คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ที่ Togakushi Shrine ถ้าจะไปให้ถึงต้นสนยักษ์เรียงรายสองข้างทางจนสุดทางที่ศาลเจ้า ก็เดินไกลเหมือนกันนะครับ
ไร่วาซาบิ ก็กว้างมาก แต่จะเลือกเดินแค่รอบๆ แม่น้ำที่มีกังหันน้ำและไร่วาซาบิแถวๆ โซนขายอาหารของที่ระลึกแค่นั้นก็ได้ครับ
แนะนำนอกเหนือจากโปรแกรมข้างบนนะครับ
คือ Obuse Hokusai Museum คงเคยเห็นภาพพิมพ์ไม้ (浮世絵)ที่เป็นลายคลื่นยักษ์และมีภูเขาไฟฟุจิเล็กๆ กลางภาพ กันใช่ไหมครับ
ภาพต้นฉบับอยู่ที่นี่แหละ และบ้านเกิดของจิตรกรคนนี้ก็อยู่เมืองนี้คือ เมือง Obuse (小布施)
และย่านนั้นก็เป็นย่านเมืองเก่า มีของที่ระลึกพื้นเมืองเยอะแยะมากมาย ผัก ผลไม้ ผลิตภัณฑ์กระดาษสา เหล้า ไวน์ แยมผลไม้ เป็นต้น
เมืองนี้อยู่เหนือตัวเมือง Nagano ขึ้นไปไม่มาก เดินทางโดยรถไฟสะดวกด้วย
อีกที่คือ Naraijuku (奈良井宿)เป็นย่านเมืองเก่าตั้งแต่สมัยเอโดะ บรรยากาศคล้ายๆ ย่านกิอองของเกียวโต และ Takayama
แต่มีขนาดย่อมและสงบเงียบกว่า เป็นเมืองที่ตั้งบนเส้นทางโบราณสาย nakasendo ที่คนสมัยเอโดะ ใช้เดินทางจาก นาโกยะไปเอโดะ
เคยเป็นฉากละครย้อนยุคของญี่ปุ่นด้วย มีร้านโซบะ ขึ้นชื่ออยู่แถวนั้น รวมถึงข้าวจี่ญี่ปุ่น (โกะเฮโมจิ 五平餅) อร่อยๆ
มีสะพานไม้โค้งทอดข้ามแม่น้ำที่สวยงามมาก
นั่งรถไฟจาก Matsumoto Local Line สาย Nakatsugawa (สายที่จะไปนาโกยะ) แต่ลงที่สถานีNarai ค่าตั๋ว500เยน
อีกที่คือ ทะเลสาบ Suwa (諏訪湖) เป็นทะเลสาบที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟุจิได้จากที่นี่
และขึ้นไปบนเขานิดหน่อยจะเป็น Takabotchi Highlands(高ボッチ高原)
เป็นฉากของหมู่บ้านในภาพยนตร์เรื่อง kimi no na wa ที่ดาวหากตกใส่นั่นแหละ
นั่งรถไฟจาก Matsumoto สายที่จะไปโตเกียวครับ
ที่สุดท้ายคือ Kamikochi (上高地)ที่นี่ถือเป็นสุดยอดของสถานที่ของ Nagano นะครับ
เหมือนภูเขาที่สวิตเซอร์แลนด์ แต่ที่นั่นก็ต้องเดินเยอะพอสมควร
นั่งรถไฟสาย kamikochi ไปสุดสายที่สถานี Shin shimashima (新島々)แล้วต่อรถบัสที่หน้าสถานีไปอีกต่อครับ
ส่วนร้านอาหารหน้าสถานี Nagano ประตูฝั่ง Zenkoji มีร้านสปาเก็ตนี้ ชื่อ Aru dente (アルデンテ)อร่อยครับ โดยเฉพาะเมนูเห็ด
ที่ Matsumoto แนะนำร้าน ogiya (おおぎや)เป็นร้านแนวอาหารจีนทั่วไป (中華料理)ที่พบได้ทั่วไปในญี่ปุ่น พวกข้าวผัด ราเม็ง
