ป.ล. ขอแท็ควิทยาศาสตร์ด้วยนะครับ เพราะเกี่ยวเนื่องกับ Social science
คือเห็นกระทู้ผีกะ ในแท็คเรื่องเล่าสยองขวัญเยอะพอสมควร จึงอยากให้ความรู้เกี่ยวกับผีกะทุกแง่มุม อีกอย่างเห็นละครเกี่ยวกับผีกะเรื่องสาปดอกสร้อย ก็เลยอยากให้ความรู้กัน
มีบางคนบอกว่าผีกะคือผีปอบภาคอีสาน ซึ่งจริงๆแล้วผิดครับ เท่าที่ทราบ ผีกะไม่ได้กินข้างในเหมือนปอบ และผีกะ คือคำเรียกรวมๆของผีหลายๆอย่าง
ผีกะประเภทหนึ่ง คือผีที่คนมีวิชาเลี้ยงแล้วเซ่นด้วยอาหาร มักจะเป็นอาหารดิบหรือคาว เช่นไข่ดิบ หรือของสดตามแต่ผีกะจะชอบ เพื่อแลกกับการใช้อำนาจผีกะ เช่นผีกะละคร หรือผีกะเลี้ยง ซึ่งคนเลี้ยงไม่ใช่ผีกะ และผีกะแบบนี้มักจะไม่มีปัญหาอะไร เว้นแต่คนเลี้ยงจะเลี้ยงไม่ดี ให้อดอยาก ผีกะจะออกไปสิงชาวบ้าน เพื่อกินอาหาร คือตอนกลางวันจะหลับเหมือนคนป่วย แต่ตอนกลางคืนจะลุกมาหาของสดของคาว การปราบจะใช้การไล่เพื่อให้ผีกะบอกชื่อเจ้าของให้อับอายว่าเลี้ยงไม่ดี ผีกะแบบนี้ เช่นผีกะละคร คนเลี้ยงจะยิ่งดึกยิ่งสวยยิ่งหล่อ ผีกะจะเป็นค่างสองตัวเกาะบ่า เลียหน้าให้หล่อให้สวย และเวลาไปไหนมาไหน จะมีนกเค้าผีกะบินตาม
ผีกะตระกูล คือตระกูลที่มีผีปู่ย่าเป็นผีกะ สงคมล้านนา ชายจะแต่งเข้าบ้านหญิง จะเปลี่ยนผีปู่ย่าเป็นของฝ่ายหญิง ซึ่งในเชิงสังคมวิทยา แสดงถึงความต้องการแรงงานในสังคมเกษตรกรรม ผีกะตระกูลจะทำให้คนในบ้านทั้งหมดเป็นผีกะ ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าคนในบ้านจะเป็นผีกะจริงๆ แต่จะอยู่ในอำนาจผีกะ และจะสืบอำนาจผีกะตามการแต่งงานและลูกสาว คือหากกินข้าร้อยหม้อจะกลายเป็นผีกะ ตระกูลที่เป็นผีกะ มักจะมั่งคั่งร่ำรวย ลูกสาวสวย แต่ไม่มีชาวบ้านคบเพราะเป็นผีกะ ซึ่งมาจากอำนาจผีกะ ที่บรรดาลให้ร่ำรวย แลกกับการที่ผีกะจะได้กินเครื่องเซ่นหรือแปลงร่างเป็นคนในบ้านไปกินสัตว์เลี้ยงหรือรก ของคาว ชาวบ้าน
ในทางสังคมวิทยา เป็นการอธิบายปรากฏการณ์นี้เหมือนกับการรวมกลุ่มกันแล้วผลักให้คนที่แตกต่างในสังคมเช่น คนร่ำรวย ที่เป็นที่รังเกียจ คนอ่อนแอ เช่นคนแก่อยู่คนเดียว โดยผลักให้เป็นผีกะ เพื่อทำให้เกิดการรวมกลุ่มและสร้างความรู้สึกปลอกภัยกับคนที่เหลือ
ในภาคเหนือคนที่ถูกหาว่าเป็นผีกะ บางคนจะถูกขับไล่ จนทำให้คนที่เป็นผีกะ ไปรวมตัวกันเป็นหมู่บ้าน ถูกทอดทิ้งจากสังคมและพุทธศาสนาท้องถิ่น จวบจนการเผยแผ่คริสตศาสนาของของมิชชั่นนารี สมัยแมคกิววารี ทำให้หมู่บ้านผีกะ รับเชื่อและเปลี่ยนศาสนายกหมู่บ้าน ปัจจุบัน หมู่บ้านคริสเตียนที่มีบรรพบุรุษที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผีกะก็ยังมีอยู่
