หลวงปู่เจี้ยะ ผู้เป็นดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทอง



#ไม่ยึดติดในสมบัติ! “หลวงปู่เจี๊ยะ” เดินทางด้วยการโบกรถสิบล้อ ถึงขั้นขึ้นนั่งหลังคา! เพราะไม่อยากให้ใครต้องลำบาก
          
ช่วงปี ๒๕๐๓ เมื่อการสร้างถนนเพื่อกระจายความเจริญจากส่วนกลางแพร่ขยายไปทั่วทุกหัวระแหง ตามนโยบายของ “ท่านผู้นำ” ในสมัยนั้น บนถนนจากจันทบุรี มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ รถสิบล้อที่ห้อตะบึงบรรทุกเอาทรัพยากรของชนบทมาป้อนให้กับเมืองหลวงหลายต่อหลายคันวิ่งมาดีๆก็ต้องเบรกตัวโก่ง เหตุเพราะมีพระรูปหนึ่งท่านโบกรถ ไม่ใช่โบกรถแบบที่เหล่า backpackers เขาทำกันคือ ชี้นิ้วโป้งบ่งสัญญาณหรือกวักมือเรียก  แต่เป็นการโบกรถใน “สไตล์” ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ท่านไปกางปีก ยืนถ่างขา ห่มจีวร ขวางถนน
    
ลองนึกดูว่าคำอุทานหลังพวงมาลัยจะเป็นเช่นไร   “เฮ้ย...ไอ้เ...ไม่ใช่ พระว่ะ...จอดเร็ว” เจอลูกนี้เข้าไปรถส่วนใหญ่ก็มีอันต้องจอด

ครั้งหนึ่งท่านได้รับจดหมายจากท่านเจ้าคุณพรหมมุนี วัดบวรนิเวศ เพื่อนของท่านบอกว่า “เมื่อได้รับแล้วให้รีบมาในทันที” ท่านอ่านจบไม่รีรอ คว้าจีวร คว้าย่าม เดินดิ่งไปหน้าวัด ไหล่สะพายย่าม มือพยายามห่มจีวร พอดีมีรถบัสโดยสารผ่านมา เมื่อสองมือโบกรถไม่ได้ ท่านจึงใช้ตีนโบกรถ ยกตีนสูงๆ ขึ้นๆ ลงๆ พร้อมตะโกนเสียงดังลั่น “หยุดเดี๋ยวนี้”!

แต่รถบัสคันนั้นวิ่งผ่านไปเฉยอย่างไม่ใยดี “เย็...ไม่รู้จักไอ้เจี๊ยะ...ซะแล้ว”[๑]

นั่นคือนามของท่าน หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท การโบกรถสิบล้อของหลวงปู่เจี๊ยะนี้เป็นที่รู้กันดีในหมู่ลูกศิษย์ที่เคารพนับถือท่าน “เอ๊ะ ทำไมท่านอาจารย์ทำอย่างนี้นะ ท่านทำอย่างนี้ยังกับว่าทั่วประเทศไทยเป็นพี่น้องเป็นญาติกับท่านกันหมด พวกนี้พี่น้องท่านหมดเลยนะนี่ ไม่รู้เขาจะโกรธ ไม่รู้เขาจะเกลียด หรือรถจะชนตายอย่างนี้ไม่สนใจ ไปถึงก็กางปีกยืนถ่างขากลางถนนเลย แล้วก็ห่มจีวรพร้อมเลย”[๒]
            
แม้ต่อมาเมื่อท่านเริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับกิจนิมนต์ ขณะที่หลวงปู่รูปอื่นๆ มีลูกศิษย์ลูกหาขับรถเบนซ์ไปรับถึงวัด แต่สำหรับหลวงปู่เจี๊ยะพาหนะประจำของท่านก็ยังคงเป็น..รถสิบล้อ

[๑] หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทอง หน้า ๑๘๘-๙
[๒] หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทอง หน้า ๑๘๘-๙

Cr. m.tnews.co.th
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่