สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
หวาย.. อย่ามาวิชาการเกินไป น้องสับสน
เดี๋ยวนักการตลาดจะย่อยให้ง่าย ๆ นะจ๊ะ
Supplier, Distributor, Wholesaler and Dealer ทุกท่านก็เป็นสมาชิกในช่องทางการจัดจำหน่ายเนอะ ค่อย ๆ แยกความชัดเจนที่โดดเด่นอย่างที่บอก และ ทำความเข้าใจกับระบบการค้าไปด้วยนะครับ จะถ่องแท้
Supplier หมายถึง"ผู้ส่งวัตถุดิบหรือสินค้าให้กับเรา"นะครับ เป็นความหมายเดียวกับ vendor เลย นั้นคือ เขาอาจจะแค่สนับสนุนวัตถุดิบบางอย่าง เช่น อุปกรณ์, โต๊ะ, ที่นั่ง, ชั้นวางของในร้าน หรือเป็นต้นนำ ส่งสินค้าให้เราขายก็ได้ เราอาจจะรับมาขายในร้าน เขาเป็นผู้สนับสนุนเราจ๊ะ เพื่อให้เรามีเครื่องมือหรือสินค้าไว้ขาย ทีน้องสับสนเนี่ย อาจจะสับสนในแง่ของผู้ส่งสินค้ามาขายอ่ะ มันเลยคล้าย ๆ กับ สมาชิกท่านอื่นไปหมดเลย
Distributor หมายถึง "ผู้กระจาย" สินค้านะครับ สินค้าแมส ๆ ตลาดกว้าง ๆ ของกิน ของใช้ จำเป็นต้องมีการกระจายสินค้าแบบหนาแน่นทุกหย่อมหญ้า มีขายทั่วประเทศ ขายทั่วไป ดังนั้นการกระจายสินค้าจะยากและสำคัญมากเลย ไปซื้อที่ไหนก็ต้องมี ไม่ใช่สินค้าหาซื้อยาก ไปห้าง ไปร้านโชห่วย ไปต่างจังหวัด ไปเกาะ หรือขึ้นเขา ก็ต้องได้กินโค้ก ซึ่งการกระจายสินค้านั้น จะกระจายเองก็ได้ หรือใช้บริษัทที่ชำนาญในการกระจายก็ได้ ซึ่งเขาก็จะมีทั้งวิธีการขายส่งและขายปลีกควบคู่กันไป เพื่อให้สินค้ามีขายในทุกที่ทั่วประเทศ เราจึงเรียกว่า distributor หรือ ผู้กระจาย
Wholesaler คือ "ผู้ค้าส่ง" วิธีที่ทำความเข้าใจชัดเจน คือให้ยึดพฤติกรรมการขายครับ ผู้ค้าส่งจะขายสินค้าล็อตใหญ่เท่านั้น ไม่ขายรายชิ้น (ขายรายชิ้นคือผู้ขายปลีก retailer) ซึ่งการขายล็อตใหญ่นี้ อาจจะเป็นการขายราคาถูกมาก ขายโดยใช้เซลล์ ใช้ความสนิทสนม หรือมีส่วนลดโปรโมชั่นคณิตศาสตร์เยอะแยะตามมา แต่จุดสำคัญคือ การขายยกโหลนั้นเอง
Dealer คือ "ตัวแทน" ในการขายสินค้าอุตสาหกรรมบางประเภท ต้นทุนสูงมาก หรือเป็นสินค้าที่มีเทคนิคความรู้เฉพาะเยอะมาก ไม่สามารถขายไปโดยทั่วไป จำเป็นต้องมีตัวแทน หรือ แต่งตั้งตัวแทนเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง เช่น เราไม่มีช่องทางจัดจำหน่าย เลยให้แต่งตั้งตัวแทนรายหนึ่งมาขายแทน มีการแบ่งผลประโยชน์ให้ ดังนั้นตัวแทนจะเป็นผู้กระจายสินค้าให้เราอย่างเดียว ไม่ได้เป็นเจ้าของสินค้า แต่อาจจะมีข้อตกลงเฉพาะ หรือ สิทธิบัตร หรือ สิทธิในการขายเฉพาะ ส่วนใหญ่แล้วมักจะบังคับโดยธรรมชาติสินค้านั้นว่าเป็นสินค้าเฉพาะมาก ๆ ผลิตได้น้อยราย