ผีกะขี้เรื้อน บางคนที่เป็นโรคเรื้อนหรือโรคสังคมรังเกียจจะถูกกล่าวหาว่าเป็นผีกะและถูกขับไล่ ต่อมาได้รับการรักษาและรับเชื่อเป็นคริสเตียน
ผีกะยักษ์ เป็นผีหรือวิญญาณ ที่สิงอยู่ตามที่ต่างๆเป็นเทวดาหรืออสุรกายก็ได้ มักจะไม่ทำร้ายใครถ้าไม่มีใครรบกวนก่อน ที่ๆผีกะชนิดนึ้สิงอยู่จะแปลกๆเช่น ถ้าเป็นที่ว่าง แม้ไม่มีใครดูแล แต่หญ้าไม่ไม่ขึ้นรก หรือเรียบหายไป แต่จะสูงพอประมาณ เขียวอยู่แบบนั้น ถ้าเป็นนาข้าว แปลงๆนั้นไม่ว่าน้ำจะน้อย จะมาก ข้าวในแปลงนั้นจะงอกงามสมบูรณ์แม้ไม่มีใครดูแล และข้าวที่ได้จะเอาไปอย่างอื่นไม่ได้ไม่เช่นนั้นจะเกิดอาเภท จะต้องเซ่นผีตามพิธีการเท่านั้น ผีกะยักษ์ที่มีฤทธิ์มากจะมีหงอนสีแดง
ผีกะเร่ร่อน คือสัมพเวสีอดยาก ถ้าใครดวงตก จิตอ่อน จถเข้าสิง เพื่อนกินอาหารหรือขอส่วนบุญ บางทีคนทีตายใหม่ๆลูกหลานไม่รู้ ผีกะจะเข้าสิงเพื่อกินอาหาร
ความเชื่อเรื่องผีกะของชาวภาคเหนือคือการหล่อหลอม ขนบคิดแบบพุทธ ผี ซึ่งมิชชั่นนารีผู้หญิงกล่าวว่า สาเหตุที่สังคมยอมผีกะ แม้แต่ศาสนาพุทธในสมัยนั้นยังทำอะไรไม่ได้ เป็นเพราะศาสนาพุทธมีความเป็นปรัชญามากเกินไป จนทำให้คนเข้าไม่ถึงแก่น ซึ่งสาเหตุที่ศาสนาคริสต์แพร่หลายในหมู่ผีกะในสมัยนั้นเพราะ ศาสนาคริสต์แก้ไขปัญหานี้ได้ในขณะที่พุทธศาสนาในขณะนั้นทำไม่ได้
ผีกะ...ผีที่มากกว่าผี
คือเห็นกระทู้ผีกะ ในแท็คเรื่องเล่าสยองขวัญเยอะพอสมควร จึงอยากให้ความรู้เกี่ยวกับผีกะทุกแง่มุม อีกอย่างเห็นละครเกี่ยวกับผีกะเรื่องสาปดอกสร้อย ก็เลยอยากให้ความรู้กัน
มีบางคนบอกว่าผีกะคือผีปอบภาคอีสาน ซึ่งจริงๆแล้วผิดครับ เท่าที่ทราบ ผีกะไม่ได้กินข้างในเหมือนปอบ และผีกะ คือคำเรียกรวมๆของผีหลายๆอย่าง
ผีกะประเภทหนึ่ง คือผีที่คนมีวิชาเลี้ยงแล้วเซ่นด้วยอาหาร มักจะเป็นอาหารดิบหรือคาว เช่นไข่ดิบ หรือของสดตามแต่ผีกะจะชอบ เพื่อแลกกับการใช้อำนาจผีกะ เช่นผีกะละคร หรือผีกะเลี้ยง ซึ่งคนเลี้ยงไม่ใช่ผีกะ และผีกะแบบนี้มักจะไม่มีปัญหาอะไร เว้นแต่คนเลี้ยงจะเลี้ยงไม่ดี ให้อดอยาก ผีกะจะออกไปสิงชาวบ้าน เพื่อกินอาหาร คือตอนกลางวันจะหลับเหมือนคนป่วย แต่ตอนกลางคืนจะลุกมาหาของสดของคาว การปราบจะใช้การไล่เพื่อให้ผีกะบอกชื่อเจ้าของให้อับอายว่าเลี้ยงไม่ดี ผีกะแบบนี้ เช่นผีกะละคร คนเลี้ยงจะยิ่งดึกยิ่งสวยยิ่งหล่อ ผีกะจะเป็นค่างสองตัวเกาะบ่า เลียหน้าให้หล่อให้สวย และเวลาไปไหนมาไหน จะมีนกเค้าผีกะบินตาม
