จขกท. เห็นพวกคนที่มีอคติต่อวัดพระธรรมกาย พอไม่สามารถถกเถียงประเด็นไหนต่อได้ ก็มักจะนำรูปภาพเครื่องประดับชาวสวรรค์จาก หนังสือ มนต์เสน่ห์แห่งสวรรค์ ทัณทรมาณแห่งนรก มาวางให้ดู สำหรับผู้ที่อยากเห็น ขอให้หาเอาเอง จขกท. ขี้เกียดเอามาลง
หลายคนไม่เชื่อว่ามีจริง หลายคนถึงขั้นด่าขั้นว่า โดยที่ยังไม่ได้ศึกษาพระไตรปิฎกก่อนว่ามีเปอร์เซ้นที่จะเป็นไปได้ดั่งรูปภาพหรือไม่
จขกท.เลยสรุปอานิสงค์แห่งการให้ทานชนิดต่างๆที่ปรากฎในพระไตรปิฎกมาให้ได้ดูกัน
เรื่องราวของ "ลาชเทวธิดา" ที่
ถวายข้าวตอกแด่ พระมหากัสสปเถระ ที่เพิ่งออกจากฌานสมาบัติ ระหว่างทางเดินกลับบ้านเธอถูกงูพิษกัดตาย ละโลกด้วยจิตผ่องใสเพราะนึกถึงบุญได้ ไปบังเอิญเป็นเทพธิดาในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีวิมานทอง ๓๐ โยชน์
ประตูวิมานประดับด้วยขันทองคำ เต็มด้วยข้าวตอกทองคำห้อยระย้าอยู่ เทพธิดาตรวจดูทิพยสมบัติด้วยจักษุแล้วทราบว่า ด้วยผลแห่งข้าวตอกที่ได้ถวายพระมหากัสสปเถระนั่นเอง
หรืออีกตัวอย่างนึง
ครั้งนึงมีชาวนาจากแคว้นมคต ไ
ด้ถวายแกงปูแด่พระภิกษุรูปนึงที่ไปบิณฑบาตร ครั้นเมื่อละโลกไป ได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีวิมาณทองประดับด้วยเสาแก้วมณี ๑๒ โยชน์ มีห้องรโหฐาน ๗๐๐ ห้อง
ที่ประตูของวิมาณนั้นมีปูทองอยู่ในสาแหรกแก้วมุขดาห้อยอยู่ และมีปูทอง ๑๐ ขายืนอยู่หน้าวิมาณคอยประกาศ บุญที่เจ้าของวิมาณได้กระทำไว้แด่ผู้ที่ถาม
หรือถ้าอยากอ่านอีก ยังมีอีกหลายๆตัวอย่างปรากฏไว้ในพระไตรปิฎก จขกท.เห็นว่ามีสมาชิกพันทิปหลายๆท่านในห้องศาสนา ที่ศึกษาพระไตรปิฎกมาบ้าง จะไม่ค่อยวิพากษ์วิจารย์ในเรื่องนี้ แต่สำหรับสมาชิกบางท่านที่ไม่ได้ศึกษาพระไตรปิฎกมา ขอให้ท่านจงไปศึกษาดูก่อนที่จะมาว่ากล่าว จะได้ไม่เป็นการล่วงเกินพระธรรมคำสอนที่มีอยู่ในพระไตรปิฎก
~~~สรุปคือ สร้อยส้มตำปู หรือเครื่องประดับต่างๆนั้น เป็นแค่กุศโลบายในการบอกว่า เราทำบุญด้วยสิ่งใด ถวายสิ่งใด เราก็จะได้สิ่งนั้นเมื่อเราละโลกนี้ไปแล้ว ด้วยการสื่อออกมาทางรูปภาพ เพื่อให้คนเข้าใจง่ายมากขึ้น สิ่งที่อยู่ในหนังสือ อาจจะมีอยู่จริงหรือไม่มีอยู่จริงบนสวรรค์ก็ได้ แต่ จากตัวอย่างที่ให้ได้อ่านกัน ก็คงจะทำให้ทราบแล้วว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีสร้อยส้มตำปูอยู่บนสวรรค์จริงๆ พียงแต่มันเกินจินตนาการที่มนุษย์จะคิดได้ ทำให้หลายๆคนมองว่าเป็นเรื่องตลก~~~
