คู่มือคนหางานและเด็กจบใหม่: LinkedIn ใช้ยังไงให้เกิดผลสูงสุด

สวัสดีค่าทุกคน แพลทกลับมาเขียนกระทู้อีกแล้วว ใครยังไม่เคยอ่านกระทู้พันทิปของแพลท หาอ่านได้ที่นี่นะคะ
แชร์ปสกเรียนและฝึกงานในฝรส http://bit.ly/2fxRI1s
การคำนวนค่าใช้จ่ายในการเรียนและกินอยู่ในฝรส http://bit.ly/2fLWdD4

ติดตามปสกดีๆ ของแพลทได้ตามนี้เลยค่า
เพจเฟส http://bit.ly/2fLVSR5
ไอจี http://bit.ly/2fv5Rt6

เข้าเรื่องเลยดีกว่าเนอะ

อธิบายสรุปง่ายๆ นะคะ LinkedIn ก็เหมือน โซเชียลเน็ดเวิร์กของคนทำงานนั้นเอง เพราะจุดประสงค์หลักของ LinkedIn นั้นคือ
1. แชร์ Resume/Portfolio แบบออนไลน์
2. หางาน
3. เชื่อมต่อและสร้างเครือข่ายคนในสายอาชีพหรือวงการเดียวกัน
4. สร้างโอกาสในการทำธุรกิจ
5. เรียนรู้เกี่ยวกับบริษัทและตำแหน่งงาน (เหมาะมากสำหรับเด็กใกล้จบหรือจบใหม่ที่ไม่รู้ว่าชื่อตำแหน่งที่เราเห็นเปิดรับสมัครนั้นทำอะไร)

ข้อดีของการมี profile บน  LinkedIn ก็เหมือนการสร้างและเพิ่มโอกาสในการโฆษณาตัวเองมากขึ้นนั้นเอง คนจะเข้ามาดูโปรไฟล์เราเมื่อไหร่ก็ได้ และง่ายต่อการที่ HR/Recruiting agency ต่างๆ จะ head hunt เรานั้นเอง แพลทเคยมีโอกาสได้สัมภาษณ์งานโดยที่ไม่ได้สมัครอะไรเลย ตั้งโปรไฟล์เฉยๆ ก็มีคนติดต่อมาหลายคนพอสมควร เพราะฉะนั้นมีไว้ไม่เสียหายแน่นอน
แต่ก็ใช่ว่าแค่มีไว้แล้วคนจะสนใจนะคะ โปรไฟล์ LinkedIn ก็เหมือนป้ายโฆษณา ถ้าเขียนไม่ดึงดูดก็ลาก่อยนะ ถึงไม่มีปสกเยอะ ก็ทำให้โปรไฟล์น่าสนใจได้นะคะ มันอยู่ที่การใช้ภาษาและการพรีเซนท์กิจกรรมหรือปสกที่เคยทำมาตอนเรียน ฝึกงานหรืองานอาสาต่างๆ
เพราะฉะนั้นมีของดีอะไรใส่ให้หมดตามที่เห็นสมควรเลยค่ะ เพราะโดยปกติการส่ง Resume สมัครงานควรสั้นและได้ใจความที่สุด เราจึงอาจไม่สามารถอวดความสามารถอื่นๆ ได้ นั้นจึงทำให้ LinkedIn เป็นที่ที่ดีในการโชว์ของดีของเราเองนะคะ


ขอเน้นหน่อยนะคะ LinkedIn แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กก็จริง แต่ไม่เอานะคะ ถ้าจะแอดมาจีบ เม้นจีบ โพสรูปเที่ยวเล่น สเตตัสการเมือง ต่างๆนาๆ เค้าสร้างมาเพื่อให้เราสร้างความน่าเชื่อถือเพราะฉะนั้นเราก็ควรใช้แบบ professional นะคะ จะเพ้อ จะอวด จะบ่น จะดราม่า ก็ใช้เฟส ไอจี อะไรก็ว่าไปนะคะ


ข่าวสารในวงการอาชีพที่ทำหรือสนใจ (เป็นการแสดงให้เห็นว่าเรามีความสนใจในเรื่องนั้นๆ เป็นการสร้างความน่าเชื่อถืออีกแบบนึง)
ความสำเร็จและความก้าวหน้าในหน้าที่ (เป็นการ add value ให้ตัวเอง)
ตั้งคำถามขอความคิดเห็นและคำแนะนำต่างๆที่เกียวกับเนื้อหาอาชีพที่ทำหรือสนใจ (เป็นการเริ่มบทสนทนา และสร้างเน็ตเวิร์ก ทำตัวเองให้เป็ที่รู้จักในวงการได้)


