[CR] [CR]Review=ไปเกาหลีหน้าหนาวสองคืน=ไปเองคนเดียว=เที่ยวครั้งแรก!!!(แบบละเอียดเว่อ)!!!Part1/2

สวัสดีคับ วันนี้จะมารีวิวทริปเกาหลีสั้นๆครับ แค่สองวัน(แต่เนื้อหายาวมวากกก) เนื่องจากมีธุระต้องไปทำงานที่เกาหลีนิดหน่อย
ที่อยากนำเสนอคือ เนื่องจากเป็นการไปต่างประเทศครั้งแรกของผมเลยครับ และไปคนเดียวด้วย กล้ามาก55 passportใสๆเลย แถมไปเกาหลีที่ร่ำลือกันว่า ตม.ดุ ด้วย

แล้วก็จะพยายามเขียนให้ละเอียดมากที่สุดครับ และจะเขียนในมุมมองของคนที่ไม่เคยไป ตปท มาก่อนเลยเพื่อให้ที่ไปครั้งแรกได้เตรียมตัว จะได้ไม่ตื่นเต้นกัน
ทีนี้เนื่องจากว่าเป็นครั้งแรกของผมจริงๆ ข้อมูลบางอย่างอาจผิดพลาดจึงได้ขออภัยล่วงหน้า แล้วก็รูปจะไม่ค่อยสวยนะครับ เพราะใช้มือถือถ่ายทั้งหมด ทีนี้ก็ไปชมกันเล้ยยยยย!!!

ขั้นเตรียมการ
    อย่างแรกก็คือต้องมีหนังสือเดินทาง(passport) เป็นเหมือนบัตรประจำตัวประชาชนของเราที่ใช้ในต่างประเทศ และวีซ่า(visa) ก็คือบัตรผ่านจะประเทศนั้นๆจะออกให้เราว่าอนุญาติให้เข้าได้
ซึ่งสำหรับประเทศเกาหลีนั้น ใช้เพียง passport อย่างเดียวครับ ไม่ต้องมีวืซ่า ก็สามารถเข้าประเทศได้แล้วครับ แต่ก็ยังมี ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ตอนเราไปถึง ที่เขาจะพิจารณาเป็นคนๆไปอีกทีคับ

1.ช่วงเวลาเดินทาง ผมเดินทางไปช่วงสัปดาห์ปลายปีก่อนปีใหม่เลยคับ เช็คสภาพอากาศอุณหภูมิประมาณ-6องศา

2.กระเป๋า ผมกะจะเอาไปให้น้อยที่สุดครับ จะได้ไม่เทอะทะ ผมจึงเลือกซื้อกระเป๋าขนาดยี่สิบนิ้ว เอาล้อหมุนสี่อัน จะได้เลื่อนได้สะดวก และผมมีกระเป๋าถือขนาดประมาณสิบนิ้วอีกหนึ่งใบ
คือการขนส่งกระเป๋าเนี่ย แบ่งเป็นสองจำพวก
    1.โหลดใต้ท้องเครื่อง น้ำหนักแล้วแต่สายการบินกำหนดครับ อันนี้ก็จะเป็นกระเป๋าใบใหญ่ได้
    2.ถือขึ้นเครื่อง (carry-on) อันนี้ต้องเป็นกระเป๋าใบเล็กขนาดไม่เกิน 56 ซม. x 45 ซม. x 25 ซม น้ำหนักไม่เกินเจ็ดกิโล และภายในต้องไม่มีของเหลวที่ภาชนะบรรจุเกิน100ml ของเหลวที่เอาไปต้องใส่ในภาชนะที่เป็น zip lockครับของผมใบใหญ่โหลดใต้ท้องเครื่องครับและใบเล็กถือขึ้นเครื่อง

3.เสื้อผ้า ถือเป็นเรื่องที่นึกไม่ออกเลยครับ เพราะทั้งชีวิตหนาวสุดก็คือดอยอินทนนท์ อุณหภูมิองศาเลขหลักเดียว แต่ทีนี่มันหนาวมากกกจบติดลบ ผมก็เลยต้องเตรียมตัว ก็เลยวางแผนไว้ว่าจะแต่งตัวประมาณนี้
-ชั้นในสุดใส่heat tech หรือ long john  คิดว่ามันคือชื่อที่ใช้เรียกเครื่องแต่งกายจำพวกหนึ่ง ที่ใส่ชั้นในสุด(ถัดจาก กกน) ทำจากผ้าพิเศษที่เก็บความร้อน

-ชั้นต่อมาให้เสื้อเชิ้ตหรือเสื้อยืด
-ชั้นต่อมาใส่sweater หรือเสื้อกันหนาวคอเต่า หรือเสื้อไหมพรม
-ชั้นนอกสุดใส่เสื้อโค้ทยาว หรือเสื้อขนเป็ด
-ท่อนล่างก็ใส่กางเกงลองจอนแล้วทับด้วยกางเกงยีนส์หรือกางเกงขายาว
-ใส่ถุงเท้าหนาๆที่ยาวเกือบถึงและใส่รองเท้าผ้าใบ.
-ถุงมือ ผมเอาแบบนิ้วโผล่คับ จะได้จิ้มมือถือได้ แล้วก็ผ้าพันคอผืนใหญ่ๆ
เดี๋ยวเรามาดูกันอีกทีครับ ตอนหน้างานจะเป็นยังไง 55

