พระเทวทัต
>> เป็นราชนิกูล มีความรู้ความสามารถ ได้รับการศึกษาตามแบบราชนิกูล , มีวาทะศีลเป็นเลิศ มีอภิญญา แต่มิได้เป็นพระอริยะ , อิจฉาริษยา
พระบรมศาสดา ตั้งแต่ครั้ง เยาว์วัย , แข่งดี อวดดี พยายามหาทางเอาชนะ ขาดความเมตตา พยายามเอาชนะ เจ้าชายสิทธถะ ในทุกทาง
ดังในครั้ง ใช้ธนูยิงหงส์ได้ตัวนึง , แต่เจ้าชายสิทธถะพบเข้าก่อน จึงนำมาดูแลรักษา เพื่อปล่อยให้เป็นอิสระอีกครั้ง , เจ้าชายเทวทัตไม่ยอม
จนต้องนำข้อโต้แย้งนั้นให้เหล่าเสนาบดีแห่งกรุงกบิลพัสด์ตัดสิ้น
>> หลังออกบวชตามราชนิกูลในศาสนาแห่งพระบรมศาสดา ยังคงอิจฉา ริษยา พระบรมศาสดา อันเป็นที่รัก เคารพแห่งสาวก ประชาชน พระราชา
แห่งแคว้นมหาอำนาจต่างๆ เช่นพระเจ้าพิมพิสารเป็นต้น , ออกอุบายในการชักจูงเจ้าชาย อชาติศัตรู โดยการแสดง อภิญญาให้พระองศรัทธา
ยุให้พระองค์กระทำสิ่งที่มิควรกระทำ เพื่อหวังอิงพระราชอำนาจของพระองค์สร้าง อำนาจ บารมี ให้แก่ตนเอง ,
>> ออกอุบาย กล่อมหมู่สงฆ์ให้เข้าร่วมกลุ่มของตน โดยปรามาสธรรมแห่งพระองค์มิได้เคร่งครัด เท่าแบบที่ตนเสนอ เมื่อได้รับการ ปฎิเสธจาก
พระพุทธองค์จึงฉวยโอกาส แยกหมู่สงฆ์ออกไปต่างหากและตั้งตนเป็น ศาสดา
>> ภายหลังได้ก่อกรรมทำเข็ญ จนชาวพระนครเอือมระอา , พระพุทธองค์ทรงประกาศตัด พระเทวทัต ออกจากหมู่สงฆ์ของพระองค์ ทำให้ชาวบ้าน
ชาวเมืองต่างไม่ต้อนรับ ไม่ใส่บาตรสาวกแห่งเทวทัต จนได้รับความเดือดร้อนเสียหาย , พระเจ้าอชาติศัตรูเริ่มทรงเปลื่อนพระทัย หลังเสด็จไปพบ
พระพุทธองค์ผู้เป็นอาจารย์และสหายแห่งพระราชบิดา หลังจากได้ฟังธรรมที่พระองค์ทรงแสดง , จากนั้นทรงหันหลังให้พระเทวทัต
>> พระเทวทัตเมื่อขาดพระราชอำนาจเป็นหลังพิงแห่งตน จึงเริ่มเสื่อมความศรัทธา ทั้งจาก ชาวบ้านและเหล่าเสนามาตย์แห่งแค้วน มธค
>> สาวกที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกชาวบ้านคว่ำบาตร และส่วนหนึ่งได้ติดตาม พระสารีบุตร พระโมคลานะ ที่เวทนา สงสารเหล่าสาวก
ผู้หลงผิด แล้วนำสาวกจำนวนมากกลับมายัง เวฬุวัน เพื่อขอขมาพระพุทธองค์
>> พระเทวทัต ตรอมใจ ในความภายแพ้ พระสัจจะธรรมแห่งพระบรมศาสดา , เกิดโรคร้าย นอนซมกับความเจ็บไข้ได้ป่วยจากกรรมของตน
>> ในที่สุดรู้ว่าตนไม่รอดแล้ว จึงขอร้องให้สาวกที่เหลือ หามตนเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา เพื่อขอขมา , อนิจจา อนันตริยกรรม ที่ได้กระทำมา
ถูก ธรณีสูบ เสียก่อนได้เข้าเฝ้าพระพุทธองค์ , วิบากที่ได้รับคือ นรกขุมลึกที่สุดอันเป็นที่ไป !!!!!!
