ผ่านพ้นปีพ.ศ.2559 ไปแล้ว ก้าวเข้าสู่ปีพ.ศ.2560 ก็เป็นตามธรรมเนียมที่จะมาวิเคราะห์วิจารณ์บัตรเครดิตไหนเจ๋งเป้งและน่าสนใจบ้างในปีที่แล้ว(ใช่หรอ? ได้ข่าวว่าเพิ่งเริ่มเขียนปีแรก) เพื่อเป็นแนวทางให้กับหลายๆท่านที่กำลังเมี่ยงมองบัตรเครดิตสักใบ(หรือ2ใบ หรือ3ใบ หรือมากกว่านั้น ก็แล้วแต่ละท่าน) ทั้งนี้หากท่านใดไม่รู้จะเลือกบัตรเครดิตใบไหนดี ลองเลือกๆตามที่ผมแนะนำก็ได้นะครับ ผมเชื่อว่าต้องมีสักใบในนี้ที่ถูกใจท่านผู้อ่านแน่นอน
บัตรเครดิตที่ผมแนะนำเหล่านี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นบัตรเครดิตที่ผมใช้แล้วประทับใจเองบ้าง หรือเป็นบัตรเครดิตที่ผมสอบถามกลุ่มเพื่อนๆที่ใช้บัตรเครดิตเป็นกิจลักษณะหลายๆท่านบ้างและสรุปผลออกมาได้ทั้งหมด 12 บัตรเครดิตนี้
สำหรับบัตรเครดิตทั้ง 12 ใบนี้ ผมจะแนะนำให้ครอบคลุมทั้งการสะสมคะแนน เครดิตเงินคืน และสะสมไมล์ เลยทีเดียว ในส่วนของฐานรายได้ ก็จะมีตั้งแต่บัตรเครดิตที่ฐานรายได้ต่ำสุดที่ 15,000 บาทก็สมัครได้แล้ว ไปจนกระทั่ง AUM(การลงทุน) สูงถึง 5ล้านบาทก็มี
ในการเรียงลำดับ ผมจะเรียงลำดับเริ่มจากอักษร A-Z ครับผม


บัตรเครดิต AEON
1.AEON ROP
ขึ้นชื่อว่า AEON หลายคนอาจจะมองภาพลักษณ์ว่าเป็นบัตรผ่อนสินค้ามีดอกเบี้ย แต่ในความเป็นจริง AEON ก็มีทำบัตรเครดิตเช่นกัน แถมตัวท๊อปของค่ายนี้ซึ่งก็คือ AEON ROP จัดได้ว่าเป็นบัตรเครดิตในกลุ่มสะสมไมล์ที่น่าสนใจเลยทีเดียว แม้ว่าอัตราแลกไมล์ที่ 20 บาท/ไมล์ที่อาจจะไม่ได้ดีที่สุด แต่ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่แต่อย่างใด นอกเหนือจากนี้สิทธิ์พิเศษที่ทำให้บัตรเครดิตใบนี้พิเศษกว่าบัตรเครดิตใบอื่นๆก็คือ เครดิตเงินคืนพิเศษ 3% เมื่อทานอาหารครบ 1,500 บาทต่อเซลล์สลิป หรือใช้จ่ายในโรงแรมครบ 10,000 บาทขึ้นไป ทำให้เป็นสิทธิ์ประโยชน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบัตรเครดิตใบนี้เลยทีเดียว นอกจากนี้ บัตรเครดิต AEON ROP ยังมีให้เลือกทั้ง Visa หรือ JCB ก็ได้ ตามแต่ที่เราต้องการอีกด้วย
บัตรเครดิตใบนี้ ตั้งยอด waive ค่าธรรมเนียมรายปีอยู่ 300,000 บาทต่อปี หรือเฉลี่ย 25,000 บาทต่อเดือน ซึ่งถือว่าสูงเอาการอยู่เลยทีเดียวครับ

บัตรเครดิต AMEX
2. AMEX ROP
