สิ่งที่จะมาแนะนำในวันนี้คือ การทำนาเกษตรกรรมแบบสมัยใหม่ผสมผสาน
ชาวนารุ่นใหม่ต้องรู้จักเทคโนโลยีร่วมไปกับการทำเกษตรแบบอินทรีย์เพื่อ
ให้ได้ผลผลิตที่ออกมาดีและมีคุณภาพ สด สะอาด ปลอดภัย ไร้สารพิษ
ก่อนจะไปถึงจุดนั้นเรามาดูกันถึงการเริ่มต้นตั้งแต่เตรียมการเพาะปลูกต้นข้าว
ของเรา
เกษตรกรจังหวัดสุพรรณบุรี หันมาทำเกษตรอินทรีย์ เพื่อลดต้นทุนการผลิต
และยังสามารถเพิ่มผลผลิตข้าว ได้สูงกว่า 1 ตันต่อไร่
แปลงนาพันธุ์ กข.47 กว่า 50 ไร่ ในอำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี ที่ให้
ผลผลิตข้าวกว่า 1,500 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยผลผลิตของชาวนา
ไทยถึง 3 เท่า เป็นของนายกำพล ทองโสภา ชาวนาที่ปลูกข้าวมานาน 30 ปี
แต่ได้เปลี่ยนจากการใช้สารเคมีมาใช้การปลูกแบบอินทรีย์ นานกว่า 10 ปี
ซึ่งเขาบอกว่า นอกจากจะลดต้นทุนในการผลิต จาก 5,700 บาทต่อไร่ เหลือเพียง
2,000 บาทต่อไร่แล้ว การทำนาด้วยวิธีเกษตรอินทรีย์ ยังทำให้เขาได้ผลผลิต
มากกว่าเดิม และช่วยให้ผู้บริโภคได้บริโภคข้าวที่มีคุณภาพด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้วิธีการทำนาแบบเกษตรอินทรีย์นี้ ทำให้นายกำพล ได้รับรางวัลชนะเลิศโครงการ
ประกวดผลผลิตข้าวนาปี 55/56 ของกรมส่งเสริมการเกษตรซึ่งเขาอธิบายว่า ต้อง
เตรียมพันธุ์ข้าวให้เข้ากับท้องถิ่น และต้องปรับพื้นดินให้เสมอกัน ไม่เผาฟางหลัง
เกี่ยวข้าวแล้ว และราดน้ำหมักชีวภาพ ที่ได้จากหยวกกล้วย ไปช่วยย่อยฟางแทน
ซึ่งยังเป็นปุ๋ยอย่างดีได้ด้วย เช่นเดียวกับแหนแดงในแปลงนา ก็สามารถเป็นปุ๋ยพืช
สดทดแทนปุ๋ยเคมีไนโตรเจนได้เช่นกัน จึงทำให้ได้ผลผลิตข้าวต่อไร่สูงกว่าปกติ
ขณะที่ปัญหาแมลงศัตรูพืชนั้น เมื่อเกษตรกรไม่ใช้ยาฆ่าแมลงก็จะมีแมลงดีอย่าง
เต่าทอง และแมลงปอ มาช่วยกินไข่เพลี้ย ซึ่งเป็นศัตรูของข้าวตัวสำคัญ
http://news.voicetv.co.th/thailand/60375.html
ถาดเพาะเมล็ดข้าว ที่ช่วยให้ชาวนาประหยัดแรงลดต้นทุนในการเพาะปลูกไปได้มากขึ้น

การทำน้ำหมักชีวภาพจุลินทรีย์หน่อกล้วย
ส่วนผสมและวัสดุอุปกรณ์
1. หน่อกล้วยสูงไม่เกิน 1 เมตร 3 กิโลกรัม (หั่น สับ หรือตำให้ละเอียด)
2. กากน้ำตาล 1 กิโลกรัม
3. ถังพลาสติกขนาดมีฝาปิด 1 ใบ (ควรมีขนาดบรรจุมากกว่า 20 ลิตรขึ้นไป)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ประโยชน์และวิธีใช้
1. ใช้ปรับปรุงโครงสร้างของดินและกำจัดเชื้อโรคในดิน
ผสมจุลินทรีย์หน่อกล้วยในอัตรา 20 มิลลิลิตร (ประมาณ 4 ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร ราดลงบนดินพร้อมกับการให้น้ำ
2. ใช้ป้องกันกำจัดโรคพืช
ผสมจุลินทรีย์หน่อกล้วย 10 มิลลิลิตร (2 ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นต้นพืชให้เปียกทั่วทั้งใบและใต้ใบ หรือฉีดพ่นโดยใช้ปริมาณน้ำจุลินทรีย์หน่อกล้วย 20 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร เมื่อพบการระบาดของโรคพืช และเว้นการให้น้ำพืช 48 ชั่วโมงเพื่อลดความชื้น
3. ใช้ปรับปรุงคุณภาพน้ำในร่องระบายน้ำ สระเก็บน้ำ และบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ
ผสมจุลินทรีย์หน่อกล้วย 10 ลิตร ต่อน้ำ 10,000 ลิตร (อัตราส่วนจุลินทรีย์หน่อกล้วย 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร) เทราดหรือปล่อยลงพร้อมกับการให้น้ำ
4. ล้างทำความสะอาดคอกสัตว์
ผสมจุลินทรีย์หน่อกล้วย 1 ลิตร ต่อน้ำ 100 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่ว
5. เร่งการย่อยสลายเศษซากอินทรียวัตถุหรือดับกลิ่นขยะของเน่าเสีย
ผสมจุลินทรีย์หน่อกล้วย 1 ลิตรต่อน้ำ 100 ลิตร ฉีดพ่นลงบนกองขยะให้ทั่ว กรณีหมักฟางข้าวในแปลงนาใช้จุลินทรีย์หน่อกล้วย 5 ลิตรต่อพื้นที่นา 1 ไร่
หมายเหตุ ในหน่อกล้วยมีจุลินทรีย์กลุ่ม “แอ็คติโนมัยซิส” ซึ่งมีประสิทธิภาพในการย่อยสลายสูง มีประสิทธิภาพในการกำจัดจุลินทรีย์โรคพืช ประเภทเชื้อราในดิน เช่น เชื้อไฟธอปเทอร่า, พิเทียม, ฟูซาเลียม, สเคลโรเทียม และไรซ็อคโธเนีย

น้ำหมักชีวภาพจาก มะละกอ สัปปะรด ฟักทอง
การทำน้ำหมักชีวภาพจากผลไม้สุกนอกจากจะลดต้นทุนแล้ว ยังเพิ่มแร่ธาตุสำคัญอย่าง โพแทสเซียม ให้แก่
พืชของเราอีกด้วยและช่วยเร่งการเจริญเติบโตงดงามและ ยังช่วยขับไล่ศัตรูพืชลดการใช้สารเคมี

หลังจากทำการเพาะปลูกเมื่อต้นข้าวเริ่มโต การกำจัดวัชพืชเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญใน
การทำให้ข้าวของเรางอกงามได้โดยที่ไม่ต้องใช้สารพิษยาฉีดพ่นกำจัดวัชพืช
..............................................................................................................................
เพื่อประโยชน์ของเกษตรกรการทำให้ข้าวในนา มีมาตราฐานและผ่านการรับรองว่าเป็น
ผลิตภัณฑ์ปลอดสารเคมีเพื่อให้ความมั่นใจแก่ลูกค้าที่ต้องการอาหารเพื่อสุขภาพ
http://www.doa.go.th/oard2/images/stories/re3.pdf
http://www.greenshopcafe.com/standardinfo164
http://www.actorganic-cert.or.th/sites/default/files/621gl_seal_user_0.pdf
เมื่อการผลิตได้มาตราฐานแล้วก็มาถึงการเตรียมจัดจำหน่าย
เริ่มต้นฤดูการเก็บเกี่ยวชาวนาที่เป็นเจ้าของพื้นที่จำนวนหลายๆไร่ มักจะเรียกใช้บริการ
จากรถดูดข้าวเพราะทำงานได้ไวกว่า แต่ก็ย่อมเกิดปัญหาจากการมีเศษหญ้าและดอกหญ้า
ติดเข้ามากับข้าวของเกษตรกรด้วย ดังนั้นหลังการเก็บเกี่ยวหากต้องการปลูกเพื่อจำหน่าย
เราจึงต้องเลือกโรงสีข้าวที่มีมาตราฐานที่สามารถกำจัด เศษสิ่งเจือปนออกไปได้เพื่อให้ได้
ข้าวที่มีคุณภาพ
และขั้นตอนการบรรจุผลิตภัณฑ์

เหมาะสำหรับการทำ SME วิสาหกิจในครอบครัว และ ชุมชนขนาดเล็กเพื่อช่วยในการ
ลดต้นทุนในการผลิตส่งเสริมการทำธุรกิจเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร พร้อมสู่การค้าใน
ตลาดประเทศไทย การออกแบบโลโก้หรือป้ายผลิตภัณฑ์
เพิ่มมูลค่าข้าว ทำเองได้ไม่ต้องใช้ทุนสูง
ชาวนารุ่นใหม่ต้องรู้จักเทคโนโลยีร่วมไปกับการทำเกษตรแบบอินทรีย์เพื่อ
ให้ได้ผลผลิตที่ออกมาดีและมีคุณภาพ สด สะอาด ปลอดภัย ไร้สารพิษ
ก่อนจะไปถึงจุดนั้นเรามาดูกันถึงการเริ่มต้นตั้งแต่เตรียมการเพาะปลูกต้นข้าว
ของเรา
เกษตรกรจังหวัดสุพรรณบุรี หันมาทำเกษตรอินทรีย์ เพื่อลดต้นทุนการผลิต