4.ตั๋วเครื่องบิน เนื่องจากเป็นงานด่วนครับ ได้จองล่วงหน้าแค่อาทิตย์เดียว แถมเป็นช่วงสิ้นปี ดังนั้นราคาแพงเว่ออออออ ตอนนั้นเลือกของการบินไทยคับ ค่าเครื่องไปกลับ21,340 บาท
วิธีการจอง ตอนแรกลองเซิจในเว็บ Agoda ดูก่อน ซึ่งมันจะรีวิวมาให้หมดว่ามีสายการบินอะไรบ้าง ราคาเท่าไร แล้วเราก็เลือกเอาอันที่เหมาะสมครับ ซึ่งนอกจากราคาแล้ว อาจจะจะต้องดูชื่อสายการบินและเวลาการออกเดินทางไป-กลับว่าเหมาะสมกับแผนการเที่ยวของเราหรือไม่ ทีนี้ตอนจองอาจจะจองกับเว็บสายการบินโดยตรงหรือจองผ่านเว็บagencyก็ได้

5.โรงแรม ผมเลือกในย่านเมียงดงครับ เพราะใกล้การขนส่งและแหล่งช้อปปิ้ง  แต่จริงๆแล้วมีอีกหลายย่านที่เหมาะสมนะคับ เพียงผมก็ไม่ค่อยรู้จักเท่าไร
เลือกที่ goodstay nana residence myeongdong ราคาสองคืน 4600บาท รวมอาหารเช้าครับ ค่อนข้างแพงนะ เนื่องผมจองล่วงหน้าไม่นานมันใกล้เต็มหมดแล้ว จริงๆถ้าหาดีๆน่าจะมีถูกกว่านี้ แต่นี้เป็นงานด่วน จึงไม่ค่อยมีเวลาเลือกที่พักเท่าไร

วิธีการจอง อันนี้ผมก็จองผ่านAgoda เหมือนกันคับ ข้อดีของการจองผ่านอันนี้คือเป็นภาษาอังกฤษ และจะสามารถเลือกจ่ายว่าจะจ่ายที่โรงแรมหรือหักจากบัตรเครคิตของเรา แล้วก็ถ้าจองล่วงหน้านานๆแล้วอยู่ดีๆอยากยกเลิก ก้สามารถยกเลิกได้ตามข้อกำหนดที่เขียนไว้ครับ (ซึ่งจะไม่เหมือนในแต่ละเจ้ากันต้องเช็คดูก่อนการจอง)
ผมให้จองผ่านการหักบัตรเครคิตครับ ซึ่งพอถึงวันเขาก็จะหักบัตรแล้วส่งข้อมูลไปที่โรงแรมที่เราจอง เราก็ยื่นพาสปอร์ตที่โรงแรมและเช็คอินได้เลย

6.แผนการเดินทาง ก็จะต้องไปทำธุระที่โซล จึงวางแผนเที่ยวเฉพาะโซลในสองวัน
-วันที่ 1 เดินทางกลางคืน ถึงโซลแต่เช้าตรู่ เดินทางจากสนามบินไปยังโรงแรม ตอนบ่ายไปทำธุรที่สถานทูตไทย เที่ยวแถวกังนัมและวัดพุลกุกซา ตอนเย็นไปที่อินซาดง
-วันที่ 2 ไปทงแดมุน คลอง พระราชวังเคียงบกกุงและพิพิธภัณฑ์รอบๆ  ตอนเย็นเดินช้อปปิ้งที่เมียงดง
-วันที่ 3 เดินทางกลับแต่เช้าตรู่ ถึงไทยตอนบ่ายครับ

7.การคมนาคม จะเน้นการขนส่งสาธารณะเป็นหลักเลยคับ ผมจะไม่มีการนั่งแทกซี่เพราะแพงมาก จึงมีสิ่งที่เรียกว่า T money เดี๋ยวจะรีวิวอีกทีครับ ซึ่งผมค่อนข้างชอบระบบการขนส่งในโซลมากเลยล่ะ แล้วก็ก่อนไปแนะนำให้โหลดแอพพลิเคชั่นที่เรียกว่า “subway Korea” มาไว้ในครอบครองเลยในมือถือของเราเลยครับ มีประโยชน์มากๆ เป็นแผนที่ของรถไฟฟ้าใต้ดินเกาหลีทั้งหมด เด๋วจะรีวิววิธีใช้อีกทีครับ

8.แลกเปลี่ยนเงิน ควรแลกเงินไปจากไทยครับ ซึ่งร้านแลกเงินต่างๆอัตราแลกจะดีว่าแลกกับธนาคาร โดยเฉพาะธนาคารที่สนามบินนั้นอัตราไม่ค่อยดีเท่าไร ตอนผมแลกนั้นได้ที่ 0.0302 ครับ ผมแลกไปประมาณสามแสนวอน

เอาล่ะครับ คราวนี้เข้าสู้รายละเอียดหน้างานเลยครับ ><
ชื่อสินค้า:   seoul
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่