Darjeeling - Sikkim, INDIA

"ดาร์จิลิ่ง-สิกขิม-หิมาลัย" ได้ยินชื่อเธอมาเนิ่นนาน ผ่านสายตาจากภาพถ่ายและตัวหนังสือ และวันนี้เราก็ได้เดินทางไปหาเธอ
ยิ่งออกเดินทาง...สิ่งที่เคยคิดว่ารู้ แท้จริงแล้วเราไม่เคยรู้อะไรเลย อินเดียประเทศที่เราไม่กล้าจะเอ่ยคำว่า "รู้" เพราะเราเป็นเพียงผู้ผ่านทางไป 3 ครั้ง 3 ทิศ (ตะวันตก,เหนือ, ใต้) แต่ละที่ช่างแตกต่างกันมากมาย ช่วงเวลาที่เดินทางมีหลายสิ่งเกิดขึ้นระหว่างเส้นทาง ที่ไม่อาจลืมเลือน เราชอบที่จะเก็บเกี่ยวความทรงจำระหว่างทางมากกว่าจะมุ่งหาปลายทางอย่างเดียว
"แล้วฉันจะคิดถึงคุณนะ darjeeling sikkim"
เวลาที่อินเดียช้ากว่าไทย  1.30  ชั่วโมง  ใช้เงินรูปี  
การเดินทางไปสิกขิมเราต้องขอวีซ่าเข้าอินเดียก่อน แล้วขอ permit เข้าสิกขิมอีกครั้ง เพราะที่นี่เป็นเขตปกครองพิเศษ ชายแดนติดเนปาล ทิเบตและภูฎาน  เอกสารอัพเดทที่ต้องใช้ยื่นขอวีซ๋า ให้เข้าไปดูที่เวปนี้ เซ็นรับรองสำเนาเฉพาะบัตรประชาชนอย่างเดียว (ด้วยปากกาหมึกดำ) http://www.indiavisathai.com/
แล้วเข้าไปกรอกข้อมูลส่วนตัวที่ลิงค์นี้ https://indianvisaonline.gov.in/visa/index.html เมื่อกรอกข้อมูลทุกอย่างครบ เตรียมเอกสารครบก็ไปยื่นขอวีซ่า

ทริปนี้เรากับเพื่อนวางแผนกันข้ามปี เพื่อเก็บเงินเดินทางและจองตั๋วเครื่องบินในราคาถูก
วันที่ 25  พย. - 5 ธค. 2559 ก็ได้เดินทางไปสัมผัสความงดงามของสถานที่และผู้คน ณ ดินแดนแห่งนี้  
ที่นี่มัน Cool จริง ๆ ทั้งสถานที่และผู้คน


Fri 25 : BKK - Kolkata
15.45 ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดย Indigo airlines ไปลงที่สนามบิน Kolkata ,India
22.05 ออกเดินทางด้วยรถไฟ ที่สถานี Sealdah station ขบวน Darjeeling Mail (12343 UP)
โกลกาต้า เมืองแห่งความชุลมุนวุ่นวาย จากสนามบินกว่าจะถึงสถานีรถไฟใช้เวลามากกว่า 1 ชม. ดินเนอร์มาม่าที่ชานชลา พกดอลล่าร์ไปแลกเงินรูปีไม่ได้ ตอนนี้อินเดียยกเลิกแบงค์ 500,1000 มีปัญหาทั้งคนอินเดียและนักท่องเที่ยวในการแลกเงินรูปี  พวกเรามี รูปีนิดหน่อยแค่ค่าแท็กซี่มาสนามบิน ไม่มีเงินพอที่จะซื้ออาหาร ต้องกินมาม่าที่พกไป

