เส้นทางรักของหนุ่มสาวที่คล้ายดังฉากนิยายชีวิต...ก่อนจะถูกอาถรรพ์ของไพ่มรณะกำหนดให้บิดเบี้ยวไปนั้นเป็นอย่างไร
นี่คือชะตากรรมแห่งรักของเหล่าผู้ตกเป็นเหยื่อของ...ริษยาซ่อนร่าง
the beginning of love...ริษยาซ่อนร่างตอนพิเศษ
โดย...ล. วิลิศมาหรา
หลังคลายความเศร้าโศกจากการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักลงบ้างแล้ว ผู้คนที่เคยเกี่ยวข้องกับกวินตาต่างก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไปตามแรงกรรมของแต่ละคน แสงสินีและเอกกวีหมั้นหมายกันท่ามกลางความยินดีของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย รวมทั้งคุณป้าทิพย์วิภาของหลาน ๆ ด้วย
เด็กทั้งสองเข้ามาร่ำเรียนอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศด้วยกัน พักอยู่หอพักใกล้กัน ชีวิตต่อจากนี้ของสองหนุ่มสาวดูเหมือนจะมีแต่เรื่องที่น่ายินดี ยามว่างจากการร่ำเรียนคู่รักมักชวนกันไปดูหนังฟังเพลง แสงสินีอ่อนหวานขึ้นผิดหูผิดตา รู้จักเอาอกเอาใจและไม่ค่อยหวงตัวเหมือนก่อนหมั้นกัน ซึ่งก็คงเป็นเพราะเธอรักเขานั่นเอง จึงทำให้เธอยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองจากสาวห้าวมาเป็นผู้หญิงเรียบร้อยน่ารักขึ้นมาบ้างอย่างนี้ ถึงไม่ทั้งหมดแต่มันก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกชอบอกชอบใจมาก เพราะถึงแม้เขาจะชอบที่แฟนสาวเป็นคนห้าว ๆ แต่บางแง่มุมของคนรักกันเขาก็อยากหวานซึ้งกับเธอ ยิ่งได้โอบกอดสัมผัสแสดงความรักที่มีต่อกันโดยไม่ให้เกินเลยมากไปกว่านั้น มันก็ยิ่งทำให้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าช่วงชีวิตตอนนี้ของเอกกวีมีความสุขอย่างที่สุด เส้นทางวิวาห์สำหรับคนทั้งสองคงอยู่อีกไม่ไกลแล้ว
ข้างฝ่ายบุรินทร์นั้นก็ไม่ละความพยายาม หนุ่มหน้าใสเฝ้าตามติดพาฝันทั้งที่เขาเองต้องเรียนหนักมาก แทบไม่เหลือเวลาให้ไปทำอย่างอื่นเลยนอกเหนือจากอ่านตำรับตำราวิชาแพทย์ โชคดีที่เขากับพาฝันมีที่เรียนใกล้กัน ซึ่งบางครั้งยังต้องข้องเกี่ยวกันบางวิชาระหว่างคณะแพทย์และคณะพยาบาล แถมยังต้องฝึกงานในสถานที่เดียวกันอีกด้วย และนับตั้งแต่ปวุฒิหายไปจากชีวิตอย่างไร้ร่องรอย พาฝันก็ดูเหมือนจะมีบุรินทร์ที่คอยเป็นห่วงเป็นใย เป็นที่พึ่งทางใจให้เธอแทน และเพราะความดีเสมอต้นเสมอปลายอย่างอดทนของเขา จึงทำให้แม้สาวสายตาสั้นจะไม่เคยลืมคนรักเก่าผมเกรียน แต่สุดท้ายเธอก็พ่ายน้ำใจของบุรินทร์ หนุ่มสาวทั้งคู่จึงกลายมาเป็นคู่รักกันอีกคู่จนได้
ทีนี้ก็เหลือแต่เพียงแม่สาวร่างอวบที่แยกมาเรียนด้านบริหารธุรกิจในมหาวิทยาลัยเอกชนชั้นนำ ลักขณาผู้ซึ่งอกหักมาจากบุรินทร์แต่เธอกลับยึดเอาเรื่องนี้มาเป็นแรงฮึด เธอลงทุนปรับปรุงบุคลิกภาพของตัวเองครั้งใหญ่จนกลายเป็นคนรูปร่างดีและสวยขึ้นกว่าเดิมมาก สาวเคยอวบหมายมั่นจะได้พบกับชายในอุดมคติแบบบุรินทร์เข้าสักวัน ซึ่งเธอคิดว่าผู้ชายแบบนั้นต้องมีหลงเหลืออยู่บนโลกใบนี้อีก เพียงแต่เธอยังหาเขาไม่พบเท่านั้นเอง
