[CR] [First Time First Post First Backpacker] ครั้งแรกกับการเที่ยววังเวัยงคนเดียว


^^ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยนะครับว่า เราเพิ่งสมัคร Pantip ครั้งแรกเลยแล้วก็จะมารีวิวครั้งแรกด้วย สถานที่ที่จะมารีวิวก็เพิ่งเคยไปครั้งแรกด้วย แล้วก็เป็นการไปเที่ยวตปท.คนเดียวครั้งแรกอีกต่างหาก คือทุกอย่างครั้งแรกหมดเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เมื่อวันที่ 26 ที่ผ่านมาเราได้มีเวลาหยุดยาว ซึ่งทั้งวันนั้นเราก็นั่งคิดอยู่คนเดียวว่าจะไปไหนดี ฉลองปีใหม่ให้ตัวเองซ่ะหน่อย นี่ก็คิดขึ้นได้ว่าเราเคยคุยกับเพื่อนไว้คนนึงว่าจะไปเที่ยววังเวียงกัน ซึ่งก็คุยกันมานานแล้วไม่ได้ไปสักที เลยโทรไปชวนมันดีกว่าเพราะมันว่างอยู่ช่วงนี้ จะได้ไปด้วยกันสักที
แต่แล้วก็ได้คำตอบที่กลับมาว่า “แกรเราไม่ว่างแล้วอ่ะ เราไปภูกระดึงกับเพื่อนเราแล้วอ่ะ” เอิ่มคือแบบ เราว่างตอนนี้แล้วอ่ะ ทำไมถึงทิ้งเราอย่างงี้ 5555 เอาว่ะไปคนเดียวก็ได้ ระหว่างนั้นทั้งวันก็นั่งคิด ไม่ได้คิด plan นะ คิดว่าจะไปดีไหม คนเดียวจริงดิ บ้าหรอแกร จะไปพักที่ไหน หน้ากลัวไหม รอเพื่อนดีกว่าป่ะ คนเดียวจะไม่เหงาหรอ นี่แกรจะอินดี้ไปแล้วนะ คิดไปมาจนขับรถกลับมาถึงบ้าน ความเบื่อหน่ายที่จะอยู่บ้านก็ผุดขึ้นมาพร้อมกับความกล้า (เราถึงบ้านเราประมาณ 19:00น.) ทำไงต่อดีอ่ะ เราอยากไปแล้ว ถามพี่ที่มหาลัยรัฐบาลแห่งนึงที่มีชื่อสียงด้านศิลปะย่านตัวเมืองนครปฐม
เรา: พี่ผมจะไปเที่ยววังเวียง ไปยังไงครับพี่
พี่: แกรจะไปวันไหน เผื่อพี่อยากไปด้วย
เรา: เย้!!! จะมีเพื่อนไปด้วยคนแล้ว ผมไปวันนี้ครับพี่
พี่: อีบ้า งั้นแกรไปคนเดียวเลย นั่งรถจากหมอชิตมาลงอุดร แล้วมาซื้อตั๋วที่บขส.99 สีส้ม ก่อน 7 โมงนะไม่งั้นเดียวเต็ม จะลำบาก เพราะคนนี้วิ่งตรงไปวังเวียงเลยไม่ต้องต่อหลายต่อ ราคา 320 บาท
เรา: ที่พักละ พี่พักที่ไหน ที่เที่ยวด้วยไปไหนดี บาร์ไหนดังพี่นี่จะไปตามล่าหาไข่มังกร 55555
พี่: ถึงวังเวียงแกรก็ walk in เลย ที่พักเยอะมาก แล้วก็ไปซื้อทริปเอาเลยง่ายๆ แต่ SAKURA BAR แกรต้องไปนะ คือมันดีมากกกก
เรา: มีแค่นี้หรอพี่
พี่: อืม
หลังจากวางสายเสร็จ เอาไงดีอ่ะ นี่จะสองทุ่มแล้วของก็ยังไม่ได้เก็บตั๋วรถก็ยังไม่ได้จอง แถมช่วงเทศกาลด้วย จะมีรถไปไหมเนี่ยยยย เอาว่ะสักครั้งลองดูไปแบบไม่คิด มันน่าจะสนุกดีนะ งั้นเริ่ม!!!

