เมื่อ "Dragon ball" สอน CPR: ความรู้เรื่องหัวใจจากดราก้อนบอล (สาระรัวๆ)
(รูป 1 : โกคูโดนอัดพลังเข้าที่อก และสิ้นใจ)
จาก Dragon ball super (DBS) ตอนที่ 71-72 เราจะพบนักฆ่าฮิตโตะตามฆ่าโกคู โดยท่าที่ใช้เผด็จศึกนั้น เป็นเพียงการต่อยเข้าที่หน้าอกของโกคูตรงๆ จากนั้นโกคูสั่นอยู่ชั่วครู่ แล้วล้มลงนอนแน่นิ่งและ "ตายไป"
(รูป 2 : โกคูนอนแน่นิ่ง)
สิ่งนี้คืออะไร?
หลายคนอาจงงหรือคิดไปว่า พลังของฮิตโตะหมัดเดียวช่างรุนแรงและทำเอาไซย่าบลูตายคาที่ แต่ที่จริงพลังของฮิตโตะซึ่งหยุดเวลาได้นั้น อาจไม่ได้เน้นความรุนแรง แต่เน้นความซับซ้อนและละเอียดละออกว่าที่เราคิด เรามาดูกันก่อนว่า สิ่งที่โกคูเจอนั้นคืออะไร
มันคือ
"Commotio Cordis"
อันนี้อย่าเพิ่งช็อค มันเป็นชื่อภาวะหนึ่ง ที่เกิดเมื่อมีการกระแทกเข้าที่หน้าอกบริเวณหัวใจอย่างรวดเร็วรุนแรง และที่สำคัญ "ถูกช่วงเวลา" ด้านล่างคือรูปคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
(รูป 3 : คลื่นไฟฟ้าหัวใจอย่างปกติ)
คืออ่านไม่ออกไม่ต้องตกใจ ประมาณว่าคลื่นหัวใจหน้าตาแบบนี้แหละ ทีนี้ถ้าเกิดมีอะไรมารบกวนมัน เช่น มีอะไรมากระแทกหัวใจ ทำให้เกิดคลื่นไฟฟ้าเล็กๆ ในจังหวะที่เหมาะสม อย่างในภาวะนี้คือโดนที่ T wave พอดี มันจะทำให้ไฟฟ้าในหัวใจดับไป แล้วหัวใจห้องล่างจะเกิดลัดวงจรขึ้น เกิดเป็นคลื่นหัวใจแบบนี้
(รูป 4 : คลื่นหัวใจแบบผิดปกติ ventricular fibrillation)
เป็นอะไรที่หยึกหยักมาก แทบไม่มีเลือดออกจากหัวใจได้ คนไข้ก็จะแน่นิ่ง และตายไปในทันที เช่นเดียวกับโกคูในตอนนี้
สิ่งที่เราทำให้โกคูได้คืออะไรบ้าง?
พิคโคโล่ทำถูกต้องแล้วค่ะ เป็นอะไรที่ปลาบปลื้มมาก ทันทีที่พบว่าผู้ป่วยไม่มีชีพจร หรือเรียกไม่รู้สึกตัว(ในกรณีที่คนธรรมดาอย่างเราไม่รู้คลำชีพจรยังไง) เราต้องปั๊มหัวใจ! ซึ่งการปั๊มที่ถูกวิธีนั้น ต้องทำแบบที่พิคโคโล่ทำ คือให้ผู้ป่วยนอนบนพื้นแข็ง อย่างโกคูก็นอนบนดินอยู่แระ จากนั้นทรุดนั่งข้างตัวผู้ป่วย ประสานมือไว้กลางอก ระหว่างหัวนมบนกระดูกหน้าอก(ลองคลำของตัวเองดูนะ) แล้วกดลงตรงๆ แขนตึงหลังตรงแบบพิคโคโล่นี่ โอเคมากๆ
(รูป 5 : พิคโคโล่กำลังแสดงวิธีปั๊มหัวใจอย่างเกือบถูกต้อง)
อย่างไรก็ตาม พิคโคโล่ไม่ได้ประสานมือทับกัน แต่ใช้วิธีวางมือคู่กันแทน ซึ่งอาจจะแปลกไปหน่อย กับปั๊มช้าไปนิด จับจังหวะได้ประมาณ 70 ที/นาทีเอง ถ้าจะให้ดีต้องประมาณ 100-120 ที/นาที สองข้อนี้คุณพิคโคโล่ต้องปรับปรุงแต่ความลึกตอนกด กับตอนปล่อยต้องปล่อยให้อกฟูกลับมาจนสุดนั้นทำได้ดีมาก
แต่commotio cordisจะรักษาด้วยการกดหน้าอกอย่างเดียวมิได้ ข้อนี้โกคูรู้ดี เลยปล่อยพลังเผื่อเอาไว้
(รูป 6 : defibrillation by Ki power)
นั่นคือ เราจะต้องช็อคหัวใจด้วยพลังงานไฟฟ้า อย่างพลังที่ปล่อยสู้ๆกันก็เป็นพลังงานอย่างหนึ่ง อันนี้แสดงว่าโกคูน่าจะผ่านคอรส์อบรมการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นสูงมาแล้ว นับว่าไม่ธรรมดาที่รู้เรื่องนี้ และเลยได้ปล่อยพลังงานไว้ในระดับที่เหมาะสม และมาช็อคตัวเองจนฟื้นคืนชีพได้