ลักขณาไม่นึกชอบผู้ชายที่เข้ามาติดพันคนไหนเป็นพิเศษเลยสักคนเดียว ทุกคนดูเหมือน ๆ กันไปหมด ถ้าไม่เจ้าสำราญหลุกหลิกดูเจ้าชู้ก็ออกแนวก้าวร้าวนักเลงโต ที่เหลือก็สำอางมือไม้อ่อนจนไม่มั่นใจว่าจะเป็นผู้ชายเต็มร้อย แต่แล้วอาจเป็นเพราะบุพเพสันนิวาสหรืออาจเป็นเวรกรรมเสียก็ไม่รู้ เพราะถึงเธอจะไม่ชอบผู้ชายลักษณะอย่างที่ว่ามา และถึงแม้จะดึงดันขัดใจบิดาและพยายามปฏิเสธความใกล้ชิดกับพิภพ แต่ในที่สุดเธอก็หนีจากชายหนุ่มหนึ่งในลักษณะที่ตนเองไม่ชอบไปไม่พ้น เมื่อในวันหนึ่งได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ความคิดของเธอต่อเขาเปลี่ยนไป
หญิงสาวอย่างเธอไม่ชอบผู้ชายหน้าหวานแบบพิภพ เพราะมันชวนให้คิดว่าเขาไม่เป็นลูกผู้ชายเต็มร้อย ไม่ชอบรูปร่างผอมสูงที่เหมือนกับไร้เรี่ยวแรง ผอมกะหร่องออกอย่างนี้จะปกป้องผู้หญิงได้ยังไง ไม่ชอบเสียงพูดค่อย ๆ ของเขา ไม่ชอบดูหนังฟังเพลงแบบเดียวกับเขา สรุปแล้วคือเธอไม่ชอบอะไรในตัวเขาเลยสักอย่าง แต่ดูเหมือนเขาจะตรงกันข้าม บ้าจริง...ผู้หญิงมีตั้งมากมายไม่ยักไปสนใจ ตามเทียวไล้เทียวขื่อกับเธออยู่ได้ น่ารำคาญจริง ๆ
อย่างเช่นวันนี้พิภพมาหาที่บ้าน พ่อของเธอเองก็เป็นใจน่าดูจึงเปิดโอกาสให้เขาเข้ามาหาลูกสาวตัวเองถึงในสวนหลังบ้าน ซึ่งขณะนั้นเธอกำลังนั่งเล่นอยู่กับเจ้าตัวเล็กแมวตัวโปรดอย่างเพลิดเพลิน นี่พ่อคงเป็นคนบอกเขาเสียเองว่าตอนนี้เธอกำลังว่างอยู่พอดีและไม่มีอะไรให้ทำทั้งวันเป็นแน่ ก็เห็นอยากได้เขาเป็นลูกเขยเสียขนาดนั้น และพอเข้ามาถึงชายหนุ่มก็ถือวิสาสะนั่งลงที่เก้าอี้ข้าง ๆ สวัสดีทักทายกันแล้วก็เอ่ยชวนเธอขึ้นมาดุ่ย ๆ
"พี่มีตั๋วหนังสองใบ คุณลุงบอกว่าอุ้มอยากดูหนังเรื่องนี้ พี่เลยไปหาซื้อเอาไว้ครับ วันนี้ได้ยินว่าอุ้มว่างก็เลยมาชวน"
หันขวับไปมองหาคุณพ่อตัวยุ่งทันที ซึ่งก็เห็นหลบวูบออกไปจากหน้าประตูหลังบ้าน เมื่อวานซืนเธอเป็นคนบอกพ่อเองว่าอยากดูหนังเรื่องนี้เพราะอยากให้พ่อหาเวลาว่างมาคลายสมองบ้าง พ่อของเธอเอาแต่ทำงานจนแทบจะลืมไปแล้วว่าพักผ่อนหย่อนใจคืออะไร แต่ดูทีรึ แทนที่พอมีเวลาว่างจะออกไปหย่อนใจกับลูกสาวดันไปแอบบอกเขาเสียได้
"คือ...อุ้มมีอย่างอื่นต้องทำค่ะพี่ภพ"
ปฏิเสธทันทีชนิดไม่ยอมถนอมน้ำใจ หันรีหันขวางแล้วเลยปล่อยเจ้าตัวเล็กให้ลงจากตักก่อนลุกขึ้นฉวยบัวรดน้ำต้นไม้แถวนั้นขึ้นมาถือ
"วันนี้ว่าจะเอาเยอบีร่าลงกระถางสักหน่อย พี่ภพไปชวนคนอื่นเถอะค่ะ"
ยืนถือบัวรดน้ำอย่างทะมัดทะแมง เมื่อเห็นเขานิ่งเงียบไปก็นึกว่าคงจบเรื่องไปแล้วที่ไหนได้...
"แกปลูกเป็นเสียที่ไหน เห็นใช้ให้พวกคนงานทำให้ไม่ใช่เหรอ ไปดูหนังกับพี่เขาเถอะ พ่อบอกเขาให้ไปจองตั๋วเองแหละ"
สมศักดิ์ร้องขัดลูกสาวมาจากประตูหลังบ้านราวแอบมองเธออยู่ เด็กสาวหันมองมาทางคนเป็นพ่ออีกครั้งแล้วทำหน้าหงิกเข้าใส่
"แต่นี่มันบ่ายมากแล้วนะคะพ่อ พี่ภพจองตั๋วรอบไหนกัน หนังมันจะเลิกกลางค่ำกลางคืนเอานะคะ" ขัดพ่อแล้วหันมาถามคนชวนไปดูหนังข้างตัว
"รอบค่ำครับ รอบทุ่มหนึ่ง"
"วันนี้พ่อมีนัดสังสรรค์กับลูกค้าอยู่พอดีเลย ดูหนังเสร็จช่วยพาน้องไปดินเนอร์ด้วยนะภพ ฝากเลยแล้วกัน"
"พ่อคะ..."