อยู่หน้าสถานี ลงบันไดเลื่อน ก็เลี้ยวขวาไปประมาณ 25 เมตรก็ถึง ป้ายสีเหลืองๆ
หรือเดินข้ามฝั่งมาที่ห้าง Ario (アリオ)ชั้นบนสุดก็มีร้านอาหารแนวครอบครัวเยอแยะครับ
ไร่วาซาบิ ก็กว้างมาก แต่จะเลือกเดินแค่รอบๆ แม่น้ำที่มีกังหันน้ำและไร่วาซาบิแถวๆ โซนขายอาหารของที่ระลึกแค่นั้นก็ได้ครับ
แนะนำนอกเหนือจากโปรแกรมข้างบนนะครับ
คือ Obuse Hokusai Museum คงเคยเห็นภาพพิมพ์ไม้ (浮世絵)ที่เป็นลายคลื่นยักษ์และมีภูเขาไฟฟุจิเล็กๆ กลางภาพ กันใช่ไหมครับ
ภาพต้นฉบับอยู่ที่นี่แหละ และบ้านเกิดของจิตรกรคนนี้ก็อยู่เมืองนี้คือ เมือง Obuse (小布施)
และย่านนั้นก็เป็นย่านเมืองเก่า มีของที่ระลึกพื้นเมืองเยอะแยะมากมาย ผัก ผลไม้ ผลิตภัณฑ์กระดาษสา เหล้า ไวน์ แยมผลไม้ เป็นต้น
เมืองนี้อยู่เหนือตัวเมือง Nagano ขึ้นไปไม่มาก เดินทางโดยรถไฟสะดวกด้วย
อีกที่คือ Naraijuku (奈良井宿)เป็นย่านเมืองเก่าตั้งแต่สมัยเอโดะ บรรยากาศคล้ายๆ ย่านกิอองของเกียวโต และ Takayama
แต่มีขนาดย่อมและสงบเงียบกว่า เป็นเมืองที่ตั้งบนเส้นทางโบราณสาย nakasendo ที่คนสมัยเอโดะ ใช้เดินทางจาก นาโกยะไปเอโดะ
เคยเป็นฉากละครย้อนยุคของญี่ปุ่นด้วย มีร้านโซบะ ขึ้นชื่ออยู่แถวนั้น รวมถึงข้าวจี่ญี่ปุ่น (โกะเฮโมจิ 五平餅) อร่อยๆ
มีสะพานไม้โค้งทอดข้ามแม่น้ำที่สวยงามมาก
นั่งรถไฟจาก Matsumoto Local Line สาย Nakatsugawa (สายที่จะไปนาโกยะ) แต่ลงที่สถานีNarai ค่าตั๋ว500เยน
อีกที่คือ ทะเลสาบ Suwa (諏訪湖) เป็นทะเลสาบที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟุจิได้จากที่นี่
และขึ้นไปบนเขานิดหน่อยจะเป็น Takabotchi Highlands(高ボッチ高原)
เป็นฉากของหมู่บ้านในภาพยนตร์เรื่อง kimi no na wa ที่ดาวหากตกใส่นั่นแหละ
นั่งรถไฟจาก Matsumoto สายที่จะไปโตเกียวครับ
ที่สุดท้ายคือ Kamikochi (上高地)ที่นี่ถือเป็นสุดยอดของสถานที่ของ Nagano นะครับ
เหมือนภูเขาที่สวิตเซอร์แลนด์ แต่ที่นั่นก็ต้องเดินเยอะพอสมควร
นั่งรถไฟสาย kamikochi ไปสุดสายที่สถานี Shin shimashima (新島々)แล้วต่อรถบัสที่หน้าสถานีไปอีกต่อครับ
ส่วนร้านอาหารหน้าสถานี Nagano ประตูฝั่ง Zenkoji มีร้านสปาเก็ตนี้ ชื่อ Aru dente (アルデンテ)อร่อยครับ โดยเฉพาะเมนูเห็ด
ที่ Matsumoto แนะนำร้าน ogiya (おおぎや)เป็นร้านแนวอาหารจีนทั่วไป (中華料理)ที่พบได้ทั่วไปในญี่ปุ่น พวกข้าวผัด ราเม็ง
