[CR] 4 Days and 3 Nights เที่ยวกับเพื่อนครั้งแรกที่ต่างแดน Style BackPack in Singapore

กราบสวัสดีพ่อ แม่ พี่ น้อง ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมรีวิวนี้ของผมนะครับ

ต้องขอออกตัวก่อนเลยว่านี่ป็นการเขียนรีวิวครั้งแรกในชีวิตของผมเลย เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ไปเที่ยวของพวกผมเอาไว้ ณ ที่นี่ และเป็นเหมือนการเขียนบันทึกเรื่องการท่องเที่ยวไว้ในฉบับของพวกผมกัน

แล้วก็หวังไว้ว่าถ้าท่านใดที่เข้ามามีโอกาสได้อ่านรีวิวนี้ ก็หวังว่าการเขียนของพวกผมจะเป็นประโยชน์ต่อท่านไม่มากก็น้อยครับ ... !!!  

การไปเที่ยวครั้งนี้ของผมกับเพื่อนนี้ เป็นการอยากเที่ยวล้วนๆ ! โดยดูจากจำนวนวันที่ลา + เงิน เลยทำให้ไม่มีการวางแผนของ"ทริป"นี้เลย คือคุยกันปุ๊ปปั๊ปจองทุกอย่างในเวลา 3 ชั่วโมง โดย จองตั๋ว + ที่พัก + จ่ายเงิน ในวันที่ 26/04/2016  ทุกอย่างดูเร็วไปหมด รู้ตัวอีกที คือ ต้องไปเที่ยวแล้วในอีก 10 วันข้างหน้า

ในการวางแผนเที่ยวเราใช้เวลาคุยว่าจะไปไหนกันบ้าง ก่อนไป 4 วัน คือ แบบรู้คร่าวๆ อยากไปที่ไหน ทำไร วันไหน แค่นั้น ที่เหลือไปตายเอาดาบหน้านะแจ๊ะ (ชิวมั๊กๆ !)

เอาละมาติดตามกันว่าพวกผมว่ามีเรื่องโคตรดี๊ที่ไหน ยังไง เที่ยวที่ไหน ทำไรมาบ้างในช่วง 4 วัน 3 คืน (05 - 08 / 05 /2016) ที่นี่ SINGAPORE !!!

Day 1


เอาละเริ่ม ก่อนจะไปบินกันในวันที่ 5 พวกผมก็มีเรื่องตื่นเต้นก่อนจะไปเลย คือ ผมต้องไปข้างที่บ้านเพื่อน แต่ ... กูลืมกระเป๋าตังอยู่ที่บ้าน รู้ตัวตอนไหน รู้มั้ย ตอนอยู่บ้านเพื่อนเวลาใกล้เที่ยงคืน แล้ว คือพรุ่งนี้มีบินเช้า ความยิ้มยย เข้ามาก่อนเที่ยวเลยเอาแล้วทำไง ... รีบนอนสิครัช แล้วตื่นเช้าขับรถกลับบ้านไปเอา แล้วรีบเรียก Taxi go go to สุวรรณภูมิ Airport เสร็จความชิบ ... ยังไม่หมดเท่านี้ กูเหนื่อย ต้องมาต่อแถว Check in ข้าวยังไม่แตะ แต่เช้า เดินเข้า ตม. ความชิบ ... เป็นเพื่อนพวกผมแล้ว แถวยาวอีกฮะ เวนนน แล้วจะทันมั้ย !!! พอผ่านมาแล้วไม่มีหรอกเดิน ระดับนี้แล้ววิ่ง ... วิ่งไป Burger King !!! have a breakfast first จะเที่ยวต้องมีแรงก่อนฮะ (สิ่งสำคัญในการเที่ยว)  เข้ามา Airport เพื่อมา- Fast Food ด้วยความคิดที่ว่าราคาน่าจะถูก (หรอ) และไม่มีเวลาที่จะรออาหารอย่างด้วยแหละ กลัวตกเครื่อง เวลามันประชิดเข้ามาดุจดั่งมันวิ่งได้ เลยรีบโซ่ย อยากจะบอกว่าของด้านล่างนี้ ใช้เวลาทั้งหมด 20 นาทีหมดนะฮะ ไม่ค่อยรีบหร๊อก ยัดและกลืน (กูจะอ้วก !)



ถึงจะรีบยังไง เราก็ยังมีเวลาถ่ายรูปนะฮะ  ก่อนเข้า Gate ก็ขอทักทายและฝากเนื้อฝากตัวกับสายการบิน Tiger Air นะฮะ แต่อยากจะบอกว่าแถวตอน Check-in ยาวไปอีก (ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พวกผมใช้บริการ ซึ่งขอติว่าควรจะมีแบบ Check – in Online เพื่อความสะดวกรวดเร็วขึ้นครับ)


ระหว่างรอ Gate ก่อนจะขึ้นเครื่องก็ขอซักภาพกับสัมภาระพวกผมซะหน่อย พร้อมแล้วก็ Ready !!