"อะไร...หรือแกอยากไปงานเลี้ยงกับพ่อล่ะ พ่อไม่ให้แกอยู่บ้านคนเดียวนะ" งัดไม้ตายออกมาต่อรองทันที ซึ่งก็ได้ผล
"ก็ได้ค่ะ"
เจอไม้ตายของสมศักดิ์เข้า ลักขณาก็ต้องอ้อมแอ้มตอบตกลง ระหว่างไปดูหนังกับพิภพกับไปนั่งหาวอยู่ในวงสังสรรค์ของคนแก่ตั้งครึ่งค่อนคืน ยังไงเธอก็ขอเลือกเอาอย่างแรกก็แล้วกัน
พ่อนะพ่อ ที่แท้ก็เป็นเจ้ากี้เจ้าการเสียเอง แต่ไม่มีทางหรอก พ่อจะไม่มีวันสมใจในเรื่องนี้แน่ เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันถึงบิดาอยู่ในใจ
และแล้ววันนั้นลักขณาก็ต้องจำใจมาดูหนังกับชายหนุ่มที่เธอไม่เคยนึกชอบจนได้ เพราะถูกทั้งผลักทั้งดันจากพ่อตัวเองกับเพราะไม่อยากโป้ปดเขาให้เสียมารยาทมากไปกว่านี้ ซึ่งมันจะดูน่าเกลียดจนเกินไป อีกทั้งก็ยังดีกว่าไปทนนั่งแกร่วอยู่ในงานปาร์ตี้ของคนแก่เป็นไหน ๆ
ระหว่างที่นั่งดูหนังด้วยกัน พิภพพยายามมาทำซึ้งด้วย เขามักหันมายิ้มให้กับทำสายตาระยิบเข้าใส่ แต่เธอไม่ซึ้งไปด้วยสักนิดเพราะมันเป็นหนังตลกนี่นา ดูเอาเถอะ มาทำซึ้งถูกเวล่ำเวลาเสียที่ไหนพ่อคุณเอ๋ย...บ่นในใจแล้วแอบเบ้ปากให้
"หนังสนุกดีนะครับ" ดูหนังจบเขาก็ชวนคุยระหว่างพากันเดินออกมาจากในโรงหนังเมื่อเวลาสามทุ่มครึ่งเข้าไปแล้ว
"ค่ะ"
จะสนุกกว่านี้ถ้าได้มาดูกับแฟน...ซึ่งถึงแม้ตอนนี้เธอจะยังไม่มีก็เถอะ คิดในใจอย่างนั้นส่วนปากก็รับคำไปตามเรื่อง ท้องเริ่มร้องจ๊อก ๆ เพราะเลยเวลาอาหารเย็นมามาก
"เรียนเทอมแรกเป็นไงมั่งครับ มีอะไรหนักใจบ้างไหม"พิภพยังชวนคุยไปเรื่อย ๆ ขณะขึ้นรถขับไปหาร้านอาหารทานมื้อค่ำด้วยกัน
"เรียนสบายค่ะ อุ้มโชคดีที่ตอนมัธยมได้อยู่ในกลุ่มเพื่อนเรียนเก่ง ก็เลยมีพื้นฐานแน่น"
"อ้อ ถึงว่า พี่ไม่เห็นอุ้มมีปัญหาเรื่องเรียนมาบ่นให้ได้ยินบ้างเลย" นี่เขาคงรอให้เธอมาปรึกษาเรื่องในรั้วมหาวิทยาลัยอยู่แน่ ๆ แต่อย่าหวังเลย เรื่องแค่นี้เธอสามารถจัดการได้ด้วยตัวเองแบบสบาย ๆ อยู่แล้ว
"แต่ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยก็อย่าเกรงใจนะครับ พี่เต็มใจช่วยเต็มที่" เห็นความพยายามกับท่าทางผิดหวังของเขาก็อดสงสารอยู่บ้างไม่ได้ แต่ช่างปะไร เธอมีจุดยืนว่าจะไม่สานสัมพันธ์จนถึงขั้นเป็นคนรักกับเขาแน่ ๆ
มื้อค่ำในร้านอาหารแห่งหนึ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว ลักขณาเลือกทานร้านกระทะร้อนที่อยู่ติดกับวิวแม่น้ำซึ่งเป็นร้านเจ้าอร่อยที่เธอมาบ่อย วันนี้ร้านมีคนจองห้องจัดเลี้ยงจึงหาที่จอดรถลำบาก ต้องจอดริมถนนห่างออกไปพอสมควร พอทานเสร็จเธอก็บ่นว่าง่วงอยากนอนพัก พิภพเองก็ไม่ขัดใจ เขาพาเธอเดินมายังที่จอดรถซึ่งค่อนข้างเปลี่ยวเพื่อขับกลับไปส่งเด็กสาวที่บ้าน
ขณะเดินมาเธอลอบชำเลืองดูชายหนุ่มซึ่งทำตัวสุภาพเรียบร้อยไม่รุ่มร่ามกับเธอสักนิด ให้คะแนนเขาเรื่องนี้เต็มสิบ แต่คนเป็นเกย์ก็คงเป็นแบบนี้เอง ไม่ได้พิศวาสอะไรกับผู้หญิงหรอก นี่คือเหตุผลหนึ่งที่เธอยอมมากับเขาในวันนี้
“อุ้มครับ”