โอ้ พระเทวทัต ตอนท่านยังมีเรี่ยวแรง ท่านหลง ผิดใน ลาภ ยศ สักการะ จนหลงไหลลืมตน มืดบอดกระทำทุจริตต่อพระธรรมวินัย
คิดร้ายต่อพระพุทธองค์ ทำลายหมู่สงฆ์ให้หลงผิด สร้างความแตกแยกให้เหล่า สาวกแห่งพระพุทธองค์ สร้างความสับสนในธรรมวินัยแห่งพระองค์
และท่าน เทวทัต ผู้เป็นที่จดจำในคุณความเลวตราบสิ้นพระศาสนา ผู้ใดอยากเป็นเฉกเช่น ท่านเทวทัตบ้าง
กรรมนะไชโย
>> เปิดฉากด้วยการอิงแอบ ครูบาอาจารย์ผู้มีชื่อเสียง ก่อนแยกตนออกไปตั้งสำนักหากิน กับความเชื่อของชาวพุทธผู้คลั่ง สวรรค์ นิพพาน หาก
ขี้เกียจศึกษา ปฎิบัติ ตามแนวแห่งที่พระศาสดา วางไว้
>> รูปหล่อ เสียงดี เพียงแต่ไว้ผมยาวมิได้ ( ไว้ได้อาจจะไว้ไปแล้ว ) , จ๋าจ๊ะ ญาติโยม จนเป็นที่คลั่งไคล้ ระทวย ทำบุญจนบ้านแตกสาแหรกขาด
หมดเนื้อหมดตัวกันเป็นรายๆไป
>> อิงแอบพระธรรม แห่งพระศาสดา มาบิดเบือน ใช้ระบบขายตรงในการจำหน่ายบุญให้เหล่า ผู้ขี้เกียจศึกษา ปฎิบัติ จนสร้าง อาณาจักรใหญ่โต
อิงแอบอำนาจทางการเมือง ขยายอาณาจักร รวดเร็วราวกับ ไวรัส เฮชไอวี , ติดแล้วหมดตัว หาทางสว่างแห่งปัญญาไม่มี !!!!
>> ลืมตน ถึงกับปรามาส พระพุทธองค์ , ชักจูงสาวกแห่งพระองค์บางส่วนให้เข้ามาเป็นพวก โดยอาศัยบุญล่อบ้าง ทรัพย์ล่อบ้าง ผลักดันพรรคพวก
ให้ขึ้นมีอำนาจ ตัดสินถูกผิด ในกระบวนการศาสนจักร จนง่อยเปลี้ยเสียขา พิกลพิการ เป็นที่ เอือมระอาแห่งชาวบ้านผู้รักความเป็นธรรม
>> อยูเหนือกฎหมาย จ่ายทรัพย์อันหามาได้โดยทุจริต ให้แก่พวกมีความรู้ในแต่ละด้านให้มาบิดเบือน หลอกลวง ชาวบ้าน ให้สับสน ไขว้เขว
เพื่อให้ ทำผิดให้เป็นถูก ทำถูกให้เป็นผิด โดยมิเห็นแก่ นรก สวรรค์ นอกจาก ทรัพย์
>> เมื่อกรรม ค่อยๆแสดงผลตามสัจจะธรรมที่พระองค์ศาสดาตรัสไว้ , ความจริงอันสกปรกที่เคยก่อไว้เริ่มค่อยๆปรากฎ ทั้งคดีโกงทรัพย์ชาวบ้าน
ฟอกเงิน , ขโมยสาธาณะสมบัติ ทั้งที่ดิน ทรัพย์สินเงินทอง ทั้งใส่ บัญชีส่วนตัว , แอบในนามมูลนิธิที่ตนเป็นหัวโต๊ะ
>> เริ่มเข้าตาจน จัดตั้งกองกำลังเพื่อให้พ้นการไล่ล่า จากกฎหมายบ้านเมือง จนอาณาจักรแห่งตนไม่หลงเหลือสภาพวัด อันเป็นที่แอบอ้างเพื่อ
ดูดทรัพย์ชาวบ้านผู้อยากมีหน้าตา และขี้เกียจศึกษา ปฎิบัติ , ไม่ต่างจากค่ายกักกัน
