[CR] ขับรถเที่ยวฮอกไกโด หน้าหนาว พาป๊าเที่ยว

รีวิวนี้ขอเน้นเรื่องเส้นทาง และการขับรถในช่วงฤดูหนาวเป็นหลัก เผื่อคนที่สนใจอยากขับรถ ในช่วงหน้าหนาว แต่ยังลังเล จะได้ตัดสินใจได้มากขึ้น เราได้เดินทางในช่วง วันที่ 3-11 ธค 16 ซึ่งหิมะอาจจะยังไม่หนาแน่นมาก เท่าช่วง มค-กพ


จุดเริ่มต้น ของการพาป๊าเที่ยวมาจาก ไต้หวันประกาศฟรีวีซ่า (แล้วมาฮอกไกโดได้ไง!!!) เมื่อเราวางแผนการเดินทางเที่ยวที่ไต้หวัน เสร็จเรียบร้อย เตรียมจองตั๋วบิน และโรงแรม พี่สาวตัวดีบอก ไปฮอกไกโดกันเถอะ (อ้าว!!!เฮ้ยไม่เหมือนที่คุยกันไว้) เราเลยต้องให้ป๊าตัดสินใจ และป๊าก็ตัดสินใจว่า ไปฮอกไกโดกันเหอะ!!!!

จากการศึกษาข้อมูลการเดินทาง ในฮอกไกโดนั้น ที่เที่ยวน่าสนใจเยอะมากๆ แต่เดินทางค่อนข้างลำบาก เราจึงเกิดความคิด เช่ารถขับน่าจะดีกว่า และป๊าจะไม่เหนื่อยมากด้วย แต่เราไปในช่วงหน้าหนาว หิมะ ถนนลื่น เราจึงจำต้องหาคนที่ขับรถแข็งแรงๆ และได้แฟนเรามาช่วยขับให้นั่นเอง ทริปนี้เดินทาง รวม 4 คน และเราไม่ลืมซื้อประกันภัยรถ และประกันการเดินทาง ขั้นสูงสุด 555

เราเดินทางโดย china airline (สายการบินของไต้หวัน แวะพักที่ไต้หวัน 1คืน) อาหารบนเครื่อง อร่อยมาก

**เสริมนิดนึง ตอนเราเช็คอินที่ไทย หลังจากพนักงานปริ้นบอร์ดดิ้งพาสมาให้ 2ใบ (จากไทยไปไต้หวัน และไต้หวันไปซัปโปโร) เราก็ถามพนักงานเช็คอิน เพื่อยืนยันว่าสามารถออก ไปพักที่ไต้หวันได้ใช่มั้ย พนักงานบอกว่า ได้ แต่ต้องเสียค่าภาษีสนามบินนะ คนละไม่เกิน500บาท จะมีพนักงานมาเก็บเงินที่เกท เราก็เครียด เพราะถ้าเสียภาษีสนามบินเพิ่ม จากตั๋วถูกจะกลายเป็นตั๋วแพงทันที!! แต่ทางเลือกมีน้อย ป๊ามาด้วย เราจะนอนสนามบินคงไม่ได้ ที่พักก็จองไว้แล้ว เราจึงออกไปพักตามปกติ (กระเป๋าเดินทางเรา จะไปที่เจอกันที่ซัปโปโรเลย) เช้ามา เข้าเกท ตามปกติ ใจก็ตุ่มๆต่อมๆ รอคนมาเก็บภาษีสนามบิน แต่จนแล้วจนรอด จนขึ้นเครื่องก็ไม่เสีย ขากลับก็เช่นกัน เพราะฉะนั้น เราไม่เสียค่าภาษีสนามบินนะ ส่วนสายการบินอื่นๆ เราไม่ทราบเช่นกัน ว่าเหมือนกันมั้ย

วิวของเกาะฮอกไกโด จากบนเครื่องบิน ฮอกไกโดเป็นเมืองสีขาววว~


เราเดินทางถึงซัปโปโร ในวันแรก เราเที่ยวในซัปโปโรก่อน เพื่อเตรียมตัวซื้ออุปกรณ์กันหนาวที่ไม่ได้เตรียมมาจากไทย

