สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน วันนี้จะมารีวิวชีวิตของการเป็นลูกคนเดียวที่หลายๆคนอิจฉาให้ฟังนะคะ >< เวลามีคนถามว่ามีพี่น้องมั้ย? ก็ตอบว่าไม่ค่ะ เป็นลูกคนเดียว และมักจะได้ยินคำพูดที่ตอบกลับว่า ดีจังลูกคนเดียว พ่อแม่ตามใจอยากได้อะไรก็ได้ แต่จริงๆแล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยค่ะ ไม่รู้ว่าบ้านอื่นเลี้ยงลูกยังไง แต่บ้านเราเลี้ยงเรามาในแบบที่ไม่ตามใจเลยพ่อแม่หวงเรามาก ไม่เคยปล่อยให้ออกจากบ้าน บางครั้งขนาดไปกับญาติยังไม่อยากให้ไป ถ้าให้ไปก็ทำหน้าตาแบบไม่พอใจ ยิ่งช่วงเทศกาลเหรอ? อย่าหวังเลยค่ะ ไม่เคยได้ออกจากบ้านหรอก ปีใหม่ไม่เคยได้ไปไหน นอนข้ามปีตลอด สงกานต์ก็เล่นแค่ในหมู่บ้าน จะออกไปเล่นนอกหมู่บ้านไม่เคยได้ไปหรอกค่ะ ตอนเราจบม.6 จะกินเลี้ยงกับเพื่อนส่งท้ายหน่อย แต่ว่าอาจกลับดึกซัก 3-4 ทุ่ม ยังไม่อนุญาตเลย เราไม่รู้ว่าอายุเท่าไหร่พ่อแม่ถึงจะปล่อยเราให้เป็นอิสระ มองว่าเราโต ตอนนี้ก็อายุ 20 แล้วค่ะ ปกติเป็นคนไม่ชอบออกไปไหนอยู่แล้ว ชอบเก็บตัวอยู่ในห้อง แต่ว่าช่วงเทศกาลก็ขอไปเที่ยวกับเพื่อน คำตอบคือ”ไม่” บางครั้งเราก็ไม่ได้อยากไปไหนหรอกค่ะ แต่อยากให้พ่อแม่อนุญาตเฉยๆ อยากให้เขาคิดว่าเราโตแล้ว เลิกหวงเกินไปได้แล้ว ชีวิตวัยรุ่นเรานี้ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยนอกจากจะอยู่ในห้อง ท่องโลกโซเชี่ยลไปวันๆ บางครั้งก็คิดนะคะว่าถ้าเรียนจบแล้ว มีงานทำเขาจะอนุญาตให้เราไปมั้ย? ก็อย่างว่าแหละค่ะ ลูกคนเดียว ต้องรักและห่วงมากเป็นธรรมดา แต่ชีวิตที่ผ่านมาของเราไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเลยค่ะ ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวที่ไหน ครอบครัวก็ไม่พาไป จะขอไปกับญาติก็ไม่ให้ ยิ่งกับเพื่อนนี้แค่อ้าปากก็คงทะเลาะกันแล้วละ เราเบื่อมาก แต่จริงๆเราก็ชอบอยู่กับบ้านนะคะ นานๆทีถึงจะขอไป จนเดี๋ยวนี้ญาติเราเวลาจะไปเที่ยวเขาไม่ชวนเราแล้วค่ะ555
เราอยากจะตัดผมสั้นก็ไม่ยอมให้ตัด อยากย้อมสีผมก็จะไม่ให้ย้อม แต่เราก็ย้อมค่ะ แต่พ่อแม่ก็ทำหน้าไม่พอใจ เราว่าเราก็อายุ 20 แล้วนะคะ หรือยังเด็กไปกับแค่การตัดสินใจเรื่องทรงผม
แล้วก็ห้ามไม่ให้มีแฟนด้วย แต่เราก็แอบมี55 มีคนแรกตอนม.4 ตอนนี้ก็มีนะคะ แต่คนนี้เราบอกพ่อกับแม่แล้ว ท่านก็เหมือนไม่อยากให้มีหรอก เราก็ไม่พูดอะไรถึงแฟนเรามาก ไม่อยากจะเล่าอะไรให้ฟัง เดี๋ยวพอพูดแล้วก็จะยาวและดราม่าอีก
