พึ่งรู้ว่า LTF ให้อะไรมากกว่าการลงทุน(ดีต่อใจ) แบบฉบับผู้เริ่มต้น

วันนี้ผมพึ่งรู้ว่าการซื้อ LTF ไม่ใช่แค่การลงทุน  
แต่วันนี้ LTF ได้หัวใจผมไปด้วย ปกติซื้อผ่านบัญชีออนไลน์
ปีนี้ลองเปลี่ยนกอง เลยได้มีโอกาสไปเป็นผู้เริ่มต้นใหม่สำหรับการลงทุนอีกครั้ง

  เริ่มต้นจากเดินเข้าไปสาขาก่อน วันนี้กว่าจะเสร็จธุระก็เวลาล่วงเลยไป 4 โมงเย็นแล้ว
สาขาทั่วไปปิดกันหมด ผมเลยเลือกสาขาในห้างแถวบ้าน เข้าไปจุดกดบัตรคิวแล้วก็แจ้งน้องพนักงานว่าผมมาซื้อ LTF
น้องพนักงานบอกผมว่าพี่ต้องมีบัญชีออมทรัพย์ของแบงค์ก่อนจึงจะซื้อได้  
แต่เอะ... ทำไมผมคุ้นๆว่าแบงค์ก่อนหน้านี้เขาบอกว่ามีบัญชีออมทรัพย์ของแบงค์ไหนก็ได้ อันนี้ผมยังสงสัยวอนผู้รู้ช่วยคอนเฟิร์มผมหน่อยละกัน
  หลังจากกดบัตรคิว น้องพนักงานก็เอาใบสมัครสำหรับซื้อ LTF มาให้กรอก  อยากบอกว่ามันหนามาก ผมต้องกรอกหมดนี้เลยเหรอ...โอ้ววแม่เจ้า
แต่เนื่องจากคนเยอะมาก คิวที่กดไว้คงต้องรออีกนาน ก็ค่อยๆกรอกเอกสารกันไป  
เอกสารที่ต้องกรอกจำได้คร่าวๆ
1. เอกสารการสมัครเปิดบัญชีกองทุน
2. เอกสารเกี่ยวกับที่มาของรายได้อะไรประมาณนี้
3. เอกสารการพำนักในต่างประเทศ(คนที่เกิดในไทย จะให้กรอกไปทำไมกันนะ)
4. เอกสารเกี่ยวกับคนอเมริกา (เอ่อ...สงสัยทำไมต้องอเมริกา)
5. ประเมินความสามารถในการรับความเสี่ยง  กรอกสูงๆไปเลย เพื่อให้ซื้อกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงๆได้เลยโดยไม่ต้องเซ็นยินยอมอีก
ุ6. ....และอื่นๆ จำไม่ได้
กรอกเอกสารเสร็จก็ไปนั่งรอเรียกคิว  ผมกรอกเอกสารก็หลายนาที  แต่ละอันรายละเอียดก็ย๊าวยาว นึกว่าตัวเองทำข้อสอบ Final
พอนั่งรอได้แป๊บเดียวก็ถึงคิวพอดี เราใช้เวลาในการทำข้อสอบดีมาก...
  แต่ๆๆ...พอผมเดินไปที่เคาน์เตอร์พนักงานยกมือไหว้ ผมเงยหน้ามอง มือไม้ผมอ่อนไปหมด หัวใจเต้นผิดจังหวะ  เธอช่างนักรักเหลือเกิน
เธอไม่ได้จัดว่าเป็นคนสวยมากมาย  แต่รอยยิ้มเธอช่างทำให้ใจผมเต้นรัวๆ  เป็นจังหวะ 3 ช่า  
แล้วเธอก็ถามผมว่ามีเอาบัญชีออมทรัพย์มาไหมค่ะ  ผมตอบเธอด้วยน้ำเสียงแบบหล่อๆ  ผมไม่มีครับ  
ผมมีแค่บัตรประชาชนใบเดียวติดตัวมาผมสมัครได้ไหม?   เธอตอบว่าได้ค่ะ ขอบัตรประชาชนเพื่อเปิดบัญชีออมทรัพย์ก่อนนะคะ  
ครับ....ผมมีเงินติดตัว 500 เปิดได้ใช่ไหม  ได้ค่ะ...  (เกือบไปแล้ว  กดตังค์มาจนเกลี้ยงทุกบัตรกะจะมาเข้า LTF ตังติดตัวไม่เหลือแล้ว)
เธอก็เอาเอกสารการเปิดบัญชีมาให้กรอกอีก ห๊ะ....ผมต้องกรอกอีกแล้วเหรอ  ผมเซ็นชื่อจนมือหงิกไปแล้วเนี่ย  หลังๆลายเซ็นยิ่งสั้นลงเรื่อยๆ
   ไม่เป็นไรรอยยิ้มเธอน่ารัก ผมกรอกทั้งวันก็ยังได้ ผมใช้ชีวิตอยู่ตรงนั้นนานมากเซ็นโน่นนี่นั่น(ใช้คำว่า ใช้ชีวิตกันเลย มันเป็นช่วงเวลาที่หัวใจผมเริ่มทำงานหลังจากไม่ทำงานมาก)  คุณครับผมไม่เอา ATM นะครับ สมัคร i-banking ได้ใช่ไหม  ใช่ค่ะ...เธอตอบพร้อมรอยยิ้มอีกตามเคย(เปิดบัญชีแบบไม่ต้องเอา ATM ก็ได้ครับ  จะได้ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม  ATM มีเกือบจะครบทุกแบงค์แล้ว บัญชีสำหรับการลงทุนไม่จำเป็นต้องเอาเงินออกบ่อยๆก็ได้)
    หลังจากเปิดบัญชีออมทรัพย์เสร็จก็ต้องกรอกใบสั่งตัดบัญชีล่วงหน้า เพราะวันนี้ผมมาหลังเวลาปิดรอบวันของกองทุนแล้ว  ซื้อวันนี้แต่จะได้ราคาของพรุ่งนี้  สาธุขอให้พรุ่งนี้เซตลงต่ำๆ ผมจะได้ NAV ถูกลง  วันนี้ไม่นึกว่าฝรั่งจะมาลากเซตไปไกลเลย ตั้งใจแกล้งคนซื้อ LTF ใช่ไหม  
    จากนั้นเธอก็ให้ผมกรอกรหัสสำหรับเข้าใช้ i-banking เพื่อเข้าใช้ครั้งแรกและไปทำการเปลี่ยนรหัสผ่านตอนหลัง   และจะได้ SMS แจ้ง User-ID มา  โดยที่เราสามารถไป Login ได้เองผ่านเว็บหรือ Mobile  
     เป็นอันจบภาระกิจการซื้อ LTF ในวันนี้ เธอยื่นสมุดบัญชีออมทรัพย์ให้ผมพร้อมกับเอกสารข้อมูลกองทุนที่ผมซื้อและที่ลืมไม่ได้คือรอยยิ้มที่เธอให้ผมมาด้วย  ผมได้ทุกอย่างครบ แต่ผมยังไม่อยากออกจากสาขาไปเลย หัวใจผมยังอยู่ตรงนี้.... ไม่เป็นไรวันหลังผมจะมาเอาสมุดกองทุนใหม่หวังว่าผมจะได้คิวเคาร์เตอร์เธออีกครั้ง  
      เห็นไหมว่าการซื้อ LTF ไม่ใช่แค่การลงทุน.....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มาถึงสาระกันบ้าง
  แล้วกองทุน LTF แบบปันผลกับไม่ปันผล แบบไหนให้ผลตอบแทนดีกว่า เรามาดูกัน
ผมจะยกตัวอย่าง มาหนึ่งกอง และอธิบายแบบง่ายๆ.....หรือป่าว?
ยกตัวอย่าง Timeline ของเก่าคือ 5 ปีปฏิทิน        
สมมุติว่า กองทุนชื่อ XXLTF  เป็นกองทุน LTF แบบปันผลปีละ 1 ครั้ง  
เงินลงทุน 100,000 บาท สมมุตินะครับตัวเลขกลมๆ

