[CR] รีวิว เครื่องสำอางค์สำหรับคนที่กำลังจะก้าวสู่หลัก 4 !! Beauty products for aging

เมื่อคุณอยู่ในวัยเลย 35 ใกล้ 40 อะไรๆบนผิวหน้าก็จะเปลี่ยนไป ยิ่งถ้าคุณ smoke คุณ drink หรือแม้แต่กินกาแฟทุกวัน ก็จะมา effect กันในช่วงนี้ ความโชคดีคือ เรามีหมอดีๆมากมาย แล้วแต่สมัครใจจะทำอะไรกัน แต่การชะลอวัยนั้น มันต้องการเครื่องสำอางดีๆข้างกาย การปกปิดริ้วรอยแห่งวัย ก็ต้องการเครื่องสำอางดีๆเช่นกันนะคะ วัยเรานี้ไม่สามารถใช้ประเภทแป้งเด็กน้อยที่เค้ารีวิวว่าดีได้อีกต่อไป เพราะเค้ายี่สิบกว่าค่า เค้าไม่มีรอยเยอะ ไม่แห้งๆมันๆแห้งๆมันๆ ไม่เป็นสิวbreakout ไม่เป็นร่องแก้มมา jaw line เค้ายังชัด กระฝ้าก็แทบจะไม่มี เมื่อเราage หรือเมื่อเราแก่ลงกระจะมา รอยดำจะมา ดังนั้นนอกจากจะต้องกินของดีที่พอกินได้แล้ว หรือต้องลดของอร่อยเอาแบบรับได้นะ คสอ.เป็นสิ่งที่คุณต้องเปลี่ยนแปลง

เริ่มเลย หน้าเดี๋ยวแห้งเดี๋ยวมัน แป้งไม่ติด รองพื้นร่อน รูขุมขน โดยเฉพาะที่ตรงจมูกจะกว้างจนเห็นได้ในระยะครึ่งเมตร เราแนะนำให้ขัดหน้า อาทิตย์ละ 1 หน ที่เราว่าดีและไม่แพง คือ innisfree ตัวนี้ innisfree green barley scrub ดีและอ่อนโยนมาก ขัดลงมาที่คอ รวมถึงหลังคอด้วยนะคะ บางคนรวลผมบ่อย หลังคอจะดำ ดูจากด้านหลังไม่สวยเหมือนตอนเป็นสาวน้อย

อีกอันที่ต้องพูดเลยว่าลองผิดลองถูกมามาก กับการทำลายกระ รอยดำ ที่จะเจริญเป็นฝ้าได้ง่าย ต้องบอกเลยว่าหลังจากคุยกะหมอที่ไม่ได้เป็นเจ้าของคลีนิคแล้ว นางว่าอย่าเพิ่งไปยิงเลเซอร์ใดๆ เพราะยิ่งจะทำให้รับแสงได้ง่ายกว่าเดิม ดำง่ายกว่าเดิม ซึ่งตรงกับความรู้สึกของเรา เราเห็นคนอื่นไปทำแล้วคิดเอาเองว่ามันเข้มขึ้น ก็เลยซื้อสารพัดมาเป็น serum, essence, spot corrector ตั้งแต่ราคาหลักพันต้น จนถึง 7-8 พัน เราว่าตัวนี้เห็นผลสุด  
guerlain pearl อันนี้ดีอะ รู้สึกได้ ไม่ได้คิดไปเอง เพราะถึงกับต้องขยับรองพื้น แล้วพอคุณ age หรือมีอายุ แรงไปหน้าก็เป็นผื่น เป็นขุย แห้งก็บ้าง เบาไปก็ไม่ได้ผลใดๆ ย้ำ ใดๆ เหมือนเผาเงินเล่น แต่ตัวนี้ดีจริง แนะนำให้ซื้อเจ๊เล้ง ลด 30% คือดีงาม ลดแล้วเหลือสามพันกว่าๆจะสี่พัน ต้องปรบมือ มันชะลอได้นะ แต่ไม่ได้หมายความว่าหน้าจะปิ๊งปั๊งเหมือนสาว 25
ถ้าอยากจะปิ๊งบางช่วง แนะนำไปลงวิตามินเข้าเส้น หรือลงเมโสหน้า หน้าจะใสฟูไป 2 อาทิตย์ เมื่อก่อนเราไปลง growth factor ที่พฤกษาแล้วดี๊ดี แต่หลังๆไปลงแล้วเฉยๆ ถ้าไม่ดื้อยา ก็เปลี่ยนตัวยา