>> กรรมทางโลกอาจยังมิส่งผล , ทว่ากรรมทาง ธรรม นั้นเริ่มปรากฎแล้ว , ป่วย , โผล่หน้ามาพบผู้คนแบบเคยยิ่งใหญ่ แวดล้อมด้วยบริวาร
การจัดฉากเป็นอันจบสิ้น , ต้องหลบซ่อนอยู่ใต้ดิน มีเพียงไม่กี่คนที่ทราบว่า เทออยู่ไหน ?? และต้องปกปิดเป็นความลับสุดยอด แทบไม่ได้ต่าง
จากการถูก ธรณีสูบ สักเท่าไหร่ และชีวิตที่เหลือคงจะเหมือนเดิมยาก คงต้องเผชิญกับเหล่านักปอกลอก วิ่งเต้นทางคดี ที่ปรึกษา นักรับจ้าง
บิดเบือนข้อเท็จจริงต่างๆ ซึ่งก้อไม่ได้เป็น วรรคเป็นเวรอะไรนัก , มีแต่ทำให้จมถล้ำกับดักแห่งความล่อลวง ทุจริตต่อไปไม่สิ้นสุด
เทวทัตนั้นได้เป็นที่จดจำแล้ว
กรรมนะไชโยจะได้ขึ้นทำเนียบหรือไม่
เส้นทางเดินช่างละม้ายกันยิ่งนัก !!!!!!
และขออย่าได้เป็นเช่นนั้นเลย !!!!!!!!!
เทวทัต , กรรมนะไชโย
>> เป็นราชนิกูล มีความรู้ความสามารถ ได้รับการศึกษาตามแบบราชนิกูล , มีวาทะศีลเป็นเลิศ มีอภิญญา แต่มิได้เป็นพระอริยะ , อิจฉาริษยา
พระบรมศาสดา ตั้งแต่ครั้ง เยาว์วัย , แข่งดี อวดดี พยายามหาทางเอาชนะ ขาดความเมตตา พยายามเอาชนะ เจ้าชายสิทธถะ ในทุกทาง
ดังในครั้ง ใช้ธนูยิงหงส์ได้ตัวนึง , แต่เจ้าชายสิทธถะพบเข้าก่อน จึงนำมาดูแลรักษา เพื่อปล่อยให้เป็นอิสระอีกครั้ง , เจ้าชายเทวทัตไม่ยอม
จนต้องนำข้อโต้แย้งนั้นให้เหล่าเสนาบดีแห่งกรุงกบิลพัสด์ตัดสิ้น
>> หลังออกบวชตามราชนิกูลในศาสนาแห่งพระบรมศาสดา ยังคงอิจฉา ริษยา พระบรมศาสดา อันเป็นที่รัก เคารพแห่งสาวก ประชาชน พระราชา
แห่งแคว้นมหาอำนาจต่างๆ เช่นพระเจ้าพิมพิสารเป็นต้น , ออกอุบายในการชักจูงเจ้าชาย อชาติศัตรู โดยการแสดง อภิญญาให้พระองศรัทธา
ยุให้พระองค์กระทำสิ่งที่มิควรกระทำ เพื่อหวังอิงพระราชอำนาจของพระองค์สร้าง อำนาจ บารมี ให้แก่ตนเอง ,
>> ออกอุบาย กล่อมหมู่สงฆ์ให้เข้าร่วมกลุ่มของตน โดยปรามาสธรรมแห่งพระองค์มิได้เคร่งครัด เท่าแบบที่ตนเสนอ เมื่อได้รับการ ปฎิเสธจาก
พระพุทธองค์จึงฉวยโอกาส แยกหมู่สงฆ์ออกไปต่างหากและตั้งตนเป็น ศาสดา
>> ภายหลังได้ก่อกรรมทำเข็ญ จนชาวพระนครเอือมระอา , พระพุทธองค์ทรงประกาศตัด พระเทวทัต ออกจากหมู่สงฆ์ของพระองค์ ทำให้ชาวบ้าน