บัตรเครดิต AMEX เป็นบัตรที่จับผู้ใช้ในกลุ่มตลาดกลางไปถึงสูง สำหรับสถานที่ใช้บัตรก็อาจจะน้อยกว่าบัตรเครดิตจากทางฝั่ง Visa/Mastercard ไปบ้าง แต่ตามห้างสรรพสินค้า โรงแรม ร้านค้ากลางไปถึงใหญ่ก็จะรับบัตร AMEX แทบทั้งหมด อีกทั้งเท่าที่ฟังจากกลุ่มเพื่อนๆที่ใช้บัตร AMEX อยู่ ต่างพูดชื่นชมเป็นเสียงเดียวกันในแง่เรื่องการบริการที่ดีและเป็นกันเอง ทำให้ยังคงมีกลุ่มลูกค้าที่ใช้บัตร AMEX อยู่เป็นประจำเสมอมา
บัตรเครดิตร่วมระหว่าง American Express กับการบินไทย ดูเผินๆ บัตรเครดิตใบนี้มีอัตราแลกไมล์ที่ 25 บาท/ไมล์ซึ่งเป็นอัตราที่แทบจะหลุดโผเกณฑ์อัตราแลกไมล์ไปแล้ว แต่บัตรเครดิตใบนี้มักมีโบนัสให้กับผู้ที่ถือบัตรอยู่ตลอดเวลา อาทิเช่น ยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไปก็รับ 25% โบนัสไมล์สะสมกันไปเลย หรือ 35,000 โบนัสไมล์ เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรครบ 1,500,000 บาทใน 1 รอบปีสมาชิก โบนัสไมล์เมื่อใช้จ่ายที่การบินไทย หรือหากซื้อบัตรโดยสารชั้นหนึ่ง/ชั้นธุรกิจของการบินไทยก็จะได้โบนัสเพิ่มอีกด้วย

บัตรเครดิต Citibank
บัตรเครดิต Citibank เป็นบัตรเครดิตที่มีระบบอำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกค้าที่แตกต่างเหนือกว่าบัตรเครดิตเจ้าอื่นหลายๆอย่าง อาทิเช่น ระบบ voice Biometrics ที่ใช้ยืนยันตัวตนด้วยเสียงตอนโทรเข้า Callcenter, Application บน smartphone ที่สามารถดูการใช้จ่ายได้ทันทีที่ใช้งานบัตร(เจ้าอื่นต้องรอร้านค้าส่งยอดเข้ามาก่อนถึงดูได้), ระบบคะแนนที่แสดงละเอียดได้รายวันเลยว่ามีคะแนนสะสมเข้าในวันไหนบ้าง, ไมล์สะสมสายการบินที่หลากหลายให้เลือกสรรมากกว่าบัตรเครดิตเจ้าอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด(ขึ้นกับประเภทบัตรเครดิต) รวมถึงระบบ callcenter บริการและตามเรื่องได้ดี โทรติดง่าย เมนูไม่ซับซ้อน ทำให้ Citibank เป็นบัตรเครดิตในใจของใครหลายๆท่าน รวมถึงตัวผมเองด้วย ซึ่งบัตรเครดิต Citibank ที่น่าสนใจได้แก่

3. Citibank Cashback
บัตรเครดิตในกลุ่มเงินคืน ซึ่งให้เครดิตเงินคืน 1% ทุกยอดใช้จ่าย และยิ่งไปกว่านั้นถ้าใช้จ่ายที่รถไฟฟ้า BTS MRT ร้านบู๊ทส์ และร้านวัตสันก็รับเงินคืน 5% กันไปเลย
ลักษณะการคืนเงินก็จะคืนเงินทุกๆ 100 บาทจะคืนเข้าบัญชี ส่วนต่างเงินคืนไม่ถึง 100 บาทก็จะยกยอดไปรอบบิลถัดไปนั่นเองครับ
