สวัสดีครับ
นานๆโพสที มีอะไรผิดพลาด ขออภัยด้วยนะครับ
จากการที่มีข่าวรถตู้ชน แล้วไฟไหม้
สาเหตุน่าจะมาจากแก็สระเบิด แล้วไฟลุกลามบนรถ จนเกิดเหตุสลดเร็วๆนี้
เคยเห็นกฎหมายของต่างประเทศ ในเรื่องของกฎหมายความปลอดภัยต่อผู้บริโภค เกี่ยวกับยานภาหนะ (ซึ่งมีเยอะมาก)
หนึ่งในนั้นเกี่ยวกับ การป้องกันการลุกไหม้ flammability (Burning rate) ของวัสดุที่ใช้ในรถโดยสาร เพื่อป้องกันการลุกลามของไฟที่ไวเกินไป
ผมมองว่าเป็นกฎหมายที่สำคัญและจำเป็นมากๆ ลองคิดดูเวลาไฟลามในรถ เวลาแค่เสี้ยววินาทีมีผลต่อความเป็นความตายขนาดไหน
ลองหากฎหมายไทยดู ก็เจอที่กรมการขนส่งทางบก ได้เริ่มออกกฎหมายข้อนี้มาคุ้มครองผู้บริโภค (ซึ่งควรจะมีตั้งนานแล้ว)
ประกาศเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2559 (บังคับใช้ 1 มกราคม 2562)
อ้างอิง :
http://elaw.dlt.go.th/ElawUpload/LAWUPLOAD/257.pdf?time=14:04:14
เนื้อหาสรุปคร่าวๆมากๆ ว่า วัสดุที่จะใช้ในรถโดยสาร ทั้งสาธารณะ หรือ บุคคล ต้องใช้วัสดุที่สามารถ ป้องกันความเร็วการลามไฟ โดยที่ความเร็วต้องน้อยกว่า 100 mm/min
(1 นาทีไฟลามได้ไม่เกิน 10 ซม.)
หนึ่งในคนไทย ผมต้องขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ผลักดันกฎหมายนี้ออกมา
ผลกระทบ:
1. ผู้บริโภค : มีแต่ข้อดีสิครับ เกิดรถที่เราซื้อมาวัสดุไม่ได้คุณภาพตามกฏหมายก็ฟ้องได้, ความปลอดภัยน่าจะเพิ่มขึ้น
2. ร้านอุปกรณ์ตกแต่งรถ (หุ้มเบาะ, ผ้าหลังคา ,ผ้าม่าน, และอื่นๆ ) : ผมว่าโดนเต็มๆครับ วัสดุที่คุณจะนำมาดัดแปลงขายให้ผู้บริโภค ต้องมีใบประกาศรับรองการทดสอบ ตามหลักเกณฑ์ ที่กฎหมายกำหนด (ตามลิงค์ด้านบน)
3. รถโดยสารต่างๆ : ถ้าผมตีความตามลิงค์ข้างบนไม่ผิด น่าจะต้องขอผลทดสอบย้อนหลัง สำหรับวัสดุที่ใช้อยู่ในรถ หุหุ
4. บริษัทผลิตรถยนต์ : การเลือกผลิตวัสดุ จะต้องใช้ตามกฎหมาย ไม่งั้นมีข่าวเรียกคืน / ฟ้องร้อง ตามมาแน่นอน
แต่เท่าที่พอทราบมา รถบางยี่ห้อที่ผลิตในไทยแล้วส่งออก ต้องมีผลทดสอบยืนยันวัสดุอยู่แล้ว บางยี่ห้อก็มี Policy เป็นของตัวเองว่าวัสดุต้องผ่านกฎนี้
ก็คงต้องรอติดตามกันต่อไป
5. บริษัทที่ผลิต-นำเข้าวัสดุ : แน่นอนว่าคุณต้องใช้วัสดุที่ผ่านการทดสอบ เพื่อแจ้งแก่ลูกค้าของคุณ (ร้านอุปกรณ์ตกแต่งรถ, บริษัทรถยนต์)
เหลือแค่เรื่องบังคับใช้ และลงโทษ ในส่วนของกลุ่มที่ไม่รักษากฎ ต้องเข้มงวด ต่อเนื่อง และจริงจรัง เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินทางของคนไทยเรา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เราซื้อรถราคาแพงพอๆกับต่างประเทศ ความปลอดภัยเราก็ควรที่จะได้ให้เหมือนกับเขา
เราเดินทาง เรามีบุคคลที่รักอยู่ด้านหลัง เราต้องการความอุ่นใจ ว่าพาหนะ ที่เราใช้เดินทาง มีความปลอดภัย และออกแบบมาเพื่อคุ้มครองเรา และผู้โดยสารอื่น (ทั้งภายใน และภายนอกรถ)
*กฎหมายความปลอดภัยจริงๆมีมากกว่านี้ ควรที่จะทยอยออกมาบังคับใช้กับบริษัทรถยนต์ เพื่อคุ้มครองคนไทยให้มากกว่านี้
ตอนนี้ยังดี มี Asean N-CAP ระบุดาว ในการให้ความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารตอนรถชน (ใครจะซื้อรถ ดูดาว ด้วยก็ดีนะครับ)
http://www.aseancap.org/
มีข้อผิดพลาดหรือเสนอแนะเพิ่มเติม คอมเมนต์มาได้ครับ _/\_