ต่อไปของคนย่าง 40 คือ การค้นหา eye serum , eye cream เพื่อชะลอตีนกา หรือลดพวกเส้นเล็กๆเวลายิ้ม เช่นกัน ลองไป เราว่าเป็นหมื่นเป็นแสน สุดท้ายมาลงที่ 2 ตัวนี้ รู้สึกว่าตึงขึ้น ริ้วน้อยกว่าควรจะเป็น ที่สำคัญเมื่อเทียบกับคนรุ่นเดียวๆกันหรือเด็กกว่า เส้นเราดี ไม่ชัด 2 ตัวนี้เห็นผลใน 3-6 เดือน
ตัว aqua ของ belif ที่เคยเปิดในพารากอนแต่หายไปดื้อๆ เพราะ packaging อาจดูธรรมดา เราว่า แต่ดีเลิศ ราคาก็ดีงาม พันกว่าเกือบสองพัน ใช้แล้วรู้สึกได้ว่าริ้วหนักไม่ค่อยมี และพวกฝอยๆใต้ตาก็หายไป ที่ไปได้อันนี้มาจริงๆคือดูรีวิวทั้งฝรั่งทั้งเกาหลี เค้าว่าตัวนี้ดี พอไปลองเออดีจริงแฮะ แต่อีกตัวจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ 111 ใช้แล้วรู้สึกว่าหนังตาด้านบนมีความตึงขึ้นหน่อย ทีแรกนึกว่าเป็นเพราะtexture มันเหมือนกาวๆป่าว ที่แบบของเกาหลีมาขายแบบถูๆให้หน้ากระตุกขึ้น แต่ไม่ใช่มันคงความดีได้ยาวนาน ถึงแม้ไม่ได้ใช้ทุกวันนะ เพราะมันแพง อันนี้ไปซื้อตัวนิวเยียร์เซ็ตมา 2 เซ็ต ถึงได้ใช้ เออดีล้ำค่าจริงๆ

จบจากตาขอพูดถึง
สรรพเพเหระมาก แต่ถ้าใครใช้ยาสีฟันเย็นๆไม่ได้เพราะแพ้ แนะนำตัวนี้ ปากหอมมาก ฟิลสะอาด เย็นสดชื่นไม่แพ้ ขนาดสามีประเภทไม่แคร์โลกใช้อะไรก็เหมือนกันขอเย็นๆ คอลเกต ไม่ต้องลดเสียวฟัน ไม่เกลือ ยังเอ่ยปากชมว่ายาสีฟันดีๆเป็นแบบนี้นี่เอง เราใช้ทุกรสนะ ส่วนตัวชอบอันนี้สุด เพราะไม่ค่อยได้ใช้เย็นๆกะเค้า ปากเป็นตุ่ม พอได้ใช้เย็นๆบ้างรู้สึกดีจริงๆ สุดท้ายขอจบเรื่องผิวด้วยครีมกู้ชีพเวลามี breakout หรือมีหน้ามีอาการแพ้ แตก ขุย และอื่นๆ อันนี้เลย เจ๊เล้งขายสี่ร้อยกว่าๆ คือดี ทาลูก 2 ขวบ ที่เป็นขาแตก 2 ครั้งหาย ไอ้โน่นนี่ของเบบี๋ ไม่หายนะ ไม่อยากทายาด้วย อันนี้ดีจริง เมื่อยามผิวอักเสบ
เอาล่ะขอ transition ไปที่เมคอัพ ด้วยตัวที่เราชอบ แต่แอบจะมีความงงว่า ใช้ตอนไหนดี(วะ) the secret ของ YSL คือมันเป็น moisture แต่ก็ลื่น ทำให้หน้ามีความ velvet อะ เนียนเรียบ แต่ไม่ใช่ primer แม้จะมีความงงก็ใช้จนจะหมดละ แพงนะ แต่ว่าดี แต่สำหรับคนอายุต่ำกว่า 35 เราว่าไม่จำเป็น เพราะtextureของหน้าไม่ต้องการ layer นี้หรอก ส่วนที่เลยมา คือมันดี ลงหลังกันแดด แต่ถ้าใช้กันแดดเป็นแบบ bb .ให้ลงก่อน งงมะ อันนี้ค้นพบด้วยตัวเอง หรือไม่ก็ใช้กันแดดแบบเจลไม่มีสี ก็ลงหลังเพื่อ texture หน้าที่ดี แม้คนขายจะบอกว่าลงก่อนกันแดด แต่เราว่า แล้วจะลงทำไมเมื่อเอากันแดดลงตาม ความดีงามของตัวผิวบนผลิตภัณฑ์ก็หายไปหมด แล้วนาง 2500 นะจ้ะ แต่นางช่วยเรื่องน้ำบนหน้าด้วย เพราะเหมือนแก่ลง ความเกาหลีฉ่ำเงา เป๊ะปังก็หายไป ตัวนี้ดีตรงนี้