อาบน้ำเก็บของเตรียมตัวทุกอย่างเสร็จภายใน 2 ทุ่ม นั่งรถไปหมอชิตอย่างด่วนเพราะกลัวไปไม่ทัน 7 โมงที่อุดรเพื่อซื้อตั๋ว
ถึงหมอชิตพร้อมเป้ 1 ใบกับหน้างงๆ ว่าต้องทำไรต่อ นี่พนง.มากมายก็เดินมาถามไปไหนครับ ไปไหนครับ นี่ก็บอกไปอุดร ซึ่งเขาก็พาไปซื้อตั๋ว เราก็ก็ถามว่า รถอะไร แบบไหน ถึงกี่โมง ออกกี่โมง ราคาเท่าไร คือถามเยอะมากจนงงเอง ก็เลยไปลงตัวที่บริษัทเชิดชัยทัวร์ ซึ่งรถออก 3 ทุ่มครึ่ง ถึงประมาณ 6 โมงเช้า ราคา 420 บาท ป.2 นี่ก็ตกลงปลงใจซื้อมาแบบงงๆ แล้วก็ไม่รู้ว่า ป.2 เป็นอย่างไง

พนง.บอกให้วิ่งไปเลยนะ เพราะเราจะออกแล้ว นี่ก็วิ่งสิ พอไปถึง เอิ่มมมม คือช็อค ฉันต้องขึ้นรถคันนี้จริงดิ (คือปกติไม่ค่อยไปต่างจังหวัดโดยรถทัวร์อ่ะครับ ส่วนใหญ่ไปกับครอบครัวเลยเอารถกันไปครับ แต่เราเคยนั่งนครชัยแอร์ไปเชียงใหม่กับเพื่อนครั้งนึง ซึ่งนี้ก็คิดว่าน่าจะไม่ต่างอะไรกันมาก) เอาไงดีว่ะ เอาหน่าไหนๆ ก็มาแล้ว ก็นั่งๆไปเหอะ ตอนแรกนี่ก็ได้ที่นั่งด้านหน้า ซึ่งนั่งประมาณ 2 นาทีได้ มีพนง.เดินมาแจ้งว่า น้องคะ รบกวนน้องช่วยไปนั่งด้านหลังได้ไหมคะ เพราะลค.ผญ. เขามา 2 ท่านจะได้นั่งด้วยกัน นี่ก็ตอบโอเคได้ครับ และเมื่อลุกออกมาแล้วเดินไปข้างหลัง เห้ยๆๆ อีบ้า นี่มันหลังสุดเลยหนิ ที่ปรับเบาะไม่ได้อะนะ ฉันต้องนั่งแบบนี้ 8-9 ชม. ใช่ไหม ไม่จริงใช่ไหมเนี่ย แต่ก็ทำไรไม่ได้แล้ว เพราะลุกออกมาแล้ว ก็ทนนั่งต่อไป ใกล้ๆ รถจะออก เราก็มีกลุ่มผช. ขึ้นมาประมาณ 3 ท่าน นี่ก็งงไม่มีที่นั่งจะนั่งไหนกัน สรุปพนง.มีเก้ากี้เสริมให้แบบไม่มีพนักพิงให้นั่งระหว่างทางเดิน OMG!!! คือจะสงสารเขาหรือเราดีเนี่ยยยยย 55555
ในที่สุดเราก็ทนมาได้จนถึงอุดรจนได้ ณ ขณะนั้นเป็นเวลา เกือบจะ 7 โมงแล้ว วิ่งสิเอ๋ วิ่งสิ เดียวตั๋วหมดนะเว้ยยย เราก็วิ่งหาจนเจอบขส.99 สีส้ม แจ้งเขาไปวังเวียงเราก็ได้มาพร้อมตั๋ว 1 ใบ ในราคา 320฿ เย้!!! ได้ไปแล้ววังเวียงนี้ที่รอคอย และไม่กี่วินาทีมีนักท่องเที่ยวเข้ามาซื้อตั๋วต่อจากเราเพื่อไปวังเวียง พนง.แจ้งว่าหมดแล้ว โอ้โหนี่โชคดีแค่ไหนเนี่ย เกือบไม่ได้ไปแล้วไหมล่ะ 55555