ถ้าใครได้อ่านกระทู้ แชร์ปสกเรียนและฝึกงานในฝรสของแพลทก็จะรู้ว่า แพลทได้ที่ฝึกงานจาก LinkedIn เนี่ยแหละค่ะ
แม้ในไทยการโพสเปิดรับสมัครงานบน LinkedIn อาจจะไม่ได้มีเยอะมากนักแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย เนื่องจากคนใช้น้อย โพสเปิดรับน้อย การสมัครผ่าน LinkedIn ก็อาจทำให้เราเด่นขึ้นมาได้นะคะ
วิธีที่ -

ลองเสิร์ชชื่อตำแหน่งที่สนใจ และ อย่าลืมใส่เมืองที่ต้องการ ง่ายๆ แค่นี้เราก็สามารถดูตำแหน่งที่กำลังเปิดรับอยู่ได้แล้ว

เคสนี้เราต้องเป็นเพื่อนกับ HR คนนั้นบน LinkedIn นะคะ ถึงจะเห็นเวลาเค้าโพสหาคน

เห้ย ตำเเหน่งที่อยากทำไม่มีทำไงดี แพลทแนะนำเลยว่า ลองพิมพ์ถามหรือสมัครไปตรงๆ เลยค่ะ ไม่ว่าจะเมเนเจอร์หรือฝ่ายบุคคล อาจได้อาจไม่ได้ แต่อย่างน้อยๆ มันคือการแสดงความสนใจและความกระตือรือร้นของเรานะคะ จากปสกของแพลท ผลตอบรับดีมากนะคะ แม้ว่าบางที่เค้าไม่รับคนจริงๆ แต่เราสามารถ keep connection เผื่ออนาคตได้ค่ะ เวลาเค้าต้องการคนเค้าอาจติดต่อเรามาก่อนที่จะเปิดรับสมัครก็ได้นะคะ แพลทเคยสมัครที่นึงไป ส่งข้อความไปหาเจ้าของตรงๆ เลย เค้าก็ตอบกลับมาดีมากนะคะ แต่เพราะตอนนั้นเค้าไม่รับคนจริงๆ เลยไม่ได้ แต่หลังจากนั้นราวๆ สองสามเดือนได้ ทางเจ้าของก็ทักมาถามเลยค่ะว่ายังว่างอยู่ไหม ถ้าว่างแล้วยังสนใจก็ให้ลองเข้ามาสัมภาษณ์ดู แต่น่าเสียดายตอนนั้นแพลทก็ได้ที่ฝึกงานแล้วเลยต้องปฏิเสธไป  