9.00 เดินทางถึง New Jalpaiguri รถไฟช้าไป 1 ชม. (ตามเวลาเดิมต้องถึงแปดโมงเช้า) พวกเราติตต่อไกด์แลนด์ที่อินเดีย เนื่องจากสัมภาระเยอะกันมากมาย ทริปนี้ไปกัน 8 คน ก็คิดว่าหาร ๆ เฉลี่ยค่ารถกันได้
หลังจากนั้นก็ออกเดินทางไป Darjeeling ระหว่างทางผ่านไร่ชาแบบพื้นราบ แถวเมือง Kurseong ตลอดเส้นทางมีรถไฟเลียบไปกับถนน เจอตลาดที่ขายของบนรางรถไฟด้วย  ตลาดเล็ก ๆ วางขายกันบนทางรถไฟเหมือนตลาดหุบร่มบ้านเราเลย มีทั้งผัก ผลไม้และเสื้อผ้า
ภาพนี้ระหว่างเส้นทางจากเมือง Siliguri ไปดาร์จิริ่ง รางรถไฟที่ขนานถนนไปตลอดเส้นทาง บางจุดอยู่สูงกว่ารถ บางจุดก็อยู่ระดับเดียวกับรถยนต์
จากเมือง Siliguri ไป Darjeeling ถ้าไม่เดินทางด้วยรถยนต์ก็มีรถไฟเป็นอีกทางเลือก ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะวันรอบเดียว ช่วงเช้า
อากาศเปลี่ยนตลอดเวลา เช้าฟ้าใส แต่พอบ่ายหมอกปกคลุมเต็มไปหมด
16.00 เดินทางถึง Darjeeling  วันแรก งง กันเไปเลยค่ะ มืดเร็วมาก ห้าโมงเย็นกว่า ๆ ก็มืดตี๋อ ออกมากินข้าวแล้วก็เดินเล่นกันนิดหน่อย ขอกลับไปนอนก่อนค่ะ หนาวมาก และง่วงมากด้วย บนรถไฟนอนไม่ค่อยหลับเลย
ผลไม้ในตลาด เป็นตัวช่วยที่ดีมาก ๆ ยามที่เราเอียนอาหารอินเดียอย่างที่สุด หลายมื้อหลายวันมันก็ไม่ไหวเหมือนกันนะนายจ๋า ^__^
ส่วนอันนี้จานใส่อาหาร ทำจากใบไม้อัดเข้ารูป ชอบมากเลย เจ๋งดี  ในจานคือ momo คล้าย ๆ เกี๊ยวนึ่ง มีใส่ไก่หรือเนื้อ ให้เลือก

Sun 27 : วันนี้เที่ยวอยู่ในเมือง Darjeeling  ทั้งวัน
ไป Batasia Loop, Ghoom Monastery, Dajeeling Ropeway และ The Himalayan Zoo แนะนำว่าห้ามพลาดที่นี่เราจะเห็นสัตว์จากแถบหิมาลัย เช่น แพนด้าแดง
Ghoom Monastery เป็นวัดเดียวในดาร์จิริ่งที่ให้ถ่ายรูปด้านในได้
แลกคูปอง RS 100 เป็นค่ากล้อง แต่เงินนี้ก็เหมือนเราร่วมทำบุญกับทางวัดล่ะ ระหว่างชมลามะก็ยืนคุมตลอด ๆ
Toy Train on Batasia Loop, Darjeeling (Darjeeling Himalayan Railway)
รถไฟไอน้ำที่ยังให้บริการนักท่องเที่ยวในเมืองดาร์จิลิ่ง
มีสลับวิ่งระหว่างรถไฟไอน้ำกับดีเซล จอดให้นักท่องเที่ยวได้ลงถ่ายรูปที่ Batasia Loop ถ้าอากาศเปิด ด้านท้ายขบวนในภาพก็จะเห็น Kanchenjunga Mt.
The Himalayan Zoo แนะนำว่าห้ามพลาดที่นี่เราจะเห็นสัตว์จากแถบหิมาลัย เช่น แพนด้าแดง, เสือดาวหิมะ (Snow Leopard) และบรรดาสัตว์อื่น ๆ อีกหลายชนิดที่อาศัยอยู่พื้นที่ระดับสูงกว่า 3,000