ระหว่างรอรถออกตอน 8:30 น. ก็เดินไปหาโจ๊กกินบริเวณนั้น โจ๊กเขาใส่หมูยอด้วยน่ารัก อร่อยดีครับ หลังจากกินเสร็จก็เข้าห้องน้ำไปแปลงฟัน และล้างหน้าสักหน่อยจะได้สดชื่น คือไม่กล้าอาบน้ำอ่ะ ไม่ชิน 5555



8:30 น. รถออกจากอุดร


ถึงตม. หนองคายประมาณ 10:00 ทำเรื่องออกนอกประเทศ พร้อมกับได้รับข่าวดีที่ว่ารถแอร์เสียนะครับ ทนนั่งไปก่อน เดียวถึงอู่แถวเวียงจันทร์จะซ่อมแอร์อีกที ถ้าไม่เสร็จก็จะเปลี่ยนรถให้ (ซวยอีกแล้วหรอตรู)

หลังจากข้ามมาฝั่งลาวก็ทำเรื่องเข้าประเทศ พนง.ขับรถก็บอกว่าไม่ต้องซื้อซิมนะ เดียวพาไปแวะร้านข้าวที่นั้นก็มีซิมขาย เพราะจะได้ขับไปอู่เพื่อซ่อมรถเร็วๆ นี่เราก็เชื่อ และไปซื้อที่นู้น
12:15 น. เวลาโดยประมาณเรามาถึงอู่ ก็มีคนมาซ่อมแอร์ให้ ประมาณ 15 นาทีก็เสร็จ


จากนั้นเราก็เดินทางต่อไปแวะทานข้าวที่ร้านอาหารที่มีซิมขาย เราก็ซื้อมา 130 บาท เล่นเน็ตได้ 1.5 Mb. ภายใน 7 วัน เออถูกดีนะ ก็ซื้อมา (พอคุยกับน้องคนนึง ซึ่งน้องเขาถามว่าซื้อเน็ตยังพี่ ก็ตอบไปว่าซื้อมาแล้ว ถูกดีนะ 130 บาทเอง น้องคนนั้นก็ทำหน้างงๆ ทำไมแพงจัง หนูซื้อมาจาก ตม. 100 บาทเอง อ้าว!!! คุณพนง.ทำไมหลอกดาวค่ะเนี่ย 5555 เสียรู้ไป 30 บาท)
หยิบกล้องมาถ่ายรูปอาหารบ้านเขาหน่อยดีกว่า เฮ้ย!!! กล้องเป็นไรอีกเนี่ย เลนส์เปิดปิด เปิดปิดเอง ไม่นะ ยังไม่ได้รูปสักรูปเลยนะเว้ย จะซวยอะไรหนักหนาเนี่ยยยย เราก็โพสสอบถามไปทางกลุ่มของ Olympus ในเฟสบุ๊ค ก็ได้คำตอบว่าพัง!!! ส่งซ้อมหรือซื้อเลนส์ใหม่ นี่ก็อึ้งไป 3 นาที แล้วตรูจะมีรูปสวยๆ ไหมเนี่ย 55555 เห้ออย่างน้อยมีเลนส์ซูมก็ยังดี


ประมาณ 4 กว่าๆ เราก็มาถึงวังเวียง รถก็ขับมาส่งรถในเมืองวังเวียงบริเวณที่มีที่พักเยอะๆ นี่ก็ลงจากรถพร้อมเดินหาที่พัก แต่ทีพักต้องใกล้บาร์ SAKURA นะ เพราะเมาจะได้เดินไม่ไกล นี่สายเมาชัดเจน 5555 จนในที่สุดก็มาได้ที่พักที่นึงอยู่ไม่ไกลจากบาร์ ชื่อว่า Real Vang Vieng Backpacker Hostel 2 ต้องมี 2 นะเพราะเขาเพิ่งสร้างเสร็จไม่นานยังสะอาดและปลอดภัยอยู่ ใช้ระบบคีย์การ์ดในการเข้าออกห้อง ในห้องมี Locker ให้นะ แต่ต้องเอากุญแจมาเอง นี่ก็ไม่ได้เอาไป แต่ก็ไม่ซื้อนะ เพราะเอาของมีค่าติดตัวตลอดอยู่แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

