ใกล้ถึงเทศกาลหยุดยาวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันแล้วหลายคนคงเริ่มคิดแล้วว่า เอะ!! วันหยุดยาวแบบนี้เราจะไปพักผ่อนกันที่ไหนดีหลังจากทำงานหนักและเหนื่อยมาทั้งปีพวกเราก็อยากมีโมเม้นได้พักแบบยาวๆ ในสถานที่ๆ คนไม่มากมายหนัก ดังนั้นเรากะผองเพื่อนเลยตกลงใจกันว่าปีนี้จะไปนับถอยหลังกันบนดอย แต่ก็อีกและในประเทศไทยมีดอยมากมายจะไปดอยไหนกันดีล่ะ พวกเราจึงค่อยๆ หาข้อมูลและสรุปกันที่ ดอยกูมอเล ซึ่งดอยนี้อยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ อำเภอ แม่ลาน้อย จังหวัด แม่ฮ่องสอน โดยห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 130 กิโล เอ้าเมื่อเราได้จุดหมายปลายทางกันแล้วเราก็มาเริ่มเดินทางสู่จุดหมายปลายทางกันเลย
วันแรก 29 ธันวาคม 2559 วันเริ่มต้นแห่งการออกเดินทาง พวกเรานัดเจอกันที่บิ๊กซี สะพานควาย ล้อหมุนตอน 20.00 ซึ่งในวันที่ออกเดินทางนั้นถือได้ว่าสภาพรถในเมืองยังคล่องตัวไม่ติดอะไรมากมายย
วันที่สอง 30 ธันวาคม 2559 วันแห่งการเริ่มท่องเที่ยว พวกเรามาสว่างกันที่เชียงใหม่ หลังจากเติมพลังและจัดการภาระกิจส่วนตัวเสร็จพวกเราก็เริ่มออกท่องเที่ยวกันเลย โดยที่แรกที่เราแวะ คือ
อุทยานแห่งชาติ ออบหลวง เป็นสถานที่น่าเที่ยวที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติออบหลวง เป็นช่องแคบเขาขาดที่มีหน้าผาหินขนาบลำน้ำ ทำให้เกิดหุบผาลึก ความลึกของหน้าผาวัดจากสะพานออบหลวงถึงระดับน้ำปกติประมาณ 32 เมตร ส่วนแคบสุด 2 เมตร ความยาวของช่องแคบประมาณ 300 เมตร ธรรมชาติได้สร้างสรรความน่าพิศวงให้กับแผ่นดินส่วนนี้อย่างมหัศจรรย์ คำว่า “อ๊อบ” หรือ “ออบ” เป็นภาษาท้องถิ่นหมายถึงช่องแคบ “หลวง” หมายถึง ใหญ่ ออบหลวง คือชื่อเฉพาะที่ใช้เรียกช่องแคบหินขนาดยักษ์ที่มีลำน้ำแม่แจ่มบีบตัวแทรก ผ่านไป อีกนัยหนึ่งคือ หุบเขาบื้องล่างเป็นแม่น้ำสลักหิน ที่ไหลคดเคี้ยวผ่านช่องเขาขาด ตรงออบหลวงช่องเขานี้มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน และแคบมากบีบทางน้ำไหล ดังนั้นแม่น้ำตรงนี้จึงเชี่ยวจัด เสียงน้ำกระทบหน้าผาดังสนั่นแต่รอบๆ บริเวณชายน้ำด้านเหนืองดงามไปด้วยหมู่ไม้น้อยใหญ่ ร่มรื่นอยู่ตลอดเวลาชั่วนาตาปี ยังมีสะพานเชื่อมช่องเขาขาด สำหรับนักท่องเที่ยวยืนชมความงดงามแห่งทัศนียภาพของออบหลวง นอกจากนั้นภายในบริเวณอุทยานฯ ยังมีการขุดค้นพบแหล่งโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์ด้วย (ขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซต์ทางอินเตอร์เน็ต)




ภาพ เขียนโบราณบนออบหลวง นอกจากสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติแล้ว ยังมีสิ่งที่เกิดจากฝีมือมนุษย์โบราณให้ดูอีกด้วย นี่ก็คือภาพเขียนโบราณ ซึ่งมีรูปร่างคล้ายสัตว์ต่างๆ
ต้องบอกว่ามาถึงที่นี้แล้วต้องเดินให้สุดจุดชมวิวข้างบนสวยมาก
สถานที่ต่อมาที่พวกเราแวะกันก่อนจะเข้าที่พัก คือ
สวนสนบ่อแก้ว ซึ่งตอนที่มาถึงอากาศกำลังดีไม่หนาวหรือร้อนมากจนเกินไป ซึ่งบรรยากาศแบบนี้เหมือนเรากำลังอยู่ที่เกาหลีกันเลย
และปิดท้ายของวันนี้พวกเราไปนอนกางเต้นท์ที่