กองทุน LTF แบบปันผล  
- ธันวาคม 2556  NAV = 23.2998       ผมจะได้จำนวนหน่วยเท่ากับ  4,291.8823   หน่วย  
- ปันผล 2557   0.75/หน่วย   เท่ากับผมได้ปันผล  4,291.8823 x 0.75(และหักภาษี 10%)  =  2,897.0206 บาท
- ธันวาคม 2557  NAV = 26.3574   ถ้าผมนำเงินปันผลมาซื้อ ผมจะได้จำนวนหน่วยรวมเท่ากับ   (2,897.0206/26.3574 = 109.9130)+  4,291.8823  = 4,401.7953  หน่วย  
- ปันผล 2558   0.60/หน่วย   เท่ากับผมได้ปันผล 4401.7953 x 0.60(และหักภาษี 10%)  =  2,376.9694 บาท  
- ธันวาคม 2558  NAV = 21.9802   ถ้าผมนำเงินปันผลมาซื้อ ผมจะได้จำนวนหน่วยรวมเท่ากับ   (2,376.9694/21.9802 = 108.1414)+ 4,401.7953  = 4,509.9367 หน่วย  
- ปันผล 2559   0.85/หน่วย   เท่ากับผมได้ปันผล 4,509.9367 x 0.85(และหักภาษี 10%)  =  3,450.1016 บาท  
- ธันวาคม 2559  NAV = 24.0897   ถ้าผมนำเงินปันผลมาซื้อ ผมจะได้จำนวนหน่วยรวมเท่ากับ   (3,450.1016/24.0897 = 143.2190)+ 4,509.9367  = 4,653.1557 หน่วย    
- มกราคม 2560  ครบ 5 ปีปฏิทินพอดี   สมมุติว่า NAV ณ ตอนนี้อยู่ประมาณนี้คือ 24.0897   เราจะคำนวนมูลค่าได้เป็น    4,653.1557 x 24.0897 = 112,093.1249  
*  ในการนำเงินปันผลกลับมาซื้อต่อ  เราก็จะได้ส่วนที่นำไปลดภาษีได้อีก  ผมคำนวนคร่าวๆฐานภาษี 10% ได้ดังนี้ (289.7021+237.6969+345.0102)=872.4092 บาท
  จะได้ผลตอบแทนรวม 112,093.1249+872.4092 = 112,965.5341
คิดเป็น  (112,965.5341-100,000)/100,000  = 12.9655341 %  