ชายหนุ่มเหลือบมองหญิงสาวที่เดินข้าง ๆ ลักขณามีบางสิ่งที่ดึงดูดใจเขา เธออาจดูทะลึ่งตึงตัง พูดจาทะเล้นเฮฮา แต่ขณะเดียวกันก็มีสัมมาคารวะ มีมารยาท รู้จักกาลเทศะและวางตัวเหมาะสม ไม่ได้เป็นหญิงมั่นเสียจนไหลตามกระแสสมัยใหม่ไปเสียทั้งหมด เขาดูเธอมานานและมั่นใจว่าเธอเป็นผู้หญิงที่น่าค้นหา อยู่ด้วยกันแล้วจะต้องสนุกตื่นเต้นไม่น่าเบื่อ เขาคิดว่าลักขณาเหมาะสมจะเป็นคู่ชีวิตกับตัวเองที่สุดแล้ว
“พี่คิดว่าเรารู้จักกันมานานพอ พี่ขออนุญาตบอกว่าชอบอุ้มวันนี้นะครับ”
เด็กสาวชะงักเท้าที่ก้าวเดินซึ่งเขาก็ชะงักตาม เขาหาโอกาสสารภาพความในใจมานานแล้ว เธอเองก็รู้และไม่เคยเปิดโอกาส จนกระทั่งวันนี้
“อุ้มรังเกียจพี่หรือเปล่า”คงเห็นเธอเงียบไปจึงถามกระชั้น
“อืม...แต่ถ้าอุ้มคิดว่าพี่ละลาบละล้วงเกินไปพี่ก็ต้องขอโทษ”
“ไม่ใช่แบบนั้นเสียหน่อย อุ้ม...เอ้อ”
“หรือว่าอุ้มมีใครแล้วครับ”ก็เพราะไม่มีใครน่ะสิถึงได้อึกอัก ไอ้ครั้นจะตอบปฏิเสธฉาดฉานไปแบบนั้นก็กระดากปาก ขณะกำลังคิดหาเหตุผลอื่นที่นุ่มนวลเพื่อคงไว้ซึ่งมิตรภาพต่อกัน ร่างสูงผอมก็ขยับเข้ามาใกล้แล้วคว้ามือสองข้างของเธอไปกุมไว้
“ถ้าอุ้มยังไม่มีใคร ช่วยพิจารณาพี่ดูหน่อยได้ไหมครับ จะใช้เวลาดูนานแค่ไหนก็ได้ตามใจอุ้ม” เหล่ตามองหน้าหวานของเขาแล้วอ้าปากจะปฏิเสธให้เด็ดขาด แต่ทันใดนั้นเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
“อย่าพึ่งทำหวานใส่กัน ส่งกระเป๋าเงินของพวกแกมาให้กูเดี๋ยวนี้”
ทั้งคู่ได้ยินเสียงห้าวๆดังขัดจังหวะ พิภพรีบดึงร่างลักขณาให้มาหลบอยู่ด้านหลังตนเอง เบื้องหน้าห่างไปไม่ไกลเขาเห็นชายฉกรรจ์ท่าทางไม่น่าไว้ใจสองคนพากันย่างสามขุมเข้ามาหา พิภพตระหนักว่าทั้งสองเป็นคนร้ายที่กำลังจะมาปล้นทรัพย์ นึกเป็นห่วงสาวน้อยด้านหลังที่ยืนตัวสั่นเทาเกาะเอวเขาอยู่ วายร้ายสองคนนี้รูปร่างล่ำสันกว่าเขามาก สมองของชายหนุ่มคิดหาทางแก้ไขสถานการณ์อย่างรวดเร็ว
“อยากได้เงินใช่ไหม เอ้านี่ เอาไปสิ” เขาโยนกระเป๋าเงินของตัวเองให้มันคนหนึ่งอย่างไม่นึกเสียดาย แล้วจูงมือลักขณาเดินเลี่ยงจะไปอีกทาง
“เดี๋ยวก่อน จะรีบไปไหน”วายร้ายอีกคนดูเหมือนยังไม่พอใจ มันเหลือบมองสาวน้อยที่แอบอยู่ข้างหลังชายหนุ่มร่างผอมสูงซึ่งมันเห็นว่าไร้พิษสง แล้วตรงเข้าคว้าข้อมือผู้หญิงอย่างหมายจะทำมิดีมิร้าย พิภพกระชากมือสกปรกนั้นออกทันทีแล้วผลักลักขณาให้ออกวิ่งไปทางด้านหลังของเขา
“อุ้มรีบหนีไปก่อนเร็วเข้า แล้วโทรเรียกตำรวจให้มาช่วยพี่ด่วนเลยนะ”
พอผลักเธอพ้นไปแล้ว เขาก็ถูกชายวายร้ายคนนั้นกระแทกหมัดเข้าใส่ใบหน้าแทนจนเซล้มลงไปกอง ลักขณาซึ่งวิ่งหนีไปไม่ไกลหวีดร้อง เธอวิ่งกลับมาหาเขาอย่างเป็นห่วงแล้วก้มลงประคองร่างชายหนุ่มที่ลงไปนอนกับพื้นเอาไว้ พิภพเช็ดเลือดจากริมฝีปากแตกมีเลือดไหลเป็นทางออกด้วยหลังมือ ส่วนเด็กสาวมีสีหน้าแตกตื่น เธอเหลียวมองรอบตัวพลางตะโกนร้องให้คนช่วย โจรร้ายทั้งสองกระชากมีดพกปลายแหลมออกมากระชับ แล้วยกขึ้นชี้ขู่ไปยังสองหนุ่มสาว
(มีต่อ)
the beginning of love...ริษยาซ่อนร่างตอนพิเศษ