โครงการหลวงแม่ลาน้อย ซึ่งในนี้เขามีบ้านพักให้เช่านอนหรือถ้าอยากนอนกันแบบฟิน ฟิน แนะนำให้น้ำเต้นท์ไปกางนอน โดยเขาคิดค่าเต้นท์หลังละ 100 บาท ส่วนใครที่ไม่ได้เตรียมอาหารมาทำกินไม่ต้องตกในภายในมีร้านอาหารพร้อม
วันที่สาม 31 ธันวาคม 2559 วันสุดท้ายของปี ซึ่งวันนี้ล้อหมุนกันตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้น เนื่องจากวันนี้เรามีภาระกิจสำคัญก่อนขึ้นดอย โดยการนำเสื้อกันหนาวและอุปกรณ์เครื่องเขียนไปมอบให้กับน้องๆ
โรงเรียนบ้านแม่จอ ซึ่งก่อนที่เราจะไปทำภาระกิจกันเราแวะดื่มกาแฟนกันที่ ห้วยห้อม ซึ่งเขาบอกว่าเมล็ดกาแฟที่นี้ทำส่ง Starbucks แต่กาแฟเขาอร่อยจริง
หลังจากเราดื่มกาแฟกันเรียบร้อยเราก็เดินทางไปที่โรงเรียนบ้านแม่จอ โดยเรามีคุณครูเล็ก เป็นผู้นำทางเราไปที่โรงเรียน
ผู้ให้มักมีความสุขมกกว่าผู้รับเสมอ ในครั้งนี้ก็เช่นกัน ขอบคุณรอยยิ้มของน้องๆ ที่เพิ่มพลังกลับมาให้กะพวกพี่ๆ
หลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจเราก็เตรียมออกเดินทางขึ้นไปบนยอดดอยเพื่อเตรียมนับถอยหลังขึ้นสู่ปีใหม่กัน โดยเรานั่งรถตู้ไปลงที่โรงเรียนบ้านห้วยผึ้งใหม่ ซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนบ้านแม่จอ ประมาณ 3 กิโล หลังจากนั้นพวกเราก็เปลี่ยนรถมานั่งเป็นรถกระบะเพื่อส่งพวกเราไปยังจุดเริ่มเดิน โดยคุณครูเล็กได้บอกว่าระยะทางเดินประมาณ 4 กิโล (แอบนึกในใจ 4 กิโล เอง จิ๊บๆ) เอาละรถมาส่งเราถึงที่เริ่มเดินแล้ว ลุยยย
ทริปบี้ดูดีนะค่ะ ใช้มอไซต์ขนของขึ้นดอย แต่ก็ส่งเราไม่ถึงที่นะต้องแบกเองอีกประมาณ 1 ส่วน
เดินมาเกือบครึ่งชั่วโมงทางชันตลอดเลย จิอยากร้องไห้ (ในใจนึกตลอดทางเมื่อไหร่จะเจอทางเรียบ)
ร่มรื่นย์มากมาย
ขอดื่มน้ำแก้กระหายกันสักหน่อย ค่อยเริ่มเดินต่อ
วิวระหว่างทางช่างดีต่อใจ (เห็นแบบนี้พี่หายเหนื่อยเลยงะ)
นั้นไงจุดหมายปลายทางของเรา (มองขึ้นไปนี้ถึงกลับหมดแรง)
เย้ๆ เจอทางเรียบแล้ว แต่มีแค่นิดเดียวนะครัช
เดินมาได้ 2 ใน 3 ส่วน พวกเราก็ต้องแบกของกันเองแว้ว เพราะมอไซต์ขึ้นไปไม่ถึง แต่วิวข้างทางข้างล่างว่าสวยแล้ว แต่ข้างบนนั้นสวยยิ่งกว่า บวกกับอากาศกำลังเย็นแบบพอดี
ยอดนั้นไง คือ ที่พักของเรา เย้ๆ จะถึงแล้ว แต่!! มันช่างชันได้ใจงะ
แวะถ่ายรูปกันนิดนึงก่อนเดินขึ้นยอดดอย
ถึงแล้วครับ อย่างเหนื่อย
เดี๋ยวมาต่อนะค่ะ ยังไม่จบ
[CR] 3 2 1 นับถอยหลังขึ้นปีใหม่ด้วยกัน ณ ดอยกูมอเล ไม่ใช่ กอมูเล นะจ๊ะ
วันแรก 29 ธันวาคม 2559 วันเริ่มต้นแห่งการออกเดินทาง พวกเรานัดเจอกันที่บิ๊กซี สะพานควาย ล้อหมุนตอน 20.00 ซึ่งในวันที่ออกเดินทางนั้นถือได้ว่าสภาพรถในเมืองยังคล่องตัวไม่ติดอะไรมากมายย
วันที่สอง 30 ธันวาคม 2559 วันแห่งการเริ่มท่องเที่ยว พวกเรามาสว่างกันที่เชียงใหม่ หลังจากเติมพลังและจัดการภาระกิจส่วนตัวเสร็จพวกเราก็เริ่มออกท่องเที่ยวกันเลย โดยที่แรกที่เราแวะ คือ