กองทุน LTF แบบไม่ปันผล  
เพื่อให้ไม่มีความต่างด้านการบริหารของแต่ละกองมาเกี่ยวข้อง   ผมจึงใช้กองทุนเดิมนี่แหละ แต่ทุกครั้งที่ปันผล ผมจะเอาเงินปันผลมาบวกเป็น NAV สะสมต่อไป  โดยมีวิธีทำดังนี้
- ธันวาคม 2556  NAV = 23.2998    ผมจะได้จำนวนหน่วยเท่ากับ  4,291.8823   หน่วย  
- ปันผล 2557   0.75/หน่วย  
- ปันผล 2558   0.60/หน่วย  
- ปันผล 2559   0.85/หน่วย  
- ธันวาคม 2559  NAV = 24.0897  
- มกราคม 2560  ครบ 5 ปีปฏิทินพอดี   สมมุติว่า NAV ณ ตอนนี้อยู่ประมาณนี้คือ 24.0897  
    ถ้าผมนำเงินปันผลทั้ง 3 ครั้งมาบวกเข้ากับ NAV ผมจะ NAV คิดแบบกองไม่ปันผลคือ 24.0897+0.75+0.60+0.85=26.2897  บาท
เราจะคำนวนมูลค่าได้เป็น   จำนวนหน่วยเท่าเดิมตั้งแต่ซื้อคือ 4,291.8823 x 26.2897  = 112,832.2981
คิดเป็น  (112,832.2981-100,000)/100,000  = 12.8322981%  
  
   จากผลตอบแทนที่คำนวณนี้พบว่า  แบบปันผลได้ผลตอบแทนที่มากกว่านิดหน่อย  แต่มีวิธีคิดและกระบวนการถือค่อยข้างยุ่งยากเพราะต้องนำเงินปันผลมาซื้อใหม่ทุกครั้ง และสิ่งที่คิดออกมาได้ยังไม่สิ้นสุดซะทีเดียว แต่เป็นแค่มูลค่า ณ ขณะนั้น  เพราะเงินที่ซื้อ LTF ในปีต่อๆมาจะมาขายในปี 2560 เลยไม่ได้  ต้องเป็นไปตามกำหนดช่วงระยะเวลาของมัน   ส่วนแบบไม่ปันผลซื้อครั้งเดียวแล้วลืมมันไปได้เลย ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม ถึงเวลาก็ค่อยมาขาย  
    สรุปว่าทั้งแบบปันผลและไม่ปันผล มีโอกาสได้ผลตอบแทนมากหรือน้อยกว่ากันได้ทั้งนั้น  ขึ้นอยู่กับว่าระหว่างทางคือช่วงเวลาที่กองทุนแบบปันผล  นำเงินปันผลมาซื้อนั้น ราคา NAV ณ ขณะนั้นถูกหรือแพง  ถ้ายิ่งถูกก็จะยิ่งได้หน่วยที่เพิ่มขึ้นมาก หรือถ้ายิ่งแพงก็จะยิ่งได้หน่วยที่เพิ่มขึ้นน้อยด้วยเช่นกันซึ่งอาจจะคำนวณรวมทุกอย่างแล้วแพ้กองแบบไม่ปันผลก็เป็นไปได้เช่นกัน  
    ดังนั้นใครจะฟันธงว่าแบบไม่ปันผลสิ ได้ผลตอบแทนดีกว่าเพราะไม่ต้องเสียภาษีจากเงินปันผล ผมว่าไม่ใช่ซะทีเดียว การลงทุนมีความเสี่ยงจะเลือกแบบไหนก็เสี่ยงทั้งนั้น  โปรดศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน ด้วยความปรารถนาดี
    ปล. สำหรับผม  กำไรของ LTF ปีนี้คือผมได้คนพบหัวใจอีกครึ่งดวงแล้ว...ฝันกันต่อไป  
ท่านใดเห็นต่างหรือมีข้อแนะนำ  หากผมคำนวณผิดตรงส่วนไหน ผมยินดีรับฟังและแก้ไข
แวะทักทายผมได้ที่เพท https://www.facebook.com/WeIInvestor/  ทำด้วยใจไม่มีโฆษณาคั่น
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่