นี่คือชะตากรรมแห่งรักของเหล่าผู้ตกเป็นเหยื่อของ...ริษยาซ่อนร่าง
โดย...ล. วิลิศมาหรา
หลังคลายความเศร้าโศกจากการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักลงบ้างแล้ว ผู้คนที่เคยเกี่ยวข้องกับกวินตาต่างก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไปตามแรงกรรมของแต่ละคน แสงสินีและเอกกวีหมั้นหมายกันท่ามกลางความยินดีของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย รวมทั้งคุณป้าทิพย์วิภาของหลาน ๆ ด้วย
เด็กทั้งสองเข้ามาร่ำเรียนอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศด้วยกัน พักอยู่หอพักใกล้กัน ชีวิตต่อจากนี้ของสองหนุ่มสาวดูเหมือนจะมีแต่เรื่องที่น่ายินดี ยามว่างจากการร่ำเรียนคู่รักมักชวนกันไปดูหนังฟังเพลง แสงสินีอ่อนหวานขึ้นผิดหูผิดตา รู้จักเอาอกเอาใจและไม่ค่อยหวงตัวเหมือนก่อนหมั้นกัน ซึ่งก็คงเป็นเพราะเธอรักเขานั่นเอง จึงทำให้เธอยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองจากสาวห้าวมาเป็นผู้หญิงเรียบร้อยน่ารักขึ้นมาบ้างอย่างนี้ ถึงไม่ทั้งหมดแต่มันก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกชอบอกชอบใจมาก เพราะถึงแม้เขาจะชอบที่แฟนสาวเป็นคนห้าว ๆ แต่บางแง่มุมของคนรักกันเขาก็อยากหวานซึ้งกับเธอ ยิ่งได้โอบกอดสัมผัสแสดงความรักที่มีต่อกันโดยไม่ให้เกินเลยมากไปกว่านั้น มันก็ยิ่งทำให้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าช่วงชีวิตตอนนี้ของเอกกวีมีความสุขอย่างที่สุด เส้นทางวิวาห์สำหรับคนทั้งสองคงอยู่อีกไม่ไกลแล้ว
ข้างฝ่ายบุรินทร์นั้นก็ไม่ละความพยายาม หนุ่มหน้าใสเฝ้าตามติดพาฝันทั้งที่เขาเองต้องเรียนหนักมาก แทบไม่เหลือเวลาให้ไปทำอย่างอื่นเลยนอกเหนือจากอ่านตำรับตำราวิชาแพทย์ โชคดีที่เขากับพาฝันมีที่เรียนใกล้กัน ซึ่งบางครั้งยังต้องข้องเกี่ยวกันบางวิชาระหว่างคณะแพทย์และคณะพยาบาล แถมยังต้องฝึกงานในสถานที่เดียวกันอีกด้วย และนับตั้งแต่ปวุฒิหายไปจากชีวิตอย่างไร้ร่องรอย พาฝันก็ดูเหมือนจะมีบุรินทร์ที่คอยเป็นห่วงเป็นใย เป็นที่พึ่งทางใจให้เธอแทน และเพราะความดีเสมอต้นเสมอปลายอย่างอดทนของเขา จึงทำให้แม้สาวสายตาสั้นจะไม่เคยลืมคนรักเก่าผมเกรียน แต่สุดท้ายเธอก็พ่ายน้ำใจของบุรินทร์ หนุ่มสาวทั้งคู่จึงกลายมาเป็นคู่รักกันอีกคู่จนได้
ทีนี้ก็เหลือแต่เพียงแม่สาวร่างอวบที่แยกมาเรียนด้านบริหารธุรกิจในมหาวิทยาลัยเอกชนชั้นนำ ลักขณาผู้ซึ่งอกหักมาจากบุรินทร์แต่เธอกลับยึดเอาเรื่องนี้มาเป็นแรงฮึด เธอลงทุนปรับปรุงบุคลิกภาพของตัวเองครั้งใหญ่จนกลายเป็นคนรูปร่างดีและสวยขึ้นกว่าเดิมมาก สาวเคยอวบหมายมั่นจะได้พบกับชายในอุดมคติแบบบุรินทร์เข้าสักวัน ซึ่งเธอคิดว่าผู้ชายแบบนั้นต้องมีหลงเหลืออยู่บนโลกใบนี้อีก เพียงแต่เธอยังหาเขาไม่พบเท่านั้นเอง
