ขอความกรุณาเพื่อนๆช่วยเข้ามาโหวตให้ผมหน่อยครับ
เรื่องมีอยู่ว่า ตอนนี้ผมมีเงินเก็บอยู่ประมาณ50,000บาทครับ ผมยังตัดสินใจไม่ได้ว่า ผมจะเอาเงินนี้ไปใช้ทำอะไรดี ระหว่าง
1.พาคุณแม่ไปเที่ยวญี่ปุ่น
2.ผมไปญี่ปุ่นคนเดียวเพื่อไปปั่นจักรยาน หาข้อมูลมาเขียนพ็อกเก็ตบุ๊ค
แต่ก่อนโหวต ผมอยากจะขอเล่าประวัติผมให้ฟังสักหน่อยครับ เพื่อช่วยให้เพื่อนๆใช้เป็นข้อมูลประกอบการโหวตครับ
เรื่องมีอยู่ว่า ผมเป็นลูกชายคนสุดท้องจากพี่น้อง4คน ผู้หญิง3คนครับ ครอบครัวผมมีปัญหาทางการเงิน คุณพ่อผมก็สายตาเสียครับทำให้ทำงานไม่ได้ อาการคือเส้นโลหิตฟอยในตาแตกครับ เกิดจากความดันโลหิตสูง คุณแม่ผมก็เลยตัดสินใจไปอเมริกาเพื่อทำงานหาเลี้ยงครอบครัว และส่งผมเรียนมหาวิทยาลัย 2ปีแรกผมได้ไม่กี่หน่วยกิจ พอปี3-ปี5 ผมอ่านหนังสือทุกวันเช้าจนมืด จนผมจบ ซึ่งคุณพ่อก็ไปงานรับปริญญาผมด้วย ต่อมาไม่กี่ปีคุณพ่อก็เสีย ส่วนผมก็ทำงานบริษัท เข้าๆออกๆ2-3ที่ ทำที่หนึ่ง3-4เดือน ก็ลาออก แถวยังติดยาบ้า เสียเวลาไม่ทำงานเป็น10ปี เรื่องก็รู้ไปถึงแม่ผมที่อเมริกา คือแม่รู้เรื่องผมตลอดแหละครับช่วงที่เกเร คุณแม่เสียใจมาก เพราะผมเคยสัญญากับแม่จะเป็นนักข่าว ประวัติชีวิตผมก็ตามนี้ครับ
ตอนนี้แม่ผมกับมาเมืองไทยอยู่กับผมแล้วครับ เราเปิดคาร์แคร์ที่พัทยา ครอบครัวช่วยกันทำ ตอนนี้ผมเก็บเงินได้ 40,000บาท เลยคิดว่าน่าจะเขียนพ็อกเก็ตบุ๊คสักเล่ม เกี่ยวกับการปั่นจักรยานที่ญี่ปุ่น ออกมาวางขายให้ได้ ถ้าขายได้ก็จะได้เที่ยวฟรี และเอาหนังสือมาให้แม่ดูให้แม่อ่าน เพื่อบอกว่า ผมทำได้แล้วครับ สิ่งที่เคยบอกไว้ (แม่เคยด่าผมบ่อยๆ ว่าเรียนมาไม่มีประโยชน์ แต่แกก็ไม่ได้เป็นจริงเป็นจังหรอกครับ ต้องโทษผมเองที่ไปไม่ถึงฝันที่คุยไว้ ผมเลยไม่มีเครดิตเท่าไหร่กับคนในบ้านและแม่ เวลามีเรื่องอะไรต้องตัดสินใจ หรือผมทำผิดพลาด ผมก็จะโดนแม่เอาเรื่องนี้มาด่าครับ)
แล้วผมก็ไปซื้อตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นมา พอกลับมาบ้านก็คิดได้ว่า ถ้าเกิดรถชนตายที่ญี่ปุ่นล่ะ ตายฟรี ไม่ได้อะไรเลย เปลี่ยนแผนพาแม่ไปเที่ยวดีกว่าไหม ผมเลยอยากถามเพื่อนๆ ณ.ตอนนี้ เพื่อนๆเป็นผม จะทำข้อไหน ขอบคุณครับ
ส่วนตัวผมเลือก ไปคนเดียว เพราะผมคิดว่า ไปเที่ยวกับแม่ที่ญี่ปุ่นก็แค่ ไปถ่ายรูปที่สวยๆ แล้วเอามาลง FACEBOOK ก็แค่นั้นครับ แต่ถ้าผมทำหนังสือออกมาสำเร็จ และเอาหนังสือไปให้แม่อ่าน ว่านี้นะหนังสือของลูกชายแม่ ลองอ่านดูครับ และพาแม่ไปดูที่ร้านหนังสือบนห้างให้แม่เห็นว่ามันวางขายอยู่ ผมว่าแบบนี้มันพิเศษกว่าพาแม่ไปเที่ยวครับ