มาถึง makeup เนื่องจากหน้าแห้ง แล้วอยู่แต่ในห้องแอร์ เลยชอบตัวนี้พิเศษ innisfree อีกละ ชอบทีทาแล้วมันกรึ้บ ลิฟท์ดี แล้วชุ่มชื้น ใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมด ราคาก็ดี แต่เหมือนว่าจะไม่มีแล้ว เพราะบ้านเรา ก็บ้าแต่ของ mattๆ แล้ว target หลักของเค้าก็เป็นสาวอายุไม่เกิน 35 ดูได้จาก presenter เยาว์วัยเหลือเกิน แต่อันนี้ดีงามเหมาะกะป้าจ่ะ

next เดี๋ยวนี้ เพื่อความคงทน และด้วยความเร่งรีบเนื่องจากชีวิตมีหมวกหลายใบ cream eye shadow เลยเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ชอบ 2 ตัว ของ suqqu อยู่ทน แต่ไม่วิ้งวังเวอร์ เท่า 3CE ที่ราคา 6-700 วิ้งเวอร์ แต่ไม่ค่อยทน เพราะพับตาเริ่มเยอะเปลือกตาก็ทาไรไม่ค่อยติดง่ายๆด้วย เท่าที่ลอง 2 ตัวนี้ดี เป็นกระปุกเลยใช้ได้นานกว่าเป็นแท่ง ใช้แปรงปัดๆดู sophisticate ดี
รองพื้นยังยืนยันตัวเดิม เหมาะกับคนเลย 35 หรือเลย 45 มากๆ ไม่สามารถใช้ fit me อะไรกะใครแล้วนวลสวยได้อีก ต้องลงทุน แต่คุ้มมากใช้เป็นปี ใช้จนเค้าอัพรุ่น คือ Suqqu foundation เรายังรักรุ่นเดิม ที่เห็นคือปาดหมดแล้วเหลือติดขอบกระปุก คือมันฉ่ำ รุ่นใหม่ ไม่ฉ่ำเท่า แต่ปกปิดดีกว่า เนื้อก็เบาไม่หนักเลย ใช้กับ beauty blender ดีมากๆ เราเป็นคนลองนะ ก่อนหน้านี้ซื้อ suratte ซื้อ Armani luminous silk คือก็ดีนะ แต่สู้อันนี้ไม่ได้เลยสำหรับคนอายุเท่าเรานะ ผิวสวยได้ต้องพึ่งรองพื้นตัวนี้เลย เกลี่ยก็ง่าย เร็วๆก็มือเลย เนียน อยู่ได้สวยถึงเย็น ขนาดว่าวันนึงไปซาฟารีเวิล์ดกะลูก หน้ายังเนียน แต่เงานะ เหงื่อเยอะอยู่ ซับๆก็สวยแล้ว อันนี้ยกให้เลย ใช้กระปุกละเกือบปี อย่าเรียกว่าซื้อ เรียกว่าถอยดีกว่า