แก้ไข1. เรื่องสาเหตุของไฟไหม้ ไว้ติดตามข่าวทาง จนท. สรุปมานะครับ
กฎหมายใหม่ การบังคับใช้วัสดุป้องกันการลามไฟในรถโดยสาร (Burning rate 100 mm/min MAX)
นานๆโพสที มีอะไรผิดพลาด ขออภัยด้วยนะครับ
จากการที่มีข่าวรถตู้ชน แล้วไฟไหม้
สาเหตุน่าจะมาจากแก็สระเบิด แล้วไฟลุกลามบนรถ จนเกิดเหตุสลดเร็วๆนี้เคยเห็นกฎหมายของต่างประเทศ ในเรื่องของกฎหมายความปลอดภัยต่อผู้บริโภค เกี่ยวกับยานภาหนะ (ซึ่งมีเยอะมาก)
หนึ่งในนั้นเกี่ยวกับ การป้องกันการลุกไหม้ flammability (Burning rate) ของวัสดุที่ใช้ในรถโดยสาร เพื่อป้องกันการลุกลามของไฟที่ไวเกินไป
ผมมองว่าเป็นกฎหมายที่สำคัญและจำเป็นมากๆ ลองคิดดูเวลาไฟลามในรถ เวลาแค่เสี้ยววินาทีมีผลต่อความเป็นความตายขนาดไหน
ลองหากฎหมายไทยดู ก็เจอที่กรมการขนส่งทางบก ได้เริ่มออกกฎหมายข้อนี้มาคุ้มครองผู้บริโภค (ซึ่งควรจะมีตั้งนานแล้ว)
ประกาศเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2559 (บังคับใช้ 1 มกราคม 2562)
อ้างอิง : http://elaw.dlt.go.th/ElawUpload/LAWUPLOAD/257.pdf?time=14:04:14
เนื้อหาสรุปคร่าวๆมากๆ ว่า วัสดุที่จะใช้ในรถโดยสาร ทั้งสาธารณะ หรือ บุคคล ต้องใช้วัสดุที่สามารถ ป้องกันความเร็วการลามไฟ โดยที่ความเร็วต้องน้อยกว่า 100 mm/min
(1 นาทีไฟลามได้ไม่เกิน 10 ซม.)
หนึ่งในคนไทย ผมต้องขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ผลักดันกฎหมายนี้ออกมา
ผลกระทบ:
1. ผู้บริโภค : มีแต่ข้อดีสิครับ เกิดรถที่เราซื้อมาวัสดุไม่ได้คุณภาพตามกฏหมายก็ฟ้องได้, ความปลอดภัยน่าจะเพิ่มขึ้น
2. ร้านอุปกรณ์ตกแต่งรถ (หุ้มเบาะ, ผ้าหลังคา ,ผ้าม่าน, และอื่นๆ ) : ผมว่าโดนเต็มๆครับ วัสดุที่คุณจะนำมาดัดแปลงขายให้ผู้บริโภค ต้องมีใบประกาศรับรองการทดสอบ ตามหลักเกณฑ์ ที่กฎหมายกำหนด (ตามลิงค์ด้านบน)
3. รถโดยสารต่างๆ : ถ้าผมตีความตามลิงค์ข้างบนไม่ผิด น่าจะต้องขอผลทดสอบย้อนหลัง สำหรับวัสดุที่ใช้อยู่ในรถ หุหุ
4. บริษัทผลิตรถยนต์ : การเลือกผลิตวัสดุ จะต้องใช้ตามกฎหมาย ไม่งั้นมีข่าวเรียกคืน / ฟ้องร้อง ตามมาแน่นอน
แต่เท่าที่พอทราบมา รถบางยี่ห้อที่ผลิตในไทยแล้วส่งออก ต้องมีผลทดสอบยืนยันวัสดุอยู่แล้ว บางยี่ห้อก็มี Policy เป็นของตัวเองว่าวัสดุต้องผ่านกฎนี้
ก็คงต้องรอติดตามกันต่อไป
5. บริษัทที่ผลิต-นำเข้าวัสดุ : แน่นอนว่าคุณต้องใช้วัสดุที่ผ่านการทดสอบ เพื่อแจ้งแก่ลูกค้าของคุณ (ร้านอุปกรณ์ตกแต่งรถ, บริษัทรถยนต์)
เหลือแค่เรื่องบังคับใช้ และลงโทษ ในส่วนของกลุ่มที่ไม่รักษากฎ ต้องเข้มงวด ต่อเนื่อง และจริงจรัง เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินทางของคนไทยเรา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
*กฎหมายความปลอดภัยจริงๆมีมากกว่านี้ ควรที่จะทยอยออกมาบังคับใช้กับบริษัทรถยนต์ เพื่อคุ้มครองคนไทยให้มากกว่านี้
ตอนนี้ยังดี มี Asean N-CAP ระบุดาว ในการให้ความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารตอนรถชน (ใครจะซื้อรถ ดูดาว ด้วยก็ดีนะครับ)
http://www.aseancap.org/
มีข้อผิดพลาดหรือเสนอแนะเพิ่มเติม คอมเมนต์มาได้ครับ _/\_
แก้ไข1. เรื่องสาเหตุของไฟไหม้ ไว้ติดตามข่าวทาง จนท. สรุปมานะครับ