อยู่หน้าสถานี ลงบันไดเลื่อน ก็เลี้ยวขวาไปประมาณ 25 เมตรก็ถึง ป้ายสีเหลืองๆ
หรือเดินข้ามฝั่งมาที่ห้าง Ario (アリオ)ชั้นบนสุดก็มีร้านอาหารแนวครอบครัวเยอแยะครับ
แสดงความคิดเห็น
รบกวนเซียนญี่ปุ่นตรวจการบ้าน Nagano, Kawaguchiko หน่อยค่ะ
ศ.17 มี.ค. 2017
ออกเดินทาง : 22:30
เดินทางถึงสนามบินนาริตะ : 06:15
ส. 18 มีค 2017 ขึ้น Shinkansen ไป Nagano เอากระเป๋าไปฝากไว้กับโรงแรมก่อน
เที่ยวใน Nagano
๐ Togakushi Shrine
๐ Zenkoji temple
๐ พิพิธภัณฑ์โทงาคุเระ นินโป (Togakure Ninpo Museum)
พักที่ Hotel Metropolitan Nagano
อา 19 มีนา 2017
ขึ้นรถไฟไป Matsumoto
๐ Matsumoto Castle
๐ ถนนคนเดิน นาวาเตะ และนาคามาชิ Nawate and Nakamachi Street
๐ Daio Wasabi Farm
[ค่าเข้าชม: ฟรี เวลาเปิด-ปิด: 9:00-17:20(เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ปิด 16:30) เปิดทุกวัน
วิธีการเดินทาง
จาก Matsumoto โดยสารรถไฟสาย JR Oito Line ไปลงที่ Hotaka Station(30 นาที ค่าโดยสาร 320 เยน รถไฟออกชั่วโมงละ 1-2 รอบ) แล้วนั่งแท็กซี่ต่อไปอีก 10 นาที (ค่าใช้จ่าย 1,300 เยน) ]
พักที่ Hotel Metropolitan Nagano
จ 20 มีนา 2017
ขึ้นรถไฟไป Yodanaka
๐ สวนลิงจิโกคุดานิ Jigokudani Monkey Park
พักที่ Hotel Metropolitan Nagano
อ 21 มีนา 2017
ขึ้นรถไฟไป Karuizawa
๐ น้ำตกชิราอิโตะ Shiraito Waterfall
๐ สวนสาธารณะโอนิโอชิดาชิ Onioshidashi Park
พักที่ Hotel Mystays Kanda
พ 22 มีนา 2017
เดินทางออกจากโตเกียวไป Kawaguchiko
๐ Chureito Pagoda
๐ Kachi Kachi Ropeway
๐ ล่องเรือในทะเลสาบ Kawaguchiko
พักที่ Sunnide Resort Hotel
พฤ 23 มีนา 2017
Check out ตอน 10.00 ฝากของไว้ที่สถานีรถไฟก่อน
เดินทางกลับโตเกียวประมาณ 17.00
ศ.24 มี.ค. 2017
ออกจากฮาเนดะ: 00:20
เดินทางถึงกรุงเทพ: 05:25
อยากสอบถามดังนี้ค่ะ
1. เรารู้สึกตะหงิดๆว่าตารางมันหลวมมาก พอดี ไปเห็นกระทู้นี้ http://pantip.com/topic/30264299 เลยสงสัยว่าสามารถไป Takayama กับ Shirakawago ด้วยดีไหม แล้วที่เที่ยวใน Nagano เราควรจะรวบวันไหนไว้ด้วยกันดีคะ คุณแม่ถึงจะไม่เดินเยอะมาก (คุณแม่อายุ 62 ปีแล้วค่ะ)
2. ควรใช้ JR pass แบบไหนดีคะ
3. รบกวนแนะนำร้านอาหารให้หน่อยค่า