สุดท้าย ผมอยากบอกว่า ผมโมโหมากที่กระทู้ที่ผมตั้งครั้งก่อน เพื่อนบางคน บอกว่า ผมเขียนอ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง ผมอยากจะบอกว่า มันอ่านรู้เรื่อง ไม่ได้เลวร้ายถึงขนาดนั้น และยกข้อความกระทู้ที่แล้ว มาให้อ่านครับ สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่าน อ่านแล้วช่วยลงความเห็นด้วยครับ ว่ามันอ่านรู้เรื่องหรือป่าว บางคนด่าผมถึงขั้น ใช้คำว่า ทุเรศ ที่ผมบอกว่า ถ้าพาแม่ไปเที่ยวก็ต้องยืมเงินแม่ ไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย ผมว่ามันเรื่องธรรมดาครับ ผมอยากถามกลับครับ คุณคนที่ด่าผม ว่าเคยยืมเงินแม่หมุนไหม เคยยืมเงินแม่มาส่งรถไหม เพราะผมไม่เคยทำเรื่องพวกนั้นครับ ตลอดชีวิตผม ผมยังไม่เคยขอเงินแม่ถึง2พันเลย หรือใช้เงินแม่เป็นหมื่นเป็นแสนครับ เข้าใจไว้ด้วยครับ ขอบคุณครับ และมองชิวิตคุณที่ผ่านมาใช้เงินแม่ไปเท่าไหร่ คุณอย่าเอามุมมองจากประสบการณ์ชีวิตของคุณมาตัดสินคนอื่นเขาครับ เพราะบางเรื่องสิ่งที่คุณคิดว่าผิดในมุมมองของคุณ มันอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาและไม่ร้ายแรงก็ได้สำหรับคนที่ไม่มีโอกาศ และยากจน
ขอโทษนะครับ ขอให้เข้ามาอ่านกระทู้นี้ คนที่ว่าผมเขียนกระทู้แล้วอ่านไม่เข้าใจ ตอนนี้ผมจะแก้ไขกระทู้ให้อ่านใหม่อีกครั้ง
เรื่องมีอยู่ว่า ตอนนี้ผมมีเงินเก็บอยู่ประมาณ50,000บาทครับ ผมยังตัดสินใจไม่ได้ว่า ผมจะเอาเงินนี้ไปใช้ทำอะไรดี ระหว่าง
1.พาคุณแม่ไปเที่ยวญี่ปุ่น
2.ผมไปญี่ปุ่นคนเดียวเพื่อไปปั่นจักรยาน หาข้อมูลมาเขียนพ็อกเก็ตบุ๊ค
แต่ก่อนโหวต ผมอยากจะขอเล่าประวัติผมให้ฟังสักหน่อยครับ เพื่อช่วยให้เพื่อนๆใช้เป็นข้อมูลประกอบการโหวตครับ
เรื่องมีอยู่ว่า ผมเป็นลูกชายคนสุดท้องจากพี่น้อง4คน ผู้หญิง3คนครับ ครอบครัวผมมีปัญหาทางการเงิน คุณพ่อผมก็สายตาเสียครับทำให้ทำงานไม่ได้ อาการคือเส้นโลหิตฟอยในตาแตกครับ เกิดจากความดันโลหิตสูง คุณแม่ผมก็เลยตัดสินใจไปอเมริกาเพื่อทำงานหาเลี้ยงครอบครัว และส่งผมเรียนมหาวิทยาลัย 2ปีแรกผมได้ไม่กี่หน่วยกิจ พอปี3-ปี5 ผมอ่านหนังสือทุกวันเช้าจนมืด จนผมจบ ซึ่งคุณพ่อก็ไปงานรับปริญญาผมด้วย ต่อมาไม่กี่ปีคุณพ่อก็เสีย ส่วนผมก็ทำงานบริษัท เข้าๆออกๆ2-3ที่ ทำที่หนึ่ง3-4เดือน ก็ลาออก แถวยังติดยาบ้า เสียเวลาไม่ทำงานเป็น10ปี เรื่องก็รู้ไปถึงแม่ผมที่อเมริกา คือแม่รู้เรื่องผมตลอดแหละครับช่วงที่เกเร คุณแม่เสียใจมาก เพราะผมเคยสัญญากับแม่จะเป็นนักข่าว ประวัติชีวิตผมก็ตามนี้ครับ