ลักขณาไม่นึกชอบผู้ชายที่เข้ามาติดพันคนไหนเป็นพิเศษเลยสักคนเดียว ทุกคนดูเหมือน ๆ กันไปหมด ถ้าไม่เจ้าสำราญหลุกหลิกดูเจ้าชู้ก็ออกแนวก้าวร้าวนักเลงโต ที่เหลือก็สำอางมือไม้อ่อนจนไม่มั่นใจว่าจะเป็นผู้ชายเต็มร้อย แต่แล้วอาจเป็นเพราะบุพเพสันนิวาสหรืออาจเป็นเวรกรรมเสียก็ไม่รู้ เพราะถึงเธอจะไม่ชอบผู้ชายลักษณะอย่างที่ว่ามา และถึงแม้จะดึงดันขัดใจบิดาและพยายามปฏิเสธความใกล้ชิดกับพิภพ แต่ในที่สุดเธอก็หนีจากชายหนุ่มหนึ่งในลักษณะที่ตนเองไม่ชอบไปไม่พ้น เมื่อในวันหนึ่งได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ความคิดของเธอต่อเขาเปลี่ยนไป
หญิงสาวอย่างเธอไม่ชอบผู้ชายหน้าหวานแบบพิภพ เพราะมันชวนให้คิดว่าเขาไม่เป็นลูกผู้ชายเต็มร้อย ไม่ชอบรูปร่างผอมสูงที่เหมือนกับไร้เรี่ยวแรง ผอมกะหร่องออกอย่างนี้จะปกป้องผู้หญิงได้ยังไง ไม่ชอบเสียงพูดค่อย ๆ ของเขา ไม่ชอบดูหนังฟังเพลงแบบเดียวกับเขา สรุปแล้วคือเธอไม่ชอบอะไรในตัวเขาเลยสักอย่าง แต่ดูเหมือนเขาจะตรงกันข้าม บ้าจริง...ผู้หญิงมีตั้งมากมายไม่ยักไปสนใจ ตามเทียวไล้เทียวขื่อกับเธออยู่ได้ น่ารำคาญจริง ๆ
อย่างเช่นวันนี้พิภพมาหาที่บ้าน พ่อของเธอเองก็เป็นใจน่าดูจึงเปิดโอกาสให้เขาเข้ามาหาลูกสาวตัวเองถึงในสวนหลังบ้าน ซึ่งขณะนั้นเธอกำลังนั่งเล่นอยู่กับเจ้าตัวเล็กแมวตัวโปรดอย่างเพลิดเพลิน นี่พ่อคงเป็นคนบอกเขาเสียเองว่าตอนนี้เธอกำลังว่างอยู่พอดีและไม่มีอะไรให้ทำทั้งวันเป็นแน่ ก็เห็นอยากได้เขาเป็นลูกเขยเสียขนาดนั้น และพอเข้ามาถึงชายหนุ่มก็ถือวิสาสะนั่งลงที่เก้าอี้ข้าง ๆ สวัสดีทักทายกันแล้วก็เอ่ยชวนเธอขึ้นมาดุ่ย ๆ
"พี่มีตั๋วหนังสองใบ คุณลุงบอกว่าอุ้มอยากดูหนังเรื่องนี้ พี่เลยไปหาซื้อเอาไว้ครับ วันนี้ได้ยินว่าอุ้มว่างก็เลยมาชวน"
หันขวับไปมองหาคุณพ่อตัวยุ่งทันที ซึ่งก็เห็นหลบวูบออกไปจากหน้าประตูหลังบ้าน เมื่อวานซืนเธอเป็นคนบอกพ่อเองว่าอยากดูหนังเรื่องนี้เพราะอยากให้พ่อหาเวลาว่างมาคลายสมองบ้าง พ่อของเธอเอาแต่ทำงานจนแทบจะลืมไปแล้วว่าพักผ่อนหย่อนใจคืออะไร แต่ดูทีรึ แทนที่พอมีเวลาว่างจะออกไปหย่อนใจกับลูกสาวดันไปแอบบอกเขาเสียได้
"คือ...อุ้มมีอย่างอื่นต้องทำค่ะพี่ภพ"
ปฏิเสธทันทีชนิดไม่ยอมถนอมน้ำใจ หันรีหันขวางแล้วเลยปล่อยเจ้าตัวเล็กให้ลงจากตักก่อนลุกขึ้นฉวยบัวรดน้ำต้นไม้แถวนั้นขึ้นมาถือ
"วันนี้ว่าจะเอาเยอบีร่าลงกระถางสักหน่อย พี่ภพไปชวนคนอื่นเถอะค่ะ"
ยืนถือบัวรดน้ำอย่างทะมัดทะแมง เมื่อเห็นเขานิ่งเงียบไปก็นึกว่าคงจบเรื่องไปแล้วที่ไหนได้...
"แกปลูกเป็นเสียที่ไหน เห็นใช้ให้พวกคนงานทำให้ไม่ใช่เหรอ ไปดูหนังกับพี่เขาเถอะ พ่อบอกเขาให้ไปจองตั๋วเองแหละ"
สมศักดิ์ร้องขัดลูกสาวมาจากประตูหลังบ้านราวแอบมองเธออยู่ เด็กสาวหันมองมาทางคนเป็นพ่ออีกครั้งแล้วทำหน้าหงิกเข้าใส่
"แต่นี่มันบ่ายมากแล้วนะคะพ่อ พี่ภพจองตั๋วรอบไหนกัน หนังมันจะเลิกกลางค่ำกลางคืนเอานะคะ" ขัดพ่อแล้วหันมาถามคนชวนไปดูหนังข้างตัว
"รอบค่ำครับ รอบทุ่มหนึ่ง"
"วันนี้พ่อมีนัดสังสรรค์กับลูกค้าอยู่พอดีเลย ดูหนังเสร็จช่วยพาน้องไปดินเนอร์ด้วยนะภพ ฝากเลยแล้วกัน"
"พ่อคะ..."
