กลับมาพบกันอีกครั้งนะครับคุณผู้อ่านที่เคารพ ครั้งที่แล้าผมได้พาทุกท่านไปเที่ยว Barcelona กันแล้ว ท่านใดที่เพิ่งเข้ามาสามารถติดตามได้ที่กระทู้นี้เลยครับ
https://pantip.com/topic/35982052
วันที่ 23 ธันวาคม หลังจากตื่นนอนมาตั้งแต่ไก่โห่ (ไม่ได้ยินเสียงไก่หรอกครับ แหม่ อยู่กลางเมืองซะขนาดนั้น) ผมตื่นนอนตอนเวลาประมาณหกโมงเช้าครับ เพื่อที่จะเตรียมตัว เก็บข้าวของที่เหลือ และไปขึ้นรถไฟตอนแปดโมงเช้า ไปเมืองอีกเมืองที่มีชื่อว่า Granada ครับ
*เมื่อวันก่อนเพิ่งไปดู Assassin's Creed มา settings เค้าอยู่ที่ Granada ซะด้วย
เดินทางมาถึงสถานีรถไฟ Barcelona Sants ตอนเจ็ดโมงเช้า ก็จัดแจงไปถามที่ช่องขายตั๋ว ว่า "ยู ไอมีตั๋ว Pass อยู่แล้วนะ ยูช่วยออกใบจองมาให้หน่อยได้มั้ย"
*ขอเสริมนิดนึงครับ ตั๋วที่ปมใช้นั้น เรียกว่า EURails เป็นตั๋วที่ทำให้ผมสามารถขึ้นรถไฟได้ทั้งวัน โดยไม่ต้องซื้อตั๋วครับ ซึ่งของผมที่ซื้อมา เป็นตั๋วที่สามารถใช้ได้สามวันในหนึ่งเดือนครับ ผมกะจะใช้ Barcalona-Granada, Granada-Madrid, Madrid-Barcelona ครับ ราคาอยู่ที่ 149 ยูโร หรือ ประมาณ 6,000 บาทครับ
ข้อมูลเพิ่มเติมฬ
http://www.eurail.com/
**รถไฟระยะไกลในยุโรปบางประเทศใช้ระบบจองที่นั่งครับ อย่างเช่น อิตาลี สเปน ฝรั่งเศส บ้างก็ไม่จำเป็นต้องจอง แต่เปิดให้จองได้ครับ เช่น เยอรมนี สวิสเซอร์แลนด์ (สำหรับชั้นสองนะครับ ชั้นหนึ่งยังไงก็ต้องจองทุกคน) แบบแรก ทุกคนจะมีที่นั่งครับ ถ้าเต็มก็จองเพิ่ม หรือซื้อตั๋วไม่ได้ แบบที่สองถ้าเป็นสายที่ยุ่งๆหน่อย จะเห็นคนนั่งตามทางเดินเยอะแยะไปหมดครับ
ต่อกันเลยครับ
หลังจากที่ผมไปขอจองที่นั่ง พี่คนขายตั๋วก็โยนตั๋วของผมคืน แล้วบอกเป็นภาษาอังกฤษปนภาษาสเปนว่า เต็มทุกรอบครับ เต็มจนถึงปีใหม่เลย เพราะเป็นช่วง "Navidad" หรือคริสมาสนั่นแหละครับ
ได้ยินแบบนี้ และเจอมารยาทของพนักงานแบบนี้ ผมอึ้งครับ เลยออกมาจากช่องขายตั๋ว แล้วนั่งสงบสติตัวเอง พอใจเย็นลงก็นั่งคิดว่าจะทำไงต่อดี เพราะเหตุนี้จะทำให้ผมอาจจะต้องเปลี่ยนแผนการเที่ยวใหม่ทั้งหมดครับ จากที่จะไป Granada เลยต้องตัดเมืองนี้ไป
ผมก็ลองไปกดๆดูตั๋วที่ตู้ขายก่อนครับ ว่าจะทำยังไงดี สุดท้าย เห็นว่า รถไฟที่ไป Madrid มีหลายเที่ยว และยังว่าอยู่เยอะ เลยตัดสินใจ เปลี่ยนไป มาดริดแทน