ในกรณีคนธรรมดาอย่างเราก็ปล่อยพลังงานได้ เพียงมีเครื่องมือช่วย
(รูป 7 : AED เครื่องมือปล่อยพลังแบบคนทั่วไปใช้ได้)
ให้นำเครื่องมือนี้มาแปะๆอกตามคู่มือ แล้วเปิดเครื่อง มันจะจับจังหวะให้ว่าเป็นแบบช็อคไฟฟ้าได้ไหม แล้วจัดการให้เรา บ้านเรายังไม่ค่อยมีเครื่องนี้ติดอยู่ในที่สาธารณะ แต่ที่ต่างประเทศมีเยอะมากๆ
ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่าคนที่หัวใจหยุดเต้นทุกคนจะช็อคได้นะ บางคนก็ห้ามช็อคก็มี
ก็จบคอร์สการสอนปั๊มหัวใจโดยซุนและพิคเท่านี้ แต่เราจะยังมาวิเคราะห์กันต่อไปก่อน
-----
(แถม)
มีคำถามจากทางบ้าน(ไหนไม่รู้)ว่า ทำไมโกคูเกิดเหตุเป็น Vf (ชื่อเรียกคลื่นหัวใจ) ง่ายจัง อันนี้เราต้องไปดูโรคประจำตัวของโกคูกันก่อน
ตั้งแต่ภาคเซลล์ เรารู้ว่าโกคูเป็นโรคหัวใจจากเชื้อไวรัส หรือก็คือ viral myocarditis ซึ่งทรังคส์ (กรี๊ดดด) เอายามาให้ แต่ดันไม่ยอมกินยา ปล่อยไว้กระทั่งออกอาการ ไปหอบเหนื่อยตอนสู้ พอร่างไซย่าหมดพลัง หัวใจสู้ไม่ไหว ก็ตกจากฟ้าลงมานอนหอบเหนื่อย ต้องนอนตะแคงให้หัวสูงหน่อยอาการถึงดีขึ้น

(รูป 8 : โกคู with heart failure)
จากจุดนี้ชัดเจนมากว่า หัวใจจากเชื้อไวรัสของโกคู มีภาวะหัวใจล้มเหลวร่วมด้วย แสดงว่าโกคูคงเป็นอยู่พอสมควรก่อนจะได้กินยา (ข้อเสียของการขาดยา) ถึงแม้ในเวลาต่อมา โกคูจะหาย แต่หัวใจโกคูคงมีรอยแผลเป็นเหลือทิ้งไว้
มาดูแบล็คกันบ้าง แบล็คชอบกินชามาก และแบล็กพอสู้ไปนานๆ จะพบว่ามีเจ็บอก หรือมีตอนนึง(จำตอนไม่ได้นานเกิน) เกิดอยู่ๆพลังดับไป เหมือนเร่งได้ไม่นาน ข้อนี้ตั้งข้อสังเกตปนมโนว่า อาจจะกินชาเยอะเกิน มันมีคาเฟอีน พอหัวใจโดนกระตุ้นมากๆ หัวใจซึ่งมีโรคเดิมอยู่แล้วของโกคู อาจจะเกิดเต้นผิดจังหวะในรูปแบบต่างๆ ร่วมกับ LVEF(ความสามารถในการบีบตัวของห้องล่างซ้าย) เดิมคงไม่ค่อยดี เลยทำให้หอบเหนื่อยพลังร่วงได้ เรียกว่ามีหัวใจวายอ่อนๆจากที่หัวใจเดิมไม่ดี ร่วมกับกินชามากเกิน
-----
ก็ถือได้ว่า คนแต่งเรื่อง คนเขียนบท ทำการบ้านมาดีมากถึงมากที่สุดเลยค่ะ อย่างไรก็ตาม ได้ข่าวว่าที่ญี่ปุ่น ประชากร 50% เคยอบรมการปั๊มหัวใจมาก่อน และเค้ายังรู้สึกอับอายที่ยังไม่สามารถทำให้ประชากรทั้งหมดเข้าใจเรื่องปั๊มหัวใจได้ ก็หวังว่าดราก้อนบอล จะทำให้คนบ้านเรา หันมาสนใจอบรมอะไรแนวนี้มากขึ้น
ขอบคุณมากค่ะ ที่รับฟังการมโนของเรา
หวังว่าทุกคนจะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์
-----
ป.ล. ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด สามารถด่าได้แต่อย่าแรงค่ะ 5555
เมื่อ "Dragon ball" สอน CPR: ความรู้เรื่องหัวใจจากดราก้อนบอล (สาระรัวๆ) (spoil DBS ep.72)
จาก Dragon ball super (DBS) ตอนที่ 71-72 เราจะพบนักฆ่าฮิตโตะตามฆ่าโกคู โดยท่าที่ใช้เผด็จศึกนั้น เป็นเพียงการต่อยเข้าที่หน้าอกของโกคูตรงๆ จากนั้นโกคูสั่นอยู่ชั่วครู่ แล้วล้มลงนอนแน่นิ่งและ "ตายไป"
สิ่งนี้คืออะไร?