"อะไร...หรือแกอยากไปงานเลี้ยงกับพ่อล่ะ พ่อไม่ให้แกอยู่บ้านคนเดียวนะ" งัดไม้ตายออกมาต่อรองทันที ซึ่งก็ได้ผล
"ก็ได้ค่ะ"
เจอไม้ตายของสมศักดิ์เข้า ลักขณาก็ต้องอ้อมแอ้มตอบตกลง ระหว่างไปดูหนังกับพิภพกับไปนั่งหาวอยู่ในวงสังสรรค์ของคนแก่ตั้งครึ่งค่อนคืน ยังไงเธอก็ขอเลือกเอาอย่างแรกก็แล้วกัน
พ่อนะพ่อ ที่แท้ก็เป็นเจ้ากี้เจ้าการเสียเอง แต่ไม่มีทางหรอก พ่อจะไม่มีวันสมใจในเรื่องนี้แน่ เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันถึงบิดาอยู่ในใจ
และแล้ววันนั้นลักขณาก็ต้องจำใจมาดูหนังกับชายหนุ่มที่เธอไม่เคยนึกชอบจนได้ เพราะถูกทั้งผลักทั้งดันจากพ่อตัวเองกับเพราะไม่อยากโป้ปดเขาให้เสียมารยาทมากไปกว่านี้ ซึ่งมันจะดูน่าเกลียดจนเกินไป อีกทั้งก็ยังดีกว่าไปทนนั่งแกร่วอยู่ในงานปาร์ตี้ของคนแก่เป็นไหน ๆ
ระหว่างที่นั่งดูหนังด้วยกัน พิภพพยายามมาทำซึ้งด้วย เขามักหันมายิ้มให้กับทำสายตาระยิบเข้าใส่ แต่เธอไม่ซึ้งไปด้วยสักนิดเพราะมันเป็นหนังตลกนี่นา ดูเอาเถอะ มาทำซึ้งถูกเวล่ำเวลาเสียที่ไหนพ่อคุณเอ๋ย...บ่นในใจแล้วแอบเบ้ปากให้
"หนังสนุกดีนะครับ" ดูหนังจบเขาก็ชวนคุยระหว่างพากันเดินออกมาจากในโรงหนังเมื่อเวลาสามทุ่มครึ่งเข้าไปแล้ว
"ค่ะ"
จะสนุกกว่านี้ถ้าได้มาดูกับแฟน...ซึ่งถึงแม้ตอนนี้เธอจะยังไม่มีก็เถอะ คิดในใจอย่างนั้นส่วนปากก็รับคำไปตามเรื่อง ท้องเริ่มร้องจ๊อก ๆ เพราะเลยเวลาอาหารเย็นมามาก
"เรียนเทอมแรกเป็นไงมั่งครับ มีอะไรหนักใจบ้างไหม"พิภพยังชวนคุยไปเรื่อย ๆ ขณะขึ้นรถขับไปหาร้านอาหารทานมื้อค่ำด้วยกัน
"เรียนสบายค่ะ อุ้มโชคดีที่ตอนมัธยมได้อยู่ในกลุ่มเพื่อนเรียนเก่ง ก็เลยมีพื้นฐานแน่น"
"อ้อ ถึงว่า พี่ไม่เห็นอุ้มมีปัญหาเรื่องเรียนมาบ่นให้ได้ยินบ้างเลย" นี่เขาคงรอให้เธอมาปรึกษาเรื่องในรั้วมหาวิทยาลัยอยู่แน่ ๆ แต่อย่าหวังเลย เรื่องแค่นี้เธอสามารถจัดการได้ด้วยตัวเองแบบสบาย ๆ อยู่แล้ว
"แต่ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยก็อย่าเกรงใจนะครับ พี่เต็มใจช่วยเต็มที่" เห็นความพยายามกับท่าทางผิดหวังของเขาก็อดสงสารอยู่บ้างไม่ได้ แต่ช่างปะไร เธอมีจุดยืนว่าจะไม่สานสัมพันธ์จนถึงขั้นเป็นคนรักกับเขาแน่ ๆ
มื้อค่ำในร้านอาหารแห่งหนึ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว ลักขณาเลือกทานร้านกระทะร้อนที่อยู่ติดกับวิวแม่น้ำซึ่งเป็นร้านเจ้าอร่อยที่เธอมาบ่อย วันนี้ร้านมีคนจองห้องจัดเลี้ยงจึงหาที่จอดรถลำบาก ต้องจอดริมถนนห่างออกไปพอสมควร พอทานเสร็จเธอก็บ่นว่าง่วงอยากนอนพัก พิภพเองก็ไม่ขัดใจ เขาพาเธอเดินมายังที่จอดรถซึ่งค่อนข้างเปลี่ยวเพื่อขับกลับไปส่งเด็กสาวที่บ้าน
ขณะเดินมาเธอลอบชำเลืองดูชายหนุ่มซึ่งทำตัวสุภาพเรียบร้อยไม่รุ่มร่ามกับเธอสักนิด ให้คะแนนเขาเรื่องนี้เต็มสิบ แต่คนเป็นเกย์ก็คงเป็นแบบนี้เอง ไม่ได้พิศวาสอะไรกับผู้หญิงหรอก นี่คือเหตุผลหนึ่งที่เธอยอมมากับเขาในวันนี้
“อุ้มครับ”