ทั้งนี้ผมตั้งข้อสังเกต สำหรับท่านที่ใช้ยอดไม่เยอะมากนัก อาจจะต้องพิจารณากันใหม่อีกครั้ง เพราะบัตรเครดิตใบนี้ต้องการค่าใช้จ่ายสูงถึง 60,000 บาทต่อปี หรือเฉลี่ย 5,000 บาทต่อเดือน จึงจะฟรีค่าธรรมเนียมรายปี ทั้งนี้ หากคิดว่ามีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง อาจจะไม่ต้องถึง 60,000 บาทต่อปีเป๊ะๆก็ได้ อาจจะโทรลองขอ waive ค่าธรรมเนียมรายปีดูกันก็ได้ครับ

4. Citibank Prestige
บัตรเครดิตตัวสูงสุดที่ยังเปิดให้รับสมัครของ Citibank เป็นบัตรเครดิตที่ผมแนะนำเลยสำหรับท่านใดที่เดินทางบ่อย เพราะบัตรเครดิตใบนี้ แม้จะเสียค่าธรรมเนียมรายปีก็ตาม แต่หากเมื่อสมัครแรกเข้าและใช้จ่ายตามที่ธนาคารกำหนด จะได้คะแนนมาถึง 50,000 คะแนน ซึ่งสามารถแลกตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นกับ Avios ของ British Airways ได้เลย แค่นี้ก็คุ้มค่าธรรมเนียมที่เราจ่ายไปแล้ว อีกทั้งบัตรเครดิตใบนี้ยังให้ Priority Pass ที่เอาไว้ใช้เข้า lounge ได้ทั่วโลก ให้สิทธิ์ลีมูซีนฟรี 2 ครั้งต่อปี สิทธิ์ที่จอดรถตามห้างสรรพสินค้าหลายๆแห่ง โบนัสไมล์ตามอายุการใช้งาน รวมถึงสิทธิ์พิเศษจาก visa infinite ฯลฯ ทำให้ผมเชื่อว่าหลายคนคงยอดจ่ายค่าธรรมเนียมรายปีให้กับบัตรเครดิตใบนี้อย่างแน่นอน
บัตรใบนี้ เสียค่าธรรมเนียมรายปี 8,453 บาท แน่นอนโดยขอ waive ไม่ได้ นอกจากเป็นลูกค้า Citigold ครับ

5. Citibank ROP Preferred
เป็นบัตรเครดิตจากค่าย Citibank อีกใบที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายปี แต่กระนั้นก็มีคนที่ผมรู้จักหลายคนก็ยอมจ่ายค่าธรรมเนียม(หลายคนควบ Prestige+Preferred เลยก็มีเช่นกัน) เพราะยามเมื่อสมัครแรกเข้าและใช้จ่ายตามกำหนดก็รับกันไปเลย 15,000 ไมล์ อีกทั้งยังมีสิทธิ์เลื่อนสถานะบัตรทองของการบินไทยเร็วกว่าปกติเพียงบิน 22,000 ไมล์(จากปกติ 50,000 ไมล์) หรือ 15 เที่ยวบินในเส้นทางต่างประเทศเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีสิทธิ์ในการเข้า lounge การบินไทยไม่อั้น(เมื่อบินกับการบินไทย/ไทยสไมล์ไปต่างประเทศ) สิทธิ์รถลีมูซีนฟรี 2 ครั้งต่อปี โบนัสไมล์เมื่อบินในเส้นทางต่างประเทศครั้งแรก โบนัสไมล์เมื่อใช้จ่าย 1,000,000 บาทในรอบปีสมาชิก ก็ทำให้บัตรใบนี้เป็นบัตรในดวงใจของกลุ่มเพื่อนๆผมหลายๆคนเช่นกัน
บัตรใบนี้ เสียค่าธรรมเนียมรายปี(ช่วงโปรโมชั่น) 5,350 บาท แน่นอนโดยขอ waive ไม่ได้ นอกจากเป็นลูกค้า Citigold ครับ