ตอนเราเด็กพ่อแม่เราเลือกเพื่อนให้เราด้วยนะคะ ว่าคนนี้ควรคบมั้ย สมัยป.5เคยมีเพื่อนมาบ้าน พ่อเราคงเห็นว่าไม่โอเค บอกเราว่าให้เลิกคบเพื่อนคนนี้ คือเราไม่รู้จะทำยังไงก็เลยพยายามๆห่างไป พอม.ต้น เราก็คบกับเพื่อนแก๊งที่ออกจะแรงๆหน่อย แม่เราไม่ชอบก็บอกให้เลิกคบ เราก็พยายามห่างๆ สุดท้ายก็เลิกสนิทกัน
เวลาพ่อแม่ทะเลาะกัน เราไม่รู้จะหันไปคุยหรือปรึกษาใครเลย เพราะมันเป็นเรื่องในครอบครัว ถ้ามีพี่น้องก็คงจะได้คุยกันหาทางแก้ปัญหา หรือทำให้สถานการณ์ในบ้านไม่ตึงเครียด แต่นี้เราตัวคนเดียว เวลาทะเลาะกันที่ไรก็จะเงียบ เราก็เงียบด้วย เราไม่สามารถพูดกับใครได้มากเท่าไหร่ เพราะจะหาว่าเราอยู่ฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ เราเก็บกดมาก เราก็เอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง
เรานื้คือความหวังของครอบครัวเลยละค่ะ กดดันนะคะ เราเรียนไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ พอวิชาไหนที่เราได้คะแนนน้อย เสี่ยงเอฟ เราไม่กล้าจะบอกใครเลย เครียดมาก
มันมีอีกเยอะค่ะ ลูกคนเดียวไม่ได้น่าอิจฉาเลยจริงๆ
ชีวิตลูกคนเดียวไม่ได้น่าอิจฉาเลย
เราอยากจะตัดผมสั้นก็ไม่ยอมให้ตัด อยากย้อมสีผมก็จะไม่ให้ย้อม แต่เราก็ย้อมค่ะ แต่พ่อแม่ก็ทำหน้าไม่พอใจ เราว่าเราก็อายุ 20 แล้วนะคะ หรือยังเด็กไปกับแค่การตัดสินใจเรื่องทรงผม
แล้วก็ห้ามไม่ให้มีแฟนด้วย แต่เราก็แอบมี55 มีคนแรกตอนม.4 ตอนนี้ก็มีนะคะ แต่คนนี้เราบอกพ่อกับแม่แล้ว ท่านก็เหมือนไม่อยากให้มีหรอก เราก็ไม่พูดอะไรถึงแฟนเรามาก ไม่อยากจะเล่าอะไรให้ฟัง เดี๋ยวพอพูดแล้วก็จะยาวและดราม่าอีก
ตอนเราเด็กพ่อแม่เราเลือกเพื่อนให้เราด้วยนะคะ ว่าคนนี้ควรคบมั้ย สมัยป.5เคยมีเพื่อนมาบ้าน พ่อเราคงเห็นว่าไม่โอเค บอกเราว่าให้เลิกคบเพื่อนคนนี้ คือเราไม่รู้จะทำยังไงก็เลยพยายามๆห่างไป พอม.ต้น เราก็คบกับเพื่อนแก๊งที่ออกจะแรงๆหน่อย แม่เราไม่ชอบก็บอกให้เลิกคบ เราก็พยายามห่างๆ สุดท้ายก็เลิกสนิทกัน
เวลาพ่อแม่ทะเลาะกัน เราไม่รู้จะหันไปคุยหรือปรึกษาใครเลย เพราะมันเป็นเรื่องในครอบครัว ถ้ามีพี่น้องก็คงจะได้คุยกันหาทางแก้ปัญหา หรือทำให้สถานการณ์ในบ้านไม่ตึงเครียด แต่นี้เราตัวคนเดียว เวลาทะเลาะกันที่ไรก็จะเงียบ เราก็เงียบด้วย เราไม่สามารถพูดกับใครได้มากเท่าไหร่ เพราะจะหาว่าเราอยู่ฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ เราเก็บกดมาก เราก็เอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง
เรานื้คือความหวังของครอบครัวเลยละค่ะ กดดันนะคะ เราเรียนไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ พอวิชาไหนที่เราได้คะแนนน้อย เสี่ยงเอฟ เราไม่กล้าจะบอกใครเลย เครียดมาก
มันมีอีกเยอะค่ะ ลูกคนเดียวไม่ได้น่าอิจฉาเลยจริงๆ