ชายหนุ่มเหลือบมองหญิงสาวที่เดินข้าง ๆ ลักขณามีบางสิ่งที่ดึงดูดใจเขา เธออาจดูทะลึ่งตึงตัง พูดจาทะเล้นเฮฮา แต่ขณะเดียวกันก็มีสัมมาคารวะ มีมารยาท รู้จักกาลเทศะและวางตัวเหมาะสม ไม่ได้เป็นหญิงมั่นเสียจนไหลตามกระแสสมัยใหม่ไปเสียทั้งหมด เขาดูเธอมานานและมั่นใจว่าเธอเป็นผู้หญิงที่น่าค้นหา อยู่ด้วยกันแล้วจะต้องสนุกตื่นเต้นไม่น่าเบื่อ เขาคิดว่าลักขณาเหมาะสมจะเป็นคู่ชีวิตกับตัวเองที่สุดแล้ว
“พี่คิดว่าเรารู้จักกันมานานพอ พี่ขออนุญาตบอกว่าชอบอุ้มวันนี้นะครับ”
เด็กสาวชะงักเท้าที่ก้าวเดินซึ่งเขาก็ชะงักตาม เขาหาโอกาสสารภาพความในใจมานานแล้ว เธอเองก็รู้และไม่เคยเปิดโอกาส จนกระทั่งวันนี้
“อุ้มรังเกียจพี่หรือเปล่า”คงเห็นเธอเงียบไปจึงถามกระชั้น
“อืม...แต่ถ้าอุ้มคิดว่าพี่ละลาบละล้วงเกินไปพี่ก็ต้องขอโทษ”
“ไม่ใช่แบบนั้นเสียหน่อย อุ้ม...เอ้อ”
“หรือว่าอุ้มมีใครแล้วครับ”ก็เพราะไม่มีใครน่ะสิถึงได้อึกอัก ไอ้ครั้นจะตอบปฏิเสธฉาดฉานไปแบบนั้นก็กระดากปาก ขณะกำลังคิดหาเหตุผลอื่นที่นุ่มนวลเพื่อคงไว้ซึ่งมิตรภาพต่อกัน ร่างสูงผอมก็ขยับเข้ามาใกล้แล้วคว้ามือสองข้างของเธอไปกุมไว้
“ถ้าอุ้มยังไม่มีใคร ช่วยพิจารณาพี่ดูหน่อยได้ไหมครับ จะใช้เวลาดูนานแค่ไหนก็ได้ตามใจอุ้ม” เหล่ตามองหน้าหวานของเขาแล้วอ้าปากจะปฏิเสธให้เด็ดขาด แต่ทันใดนั้นเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
“อย่าพึ่งทำหวานใส่กัน ส่งกระเป๋าเงินของพวกแกมาให้กูเดี๋ยวนี้”
ทั้งคู่ได้ยินเสียงห้าวๆดังขัดจังหวะ พิภพรีบดึงร่างลักขณาให้มาหลบอยู่ด้านหลังตนเอง เบื้องหน้าห่างไปไม่ไกลเขาเห็นชายฉกรรจ์ท่าทางไม่น่าไว้ใจสองคนพากันย่างสามขุมเข้ามาหา พิภพตระหนักว่าทั้งสองเป็นคนร้ายที่กำลังจะมาปล้นทรัพย์ นึกเป็นห่วงสาวน้อยด้านหลังที่ยืนตัวสั่นเทาเกาะเอวเขาอยู่ วายร้ายสองคนนี้รูปร่างล่ำสันกว่าเขามาก สมองของชายหนุ่มคิดหาทางแก้ไขสถานการณ์อย่างรวดเร็ว
“อยากได้เงินใช่ไหม เอ้านี่ เอาไปสิ” เขาโยนกระเป๋าเงินของตัวเองให้มันคนหนึ่งอย่างไม่นึกเสียดาย แล้วจูงมือลักขณาเดินเลี่ยงจะไปอีกทาง
“เดี๋ยวก่อน จะรีบไปไหน”วายร้ายอีกคนดูเหมือนยังไม่พอใจ มันเหลือบมองสาวน้อยที่แอบอยู่ข้างหลังชายหนุ่มร่างผอมสูงซึ่งมันเห็นว่าไร้พิษสง แล้วตรงเข้าคว้าข้อมือผู้หญิงอย่างหมายจะทำมิดีมิร้าย พิภพกระชากมือสกปรกนั้นออกทันทีแล้วผลักลักขณาให้ออกวิ่งไปทางด้านหลังของเขา
“อุ้มรีบหนีไปก่อนเร็วเข้า แล้วโทรเรียกตำรวจให้มาช่วยพี่ด่วนเลยนะ”
พอผลักเธอพ้นไปแล้ว เขาก็ถูกชายวายร้ายคนนั้นกระแทกหมัดเข้าใส่ใบหน้าแทนจนเซล้มลงไปกอง ลักขณาซึ่งวิ่งหนีไปไม่ไกลหวีดร้อง เธอวิ่งกลับมาหาเขาอย่างเป็นห่วงแล้วก้มลงประคองร่างชายหนุ่มที่ลงไปนอนกับพื้นเอาไว้ พิภพเช็ดเลือดจากริมฝีปากแตกมีเลือดไหลเป็นทางออกด้วยหลังมือ ส่วนเด็กสาวมีสีหน้าแตกตื่น เธอเหลียวมองรอบตัวพลางตะโกนร้องให้คนช่วย โจรร้ายทั้งสองกระชากมีดพกปลายแหลมออกมากระชับ แล้วยกขึ้นชี้ขู่ไปยังสองหนุ่มสาว
(มีต่อ)