ที่น้องสับสนคือ เอ๊ะ บางรายมันก็เป็นทั้ง Dealer และ Distributor เรียกซ้ำ ๆ กันไปหมด
ใช่ครับ สมาชิกในช่องทางอาจจะมีหลายบทบาทได้ คำแต่ละคำเรียกโดยมีความหมายแฝงในมุมที่ต่างกันนั้นเอง
ย้ำว่าไม่มีการทับซ้อนใด ๆ นะครับ คำเรียกต่างกันนั้นแสดงถึง "บทบาท" ที่ต่างกัน
Supplier เราเรียกในแง่ที่เขาสนับสนุนเรา ส่งสินค้าขายให้เรา ซึ่งมันอาจจะเป็น Wholesaler ด้วยก็ได้ ถ้ามักขายเราทียกโหลขนาดนั้น
Wholesale เราเรียกในแง่ของการขายสินค้าล็อตใหญ่ ซึ่งมันอาจจะเป็น Distributor ด้วยก็ได้ ถ้ามันขายส่งและกระจายสินค้าไปได้เยอะ ๆ
Distributor เราเรียกในแง่ของการเป็นผู้ชำนาญการบริหารช่องทางการจัดจำหน่าย ซึ่งจะเป็นการขายสินค้าที่ทั่วถึงทั้งประเทศ อาจจะด้วยวิธีค้าส่ง ค้าปลีก หรือส่งออกก็ตาม
Dealer เราเรียกเขาในฐานะตัวแทนครับ จะเป็นตัวแทนเฉพาะที่ถูกแต่งตั้ง มีสัญญาหรือสิทธิบัตร หรือขายสินค้าเราอย่างเดียว หรือ มีสิทธิขาดบางอย่าง
เดี๋ยวนักการตลาดจะย่อยให้ง่าย ๆ นะจ๊ะ
Supplier, Distributor, Wholesaler and Dealer ทุกท่านก็เป็นสมาชิกในช่องทางการจัดจำหน่ายเนอะ ค่อย ๆ แยกความชัดเจนที่โดดเด่นอย่างที่บอก และ ทำความเข้าใจกับระบบการค้าไปด้วยนะครับ จะถ่องแท้
Supplier หมายถึง"ผู้ส่งวัตถุดิบหรือสินค้าให้กับเรา"นะครับ เป็นความหมายเดียวกับ vendor เลย นั้นคือ เขาอาจจะแค่สนับสนุนวัตถุดิบบางอย่าง เช่น อุปกรณ์, โต๊ะ, ที่นั่ง, ชั้นวางของในร้าน หรือเป็นต้นนำ ส่งสินค้าให้เราขายก็ได้ เราอาจจะรับมาขายในร้าน เขาเป็นผู้สนับสนุนเราจ๊ะ เพื่อให้เรามีเครื่องมือหรือสินค้าไว้ขาย ทีน้องสับสนเนี่ย อาจจะสับสนในแง่ของผู้ส่งสินค้ามาขายอ่ะ มันเลยคล้าย ๆ กับ สมาชิกท่านอื่นไปหมดเลย
Distributor หมายถึง "ผู้กระจาย" สินค้านะครับ สินค้าแมส ๆ ตลาดกว้าง ๆ ของกิน ของใช้ จำเป็นต้องมีการกระจายสินค้าแบบหนาแน่นทุกหย่อมหญ้า มีขายทั่วประเทศ ขายทั่วไป ดังนั้นการกระจายสินค้าจะยากและสำคัญมากเลย ไปซื้อที่ไหนก็ต้องมี ไม่ใช่สินค้าหาซื้อยาก ไปห้าง ไปร้านโชห่วย ไปต่างจังหวัด ไปเกาะ หรือขึ้นเขา ก็ต้องได้กินโค้ก ซึ่งการกระจายสินค้านั้น จะกระจายเองก็ได้ หรือใช้บริษัทที่ชำนาญในการกระจายก็ได้ ซึ่งเขาก็จะมีทั้งวิธีการขายส่งและขายปลีกควบคู่กันไป เพื่อให้สินค้ามีขายในทุกที่ทั่วประเทศ เราจึงเรียกว่า distributor หรือ ผู้กระจาย