ผีกะตระกูล คือตระกูลที่มีผีปู่ย่าเป็นผีกะ สงคมล้านนา ชายจะแต่งเข้าบ้านหญิง จะเปลี่ยนผีปู่ย่าเป็นของฝ่ายหญิง ซึ่งในเชิงสังคมวิทยา แสดงถึงความต้องการแรงงานในสังคมเกษตรกรรม ผีกะตระกูลจะทำให้คนในบ้านทั้งหมดเป็นผีกะ ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าคนในบ้านจะเป็นผีกะจริงๆ แต่จะอยู่ในอำนาจผีกะ และจะสืบอำนาจผีกะตามการแต่งงานและลูกสาว คือหากกินข้าร้อยหม้อจะกลายเป็นผีกะ ตระกูลที่เป็นผีกะ มักจะมั่งคั่งร่ำรวย ลูกสาวสวย แต่ไม่มีชาวบ้านคบเพราะเป็นผีกะ ซึ่งมาจากอำนาจผีกะ ที่บรรดาลให้ร่ำรวย แลกกับการที่ผีกะจะได้กินเครื่องเซ่นหรือแปลงร่างเป็นคนในบ้านไปกินสัตว์เลี้ยงหรือรก ของคาว ชาวบ้าน
ในทางสังคมวิทยา เป็นการอธิบายปรากฏการณ์นี้เหมือนกับการรวมกลุ่มกันแล้วผลักให้คนที่แตกต่างในสังคมเช่น คนร่ำรวย ที่เป็นที่รังเกียจ คนอ่อนแอ เช่นคนแก่อยู่คนเดียว โดยผลักให้เป็นผีกะ เพื่อทำให้เกิดการรวมกลุ่มและสร้างความรู้สึกปลอกภัยกับคนที่เหลือ
ในภาคเหนือคนที่ถูกหาว่าเป็นผีกะ บางคนจะถูกขับไล่ จนทำให้คนที่เป็นผีกะ ไปรวมตัวกันเป็นหมู่บ้าน ถูกทอดทิ้งจากสังคมและพุทธศาสนาท้องถิ่น จวบจนการเผยแผ่คริสตศาสนาของของมิชชั่นนารี สมัยแมคกิววารี ทำให้หมู่บ้านผีกะ รับเชื่อและเปลี่ยนศาสนายกหมู่บ้าน ปัจจุบัน หมู่บ้านคริสเตียนที่มีบรรพบุรุษที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผีกะก็ยังมีอยู่
ผีกะขี้เรื้อน บางคนที่เป็นโรคเรื้อนหรือโรคสังคมรังเกียจจะถูกกล่าวหาว่าเป็นผีกะและถูกขับไล่ ต่อมาได้รับการรักษาและรับเชื่อเป็นคริสเตียน
ผีกะยักษ์ เป็นผีหรือวิญญาณ ที่สิงอยู่ตามที่ต่างๆเป็นเทวดาหรืออสุรกายก็ได้ มักจะไม่ทำร้ายใครถ้าไม่มีใครรบกวนก่อน ที่ๆผีกะชนิดนึ้สิงอยู่จะแปลกๆเช่น ถ้าเป็นที่ว่าง แม้ไม่มีใครดูแล แต่หญ้าไม่ไม่ขึ้นรก หรือเรียบหายไป แต่จะสูงพอประมาณ เขียวอยู่แบบนั้น ถ้าเป็นนาข้าว แปลงๆนั้นไม่ว่าน้ำจะน้อย จะมาก ข้าวในแปลงนั้นจะงอกงามสมบูรณ์แม้ไม่มีใครดูแล และข้าวที่ได้จะเอาไปอย่างอื่นไม่ได้ไม่เช่นนั้นจะเกิดอาเภท จะต้องเซ่นผีตามพิธีการเท่านั้น ผีกะยักษ์ที่มีฤทธิ์มากจะมีหงอนสีแดง
ผีกะเร่ร่อน คือสัมพเวสีอดยาก ถ้าใครดวงตก จิตอ่อน จถเข้าสิง เพื่อนกินอาหารหรือขอส่วนบุญ บางทีคนทีตายใหม่ๆลูกหลานไม่รู้ ผีกะจะเข้าสิงเพื่อกินอาหาร
ความเชื่อเรื่องผีกะของชาวภาคเหนือคือการหล่อหลอม ขนบคิดแบบพุทธ ผี ซึ่งมิชชั่นนารีผู้หญิงกล่าวว่า สาเหตุที่สังคมยอมผีกะ แม้แต่ศาสนาพุทธในสมัยนั้นยังทำอะไรไม่ได้ เป็นเพราะศาสนาพุทธมีความเป็นปรัชญามากเกินไป จนทำให้คนเข้าไม่ถึงแก่น ซึ่งสาเหตุที่ศาสนาคริสต์แพร่หลายในหมู่ผีกะในสมัยนั้นเพราะ ศาสนาคริสต์แก้ไขปัญหานี้ได้ในขณะที่พุทธศาสนาในขณะนั้นทำไม่ได้