หลังจากเก็บของอะไรเสร็จเราก็ออกมาถ่ายรูปเล่นพร้อมหาอะไรกินตอนเย็น แล้วก็เดินหาทัวร์ที่จะพาเราไปเที่ยวแบบ One Day Trip ขณะที่เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ก็ถามแม่ค้าแถวนั้นว่าซื้อทัวร์ที่ไหนดี นางก็แนะนำว่าตรงนี้ดี บริการดี ส่วนเรื่องราคานั้นแทบจะเท่ากันหมดเลย คือ 230,000 Kip ประมาณ 1000 บาทบ้านเรา นี่ก็เลยซื้อมา


ระหว่างเดินไปหาข้าวกินก็นึกขึ้นได้ว่าทรปที่จะไปต้องโดนน้ำหนิ กล้องล่ะ มือถือล่ะ ทำไง จะเปียกไหม แล้วเราก็หันไปเห็นนักท่องเที่ยวต่างๆ ถึงกระเป๋าสีเจ็บๆ ที่กันน้ำได้กัน ก็เออสวยดีอ่ะ ไปซื้อบ้างดีกว่า สรุปเราก็ไปซื้อมาขนาด 5 L ในราคา 30,000 Kip (แต่จะบอกก่อนแล้วนะว่า ทางทัวร์เขาก็มีแจก แถมขนาด 10 L อีกต่างหาก ใหญ่กว่าอีก เอิ่ม!!! นี่เราจะต้องเจ็บอีกกี่ครั้ง ถึงจะจำ 55555)
หลังจากทานข้าเสร็จเราก็คิดในใจว่า ได้เวลาแล้ว SAKURA Calling Me แล้วนะ 5555 พอไปถึงนี่ถึงกับอึ้ง ทำไมโอปป้างานดีขนาดนี้ เหมือนคัดมาจากกรุงโซลเลย ยอมมากๆ หน้าใสมากจนนี่อยากจะเข้าไปถามว่ารู้จักคำว่าสิวไหมอ่ะ 55555
เราก็เต้นๆ พร้อมจิบเบียร์ลาวไป 2 ขวด ราคาถูกมาก 10,000 Kip/ขวด ก็เมาเหมือนกันนะ แต่ด้วยความที่พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปทัวร์ทริป 5 ทุ่มก็เลยกลับแล้ว แล้วบอกกับตัวเองว่าพรุงนี้จะมาใหม่ 55555


ตื่นเช้ามาพร้อมกับความตื่นตาตื่นใจในการจะไปทริปครั้งนี้ ซึ่งทางทัวร์กพาไป Water Cave, Elephant Cave, Zipline, Bluelagoon และพายเรือคายัคที่แม่น้ำซอง คลิปวิดีโอที่เป็น one day trip อยู่ด้านล่าง