ตอนนี้แม่ผมกับมาเมืองไทยอยู่กับผมแล้วครับ เราเปิดคาร์แคร์ที่พัทยา ครอบครัวช่วยกันทำ ตอนนี้ผมเก็บเงินได้ 40,000บาท เลยคิดว่าน่าจะเขียนพ็อกเก็ตบุ๊คสักเล่ม เกี่ยวกับการปั่นจักรยานที่ญี่ปุ่น ออกมาวางขายให้ได้ ถ้าขายได้ก็จะได้เที่ยวฟรี และเอาหนังสือมาให้แม่ดูให้แม่อ่าน เพื่อบอกว่า ผมทำได้แล้วครับ สิ่งที่เคยบอกไว้ (แม่เคยด่าผมบ่อยๆ ว่าเรียนมาไม่มีประโยชน์ แต่แกก็ไม่ได้เป็นจริงเป็นจังหรอกครับ ต้องโทษผมเองที่ไปไม่ถึงฝันที่คุยไว้ ผมเลยไม่มีเครดิตเท่าไหร่กับคนในบ้านและแม่ เวลามีเรื่องอะไรต้องตัดสินใจ หรือผมทำผิดพลาด ผมก็จะโดนแม่เอาเรื่องนี้มาด่าครับ)
แล้วผมก็ไปซื้อตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นมา พอกลับมาบ้านก็คิดได้ว่า ถ้าเกิดรถชนตายที่ญี่ปุ่นล่ะ ตายฟรี ไม่ได้อะไรเลย เปลี่ยนแผนพาแม่ไปเที่ยวดีกว่าไหม ผมเลยอยากถามเพื่อนๆ ณ.ตอนนี้ เพื่อนๆเป็นผม จะทำข้อไหน ขอบคุณครับ
ส่วนตัวผมเลือก ไปคนเดียว เพราะผมคิดว่า ไปเที่ยวกับแม่ที่ญี่ปุ่นก็แค่ ไปถ่ายรูปที่สวยๆ แล้วเอามาลง FACEBOOK ก็แค่นั้นครับ แต่ถ้าผมทำหนังสือออกมาสำเร็จ และเอาหนังสือไปให้แม่อ่าน ว่านี้นะหนังสือของลูกชายแม่ ลองอ่านดูครับ และพาแม่ไปดูที่ร้านหนังสือบนห้างให้แม่เห็นว่ามันวางขายอยู่ ผมว่าแบบนี้มันพิเศษกว่าพาแม่ไปเที่ยวครับ
สุดท้าย ผมอยากบอกว่า ผมโมโหมากที่กระทู้ที่ผมตั้งครั้งก่อน เพื่อนบางคน บอกว่า ผมเขียนอ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง ผมอยากจะบอกว่า มันอ่านรู้เรื่อง ไม่ได้เลวร้ายถึงขนาดนั้น และยกข้อความกระทู้ที่แล้ว มาให้อ่านครับ สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่าน อ่านแล้วช่วยลงความเห็นด้วยครับ ว่ามันอ่านรู้เรื่องหรือป่าว บางคนด่าผมถึงขั้น ใช้คำว่า ทุเรศ ที่ผมบอกว่า ถ้าพาแม่ไปเที่ยวก็ต้องยืมเงินแม่ ไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย ผมว่ามันเรื่องธรรมดาครับ ผมอยากถามกลับครับ คุณคนที่ด่าผม ว่าเคยยืมเงินแม่หมุนไหม เคยยืมเงินแม่มาส่งรถไหม เพราะผมไม่เคยทำเรื่องพวกนั้นครับ ตลอดชีวิตผม ผมยังไม่เคยขอเงินแม่ถึง2พันเลย หรือใช้เงินแม่เป็นหมื่นเป็นแสนครับ เข้าใจไว้ด้วยครับ ขอบคุณครับ และมองชิวิตคุณที่ผ่านมาใช้เงินแม่ไปเท่าไหร่ คุณอย่าเอามุมมองจากประสบการณ์ชีวิตของคุณมาตัดสินคนอื่นเขาครับ เพราะบางเรื่องสิ่งที่คุณคิดว่าผิดในมุมมองของคุณ มันอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาและไม่ร้ายแรงก็ได้สำหรับคนที่ไม่มีโอกาศ และยากจน