไปเลือกที่นั่งเหมาะๆ ให้สบายเอาที่ชอบ เพราะนั่งไปประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง นี่คือลักษณะภายในรถไฟคับ
พอถึงเวลารถก็ออกเดินทาง นั่งดูสองข้างทางไปเรื่อย (ใครกลัวเบื่อโหลดนั่งมาดูเล้ย ) สองข้างทางก็คล้ายๆบ้านเราเลย คือเป็นทุ่งนาป่าเขาลำเนาไพร เค้าก็นั่งไป หลับไป ดูข้างทางไป ส่องไป โอ๊ะไม่ใช่ล่ะ ฮ่าๆ

สักพักก็มาถึงสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ ตัวสถานีดูดี สะอาด อารมณ์ รถไฟฟ้าแอร์พอตเรียลลิ้งค์บ้านเรา
อ้อลืมย้ำ อย่าเพิ่งทิ้งตั๋วนะ เพราะเค้าจะเก็บตอนออกจากสถานี อิอิ ต่อๆๆ พอลงรถแล้ว ก็ให้ขึ้นไปชั้นบน จะมีทางออกไปยังท่าเรือ มีพี่พนักงานเก็บตั๋วอยู่ก็แค่ยื่นให้ ก็เดินออกไป แล้วลงมาข้างล่างมุ่งหน้าเพื่อไปขึ้นเรือต่อไปป จบแล้วการเดินทางตอนที่ 2 ค้าบบบ


การเดินทางตอนที่ 3 ขึ้นเรือออเฟอรี่
   เดินตามป้ายมาเรื่อยๆ ก็มาถึงที่ท่าเรือ ก็จะต้องแลกเหรียญ เพื่อหยอดจ่ายค่าเรือ 1.2 ริงกิต ให้ใช้เหรียญอย่างเดียวน้า เดินเข้าไป โอ๊ะ เรือยังไม่เทียบท่า เลยต้องยืนรอพักนึง เรือก็มาเทียบ พอรถและคนที่โดยสารมาลงหมด ก็ตาเราแล้ว เดินขึ้นไป
โอ้ยคือรีบมาก เพราะจากที่อ่านๆมา ต้องไปสร้างแลนมาร์คที่หัวเรือเลยยย เพราะวิวจะสวยที่ที่สู้ดด และในที่สุดก็เป็นของเรา วิวสวยจริงๆ  รูปประมาณนี้เล้ยยย
สักพักเรือก็ค่อยๆออก ช้าๆไปเรื่อยๆ ประมาณสามสิบนาที พอลงปุ๊ปถึงล้าวรัฐปีนังงง จุดพลุ เย้ๆๆๆ

แต่!!!!!! ไปไหนต่อ 555 เอาแล้วชีวิตในการผจญภัยเริ่มแล้วว สนุกล่ะ จบการเดินทางตอนที่ 3

พอมาถึงแล้วก็เดินมุ่งหน้า ไปยังที่พัก ตอนนี้เวลาที่นี้ประมาณบ่ายโมง ยี่สิบนาที ที่พักได้จองผ่าน traveloga ล่วงหน้ามาล่ะ เป็นห้องพักแบบ ห้องคู่ ที่ Red inn heritage คืนล่ะ 170 บาทต่อคืนต่อคน จากท่าเรือมาก็ประมาณ 700 เมตร เดินตาม gps ไปเรื่อยๆ (ดีนะที่เพื่อนเชี่ยวชาญการใช้ GPS) เดินสักพักก็เจอที่พักล่ะ แค่ 700 เมตรแต่ว่าเหมือยสองกิโลทั้งไกลทั้งร้อนในความรู้สึกตอนนั้น แต่เดินไปเดินมาก็แปปเดียว คือระวังหน่อยเพราะรถค่อยข้างเยอะและซอยแคป ในที่สุดก็มาถึงที่พักแล้วววว เย้ จุดพลุ 555 หลังจากเข้าออกผิดซอยบ้าง เลี้ยวผิดบ้าง อายจุง (ก็ครั้งแรกนิ เนอะๆๆ) พอเสร็จก็เช็คอิน ตอนนั้นประมาณบ่ายโมง ห้าสิบล่ะ (อิอิ จริงๆเช็คได้บ่ายสอง พี่เค้าใจดี) พอเสร็จก็ส่งเอกสารการจองที่ปริ้นมาจากเว็บให้ไป แล้วก็มีจ่ายเงิน ค่าธรรมเนียม 2 ริงกิตต่อการคืน ต่อห้อง/เตียง และค่ามัดจำอีก 50 ริงกิต (ตอนแรกฟังไม่ดีเราล่ะตกใจหนักมกเพราะ ในใจนึกว่าค่าที่พักก็จ่ายมาแล้ว ไรอีกเนี่ย ตั้ง 54 ริงกิต พอถามอ้อออค่ามัดจำกุญแจด้วย ยังไงแลกเผื่อมาด้วยนะ เค้าจะคืนตอนเราเช็คเอ้าคืนกุญแจ ส่วนค่าธรรมเนียมก็ไม่ได้คืน คิคิ) เสร็จแล้วพี่เค้าก็พามาที่ห้องและให้กุญแจเรา ห้องถือว่าโอเคม้สกมากกกกก สวยใหม่ สบาย ชอบๆๆ อิอิ ห้องอาบน้ำอยู่ในห้อง ส่วนเป็นห้องน้ำเป็นห้องรวมอยู่ด้านนอก ไม่ได้น่ากลัวอะไร สะอาดดีเลยย อ้อเค้ามีผ้าเช็ดตัวให้ด้วย แต่ต้องไปขอที่ล้อบบี้ รีบๆไปขอนะค่ำๆอาจหมด คิคิ (เค้าได้ผืนสุดท้ายยย) พี่เค้าบอกว่ามีอาหารเช้าด้วย ในใจโห!!! มีอาหารเช้าด้วย ดีจุงเบยย เสร็จก็เข้าห้องจัดของนิดหน่อย ก่อนออกท่องโลกกกกปีนังงงง เย้ๆๆ (อ่ออ ที่นี้ฟรี wifi นะ ห้องเค้าถึงนะ เร็วด้วย แต่แปลกหน่อยไม่รุคิดไปเองป่าวที่นี้เนตโหลดเร็วดีนะ แต่อัพขึ้นช้าหน่อย อาจอิคไปเอง ฮ่าๆ )


บรรยากาศในห้องพัก
ห้องอาบน้ำภายในห้องพักค้าบบบบ

ขอบคุณนะค้าบที่อ่านมาถึงตรงนี้ ติชมกันได้เลยนะคับ อิอิ

แล้วจะมาต่อนะค้าบบบ แล้วไปท่องโลกปีนังพร้อมกันนะค้าบบบ