ชาวเมืองต่างไม่ต้อนรับ ไม่ใส่บาตรสาวกแห่งเทวทัต จนได้รับความเดือดร้อนเสียหาย , พระเจ้าอชาติศัตรูเริ่มทรงเปลื่อนพระทัย หลังเสด็จไปพบ
พระพุทธองค์ผู้เป็นอาจารย์และสหายแห่งพระราชบิดา หลังจากได้ฟังธรรมที่พระองค์ทรงแสดง , จากนั้นทรงหันหลังให้พระเทวทัต
>> พระเทวทัตเมื่อขาดพระราชอำนาจเป็นหลังพิงแห่งตน จึงเริ่มเสื่อมความศรัทธา ทั้งจาก ชาวบ้านและเหล่าเสนามาตย์แห่งแค้วน มธค
>> สาวกที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกชาวบ้านคว่ำบาตร และส่วนหนึ่งได้ติดตาม พระสารีบุตร พระโมคลานะ ที่เวทนา สงสารเหล่าสาวก
ผู้หลงผิด แล้วนำสาวกจำนวนมากกลับมายัง เวฬุวัน เพื่อขอขมาพระพุทธองค์
>> พระเทวทัต ตรอมใจ ในความภายแพ้ พระสัจจะธรรมแห่งพระบรมศาสดา , เกิดโรคร้าย นอนซมกับความเจ็บไข้ได้ป่วยจากกรรมของตน
>> ในที่สุดรู้ว่าตนไม่รอดแล้ว จึงขอร้องให้สาวกที่เหลือ หามตนเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา เพื่อขอขมา , อนิจจา อนันตริยกรรม ที่ได้กระทำมา
ถูก ธรณีสูบ เสียก่อนได้เข้าเฝ้าพระพุทธองค์ , วิบากที่ได้รับคือ นรกขุมลึกที่สุดอันเป็นที่ไป !!!!!!
โอ้ พระเทวทัต ตอนท่านยังมีเรี่ยวแรง ท่านหลง ผิดใน ลาภ ยศ สักการะ จนหลงไหลลืมตน มืดบอดกระทำทุจริตต่อพระธรรมวินัย
คิดร้ายต่อพระพุทธองค์ ทำลายหมู่สงฆ์ให้หลงผิด สร้างความแตกแยกให้เหล่า สาวกแห่งพระพุทธองค์ สร้างความสับสนในธรรมวินัยแห่งพระองค์
และท่าน เทวทัต ผู้เป็นที่จดจำในคุณความเลวตราบสิ้นพระศาสนา ผู้ใดอยากเป็นเฉกเช่น ท่านเทวทัตบ้าง
กรรมนะไชโย
>> เปิดฉากด้วยการอิงแอบ ครูบาอาจารย์ผู้มีชื่อเสียง ก่อนแยกตนออกไปตั้งสำนักหากิน กับความเชื่อของชาวพุทธผู้คลั่ง สวรรค์ นิพพาน หาก
ขี้เกียจศึกษา ปฎิบัติ ตามแนวแห่งที่พระศาสดา วางไว้
>> รูปหล่อ เสียงดี เพียงแต่ไว้ผมยาวมิได้ ( ไว้ได้อาจจะไว้ไปแล้ว ) , จ๋าจ๊ะ ญาติโยม จนเป็นที่คลั่งไคล้ ระทวย ทำบุญจนบ้านแตกสาแหรกขาด
หมดเนื้อหมดตัวกันเป็นรายๆไป
>> อิงแอบพระธรรม แห่งพระศาสดา มาบิดเบือน ใช้ระบบขายตรงในการจำหน่ายบุญให้เหล่า ผู้ขี้เกียจศึกษา ปฎิบัติ จนสร้าง อาณาจักรใหญ่โต
อิงแอบอำนาจทางการเมือง ขยายอาณาจักร รวดเร็วราวกับ ไวรัส เฮชไอวี , ติดแล้วหมดตัว หาทางสว่างแห่งปัญญาไม่มี !!!!