และตัดสินใจ ส่งข้อความบอกเจ้าของบ้านที่เมือง Granada ว่า "ยู ไอขอโทษนะ ไอคงจะไปเมืองยูไม่ได้แล้ว เพราะทั้งระยะเวลาของทริปไอ ไอหาตั๋วไปเมืองยูไม่ได้เลย ไม่เป็นไร ไอจองห้องไปแล้ว เดี๋ยวไอจ่ายให้หมด" แล้วก็ส่งอีกข้อความว่า "ยู ห้องยูว่างรึเปล่า ไออาจจะไปที่ Madrid เร็วกว่าเดิมสองวัน" ไปหาเจ้าของบ้านที่ Madrid ครับ (ตามแผนเดิม ผมจะไปเมืองมาดริดวันที่ 25 ธันวาครับ) เจ้าของบ้านที่ Madrid ตอบมาอย่างรวดเร็วว่า "ว่าง! ยูมาได้เลย"
เอาหล่ะ ค่อยหายใจโล่งคอหน่อย ดีนะที่เรามาคนเดียว ตัดสินใจอะไรก็รวดเร็ว ผมก็ไปที่เคาน์เตอร์ขายตั๋วอีกครั้ง บอกกับคนขายว่า "ยู ไปมาดริดแทน มีตั๋วใช่มั้ย" คนขายเหมือนจะดูปฏิบัติกับผมดีขึ้น บอกผมว่า "มี ยูขึ้นรอบเที่ยงละกันนะ ไม่ต้องรีบร้อน" ผมก็ตกลง และจ่ายเงินค่าจองตั๋วไปครับ
*ผมไปลองๆส่องดูราคาของตั๋วไปมาดริด ราคาตั๋วประมาณ 70-100 ยูโรเลยครับ EURails นี่ซื้อมาใช้คุ้มจริงๆ
เสร็จเรื่องตั๋วเดินทาง ก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าหิวมาก เพราะยังไม่ได้ทานอาหารเช้า บวกกับความเครียด ทำให้ลืมความหิวไป พอแก้ปัญหาได้ ทั้งหิวข้าว หิวน้ำ ปวดท้องเข้าห้องน้ำ มาพร้อมกันหมดเลยครับ
พอทานอาหารเช้าที่ร้าน local ที่สุดที่ผมจะหาได้ (McDonal's) ก็ไปนั่งจิบกาแฟ รอเวลาชิวๆที่ในสถานีครับ พอเวลาประมาณ 11 โมงหน่อยๆ ผมก็ไปเข้าช่องผู้โดยสารขาออกครับ (รถไฟทางไกลของประเทศนี้ ต้องมีการเช็คตั๋ว ตรวจกระเป๋า เหมือนสนามบินเลยครับ คนที่เคยขึ้นรถไฟที่เยอรมนีอาจจะไม่ค่อยชินเท่าไหร่)
เสร็จเรียบร้อยก็รอรถไฟมา พอได้ขึ้นรถไฟ ก็หาที่นั่งของตัวเอง จัดแจงเก็บสัมภาระ แล้วก็หลับยาวครับ รถไฟใช้เวลาวิ่งประมาณสามชั่วโมงก็ถึงมาดริดครับ
เมืองมาดริดนั้น ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากบาร์เซโลน่าอย่างมากเลยครับ ท่านจะเห็นตึกที่มีลักษณะดูเป็นทางการ เพราะเป็นเมืองหลวงของประเทศสเปนครับ แต่ส่วนของเมืองจะเล็กกว่าบาร์เซโลน่าเยอะครับ

วันนี้เหนื่อยมากแล้ว ทั้งเรื่องที่ต้องทำเกี่ยวกับตั๋ว และนั่งรถไฟนานอีก ผมพอได้เข้าบ้าน ก็ไม่ทำอะไรทั้งนั้นครับ หลับเป็นตายไปเลย
เช้าวันที่สองของในเมืองนี้ ผมตัดสินใจว่าจะเดินไปชมดูรอบๆที่ๆผมอยู่นิดหน่อย เดินไปเรื่อยๆ ตามแผนที่ที่เจ้าของบ้านให้มา ก็มาเจอสวนใหญ่ๆสวนนึง สวนนี้บรรยากาศร่มรื่นมากๆครับ เลยเดินหลงไปหลงมา ออกมาจากสวนอีกทีก็เกือบเย็นเลย วันที่สองเลยใช้ไปไม่ค่อยมีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ แต่ก็ได้รูปสวยๆมาครับ