ทั้งนี้หากไม่อยากเสียค่าธรรมเนียม ก็สามารถเลือกเป็น ROP Select ได้เช่นกัน ซึ่งอัตราแลกไมล์จะเป็น 20 บาท/ไมล์เท่ากัน แต่จะไม่ได้มีสิทธิ์พิเศษและโบนัสไมล์ตามที่ได้กล่าวมาเท่านั้นเอง
[CR] [CR]# ใช้บัตรเครดิตให้เกิดประโยชน์ ตอนที่6 : 12 บัตรเครดิตน่าใช้ ประจำปี 2016 คัดสรรโดย Big and the gang
บัตรเครดิตที่ผมแนะนำเหล่านี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นบัตรเครดิตที่ผมใช้แล้วประทับใจเองบ้าง หรือเป็นบัตรเครดิตที่ผมสอบถามกลุ่มเพื่อนๆที่ใช้บัตรเครดิตเป็นกิจลักษณะหลายๆท่านบ้างและสรุปผลออกมาได้ทั้งหมด 12 บัตรเครดิตนี้
สำหรับบัตรเครดิตทั้ง 12 ใบนี้ ผมจะแนะนำให้ครอบคลุมทั้งการสะสมคะแนน เครดิตเงินคืน และสะสมไมล์ เลยทีเดียว ในส่วนของฐานรายได้ ก็จะมีตั้งแต่บัตรเครดิตที่ฐานรายได้ต่ำสุดที่ 15,000 บาทก็สมัครได้แล้ว ไปจนกระทั่ง AUM(การลงทุน) สูงถึง 5ล้านบาทก็มี
ในการเรียงลำดับ ผมจะเรียงลำดับเริ่มจากอักษร A-Z ครับผม
บัตรเครดิต AEON
1.AEON ROP
ขึ้นชื่อว่า AEON หลายคนอาจจะมองภาพลักษณ์ว่าเป็นบัตรผ่อนสินค้ามีดอกเบี้ย แต่ในความเป็นจริง AEON ก็มีทำบัตรเครดิตเช่นกัน แถมตัวท๊อปของค่ายนี้ซึ่งก็คือ AEON ROP จัดได้ว่าเป็นบัตรเครดิตในกลุ่มสะสมไมล์ที่น่าสนใจเลยทีเดียว แม้ว่าอัตราแลกไมล์ที่ 20 บาท/ไมล์ที่อาจจะไม่ได้ดีที่สุด แต่ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่แต่อย่างใด นอกเหนือจากนี้สิทธิ์พิเศษที่ทำให้บัตรเครดิตใบนี้พิเศษกว่าบัตรเครดิตใบอื่นๆก็คือ เครดิตเงินคืนพิเศษ 3% เมื่อทานอาหารครบ 1,500 บาทต่อเซลล์สลิป หรือใช้จ่ายในโรงแรมครบ 10,000 บาทขึ้นไป ทำให้เป็นสิทธิ์ประโยชน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบัตรเครดิตใบนี้เลยทีเดียว นอกจากนี้ บัตรเครดิต AEON ROP ยังมีให้เลือกทั้ง Visa หรือ JCB ก็ได้ ตามแต่ที่เราต้องการอีกด้วย
บัตรเครดิตใบนี้ ตั้งยอด waive ค่าธรรมเนียมรายปีอยู่ 300,000 บาทต่อปี หรือเฉลี่ย 25,000 บาทต่อเดือน ซึ่งถือว่าสูงเอาการอยู่เลยทีเดียวครับ
บัตรเครดิต AMEX
2. AMEX ROP
บัตรเครดิต AMEX เป็นบัตรที่จับผู้ใช้ในกลุ่มตลาดกลางไปถึงสูง สำหรับสถานที่ใช้บัตรก็อาจจะน้อยกว่าบัตรเครดิตจากทางฝั่ง Visa/Mastercard ไปบ้าง แต่ตามห้างสรรพสินค้า โรงแรม ร้านค้ากลางไปถึงใหญ่ก็จะรับบัตร AMEX แทบทั้งหมด อีกทั้งเท่าที่ฟังจากกลุ่มเพื่อนๆที่ใช้บัตร AMEX อยู่ ต่างพูดชื่นชมเป็นเสียงเดียวกันในแง่เรื่องการบริการที่ดีและเป็นกันเอง ทำให้ยังคงมีกลุ่มลูกค้าที่ใช้บัตร AMEX อยู่เป็นประจำเสมอมา