Wholesaler คือ "ผู้ค้าส่ง" วิธีที่ทำความเข้าใจชัดเจน คือให้ยึดพฤติกรรมการขายครับ ผู้ค้าส่งจะขายสินค้าล็อตใหญ่เท่านั้น ไม่ขายรายชิ้น (ขายรายชิ้นคือผู้ขายปลีก retailer) ซึ่งการขายล็อตใหญ่นี้ อาจจะเป็นการขายราคาถูกมาก ขายโดยใช้เซลล์ ใช้ความสนิทสนม หรือมีส่วนลดโปรโมชั่นคณิตศาสตร์เยอะแยะตามมา แต่จุดสำคัญคือ การขายยกโหลนั้นเอง
Dealer คือ "ตัวแทน" ในการขายสินค้าอุตสาหกรรมบางประเภท ต้นทุนสูงมาก หรือเป็นสินค้าที่มีเทคนิคความรู้เฉพาะเยอะมาก ไม่สามารถขายไปโดยทั่วไป จำเป็นต้องมีตัวแทน หรือ แต่งตั้งตัวแทนเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง เช่น เราไม่มีช่องทางจัดจำหน่าย เลยให้แต่งตั้งตัวแทนรายหนึ่งมาขายแทน มีการแบ่งผลประโยชน์ให้ ดังนั้นตัวแทนจะเป็นผู้กระจายสินค้าให้เราอย่างเดียว ไม่ได้เป็นเจ้าของสินค้า แต่อาจจะมีข้อตกลงเฉพาะ หรือ สิทธิบัตร หรือ สิทธิในการขายเฉพาะ ส่วนใหญ่แล้วมักจะบังคับโดยธรรมชาติสินค้านั้นว่าเป็นสินค้าเฉพาะมาก ๆ ผลิตได้น้อยราย
ที่น้องสับสนคือ เอ๊ะ บางรายมันก็เป็นทั้ง Dealer และ Distributor เรียกซ้ำ ๆ กันไปหมด
ใช่ครับ สมาชิกในช่องทางอาจจะมีหลายบทบาทได้ คำแต่ละคำเรียกโดยมีความหมายแฝงในมุมที่ต่างกันนั้นเอง
ย้ำว่าไม่มีการทับซ้อนใด ๆ นะครับ คำเรียกต่างกันนั้นแสดงถึง "บทบาท" ที่ต่างกัน
Supplier เราเรียกในแง่ที่เขาสนับสนุนเรา ส่งสินค้าขายให้เรา ซึ่งมันอาจจะเป็น Wholesaler ด้วยก็ได้ ถ้ามักขายเราทียกโหลขนาดนั้น
Wholesale เราเรียกในแง่ของการขายสินค้าล็อตใหญ่ ซึ่งมันอาจจะเป็น Distributor ด้วยก็ได้ ถ้ามันขายส่งและกระจายสินค้าไปได้เยอะ ๆ
Distributor เราเรียกในแง่ของการเป็นผู้ชำนาญการบริหารช่องทางการจัดจำหน่าย ซึ่งจะเป็นการขายสินค้าที่ทั่วถึงทั้งประเทศ อาจจะด้วยวิธีค้าส่ง ค้าปลีก หรือส่งออกก็ตาม
Dealer เราเรียกเขาในฐานะตัวแทนครับ จะเป็นตัวแทนเฉพาะที่ถูกแต่งตั้ง มีสัญญาหรือสิทธิบัตร หรือขายสินค้าเราอย่างเดียว หรือ มีสิทธิขาดบางอย่าง
แสดงความคิดเห็น
คือแบบไม่เข้าใจชัดเจนเกี่ยวกับ นิยามของ Supplier, Distributor, Wholesaler and Dealer