คืนของวันนั้น ผมก็ส่งข้อความไปหาเพื่อนคนสเปนที่ช่วยผมวางแผนเที่ยว ว่าอยู่มาดริดแล้ว ไม่ได้ไปกรานาดา เค้าก็ไม่ค่อยสงสัยอะไรเท่าไหร่ เพราะว่าช่วงเทศการ คนจะเดินทางโดยใช้รถไฟกันเยอะ เค้าก็แนะนำว่า พรุ่งนี้วันคริสมาส เดินดูสิ่งปลุกสร้างที่ไม่จำเป็นต้องเข้าไปดูก็ได้ สาเหตุก็คือ ร้านค้า ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์อะไรจะปิดเกือบหมดครับ วันคริสมาสสำหรับคนต่างถิ่นอาจจะใช้ชีวิตยากนิดนึง เพื่อนผมเลยชวนไปกินข้าวที่บ้าน เพราะเค้าจะฉลองใหญ่กัน ผมก็ตอบตกลงโดยไม่ลังเลยครับ เพราะอยากจะรู้ว่าบรรยากาศของครอบครัวฝรั่งในวันคริสมาสจะเป็นยังไง
สรุปรูปที่ได้จากวันนี้ครับ
Christmas Lunch
วันนี้ผมตื่นแต่เช้า เพื่อรอเพื่อนมารับครับ พอถึงบ้านเพื่อน ก็ตกใจกับขนาดของงานเลี้ยง มีญาติพี่น้องมากันรวมๆแล้วเกือบ 20 คน แต่ละคนก็นำของที่ตัวเองทำ มาเตรียมและวางไว้บนโต๊ะ ผมซึ่งเป็นแขกเพียงคนเดียว และไม่มีของอะไรมาร่วมเลย ก็ยังได้รับการต้อนรับอย่างดีจากครอบครัวของเพื่อนครับ วันนั้น ผมถึงได้รู้ว่า ทำไมทุกๆคนถึงชอบวันคริสมาส เพราะบรรยากาศของการฉลองนั้นอบอุ่นมากๆครับ ช่วงแกะของขวัญก็ดูสนุกสนานมากๆ (ผม ซึ่งถูกเชิญเมื่อคืนก่อนหน้า ก็ไม่มีทั้งของขวัญมาให้ใคร และก็ไม่ได้เปิดของขวัญครับ) ถึงกระนั้น ผมก็สนุกไปกับบรรยากาศครับ
ขอโทษด้วยนะครับที่ไม่มีรูป เกรงใจเจ้าของบ้าน เลยไม่กล้าถ่ายรูปครับ
[CR] Spain 11 วัน ไปคนเดียว ลุยคนเดียว (Part 2 - Christmas in Madrid, Luck and Misfortune)
วันที่ 23 ธันวาคม หลังจากตื่นนอนมาตั้งแต่ไก่โห่ (ไม่ได้ยินเสียงไก่หรอกครับ แหม่ อยู่กลางเมืองซะขนาดนั้น) ผมตื่นนอนตอนเวลาประมาณหกโมงเช้าครับ เพื่อที่จะเตรียมตัว เก็บข้าวของที่เหลือ และไปขึ้นรถไฟตอนแปดโมงเช้า ไปเมืองอีกเมืองที่มีชื่อว่า Granada ครับ
*เมื่อวันก่อนเพิ่งไปดู Assassin's Creed มา settings เค้าอยู่ที่ Granada ซะด้วย
เดินทางมาถึงสถานีรถไฟ Barcelona Sants ตอนเจ็ดโมงเช้า ก็จัดแจงไปถามที่ช่องขายตั๋ว ว่า "ยู ไอมีตั๋ว Pass อยู่แล้วนะ ยูช่วยออกใบจองมาให้หน่อยได้มั้ย"
*ขอเสริมนิดนึงครับ ตั๋วที่ปมใช้นั้น เรียกว่า EURails เป็นตั๋วที่ทำให้ผมสามารถขึ้นรถไฟได้ทั้งวัน โดยไม่ต้องซื้อตั๋วครับ ซึ่งของผมที่ซื้อมา เป็นตั๋วที่สามารถใช้ได้สามวันในหนึ่งเดือนครับ ผมกะจะใช้ Barcalona-Granada, Granada-Madrid, Madrid-Barcelona ครับ ราคาอยู่ที่ 149 ยูโร หรือ ประมาณ 6,000 บาทครับ
ข้อมูลเพิ่มเติมฬ http://www.eurail.com/