บัตรเครดิตร่วมระหว่าง American Express กับการบินไทย ดูเผินๆ บัตรเครดิตใบนี้มีอัตราแลกไมล์ที่ 25 บาท/ไมล์ซึ่งเป็นอัตราที่แทบจะหลุดโผเกณฑ์อัตราแลกไมล์ไปแล้ว แต่บัตรเครดิตใบนี้มักมีโบนัสให้กับผู้ที่ถือบัตรอยู่ตลอดเวลา อาทิเช่น ยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไปก็รับ 25% โบนัสไมล์สะสมกันไปเลย หรือ 35,000 โบนัสไมล์ เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรครบ 1,500,000 บาทใน 1 รอบปีสมาชิก โบนัสไมล์เมื่อใช้จ่ายที่การบินไทย หรือหากซื้อบัตรโดยสารชั้นหนึ่ง/ชั้นธุรกิจของการบินไทยก็จะได้โบนัสเพิ่มอีกด้วย
บัตรเครดิต Citibank
บัตรเครดิต Citibank เป็นบัตรเครดิตที่มีระบบอำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกค้าที่แตกต่างเหนือกว่าบัตรเครดิตเจ้าอื่นหลายๆอย่าง อาทิเช่น ระบบ voice Biometrics ที่ใช้ยืนยันตัวตนด้วยเสียงตอนโทรเข้า Callcenter, Application บน smartphone ที่สามารถดูการใช้จ่ายได้ทันทีที่ใช้งานบัตร(เจ้าอื่นต้องรอร้านค้าส่งยอดเข้ามาก่อนถึงดูได้), ระบบคะแนนที่แสดงละเอียดได้รายวันเลยว่ามีคะแนนสะสมเข้าในวันไหนบ้าง, ไมล์สะสมสายการบินที่หลากหลายให้เลือกสรรมากกว่าบัตรเครดิตเจ้าอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด(ขึ้นกับประเภทบัตรเครดิต) รวมถึงระบบ callcenter บริการและตามเรื่องได้ดี โทรติดง่าย เมนูไม่ซับซ้อน ทำให้ Citibank เป็นบัตรเครดิตในใจของใครหลายๆท่าน รวมถึงตัวผมเองด้วย ซึ่งบัตรเครดิต Citibank ที่น่าสนใจได้แก่
3. Citibank Cashback
บัตรเครดิตในกลุ่มเงินคืน ซึ่งให้เครดิตเงินคืน 1% ทุกยอดใช้จ่าย และยิ่งไปกว่านั้นถ้าใช้จ่ายที่รถไฟฟ้า BTS MRT ร้านบู๊ทส์ และร้านวัตสันก็รับเงินคืน 5% กันไปเลย
ลักษณะการคืนเงินก็จะคืนเงินทุกๆ 100 บาทจะคืนเข้าบัญชี ส่วนต่างเงินคืนไม่ถึง 100 บาทก็จะยกยอดไปรอบบิลถัดไปนั่นเองครับ
ทั้งนี้ผมตั้งข้อสังเกต สำหรับท่านที่ใช้ยอดไม่เยอะมากนัก อาจจะต้องพิจารณากันใหม่อีกครั้ง เพราะบัตรเครดิตใบนี้ต้องการค่าใช้จ่ายสูงถึง 60,000 บาทต่อปี หรือเฉลี่ย 5,000 บาทต่อเดือน จึงจะฟรีค่าธรรมเนียมรายปี ทั้งนี้ หากคิดว่ามีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง อาจจะไม่ต้องถึง 60,000 บาทต่อปีเป๊ะๆก็ได้ อาจจะโทรลองขอ waive ค่าธรรมเนียมรายปีดูกันก็ได้ครับ