เกือบหมดละ ขอเล่าเรื่องลิปสติก เราว่าเรามีเกือบร้อยแท่ง และโละทุกปี เมื่อแก่ คุณจะทา liquid lipstick ยากมาก บางอันร่อน บางอันแห้งจนรำคาญปาก ละทา shine ก็ไม่สวยงาม ไม่มีสี ต้องทาเป็น velvet, cream หรือ velvet matte ถึงจะสวย แต่ต้องหาที่ดีจริง ไม่ตกร่อง ไม่เป็นขุย และที่สำคัญ ไม่แพ้ เพราะเราแพ้ง่ายมาก จากร้อยเลยลดเหลือ 3 BRAND ที่ชอบ 1.mac matte lip เราชอบสี mehr สีที่ผลุบๆโผล่ๆ ขายเฉพาะประเทศ ไม่รู้ทำไม แต่ไม่แดง ไม่เข้มมาก ไม่ม่วง ดูเหมาะกับอายุที่ต้องคุยกับลูกน้องบ้าง ลูกค้าบ้าง ครูที่รร.ลูกบ้าง แต่อยากให้ลุคไม่กุ๊กกิ๊กไป 2. ราคาดีงามซื้อได้ที่ บูธ soap and glory lipstick ดังภาพ เป็นรุ่น matte ซื่งไม้ได้แมทมาก กำลังดี ราคาก็ดี 3 สุดท้ายต้องบอกว่าลิปที่ดีคือลิปของ burberry ดีจริงๆ ทุกรุ่น ชอบที่สุดคือ velvet matte หน่อย หรือจะรุ่นฉ่ำๆก็ดีมากเลย ส่วนลิปที่ซื้อกี่ทีก็เสียใจคือชาแนล ชาแนลนี้แป้งก็ดีนะ ครีมก็ดี แต่ลิปไม่ดีเลย สำหรับเรานะ ไม่ว่าจะ ink จะ gloss จะ cream จะ shine ซื้อมาผิดหวังด้วยเหตุผลต่างๆนาๆทุกที ทำไมไม่รู้ ส่วน tom ford ก็แพงมาก และหาสีที่เข้ากับเราไม่ได้เลย ซื้อมา 3 สี ต้องหยุดซื้อ รู้สึกว่าลิปไม่หลอมเข้ากับปาก ดูโดด ไม่สวย ส่วนลิปชีเซโด ก็สวยนะ แต่ไม่perfect ของเกอร์แลงก็หนักไปไหน พกไม่ไหว ของThreeก็ไม่เข้ากับปากเรา เหมาะกับสาวน้อยมากกว่า ของเบอร์เบอรี่นี่ทาซักพักจะรวมกับสีปากสวยเลย ไม่ตกร่องเลย จริงๆ เนื้อดีมาก

ของที่ชอบใช้มา 2 ปีละคือ lip balm ของ lamer คือดี แต่หยุดขึ้นราคาได้ไม๊ T_T กับ blush on ของ the balm ที่เป็นกึ่ง highlight ไว้ทากับปากแดง จะสวยพอดีมากๆ เพราะเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีเทรนด์แก้มแดงเหมือนเมื่อก่อนค่ะ
จบที่ของ 2 อย่างที่แพง ซื้อมาแล้วเสียใจ ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ แต่คิดไปไกลด้วยราคานี้ด้วยคำนิยมจากบล็อกเกอร์ ควรจะดีกว่านี้ หรือไม่ก็ไปจ่ายเอาที่ถูกกว่าดีกว่า เป็นของๆพี่ทอมทั้งสิ้น ตัวคิ้วเฉยๆอะ ตอนไปลองก็เฉยๆนะ แต่ซื้อมาคิดว่าพอใช้ๆไปคงจะเข้าใจวิธีการดีขึ้น ส่วน highlight กับ shading ก็เฉยๆอะ shading นี่หลุดจากเบ้าละ พกเดินทางครั้งเดียว มันก็เหมือนพวก highlight ของ becca ที่หลุดแตกง่าย อันนี้ไม่ว่ากัน แต่ความสวยของสี ความสะท้อนแสง อะไรแบบเนียะ ไม่ถูกใจถูกตังเราเลย เสียดาย
ก็จบด้วยประการฉะนี้ บอกอีกครั้งว่า รีวิวทาร์เก็ต ไม่ใช่เพื่อ 20s นะ แต่เป็น 35 up จ่ะ ปัญหาผิวต่างกันมากมายนะ

ขอบคุณที่อ่านค่ะ และขอโทษที่บางรูปเอียง ลองแก้แล้วแก้ไม่ได้ ไม่เป็น blogger มืออาชีพ แต่ใช้เครื่องสำอางค์ประหนึ่งมืออาชีพ