คือไม่ไม่กระจ่างเลย เหมือนมีความรู้สึกว่าบางคำก็มีนิยามความหมายที่ทับซ้อนกันอยู่
"โดยเฉพาะคำว่า Distributor กับ Dealer"
เลยไม่มั่นใจนักว่าหลักการของนิยามในวงการธุรกิจที่ถูกต้องคืออะไร ช่วยไขข้อข้องใจให้ทีนะครับ
ตามความเข้าใจ (ที่สับสน) นะครับ ผมเข้าใจว่า
Supplier คือ บริษัทผู้ผลิตที่อาจจะมีบริษัทลูก เปิดเพื่อการค้าขาย (Trading) ให้แก่ลูกค้า ไม่จำแนกว่าต้องเป็นกลุ่มไหน
โดยขึ้นอยู่กับ Policy ของบริษัท Supplier เอง
ดังนั้น (ผมขอสมมติ) ในกรณีที่ Supplier ไม่ได้กำหนดนโยบายช่องทางการขายไว้ ก็น่าจะสามารถขายได้กับทุกๆ Channel
ไม่ว่าจะเป็น ขายให้ Manufacturer, Distributor, Wholesaler, Retailer, Dealer, End User or etc...
ส่วน Distributor ผมเข้าใจว่าน่าจะทับซ้อนกันอยู่กับ Dealer
ในบางวงการ หรือบางอุตสาหกรรม แบบพวกบริษัทฯ ยักษ์ใหญ่ที่ขายสินค้า Consumer Products, Motor หรือ IT
คือภาพของ Distributor ในความคิดผม Distributor ก็คือผู้จัดจำหน่ายที่เน้นการกระจายสินค้า อาจจะมี (DC) และเน้นจำหน่ายสินค้า
โดยจำหน่ายไปถึง Wholesaler หรือ อาจจะเรียก Dealer ไม่เน้นไปถึง End User สักเท่าไหร่ แต่ก็อาจมีได้
(ผมเข้าใจถูกไหมครับ)
ทั้งนี้ อย่างผมเคยทำงานอยู่บริษัทนึงมาก่อน เป็น Trading Company ซึ่งเป็นบริษัทลูกของผู้ผลิตที่มีโรงงานในไทยและ ตปท.
บริษัทที่ผมเคยทำงาน เวลาไปติดต่อลูกค้าจะถูกลูกค้าเรียก ว่าเป็น Supplier เสมอๆ
(อาจมีบ้างที่ถูกเรียกว่าเป็น Manufacturer หรือ Distributorบ้าง ก็งงๆกันไป ว่านิยามที่ถูกต้องคืออะไร)
ในขณะที่บริษัทที่ผมเคยทำงาน พอเรานำสินค้าไปจำหน่ายต่อ ก็จะเรียกลูกค้าคนถัดไปว่า Dealer* ความหมายในความคิดผม คงเหมือนกับWholesaler
(*ไม่ขายถึง End User เพราะเป็น Policy ของบริษัท)
และเมื่อ Dealer นำสินค้าไปขายต่อ ให้แก่ลูกค้าของเค้า ที่ไม่ใช่ End User ก็จะเรียกว่า Sub-dealer หรือ Retailer ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันผมมาทำงานอีกที่นึง เป็นบริษัทที่ไม่ใช่เป็นบริษัทลูกของผู้ผลิต กลับแทนตนเองว่า Distributor
(ถ้าเป็นที่ทำงานเก่าผม ผมก็จะแทนพวกเค้าว่า Dealer) และเมื่อบริษัทใหม่ผมขายสินค้าให้แก่ลูกค้าที่ไม่ใช่ End User
ก็จะเรียกลูกค้าว่า Sub-dealer เช่นกันกับที่เก่า
ตอนนี้ผมเลยงงๆ สับสน ช่วยอธิบายให้ทีนะครับ
ขอบคุณครับ