ขอความกรุณา แสดงความคิดเห็นให้ตรงกับประเด็นของกระทู้ แล้ว จขกท. จะมาตอบ กรุณาอย่าแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องอื่นเช่น คดี มูลนิธิ ที่ดิน หรืออื่นๆ ในกระทู้นี้ อันนี้ไหว้ละจริงๆ ขอทีละประเด็นนะคะ ขอบคุณค่ะ
ปล.พิมพ์ขึ้นเองทั้งหมด อาจมีคำผิด เดี๋ยวมาแก้ให้ทีหลังนะคะ ขอไปอาบน้ำก่อน
ปล.2 ด่าได้แต่อย่าแรง สำนึกผิดไม่ทัน
สร้อยส้มตำปู ส้อยบะหมีลูกชิ้น มีจริงหรือ ลิเกไปมั๊ย สวรรค์จะมีอะไรอย่างนี้จริงหรือ
จขกท.เลยสรุปอานิสงค์แห่งการให้ทานชนิดต่างๆที่ปรากฎในพระไตรปิฎกมาให้ได้ดูกัน
เรื่องราวของ "ลาชเทวธิดา" ที่ถวายข้าวตอกแด่ พระมหากัสสปเถระ ที่เพิ่งออกจากฌานสมาบัติ ระหว่างทางเดินกลับบ้านเธอถูกงูพิษกัดตาย ละโลกด้วยจิตผ่องใสเพราะนึกถึงบุญได้ ไปบังเอิญเป็นเทพธิดาในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีวิมานทอง ๓๐ โยชน์ ประตูวิมานประดับด้วยขันทองคำ เต็มด้วยข้าวตอกทองคำห้อยระย้าอยู่ เทพธิดาตรวจดูทิพยสมบัติด้วยจักษุแล้วทราบว่า ด้วยผลแห่งข้าวตอกที่ได้ถวายพระมหากัสสปเถระนั่นเอง
หรืออีกตัวอย่างนึง
ครั้งนึงมีชาวนาจากแคว้นมคต ได้ถวายแกงปูแด่พระภิกษุรูปนึงที่ไปบิณฑบาตร ครั้นเมื่อละโลกไป ได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีวิมาณทองประดับด้วยเสาแก้วมณี ๑๒ โยชน์ มีห้องรโหฐาน ๗๐๐ ห้อง ที่ประตูของวิมาณนั้นมีปูทองอยู่ในสาแหรกแก้วมุขดาห้อยอยู่ และมีปูทอง ๑๐ ขายืนอยู่หน้าวิมาณคอยประกาศ บุญที่เจ้าของวิมาณได้กระทำไว้แด่ผู้ที่ถาม
หรือถ้าอยากอ่านอีก ยังมีอีกหลายๆตัวอย่างปรากฏไว้ในพระไตรปิฎก จขกท.เห็นว่ามีสมาชิกพันทิปหลายๆท่านในห้องศาสนา ที่ศึกษาพระไตรปิฎกมาบ้าง จะไม่ค่อยวิพากษ์วิจารย์ในเรื่องนี้ แต่สำหรับสมาชิกบางท่านที่ไม่ได้ศึกษาพระไตรปิฎกมา ขอให้ท่านจงไปศึกษาดูก่อนที่จะมาว่ากล่าว จะได้ไม่เป็นการล่วงเกินพระธรรมคำสอนที่มีอยู่ในพระไตรปิฎก
~~~สรุปคือ สร้อยส้มตำปู หรือเครื่องประดับต่างๆนั้น เป็นแค่กุศโลบายในการบอกว่า เราทำบุญด้วยสิ่งใด ถวายสิ่งใด เราก็จะได้สิ่งนั้นเมื่อเราละโลกนี้ไปแล้ว ด้วยการสื่อออกมาทางรูปภาพ เพื่อให้คนเข้าใจง่ายมากขึ้น สิ่งที่อยู่ในหนังสือ อาจจะมีอยู่จริงหรือไม่มีอยู่จริงบนสวรรค์ก็ได้ แต่ จากตัวอย่างที่ให้ได้อ่านกัน ก็คงจะทำให้ทราบแล้วว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีสร้อยส้มตำปูอยู่บนสวรรค์จริงๆ พียงแต่มันเกินจินตนาการที่มนุษย์จะคิดได้ ทำให้หลายๆคนมองว่าเป็นเรื่องตลก~~~
ปล.พิมพ์ขึ้นเองทั้งหมด อาจมีคำผิด เดี๋ยวมาแก้ให้ทีหลังนะคะ ขอไปอาบน้ำก่อน
ปล.2 ด่าได้แต่อย่าแรง สำนึกผิดไม่ทัน