>> ลืมตน ถึงกับปรามาส พระพุทธองค์ , ชักจูงสาวกแห่งพระองค์บางส่วนให้เข้ามาเป็นพวก โดยอาศัยบุญล่อบ้าง ทรัพย์ล่อบ้าง ผลักดันพรรคพวก
ให้ขึ้นมีอำนาจ ตัดสินถูกผิด ในกระบวนการศาสนจักร จนง่อยเปลี้ยเสียขา พิกลพิการ เป็นที่ เอือมระอาแห่งชาวบ้านผู้รักความเป็นธรรม
>> อยูเหนือกฎหมาย จ่ายทรัพย์อันหามาได้โดยทุจริต ให้แก่พวกมีความรู้ในแต่ละด้านให้มาบิดเบือน หลอกลวง ชาวบ้าน ให้สับสน ไขว้เขว
เพื่อให้ ทำผิดให้เป็นถูก ทำถูกให้เป็นผิด โดยมิเห็นแก่ นรก สวรรค์ นอกจาก ทรัพย์
>> เมื่อกรรม ค่อยๆแสดงผลตามสัจจะธรรมที่พระองค์ศาสดาตรัสไว้ , ความจริงอันสกปรกที่เคยก่อไว้เริ่มค่อยๆปรากฎ ทั้งคดีโกงทรัพย์ชาวบ้าน
ฟอกเงิน , ขโมยสาธาณะสมบัติ ทั้งที่ดิน ทรัพย์สินเงินทอง ทั้งใส่ บัญชีส่วนตัว , แอบในนามมูลนิธิที่ตนเป็นหัวโต๊ะ
>> เริ่มเข้าตาจน จัดตั้งกองกำลังเพื่อให้พ้นการไล่ล่า จากกฎหมายบ้านเมือง จนอาณาจักรแห่งตนไม่หลงเหลือสภาพวัด อันเป็นที่แอบอ้างเพื่อ
ดูดทรัพย์ชาวบ้านผู้อยากมีหน้าตา และขี้เกียจศึกษา ปฎิบัติ , ไม่ต่างจากค่ายกักกัน
>> กรรมทางโลกอาจยังมิส่งผล , ทว่ากรรมทาง ธรรม นั้นเริ่มปรากฎแล้ว , ป่วย , โผล่หน้ามาพบผู้คนแบบเคยยิ่งใหญ่ แวดล้อมด้วยบริวาร
การจัดฉากเป็นอันจบสิ้น , ต้องหลบซ่อนอยู่ใต้ดิน มีเพียงไม่กี่คนที่ทราบว่า เทออยู่ไหน ?? และต้องปกปิดเป็นความลับสุดยอด แทบไม่ได้ต่าง
จากการถูก ธรณีสูบ สักเท่าไหร่ และชีวิตที่เหลือคงจะเหมือนเดิมยาก คงต้องเผชิญกับเหล่านักปอกลอก วิ่งเต้นทางคดี ที่ปรึกษา นักรับจ้าง
บิดเบือนข้อเท็จจริงต่างๆ ซึ่งก้อไม่ได้เป็น วรรคเป็นเวรอะไรนัก , มีแต่ทำให้จมถล้ำกับดักแห่งความล่อลวง ทุจริตต่อไปไม่สิ้นสุด
เทวทัตนั้นได้เป็นที่จดจำแล้ว
กรรมนะไชโยจะได้ขึ้นทำเนียบหรือไม่
เส้นทางเดินช่างละม้ายกันยิ่งนัก !!!!!!
และขออย่าได้เป็นเช่นนั้นเลย !!!!!!!!!