**รถไฟระยะไกลในยุโรปบางประเทศใช้ระบบจองที่นั่งครับ อย่างเช่น อิตาลี สเปน ฝรั่งเศส บ้างก็ไม่จำเป็นต้องจอง แต่เปิดให้จองได้ครับ เช่น เยอรมนี สวิสเซอร์แลนด์ (สำหรับชั้นสองนะครับ ชั้นหนึ่งยังไงก็ต้องจองทุกคน) แบบแรก ทุกคนจะมีที่นั่งครับ ถ้าเต็มก็จองเพิ่ม หรือซื้อตั๋วไม่ได้ แบบที่สองถ้าเป็นสายที่ยุ่งๆหน่อย จะเห็นคนนั่งตามทางเดินเยอะแยะไปหมดครับ
ต่อกันเลยครับ
หลังจากที่ผมไปขอจองที่นั่ง พี่คนขายตั๋วก็โยนตั๋วของผมคืน แล้วบอกเป็นภาษาอังกฤษปนภาษาสเปนว่า เต็มทุกรอบครับ เต็มจนถึงปีใหม่เลย เพราะเป็นช่วง "Navidad" หรือคริสมาสนั่นแหละครับ
ได้ยินแบบนี้ และเจอมารยาทของพนักงานแบบนี้ ผมอึ้งครับ เลยออกมาจากช่องขายตั๋ว แล้วนั่งสงบสติตัวเอง พอใจเย็นลงก็นั่งคิดว่าจะทำไงต่อดี เพราะเหตุนี้จะทำให้ผมอาจจะต้องเปลี่ยนแผนการเที่ยวใหม่ทั้งหมดครับ จากที่จะไป Granada เลยต้องตัดเมืองนี้ไป
ผมก็ลองไปกดๆดูตั๋วที่ตู้ขายก่อนครับ ว่าจะทำยังไงดี สุดท้าย เห็นว่า รถไฟที่ไป Madrid มีหลายเที่ยว และยังว่าอยู่เยอะ เลยตัดสินใจ เปลี่ยนไป มาดริดแทน
และตัดสินใจ ส่งข้อความบอกเจ้าของบ้านที่เมือง Granada ว่า "ยู ไอขอโทษนะ ไอคงจะไปเมืองยูไม่ได้แล้ว เพราะทั้งระยะเวลาของทริปไอ ไอหาตั๋วไปเมืองยูไม่ได้เลย ไม่เป็นไร ไอจองห้องไปแล้ว เดี๋ยวไอจ่ายให้หมด" แล้วก็ส่งอีกข้อความว่า "ยู ห้องยูว่างรึเปล่า ไออาจจะไปที่ Madrid เร็วกว่าเดิมสองวัน" ไปหาเจ้าของบ้านที่ Madrid ครับ (ตามแผนเดิม ผมจะไปเมืองมาดริดวันที่ 25 ธันวาครับ) เจ้าของบ้านที่ Madrid ตอบมาอย่างรวดเร็วว่า "ว่าง! ยูมาได้เลย"
เอาหล่ะ ค่อยหายใจโล่งคอหน่อย ดีนะที่เรามาคนเดียว ตัดสินใจอะไรก็รวดเร็ว ผมก็ไปที่เคาน์เตอร์ขายตั๋วอีกครั้ง บอกกับคนขายว่า "ยู ไปมาดริดแทน มีตั๋วใช่มั้ย" คนขายเหมือนจะดูปฏิบัติกับผมดีขึ้น บอกผมว่า "มี ยูขึ้นรอบเที่ยงละกันนะ ไม่ต้องรีบร้อน" ผมก็ตกลง และจ่ายเงินค่าจองตั๋วไปครับ
*ผมไปลองๆส่องดูราคาของตั๋วไปมาดริด ราคาตั๋วประมาณ 70-100 ยูโรเลยครับ EURails นี่ซื้อมาใช้คุ้มจริงๆ
เสร็จเรื่องตั๋วเดินทาง ก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าหิวมาก เพราะยังไม่ได้ทานอาหารเช้า บวกกับความเครียด ทำให้ลืมความหิวไป พอแก้ปัญหาได้ ทั้งหิวข้าว หิวน้ำ ปวดท้องเข้าห้องน้ำ มาพร้อมกันหมดเลยครับ
พอทานอาหารเช้าที่ร้าน local ที่สุดที่ผมจะหาได้ (McDonal's) ก็ไปนั่งจิบกาแฟ รอเวลาชิวๆที่ในสถานีครับ พอเวลาประมาณ 11 โมงหน่อยๆ ผมก็ไปเข้าช่องผู้โดยสารขาออกครับ (รถไฟทางไกลของประเทศนี้ ต้องมีการเช็คตั๋ว ตรวจกระเป๋า เหมือนสนามบินเลยครับ คนที่เคยขึ้นรถไฟที่เยอรมนีอาจจะไม่ค่อยชินเท่าไหร่)