หลายคนอาจงงหรือคิดไปว่า พลังของฮิตโตะหมัดเดียวช่างรุนแรงและทำเอาไซย่าบลูตายคาที่ แต่ที่จริงพลังของฮิตโตะซึ่งหยุดเวลาได้นั้น อาจไม่ได้เน้นความรุนแรง แต่เน้นความซับซ้อนและละเอียดละออกว่าที่เราคิด เรามาดูกันก่อนว่า สิ่งที่โกคูเจอนั้นคืออะไร
มันคือ "Commotio Cordis"
อันนี้อย่าเพิ่งช็อค มันเป็นชื่อภาวะหนึ่ง ที่เกิดเมื่อมีการกระแทกเข้าที่หน้าอกบริเวณหัวใจอย่างรวดเร็วรุนแรง และที่สำคัญ "ถูกช่วงเวลา" ด้านล่างคือรูปคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
คืออ่านไม่ออกไม่ต้องตกใจ ประมาณว่าคลื่นหัวใจหน้าตาแบบนี้แหละ ทีนี้ถ้าเกิดมีอะไรมารบกวนมัน เช่น มีอะไรมากระแทกหัวใจ ทำให้เกิดคลื่นไฟฟ้าเล็กๆ ในจังหวะที่เหมาะสม อย่างในภาวะนี้คือโดนที่ T wave พอดี มันจะทำให้ไฟฟ้าในหัวใจดับไป แล้วหัวใจห้องล่างจะเกิดลัดวงจรขึ้น เกิดเป็นคลื่นหัวใจแบบนี้
เป็นอะไรที่หยึกหยักมาก แทบไม่มีเลือดออกจากหัวใจได้ คนไข้ก็จะแน่นิ่ง และตายไปในทันที เช่นเดียวกับโกคูในตอนนี้
สิ่งที่เราทำให้โกคูได้คืออะไรบ้าง?
พิคโคโล่ทำถูกต้องแล้วค่ะ เป็นอะไรที่ปลาบปลื้มมาก ทันทีที่พบว่าผู้ป่วยไม่มีชีพจร หรือเรียกไม่รู้สึกตัว(ในกรณีที่คนธรรมดาอย่างเราไม่รู้คลำชีพจรยังไง) เราต้องปั๊มหัวใจ! ซึ่งการปั๊มที่ถูกวิธีนั้น ต้องทำแบบที่พิคโคโล่ทำ คือให้ผู้ป่วยนอนบนพื้นแข็ง อย่างโกคูก็นอนบนดินอยู่แระ จากนั้นทรุดนั่งข้างตัวผู้ป่วย ประสานมือไว้กลางอก ระหว่างหัวนมบนกระดูกหน้าอก(ลองคลำของตัวเองดูนะ) แล้วกดลงตรงๆ แขนตึงหลังตรงแบบพิคโคโล่นี่ โอเคมากๆ
อย่างไรก็ตาม พิคโคโล่ไม่ได้ประสานมือทับกัน แต่ใช้วิธีวางมือคู่กันแทน ซึ่งอาจจะแปลกไปหน่อย กับปั๊มช้าไปนิด จับจังหวะได้ประมาณ 70 ที/นาทีเอง ถ้าจะให้ดีต้องประมาณ 100-120 ที/นาที สองข้อนี้คุณพิคโคโล่ต้องปรับปรุงแต่ความลึกตอนกด กับตอนปล่อยต้องปล่อยให้อกฟูกลับมาจนสุดนั้นทำได้ดีมาก
แต่commotio cordisจะรักษาด้วยการกดหน้าอกอย่างเดียวมิได้ ข้อนี้โกคูรู้ดี เลยปล่อยพลังเผื่อเอาไว้
นั่นคือ เราจะต้องช็อคหัวใจด้วยพลังงานไฟฟ้า อย่างพลังที่ปล่อยสู้ๆกันก็เป็นพลังงานอย่างหนึ่ง อันนี้แสดงว่าโกคูน่าจะผ่านคอรส์อบรมการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นสูงมาแล้ว นับว่าไม่ธรรมดาที่รู้เรื่องนี้ และเลยได้ปล่อยพลังงานไว้ในระดับที่เหมาะสม และมาช็อคตัวเองจนฟื้นคืนชีพได้
ในกรณีคนธรรมดาอย่างเราก็ปล่อยพลังงานได้ เพียงมีเครื่องมือช่วย