ขณะที่ไปทัวร์ก็ได้เพื่อนใหม่ 1 คนเป็นคนสิงคโปร์ ก็คุยกันทั่วไปตามปกติเพราะเขาก็มาคนเดียวเหมือนกัน เขาก็พยายามชวนคุยนี่ก็พยายามเลี่ยง เพราะเดียวเขาจะหาว่าอ่อย (ป่าวเลย คือตอบเขาไม่รู้เรื่อง 5555)
หลังจากที่จบทริปก็เดินกลับที่พัก เราก็เดินตามหลังเขาไม่ให้เขารู้ เดินจนถึงที่พัก อ้าวเฮ้ย พักที่เดียวกันหนิ นี่ก็วิ่งเพื่อให้ทันเขาก่อนเขาจะขึ้นที่พัก เพื่อจะบอกว่าเราก็พักที่นี้ 555555 สรุปก็ทันเพราะฉันคือนางเอกในละคร ไม่ใช่เหมยลี่ (รถไฟฟ้า มหานะเธอ) มันต้องทันเสมอ เราก็ทักกันอีกรอบ แล้วในที่สุดเขาก็ชวนฉันไป Dinner คือแบบตอนนั้นสวยมากอ่ะ (จริงๆ เขาแค่อยากมีเพื่อนแชร์ค่าอาหาร 5555)
6 โมงเย็นเราลงมาเจอเขาที่ Lobby เขาก้รีบเดินชนิดที่เหมือนกำลังหนีใครอยู่ (หนีตรูป่ะว่ะ 5555) เขาพาไปถ่ายรูปดู sunset คือทำไมมัน Romantic จังเลยอ่ะ เขาก็ถ่ายรูปแช๊ะ แช๊ะ แช๊ะ ประมาณ 5-6 รูปแล้วบอก ว่าเสร็จยัง ไปกินข้าวกัน (เอิ่ม!!! คือถ้าจะพามาถ่ายแค่นี้ อย่ามาเลยว่ะ 55555) เราเป็นผญ.สมันก่อนที่ยอมผช. ก็ได้แต่ตอบรับ และเก็บกล้อง เดินตามหลังอย่างหน้าระห้อย ทั้งที่ยังไม่ได้รูป เดินไปทานข้าว 5555


เมื่อถึงร้านข้าวก็สั่งนั่นนี้ ปกติที่ผช.กับผญ.อยู่ด้วยกัน จนกระทั่งเขารีบรู้สึกได้ว่า เรามันพุดน้อยเกินไป เลยไปเรียนเชิญหนุ่มเกาหลีที่ทานข้าวคนเดียวอยู่ด้านหลังมาร่วมโต๊ะด้วยกัน (ไม่นะ เราจะอยู่ทามกลางผช. 2 คนแบบนี้ไม่ได้ เราต้องเลือก 5555) หลังจากได้อาหารและทานอาหารกันเสร็จ ด้านหลังเราเช่นเคย มีผช.ที่มาจากแดนปลาดิบ มาคนเดียว เขาก็ชวนมาร่วมวงด้วย (คือเรารับได้ทีละคนอ่ะ แต่ถ้ามา 3 คนเราก็จะลอง 5555)
ทานเสร็จก็ไปเดินเล่นกันรอบวังเวียง เดินจนเมื่อยฝ่ายชายก็ขอตัวไปนวดเท้า ส่วนหญิงไทยอย่างเราก็นั่งรอ เพราะหนุ่มเกาหลีบอกมาให้เรารอเพราะจะพาไป SAKURA BAR นี่ก็รอสิ เพราะถือว่าผช.ชวน อย่าทำให้เสียชื่อหญิงไทยใจกล้า 55555

เมื่อเขานวดเสร็จเขาก็พาเราไปที่ที่เต็มไปด้วยแหล่งมึนเมา เรานี่กลัวมากเลยอ่ะ 55555 หนุ่มเกาหลีคือป๊ามากเขาเลี้ยงเบียร์ฉันด้วย นี่คือคิดในใจว่าเขาต้องมอมเหล้าแน่เลย นี่ก็กินไปสิ ชวนเต้นไปสิ แต่แล้ว พวกเขาก็ไม่เมากัน คนที่เมาคือใคร? ฉันเองเมาแบบพร้อมพูดคำที่เจ้โฉมพูดไว้ว่า “โอ้ยยยเมามากเลยอ่ะ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลยอ่ะ นี่ถ้าใครลากไปข่มขืนก็คงจะขัดขืนเขาไม่ไหว” แต่แล้ว คำพูดนี้ก็ไม่ได้ใช้ เพราะเขาชิงบอกว่า “Take care yourself and Nice to meet you. Good Night Bye!!!” อ้าวเฮ้ย ไม่เหมือนที่เราคิดไว้นี่น่า 55555 ก็ได้ทำการแรก Facebook กัน แล้วแยกย้าย เราก็บินกลับรังอย่างสวยงาม 55555 อย่างน้อยก็ได้มิตรภาพดี ๆ เนาะ และเป็นค่ำคืนที่ไม่เหงาด้วย
ชื่อสินค้า:   วังเวียง สปป.ลาว , sjcam4000wifi
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่