อุทยานแห่งชาติ ออบหลวง เป็นสถานที่น่าเที่ยวที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติออบหลวง เป็นช่องแคบเขาขาดที่มีหน้าผาหินขนาบลำน้ำ ทำให้เกิดหุบผาลึก ความลึกของหน้าผาวัดจากสะพานออบหลวงถึงระดับน้ำปกติประมาณ 32 เมตร ส่วนแคบสุด 2 เมตร ความยาวของช่องแคบประมาณ 300 เมตร ธรรมชาติได้สร้างสรรความน่าพิศวงให้กับแผ่นดินส่วนนี้อย่างมหัศจรรย์ คำว่า “อ๊อบ” หรือ “ออบ” เป็นภาษาท้องถิ่นหมายถึงช่องแคบ “หลวง” หมายถึง ใหญ่ ออบหลวง คือชื่อเฉพาะที่ใช้เรียกช่องแคบหินขนาดยักษ์ที่มีลำน้ำแม่แจ่มบีบตัวแทรก ผ่านไป อีกนัยหนึ่งคือ หุบเขาบื้องล่างเป็นแม่น้ำสลักหิน ที่ไหลคดเคี้ยวผ่านช่องเขาขาด ตรงออบหลวงช่องเขานี้มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน และแคบมากบีบทางน้ำไหล ดังนั้นแม่น้ำตรงนี้จึงเชี่ยวจัด เสียงน้ำกระทบหน้าผาดังสนั่นแต่รอบๆ บริเวณชายน้ำด้านเหนืองดงามไปด้วยหมู่ไม้น้อยใหญ่ ร่มรื่นอยู่ตลอดเวลาชั่วนาตาปี ยังมีสะพานเชื่อมช่องเขาขาด สำหรับนักท่องเที่ยวยืนชมความงดงามแห่งทัศนียภาพของออบหลวง นอกจากนั้นภายในบริเวณอุทยานฯ ยังมีการขุดค้นพบแหล่งโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์ด้วย (ขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซต์ทางอินเตอร์เน็ต)
สถานที่ต่อมาที่พวกเราแวะกันก่อนจะเข้าที่พัก คือ สวนสนบ่อแก้ว ซึ่งตอนที่มาถึงอากาศกำลังดีไม่หนาวหรือร้อนมากจนเกินไป ซึ่งบรรยากาศแบบนี้เหมือนเรากำลังอยู่ที่เกาหลีกันเลย
และปิดท้ายของวันนี้พวกเราไปนอนกางเต้นท์ที่ โครงการหลวงแม่ลาน้อย ซึ่งในนี้เขามีบ้านพักให้เช่านอนหรือถ้าอยากนอนกันแบบฟิน ฟิน แนะนำให้น้ำเต้นท์ไปกางนอน โดยเขาคิดค่าเต้นท์หลังละ 100 บาท ส่วนใครที่ไม่ได้เตรียมอาหารมาทำกินไม่ต้องตกในภายในมีร้านอาหารพร้อม
วันที่สาม 31 ธันวาคม 2559 วันสุดท้ายของปี ซึ่งวันนี้ล้อหมุนกันตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้น เนื่องจากวันนี้เรามีภาระกิจสำคัญก่อนขึ้นดอย โดยการนำเสื้อกันหนาวและอุปกรณ์เครื่องเขียนไปมอบให้กับน้องๆ โรงเรียนบ้านแม่จอ ซึ่งก่อนที่เราจะไปทำภาระกิจกันเราแวะดื่มกาแฟนกันที่ ห้วยห้อม ซึ่งเขาบอกว่าเมล็ดกาแฟที่นี้ทำส่ง Starbucks แต่กาแฟเขาอร่อยจริง
หลังจากเราดื่มกาแฟกันเรียบร้อยเราก็เดินทางไปที่โรงเรียนบ้านแม่จอ โดยเรามีคุณครูเล็ก เป็นผู้นำทางเราไปที่โรงเรียน
หลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจเราก็เตรียมออกเดินทางขึ้นไปบนยอดดอยเพื่อเตรียมนับถอยหลังขึ้นสู่ปีใหม่กัน โดยเรานั่งรถตู้ไปลงที่โรงเรียนบ้านห้วยผึ้งใหม่ ซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนบ้านแม่จอ ประมาณ 3 กิโล หลังจากนั้นพวกเราก็เปลี่ยนรถมานั่งเป็นรถกระบะเพื่อส่งพวกเราไปยังจุดเริ่มเดิน โดยคุณครูเล็กได้บอกว่าระยะทางเดินประมาณ 4 กิโล (แอบนึกในใจ 4 กิโล เอง จิ๊บๆ) เอาละรถมาส่งเราถึงที่เริ่มเดินแล้ว ลุยยย
วิวระหว่างทางช่างดีต่อใจ (เห็นแบบนี้พี่หายเหนื่อยเลยงะ)
เดินมาได้ 2 ใน 3 ส่วน พวกเราก็ต้องแบกของกันเองแว้ว เพราะมอไซต์ขึ้นไปไม่ถึง แต่วิวข้างทางข้างล่างว่าสวยแล้ว แต่ข้างบนนั้นสวยยิ่งกว่า บวกกับอากาศกำลังเย็นแบบพอดี
เดี๋ยวมาต่อนะค่ะ ยังไม่จบ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น