ให้นำเครื่องมือนี้มาแปะๆอกตามคู่มือ แล้วเปิดเครื่อง มันจะจับจังหวะให้ว่าเป็นแบบช็อคไฟฟ้าได้ไหม แล้วจัดการให้เรา บ้านเรายังไม่ค่อยมีเครื่องนี้ติดอยู่ในที่สาธารณะ แต่ที่ต่างประเทศมีเยอะมากๆ
ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่าคนที่หัวใจหยุดเต้นทุกคนจะช็อคได้นะ บางคนก็ห้ามช็อคก็มี
ก็จบคอร์สการสอนปั๊มหัวใจโดยซุนและพิคเท่านี้ แต่เราจะยังมาวิเคราะห์กันต่อไปก่อน
-----
(แถม)
มีคำถามจากทางบ้าน(ไหนไม่รู้)ว่า ทำไมโกคูเกิดเหตุเป็น Vf (ชื่อเรียกคลื่นหัวใจ) ง่ายจัง อันนี้เราต้องไปดูโรคประจำตัวของโกคูกันก่อน
ตั้งแต่ภาคเซลล์ เรารู้ว่าโกคูเป็นโรคหัวใจจากเชื้อไวรัส หรือก็คือ viral myocarditis ซึ่งทรังคส์ (กรี๊ดดด) เอายามาให้ แต่ดันไม่ยอมกินยา ปล่อยไว้กระทั่งออกอาการ ไปหอบเหนื่อยตอนสู้ พอร่างไซย่าหมดพลัง หัวใจสู้ไม่ไหว ก็ตกจากฟ้าลงมานอนหอบเหนื่อย ต้องนอนตะแคงให้หัวสูงหน่อยอาการถึงดีขึ้น
(รูป 8 : โกคู with heart failure)
จากจุดนี้ชัดเจนมากว่า หัวใจจากเชื้อไวรัสของโกคู มีภาวะหัวใจล้มเหลวร่วมด้วย แสดงว่าโกคูคงเป็นอยู่พอสมควรก่อนจะได้กินยา (ข้อเสียของการขาดยา) ถึงแม้ในเวลาต่อมา โกคูจะหาย แต่หัวใจโกคูคงมีรอยแผลเป็นเหลือทิ้งไว้
มาดูแบล็คกันบ้าง แบล็คชอบกินชามาก และแบล็กพอสู้ไปนานๆ จะพบว่ามีเจ็บอก หรือมีตอนนึง(จำตอนไม่ได้นานเกิน) เกิดอยู่ๆพลังดับไป เหมือนเร่งได้ไม่นาน ข้อนี้ตั้งข้อสังเกตปนมโนว่า อาจจะกินชาเยอะเกิน มันมีคาเฟอีน พอหัวใจโดนกระตุ้นมากๆ หัวใจซึ่งมีโรคเดิมอยู่แล้วของโกคู อาจจะเกิดเต้นผิดจังหวะในรูปแบบต่างๆ ร่วมกับ LVEF(ความสามารถในการบีบตัวของห้องล่างซ้าย) เดิมคงไม่ค่อยดี เลยทำให้หอบเหนื่อยพลังร่วงได้ เรียกว่ามีหัวใจวายอ่อนๆจากที่หัวใจเดิมไม่ดี ร่วมกับกินชามากเกิน
-----
ก็ถือได้ว่า คนแต่งเรื่อง คนเขียนบท ทำการบ้านมาดีมากถึงมากที่สุดเลยค่ะ อย่างไรก็ตาม ได้ข่าวว่าที่ญี่ปุ่น ประชากร 50% เคยอบรมการปั๊มหัวใจมาก่อน และเค้ายังรู้สึกอับอายที่ยังไม่สามารถทำให้ประชากรทั้งหมดเข้าใจเรื่องปั๊มหัวใจได้ ก็หวังว่าดราก้อนบอล จะทำให้คนบ้านเรา หันมาสนใจอบรมอะไรแนวนี้มากขึ้น
ขอบคุณมากค่ะ ที่รับฟังการมโนของเรา
หวังว่าทุกคนจะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์
-----
ป.ล. ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด สามารถด่าได้แต่อย่าแรงค่ะ 5555