เครื่องมารองรับละ เอ้า GO GO GO !!!


หลังจากได้ขึ้นแล้วเราก็ใช้เวลาอยู่บนเครื่องประมาณ 1.30 ชม. แล้วเราก็มาถึงประเทศสิงคโปร์ตามภาพที่มีเรือขนส่งอยู่มาก เนื่องมาจาก สิงคโปร์เป็นแหล่งท่าเรือสำคัญติดอันดับโลกนั้นเอง

ในที่สุดเราก็มาถึง Singapore Changi International Airport (SIN) ซึ้งได้ชื่อว่าเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของเว็บไซต์ Sleeping in Airport and Skytrax และเมื่อเราเดินเข้ามาในสนามบินจะรู้สึกถึงความอลังการ มีร้านขาย Duty Free จำนวนมาก แต่ทั้งนี้เราก็ต้องรีบไปยัง ตม. เพื่อขอเข้าเมืองอย่างถูกต้องตามกฏหมายก่อนนะ พอลงบันไดเลือนจาก Gate ที่เราลงเครื่องมาจะสังเกตุเห็นได้ว่ามีหลากหลายภาษาที่แปลว่า ยินดีต้อนรับ อยู่ทางซ้ายมือ น่าเสียดายที่เราไม่มีภาพบรรยากาศมาฝากกัน เสร็จเดินมาถึง ตม. ต่อแถวแปปเดียว ป้ะหน้า Say Hi and just smile แต่ ตม. นี่ดุ โคตรอะ ถามผมเยอะ มากับใคร มากี่วัน มาทำอะไร บลาๆ แต่เพื่อนผมโดนไม่กี่คำถามผ่าน จึงอยากจะถาม What is your Justice wa ? แต่ก็ช่างมันเถอะ ต่อมาเราก็เดินไปหาสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินให้ไว เพื่อที่จะเข้าเมืองกันนะครับ ซึ่งอยากจะบอกหาได้ไม่ยาก โดยเดินออกมาจากประตูที่รับกระเป๋าเสร็จ ก็เดินไปทางขวา Only เลยนะ แล้วจะเห็นป้ายตามนี้ ลงบันไดเลื่อนลงไปเลย

ลงไปถึงปุ๊ปหันไปหน้าซ้ายเจอแถวยาวๆ นี่แหละใช่เลย ใช่ไรหรอ คือ ซื้อบัตร MRT เพื่อใช้ในการเดินทางตลอดทั้งทริปของ ซึ่งสามารถนำไปใช้กับ BUS ได้อีกด้วยนั้นเอง คือ สะดวกสบายเอามากๆเลยแหละ (อยากให้มีแบบนี้ที่ไทยบ้างจัง) รู้มาจากคนไทยที่อยู่ที่นั้น คือ การเดินทางสะดวกและราคาถูกกว่าไทยอีก เพราะว่า รัฐบาล ของเค้า Support ให้ประชาชนใช้ Transportation ในการเดินทางด้วยแหละ (แหล่มมาก)

แล้วเห็นจำนวนเยอะแบบนี้ 70% นี่คนไทยนะฮะ พวกผมก็ยืนรอกันไป 45 นาทีได้ พร้อมกับได้เลือกแพคเกจได้จากการเรียนรู้จากพี่ๆคนไทย ที่กำลังจะกลับ (กราบงามๆ 2 ที ที่ช่วยพวกผม Save เงินไป) เพราะถ้าเราเลือกแพคเกจใช้ 3 วันจะเสีย 30 S$ และถ้าข้าม Sentosa ต้องเสียเพิ่ม  แต่เมื่อผมได้ถามพี่ๆ 2 คนที่กำลังกลับว่า ทั้งหมดเสียค่าเดินทางเท่าไหร่ เสียแค่ 25 S$ ตลอด 4 ถึง 5 วัน พร้อมกับสามารถแลกเงินคือได้อีก โดยมีข้อแม้ที่จะต้องเสียค่ามัดจำ 5 S$ แต่เราสามารถนำบัตรกลับมาได้เลยนะ ทั้งนี้ขั้นต่ำสำหรับ Top Up คือ 10 S$ นะ ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามสถานี MRT ทุกสถานี หรือ 7-11 หรือ ที่ทำการไปรษณีย์ รวมไปถึงท่ารถ BUS ซึ่งมีเวลาเปิดให้บริการ MRT คือ ปกติ 6 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน

นี่คือ หน้าตาบัตร "EZLINK" ที่เราเลือกใช้ในการเดินทางครั้งนี้กัน ใช้ได้ทั้ง MRT and BUS เรียกว่าสะดวกมากๆ ถ้าเงินหมดก็เติมได้ขั้นต่ำครั้งละ 10 S$ (ถ้าเงินเหลือ ... ไม่ต้องกลัว แลกคืนได้)