และยังสามารถเพิ่มผลผลิตข้าว ได้สูงกว่า 1 ตันต่อไร่
แปลงนาพันธุ์ กข.47 กว่า 50 ไร่ ในอำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี ที่ให้
ผลผลิตข้าวกว่า 1,500 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยผลผลิตของชาวนา
ไทยถึง 3 เท่า เป็นของนายกำพล ทองโสภา ชาวนาที่ปลูกข้าวมานาน 30 ปี
แต่ได้เปลี่ยนจากการใช้สารเคมีมาใช้การปลูกแบบอินทรีย์ นานกว่า 10 ปี
ซึ่งเขาบอกว่า นอกจากจะลดต้นทุนในการผลิต จาก 5,700 บาทต่อไร่ เหลือเพียง
2,000 บาทต่อไร่แล้ว การทำนาด้วยวิธีเกษตรอินทรีย์ ยังทำให้เขาได้ผลผลิต
มากกว่าเดิม และช่วยให้ผู้บริโภคได้บริโภคข้าวที่มีคุณภาพด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
http://news.voicetv.co.th/thailand/60375.html
ถาดเพาะเมล็ดข้าว ที่ช่วยให้ชาวนาประหยัดแรงลดต้นทุนในการเพาะปลูกไปได้มากขึ้น
การทำน้ำหมักชีวภาพจุลินทรีย์หน่อกล้วย
ส่วนผสมและวัสดุอุปกรณ์
1. หน่อกล้วยสูงไม่เกิน 1 เมตร 3 กิโลกรัม (หั่น สับ หรือตำให้ละเอียด)
2. กากน้ำตาล 1 กิโลกรัม
3. ถังพลาสติกขนาดมีฝาปิด 1 ใบ (ควรมีขนาดบรรจุมากกว่า 20 ลิตรขึ้นไป)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
น้ำหมักชีวภาพจาก มะละกอ สัปปะรด ฟักทอง
การทำน้ำหมักชีวภาพจากผลไม้สุกนอกจากจะลดต้นทุนแล้ว ยังเพิ่มแร่ธาตุสำคัญอย่าง โพแทสเซียม ให้แก่
พืชของเราอีกด้วยและช่วยเร่งการเจริญเติบโตงดงามและ ยังช่วยขับไล่ศัตรูพืชลดการใช้สารเคมี
หลังจากทำการเพาะปลูกเมื่อต้นข้าวเริ่มโต การกำจัดวัชพืชเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญใน
การทำให้ข้าวของเรางอกงามได้โดยที่ไม่ต้องใช้สารพิษยาฉีดพ่นกำจัดวัชพืช
..............................................................................................................................
เพื่อประโยชน์ของเกษตรกรการทำให้ข้าวในนา มีมาตราฐานและผ่านการรับรองว่าเป็น
ผลิตภัณฑ์ปลอดสารเคมีเพื่อให้ความมั่นใจแก่ลูกค้าที่ต้องการอาหารเพื่อสุขภาพ
http://www.doa.go.th/oard2/images/stories/re3.pdf
http://www.greenshopcafe.com/standardinfo164
http://www.actorganic-cert.or.th/sites/default/files/621gl_seal_user_0.pdf
เมื่อการผลิตได้มาตราฐานแล้วก็มาถึงการเตรียมจัดจำหน่าย
เริ่มต้นฤดูการเก็บเกี่ยวชาวนาที่เป็นเจ้าของพื้นที่จำนวนหลายๆไร่ มักจะเรียกใช้บริการ
จากรถดูดข้าวเพราะทำงานได้ไวกว่า แต่ก็ย่อมเกิดปัญหาจากการมีเศษหญ้าและดอกหญ้า
ติดเข้ามากับข้าวของเกษตรกรด้วย ดังนั้นหลังการเก็บเกี่ยวหากต้องการปลูกเพื่อจำหน่าย
เราจึงต้องเลือกโรงสีข้าวที่มีมาตราฐานที่สามารถกำจัด เศษสิ่งเจือปนออกไปได้เพื่อให้ได้
ข้าวที่มีคุณภาพ
และขั้นตอนการบรรจุผลิตภัณฑ์
เหมาะสำหรับการทำ SME วิสาหกิจในครอบครัว และ ชุมชนขนาดเล็กเพื่อช่วยในการ
ลดต้นทุนในการผลิตส่งเสริมการทำธุรกิจเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร พร้อมสู่การค้าใน
ตลาดประเทศไทย การออกแบบโลโก้หรือป้ายผลิตภัณฑ์