เสร็จเรียบร้อยก็รอรถไฟมา พอได้ขึ้นรถไฟ ก็หาที่นั่งของตัวเอง จัดแจงเก็บสัมภาระ แล้วก็หลับยาวครับ รถไฟใช้เวลาวิ่งประมาณสามชั่วโมงก็ถึงมาดริดครับ
เมืองมาดริดนั้น ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากบาร์เซโลน่าอย่างมากเลยครับ ท่านจะเห็นตึกที่มีลักษณะดูเป็นทางการ เพราะเป็นเมืองหลวงของประเทศสเปนครับ แต่ส่วนของเมืองจะเล็กกว่าบาร์เซโลน่าเยอะครับ
วันนี้เหนื่อยมากแล้ว ทั้งเรื่องที่ต้องทำเกี่ยวกับตั๋ว และนั่งรถไฟนานอีก ผมพอได้เข้าบ้าน ก็ไม่ทำอะไรทั้งนั้นครับ หลับเป็นตายไปเลย
เช้าวันที่สองของในเมืองนี้ ผมตัดสินใจว่าจะเดินไปชมดูรอบๆที่ๆผมอยู่นิดหน่อย เดินไปเรื่อยๆ ตามแผนที่ที่เจ้าของบ้านให้มา ก็มาเจอสวนใหญ่ๆสวนนึง สวนนี้บรรยากาศร่มรื่นมากๆครับ เลยเดินหลงไปหลงมา ออกมาจากสวนอีกทีก็เกือบเย็นเลย วันที่สองเลยใช้ไปไม่ค่อยมีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ แต่ก็ได้รูปสวยๆมาครับ
คืนของวันนั้น ผมก็ส่งข้อความไปหาเพื่อนคนสเปนที่ช่วยผมวางแผนเที่ยว ว่าอยู่มาดริดแล้ว ไม่ได้ไปกรานาดา เค้าก็ไม่ค่อยสงสัยอะไรเท่าไหร่ เพราะว่าช่วงเทศการ คนจะเดินทางโดยใช้รถไฟกันเยอะ เค้าก็แนะนำว่า พรุ่งนี้วันคริสมาส เดินดูสิ่งปลุกสร้างที่ไม่จำเป็นต้องเข้าไปดูก็ได้ สาเหตุก็คือ ร้านค้า ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์อะไรจะปิดเกือบหมดครับ วันคริสมาสสำหรับคนต่างถิ่นอาจจะใช้ชีวิตยากนิดนึง เพื่อนผมเลยชวนไปกินข้าวที่บ้าน เพราะเค้าจะฉลองใหญ่กัน ผมก็ตอบตกลงโดยไม่ลังเลยครับ เพราะอยากจะรู้ว่าบรรยากาศของครอบครัวฝรั่งในวันคริสมาสจะเป็นยังไง
สรุปรูปที่ได้จากวันนี้ครับ
Christmas Lunch
วันนี้ผมตื่นแต่เช้า เพื่อรอเพื่อนมารับครับ พอถึงบ้านเพื่อน ก็ตกใจกับขนาดของงานเลี้ยง มีญาติพี่น้องมากันรวมๆแล้วเกือบ 20 คน แต่ละคนก็นำของที่ตัวเองทำ มาเตรียมและวางไว้บนโต๊ะ ผมซึ่งเป็นแขกเพียงคนเดียว และไม่มีของอะไรมาร่วมเลย ก็ยังได้รับการต้อนรับอย่างดีจากครอบครัวของเพื่อนครับ วันนั้น ผมถึงได้รู้ว่า ทำไมทุกๆคนถึงชอบวันคริสมาส เพราะบรรยากาศของการฉลองนั้นอบอุ่นมากๆครับ ช่วงแกะของขวัญก็ดูสนุกสนานมากๆ (ผม ซึ่งถูกเชิญเมื่อคืนก่อนหน้า ก็ไม่มีทั้งของขวัญมาให้ใคร และก็ไม่ได้เปิดของขวัญครับ) ถึงกระนั้น ผมก็สนุกไปกับบรรยากาศครับ
ขอโทษด้วยนะครับที่ไม่มีรูป เกรงใจเจ้าของบ้าน เลยไม่กล้าถ่ายรูปครับ