วันต่อมา เราขึ้นแท็กซี่ไปรับรถ ที่ toyota rent a car สาขา sapporo (ที่ sapporo มี 3 สาขา ใกล้กัน ต้องหาแผนที่เตรียมไว้ให้ดีๆ) เมื่อเราไปถึงก็เตรียมใบขับขี่สากล พลาสปอต บัตรเครดิต (ถ้าจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตVisa ได้ส่วนลด 10%) เราได้จองบัตร expressway 5วัน ในราคา 6,700 เยน (ได้อ่านจาก เพื่อนในพันทิปว่า รวมๆแล้ว ถูกกว่า บัตร etc card ที่จ่ายตามจริง)

**expressway และ etc เป็นบัตรที่ใช้สำหรับขึ้นทางด่วน ซึ่งทางด่วนในญี่ปุ่น ราคาค่อนข้างแพง ถ้าเดินทางค่อนข้างเยอะ แบบซัปโปโร ไปฮาโกดาเตะ เราว่าคุ้ม แต่ถ้าเดินทางใกล้ๆ etc น่าจะดีกว่า รวมราคาทั้งหมด เช่ารถ และบัตร 5 วัน 16,742 บาท  

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ก็จะอธิบาย กฎระเบียบการขับรถ การจอดในที่ห้ามจอด จะโดนค่าปรับ 25,000เยน ให้จอดในที่ สำหรับจอดรถเท่านั้น ส่วนน้ำมัน ตอนเช่าเต็มถัง ตอนคืนก็ต้องเต็มถัง มีmapcode บอกให้เรียบร้อยว่า ปั้มที่ไหนใกล้ออฟฟิต ก็ให้เติมน้ำมันที่ปั้มนั้น ให้เรียบร้อย ก่อนคืนรถ จะมีเอกสาร Map code สถานที่เที่ยวยอดฮิตต่างๆ โรงแรม ปั้มน้ำมัน รวมถึงที่คืนรถ (ก่อนมาเราก็หา GPS เป็นอย่างดี แต่สรุปใช้ไม่ได้ เจ้าหน้าที่บอก ให้ใช้เบอร์โทรศัพท์ และ mapcode เท่านั้น)
ภาพGPS ในรถ


มีส่วนลด สถาที่ท่องเที่ยวต่างๆ ร้านอาหาร รวมถึงโรงแรมด้วย


ข้อควรระวัง


Map code





หลังจากเราเช็ครอยรอบคัน ตรวจดูน้ำมันเต็มถังพนักงานสอนเราใช้GPSเรียบร้อย (รถสะอาดมากๆ แตกต่างกับตอนเช่ารถขับที่ตุรกีมาก ได้รถค่อนข้างสกปรก และกระจกหน้าร้าวมา) เราก็ออกเดินทาง

สถานที่แรกที่เราจะไป cape shakotan mapcode 932 746 190


เราไปทางexpressway และขับเลียบชายทะเลผ่านเมืองไป ถนนระหว่างทาง ไม่มีอะไรน่ากังวล เพราะวันนี้หิมะไม่ตก มีกองหิมะบ้าง นิดหน่อย



สถานที่นี้ เหมือนจะปิดในช่วงฤดูหนาว(หาข้อมูลเปิด-ปิด แน่ชัด ไม่เจอค่ะ) เราไปก็ปิด ศูนย์บริการปิด ห้องน้ำก็ปิด มีประตูม้วน ปิดทางเข้าห้องน้ำ แต่ที่เที่ยวชม สามารถเข้าไปได้ปกติ


จากนั้นเราก็ เดินทางต่อไปยัง cape kamui


ระหว่างทางเป็นถนน เลียบทะเล มีอุโมงค์เป็นช่วงๆ ตามทางจะมี เวิ้งเล็กๆสำหรับจอดรถ ชมวิวด้วย
เมื่อถึง เหมือนที่ shakotan cape ทุกอย่างปิดหมด ทางเดินบน cape ก็ปิด แต่ในช่วงหน้าท่องเที่ยว ถ้ามีฝน หรือลมแรงมาก ทางเดินบนcape ก็ปิดเช่นกัน เราได้ชมวิว ถ่ายรูปบริเวณรอบๆ ก็สวยมากแล้ว


ทางเดินบน cape


วิวอีกฝั่ง



เมื่อเราเที่ยวเป็นที่พอใจแล้ว เราก็เดินทางกลับโอตารุ โดยเราตั้งพิกัด ไปที่เบอร์โทรศัพท์ของโรงแรมเลย