แผนผังรถไฟฟ้า MRT ในประเทศสิงคโปร์ ต้องเรียกได้ครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่เลยจริง สะดวก สบายมากจริงๆ


เราเริ่มต้นที่ MRT สถานี Changi Station และไปเปลี่ยนสถานีที่ Tanah Merah กัน ต่อจากนั้นก็นั่งไปยังสถานี Paya Lebar เพื่อเปลี่ยนไปสายสีเหลือง แล้วลงสถานี Serangoon เพื่อเปลี่ยนเส้นทางไปยังสายสีม่วงและลงที่สถานี Ferry Park ที่เป็นที่พักของเรานั้นเอง

บรรยากาศภายในรถไฟฟ้ากับผู้คนที่กำลังเหนื่อยจากการเดินทางมารวมตัวกัน ดูได้จากคุณลุงเสื้อฟ้าหลับตาแล้วเฝ้าพระอินทร์แล้วกระมัง


พวกผมพักอยู่แถวสถานี Ferry Park !!!


หลังจากได้ออกมายังโลกภายนอก ซึ่งข้างหน้านั้นก็ที่พักเราแล้ว แต่ยิ้มดั้นไม่รู้ทาง ไม่มี Internet ทำให้ไม่สามารถใช้ Google Map ได้ แล้วยิ้มโง่แผนที่ทั้งคู่ ทำไงละครับเดินวน หลงไป ... พร้อมกับแบกกระเป๋าเป้ที่มีน้ำหนัก 4 โล พร้อมกับอากาศร้อน เหงื่อแตก เหนียวตัวไปหม๊ด ปล.ไปซื้อ Sim โทรศัพท์ที่สนามบินได้ แต่ถ้า Package ไม่ถูกใจหาซื้อเอาตาม 7-11

เรามาพักกัน ABC Premium Hotel กันครับ

บรรยากาศภายในห้องพัก

ระเบียงไว้สำหรับนั่งชิว และถ้ามีเบียร์พร้อมกับแกล้ม ไว้กิน ดื่มกัน รับรองฟิน ...

2 ขวดผู้ช่วยชีวิต ทำไม ? สิงคโปร์น้ำราคาแพง เพราะฉะนั้นการมีขวดเปล่า เล็ก ไว้เต็มน้ำระหว่างทาง จึงเป็นสิ่งจำเป็น (กราบงามๆ 3 ที)
สถานที่แรกที่เราก็ คือ China Town ที่ดูเหมือน Walking Street เลย (ถ้ามาจาก MRT แนะนำให้ขึ้นมา Chinatown ประตู NE4) ที่เป็นแหล่งซื้อของฝาก ร้านอาหาร ที่มีให้เลือกมากมายเลย
กลางคืนก็มีร้านให้นั่งดิ่ม กินอาหาร มีดนตรีสดฟังกันไปให้เพลิดเพลิน ตอนพวกผมประมาณ 4 โมงเย็น ก็มีลูกค้ามานั่งดิ่มกันในร้านกันแล้ว



หลังจากเดินผ่าน China Town มาสถานที่เรามาแห่งแรก คือ วัดเขี้ยวมังกร (Buddha Tooth Temple) ซึ่งวัดแห่งนี้เปิดให้บุคคลทั่วไปและนักท่องเที่ยวเข้ามากราบไหว้ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้าจนถึง 1 ทุ่ม ซึ่งเวลาที่ผมไปเป็นเวลาประมาณ 5 โมงเย็นแล้ว แต่ก็ยังมีคนเข้ามากราบไหว้กันอยู่ครับ






ที่นี่มี ร้านขายมันไก่ใน MAX WELL ที่ขิ้นชื่อมา Tian Tian Hainanese Chicken Rice หน้าตาก็เหมือนข้าวมันไก่บ้านเราแหละ แต่ก็ไปลองหน่อยเถอะ เค้าว่าเด็ดอะ และด้วยความที่ร้านอยู่ใน Food Court อะเนาะ ต้องหาที่นั่งกัน  แล้วเห็นได้ว่ามีคนทำความสะอาด อยู่ตลอด เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวสกปรก ที่นี่เค้ารักษาความสะอาดกันเจ๋งจริงๆ
เอาละหลังจากที่อิ่มมาแหละ สถานที่ถัดไปก็ คือ Merlion แต่ด้วยความอยากจะเดินชมเมือง + เดินย่อย เลยลงที่สถานี City Hall แล้วเดินไปๆมาๆ มาเจอ National Museum of Singapore ในยามค่ำคืนที่สวยแบบนี้ ก็เลยอดจะถ่ายไว้ไม่ได้
ชื่อสินค้า:   สิงคโปร์ 4 วัน 3 คืน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่