4. Citibank Prestige
บัตรเครดิตตัวสูงสุดที่ยังเปิดให้รับสมัครของ Citibank เป็นบัตรเครดิตที่ผมแนะนำเลยสำหรับท่านใดที่เดินทางบ่อย เพราะบัตรเครดิตใบนี้ แม้จะเสียค่าธรรมเนียมรายปีก็ตาม แต่หากเมื่อสมัครแรกเข้าและใช้จ่ายตามที่ธนาคารกำหนด จะได้คะแนนมาถึง 50,000 คะแนน ซึ่งสามารถแลกตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นกับ Avios ของ British Airways ได้เลย แค่นี้ก็คุ้มค่าธรรมเนียมที่เราจ่ายไปแล้ว อีกทั้งบัตรเครดิตใบนี้ยังให้ Priority Pass ที่เอาไว้ใช้เข้า lounge ได้ทั่วโลก ให้สิทธิ์ลีมูซีนฟรี 2 ครั้งต่อปี สิทธิ์ที่จอดรถตามห้างสรรพสินค้าหลายๆแห่ง โบนัสไมล์ตามอายุการใช้งาน รวมถึงสิทธิ์พิเศษจาก visa infinite ฯลฯ ทำให้ผมเชื่อว่าหลายคนคงยอดจ่ายค่าธรรมเนียมรายปีให้กับบัตรเครดิตใบนี้อย่างแน่นอน
บัตรใบนี้ เสียค่าธรรมเนียมรายปี 8,453 บาท แน่นอนโดยขอ waive ไม่ได้ นอกจากเป็นลูกค้า Citigold ครับ
5. Citibank ROP Preferred
เป็นบัตรเครดิตจากค่าย Citibank อีกใบที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายปี แต่กระนั้นก็มีคนที่ผมรู้จักหลายคนก็ยอมจ่ายค่าธรรมเนียม(หลายคนควบ Prestige+Preferred เลยก็มีเช่นกัน) เพราะยามเมื่อสมัครแรกเข้าและใช้จ่ายตามกำหนดก็รับกันไปเลย 15,000 ไมล์ อีกทั้งยังมีสิทธิ์เลื่อนสถานะบัตรทองของการบินไทยเร็วกว่าปกติเพียงบิน 22,000 ไมล์(จากปกติ 50,000 ไมล์) หรือ 15 เที่ยวบินในเส้นทางต่างประเทศเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีสิทธิ์ในการเข้า lounge การบินไทยไม่อั้น(เมื่อบินกับการบินไทย/ไทยสไมล์ไปต่างประเทศ) สิทธิ์รถลีมูซีนฟรี 2 ครั้งต่อปี โบนัสไมล์เมื่อบินในเส้นทางต่างประเทศครั้งแรก โบนัสไมล์เมื่อใช้จ่าย 1,000,000 บาทในรอบปีสมาชิก ก็ทำให้บัตรใบนี้เป็นบัตรในดวงใจของกลุ่มเพื่อนๆผมหลายๆคนเช่นกัน
บัตรใบนี้ เสียค่าธรรมเนียมรายปี(ช่วงโปรโมชั่น) 5,350 บาท แน่นอนโดยขอ waive ไม่ได้ นอกจากเป็นลูกค้า Citigold ครับ
ทั้งนี้หากไม่อยากเสียค่าธรรมเนียม ก็สามารถเลือกเป็น ROP Select ได้เช่นกัน ซึ่งอัตราแลกไมล์จะเป็น 20 บาท/ไมล์เท่ากัน แต่จะไม่ได้มีสิทธิ์พิเศษและโบนัสไมล์ตามที่ได้กล่าวมาเท่านั้นเอง