[CR] Review : La La Land (อยากให้เวทมนตร์ไม่มีวันจางหายไป)

Review : La La Land (อยากให้เวทมนตร์ไม่มีวันจางหายไป)

ผู้กำกับ : Damien Chazelle (Guy and Madeline on a Park Bench, Whiplash)

ติดตามรีวิว+พูดคุยเกี่ยวกับเกม ภาพยนตร์ และการ์ตูนได้ที่เพจของผมนะครับhttps://www.facebook.com/Old-Geeks-1275369035829195/

หนังที่ผมชอบที่สุดในปี 2014 คือ Whiplash ครับ แน่นอน Birdman ก็ดีมาก แต่สุดท้ายผมก็ไม่อาจปฏิเสธการแสดงอันดิบดุดัน และเรื่องราวการขับเคี่ยวอันเร่าร้อนของ Whiplash ไปได้ และเมื่อผมได้ทราบถึงโปรเจคต์ต่อไปของผู้กำกับ Damien Chazelle นั่นก็คือ La La Land ผมก็ได้ตั้งหน้าตั้งตารอชมอย่างใจจดใจจ่อครับ จนในที่สุด La La Land ก็เข้าฉายแล้ว และสิ่งหนึ่งที่ผมขอบอกเลยคือ “สมการรอคอยจริงๆครับ”


La La Land เล่าถึงคนช่างฝัน 2 คน ได้แก่ Mia (Emma Stone) สาวน้อยที่ฝันจะเป็นดารานักแสดง และ Sebastian (Ryan Gosling) หนุ่มผู้หลงใหลเพลงแจ๊สและฝันจะมีไนท์คลับแจ๊สเป็นของตัวเอง ทั้งสองได้มาพบและถูกชะตากันในนครแห่งดวงดาว Los Angelis การเดินทางของความรักและความฝันของทั้งสองจะเป็นเช่นไร ติดตามได้ใน La La Land ครับ


และแล้วในวันแรกของปี 2017 ผมก็พบกับหนังที่ชอบมากกว่าหนังปี 2016 ทั้งปีอีกครับ ไม่ได้รู้สึก “รัก” หนังขนาดนี้มานานแล้ว ซึ่งสิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้เต็มๆตั้งแต่เริ่มเรื่องคือ Performance ความเป็นหนังเพลงของมัน ที่ทำออกมาได้ดีมากๆ เพลงเพราะมากทุกเพลง ย้ำว่าทุกเพลงจริงๆ (นี่หนังจบอารมณ์ไม่จบนะเนี่ยตั้งกะกลับมาจากโรงผมนั่งฟัง ost ไปไม่รู้กี่รอบ) และการนำเสนอของมันก็ทำออกมาได้สุดยอดมากๆ ทั้งทีมเต้น การเคลื่อนกล้อง การถ่ายทอดภาพต่างๆ บางทีหนังจะแต่งภาพให้ฟุ้งๆ สีแสบสันเกินจริงหน่อย บางทีก็กลายเป็นแดนมหัศจรรย์ไปเลย (รู้สึกแอบมีกลิ่นการ์ตูนดิสนีย์เหมือนกัน) มันตื่นตาตื่นใจมากจริงๆ ซึ่งผมกล้าพูดได้เลยว่า ไม่เคยเห็นหนังเพลงเรื่องไหนทำได้ดีขนาดนี้มาก่อนเลยครับ (แค่ฉากแรกฉากเดียวก็รู้สึกคุ้มค่าตั๋วแล้วครับ ผมจะไม่บอกว่าเป็นไง ไปดูในโรงเถอะครับ ห้ามพลาดจริงๆ)


ส่วนในด้านการดำเนินเรื่อง La La Land ก็ทำได้ดีไม่แพ้กันครับ แต่ในช่วงแรกความหวือหวาของ Sequence เพลงมันจะยังกลบอยู่หน่อยๆ แต่เมื่อเรื่องราวดำเนินต่อไปก็จะพบว่ามันเป็นหนังที่ดำเนินเรื่องได้ดีและลุ่มลึกมากเรื่องหนึ่ง หนังมีทั้งความโรแมนติกน่ารักตามแบบฉบับภาพยนตร์ทั่วไป ซึ่งเคมีของคู่พระนางนั้นน่ารักมากๆ Ryan Gosling แสดงได้เท่ห์และมีเสน่ห์มาก ส่วน Emma Stone ก็น่ารักมาก และเมื่อถึงฉากที่ให้พวกเขาทั้งสองฟาดฟันอารมณ์กันก็ทำได้ดีทีเดียวครับ (แต่การแสดงจะไม่ดุดันเท่า Whiplash นะ) บทตลกก็มีนะ แล้วก็เวิร์คมากด้วย เหนือความคาดหมายเลยครับในส่วนนี้ Ryan Gosling นี่ฮาใช้ได้เลย อีกอย่างที่ชอบมากๆคือ เมื่อเรื่องราวดำเนินไปเรื่อยๆ ทั้งคู่ก็ค่อยๆตระหนักถึงความจริงอันโหดร้าย ว่าการตามความฝันของตนนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ซึ่งการนำเสนอของหนังก็เปลี่ยนแปลงไปตามเรื่องครับ เวทมนตร์ต่างๆเช่น อยู่ดีๆเพลงก็ขึ้น มีแดนเซอร์ออกมาเต้นก็ค่อยๆจางหายไป กลายเป็นโลกแห่งความจริงๆธรรมดาๆ (หรือบางทีตัวละครฝันถึงยุค 60-70 ผู้คนในเรื่องก็ทำตัวย้อนยุคกันหมด ทั้งที่มันยุคปัจจุบันแท้ๆ) ซึ่งการนำเสนอตรงนี้มันเจ๋งมาก คิดได้ไง ชอบมากๆ และมันก็เป็นเป็นการแอบปูทางเนียนๆก่อนที่หนังจะใช้เทคนิคนี้นำเราเข้าสู่ Sequence จบที่ผมจะไม่บอกว่าเป็นยังไง รู้ไว้แค่ว่าผมน้ำตาไหลไม่รู้ตัวครับ ใครจะว่ายังไงไม่รู้แล้วละครับ แต่ผมหลงรักมันจริงๆ ไม่อยากให้เวทมนตร์เหล่านี้จางหายไปเลยครับ

สรุป : รักมากๆ ไม่รู้สึกรักหนังขนาดนี้มานานแล้ว ถ้าคุณไม่รังเกียจหนังเพลง ห้ามพลาดจริงๆครับเรื่องนี้

คะแนน : 9.4/10 (S), ชอบมาก ครับ
ชื่อสินค้า:   LA LA LAND
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่