Mon 28 : Darjeeling - Manay Bhanjang
เดินทางไป Singalila National Park เป็นอุทยานแห่งชาติที่เราจะขึ้นไปเที่ยว ต้องติดต่อที่จุดบริการนักท่องเที่ยวจะมีรถจี๊บบริการให้เราค่ะ
คืนนี้เราจะไปนอนกันที่ Tonglu Trekkers' Hut  สูงประมาณ 3,070 m.
ระหว่างการเดินทางตอนเช้าอากาศดีมากฟ้าเปิด พอตกบ่ายหมอกเต็ม มาพร้อมฝนปรอย ที่พักสำหรับคืนนี้ไม่มีน้ำร้อน ไม่มีฮีตเตอร์ ใครจะไปนอนก็เตรียมอุปกรณ์กันหนาวกันให้ดี เพราะมันหนาวมากถึงมากที่สุด ช่วงนี้หิมะคงตกขาวเต็มพื้นที่แล้ว
ตอนเรามาถึงที่พัก ฟ้าปิดพร้อมฝนปรอย ออกไปไหนไม่ได้ อากาศก็หนาวมาก แต่พอพระอาทิตย์ใกล้ตก มองออกไปด้านนอก เห็นท้องฟ้าแล้วต้องยอมฝ่าลมหนาวและฝนออกไป ท้องฟ้ายามพระอาทิตย์กำลังจะตกสวยมากกกกกก
ผ่านค่ำคืนที่แสนหนาว เช้าวันรุ่งขึ้นฟ้าก็เปิดให้พวกเราได้ชื่นชมความงามของแนวหิมาลัย
"The Sleeping Buddha" เราถามไกด์ทำไมถึงเรียกชื่อนี้ ก็ได้รับคำตอบมาว่า ลักษณะเหมือนพระพุทธเจ้านอนหลับ ในภาพแนวขาว ๆ นำภาพนี้ล่ะ ด้านซ้ายในภาพคือส่วนหัว กับลำตัวที่นอนทอดยาว

Singalila National Park
ที่เห็นเป็นเส้นเล็ก ๆ ในภาพคือทาง ที่หาเรียบไม่มี ตลอดเส้นทางปูด้วยหินก้อนใหญ่ เส้นทางนี้ดูเหมือนจะเป็นที่นิยมของ Trekking กันมาก ระหว่างที่นั่งรถผ่านเจอตลอดเส้นทาง รถพาลัดเลาะเขาไปเรื่อย ๆ ตลอดเส้นทางกว่า 30 กม. บางช่วงก็เข้าเขตประเทศเนปาล
การเดินทางไป Tonglu – Sandakphu ถ้าไม่เดินด้วยเท้า ก็ต้องจ้างรถจี๊บให้ขึ้นไปส่ง จะมีจุดบริการอยู่ที่ปากทางในเมือง

View from Sandakphu
(highest point in West Bengal at 3,636 m)
ที่นี่สามารถมองเห็น Everest, Kangchenjunga, Lhotse ,Makalu and Three Sisters peaks ภาพจริงที่เห็นด้วยสายตาสวยกว่านี้มาก
Praying flags :  Green = nature / Yellow = fire / Red = protection / White = peace / Blue = sky
ถ้าเดินทางไปดาร์จิรี่งและสิกขิม เมื่อผ่านสะพาน น้ำ หรือพื้นที่เปิด ๆ ที่สายลมพัดผ่าน จะเห็นธงแขวนไว้มีทั้งเก่าและใหม่ จากที่ถามไกด์ได้คำตอบว่า ถ้าธงราว 5 สีจะเป็นการสวดมนต์ขอพรในสิ่งที่ดีดี จะนำไปแขวนไว้ที่โปร่งมีกระแสลมพัดพาให้พรที่ขอสัมฤทธิ์ผล
ส่วนธงที่ยาว ๆ สีขาวปักไม้ตามข้างทาง สำหรับญาติที่เสียชีวิต
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่