นอกจากหางานแล้ว LinkedIn ช่วยอะไรได้อีก
ศึกษาเกี่ยวกับบริษัทและหน้าที่ของตำแหน่งงานค่ะ
สำหรับเด็กจบใหม่อันนี้สำคัญมากนะคะ บริษัทใหญ่ๆ ดีๆส่วนมากมักมี LinkedIn ของตัวเองเพื่อเป็นอีกทางในการประชาสัมพันธ์ในเรื่องต่างๆ จากข้อมูลเหล่านี้นั้นเราสามารถคาดคะเนความเป็นไปได้ของการสมัครเราได้นะคะ เพราะบ่อยครั้งที่การสมัครงานไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ความสามารถและปสกเพียงอย่างเดียว แต่มีเรื่องการเมืองและนโยบายของบริษัทด้วยเช่นกัน มีปสกอย่างเดียวไม่พอนะคะ เราต้องฉลาดในการหาและสมัครด้วย แต่ยังไงเรื่องแบบนี้ทั้งเก่งและฉลาดก็ไม่พอนะคะ ต้องมีโชคด้วย พ่อแพลทพูดให้ฟังเสมอเลยว่า คนเราบางทีเก่งยังไงก็สู้คนเฮงไม่ได้นะคะ เรื่องนี้ก็ตามบุญบารมีและวาสนาแต่ละคนเนอะ เราพยายามที่ส่วนที่เราควบคุมได้ให้ดีที่สุดก็พอค่ะ
ยกตัวอย่างปสกของแพลทนะคะ เนื่องจากต้องหาที่ฝึกงาน บวกกับฝรั่งเศสนั้นมีแบรนด์และบริษัทดังมากมาย จึงต้องทำการบ้าน ศึกษาเดียวกับทั้งบริษัทและหน้าที่การงานค่ะ ก่อนอื่นเลยลิสท์แบรนด์และบริษัทที่รู้จักและอยากทำ แล้วเสิร์จตำแหน่งที่เปิดรับตามเว็บของบริษัทเลยค่ะ พอเจอตำแหน่งที่สนใจก็เข้า LinkedIn ดูว่ามีใครที่ทำเป็นพนักงานในบริษัทนี้บ้าง แล้วใครอยู่แผนกเดียวกันหรือตำแหน่งเดียวกัน หรือคนที่เราคาดว่าอาจเป็นหัวหน้าตำแหน่งที่จะสมัครค่ะ เข้าโปรไฟล์อ่านประวัติและศึกษาหน้าที่การงานเค้าเลยค่ะ เป็นไอเดียว่าเราอาจต้องเจอกับงานแบบไหนบ้าง เพราะแพลทมั่นใจค่ะ บางทีอ่าน job description แล้วก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่ามันยังไง
ศึกษาประวัติการศึกษา โรงเรียน สาขาวิชาที่เค้าเรียน ประสบการณ์ทำงาน ของเค้าว่าเป็นยังไง มาจากไหน ทำไมถึงทำตำแหน่งนี้ได้ มันให้ไอเดียเชิงวางแผน future career path เราได้นะคะ เราจะเข้าใจโครงสร้างของทั้งทีมมากขึ้น ทำให้พอเดาได้ว่าสถานะของทีมหรือแผนกเป็นอย่างไร
และถ้าสนใจก็ลองส่งข้อความไปคุยสอบถามเลยค่ะ เรื่องแบบนี้ควรดูความเหมาะสมด้วยนะคะ เพราะยังไงก็เป็นเรื่องทางการ ไม่ว่าภาษาและวิธีการสอบถาม สามารถมีผลให้คนตอบหรือไม่ตอบได้เลยนะคะ ข้อความควรรวบรัดถึงใจคำหลักโดยที่ไม่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าเรามองหาแค่ผลประโยชน์จากเค้านะคะ อธิบายให้เค้าชื่นชมและอยากช่วยเราดีกว่าค่ะ
แนะนำเลยนะคะ ใครสนใจอยากทำงานใน Startup นี้ แพลทว่าเข้าหาเจ้าของค่อนข้างง่ายนะคะ เพราะช่วงแรกแพลทมุ่งหาแต่จะทำ startup ค่ะ ทักผู้ก่อตั้งไปคุยก็หลายคนอยู่ บวกกับด้วยธรรมชาติของ startup แล้ว จะมีความเป็นกันเอง และชอบคนลุยๆ ค่ะ เพราะเหตุนี้ ใครที่อยากทำ startup แต่ไม่มีโอกาสหรือกล้าไป networking ตามอีเว้นท์ต่างๆ ก็ลองเริ่มจาก LinkedIn ได้นะคะ
การสังเกตุการเมืองและนโยบายในบริษัทนะคะ สมมุติบริษัทมีนโยบายเปิดรับความหลากหลายทางเชื้อชาติ และเราเป็นคนต่างชาติ อันนี้ก็สามารถเป็นจุดพลิกเกมส์ได้เลยนะคะ แต่แน่นอนค่ะถ้าความสามารถและปสกสู้ไม่ได้ก็อาจไม่ช่วยอะไร มันเป็นแค่หนี่งในหลายๆปัจจัยค่ะ
แต่ยังไง LinkedIn ก็ยังคงจำกัดเฉพาะบริษัทใหญ่ๆ หรือบริษัทรุ่นใหม่อยู่ดี นั้นหมายความเป็นในๆ ว่าเค้าให้ความสำคัญกับลูกจ้างมากพอที่เค้าจะคอยพรีเซ้นตัวเองเพื่อดึงดูดคนมีความสามารถนะคะ อีกอย่าง LinkedIn ก็เป็นช่องทางที่ดีสำหรับธุรกิจประเภท B2B เช่นกัน


ก่อนจบกระทู้ อยากทิ้งท้ายไว้อย่างนึงนะคะ ตอนนี้เราอยู่ในยุคที่สะดวกสบายมาก การหาข่อมูลนั้นเร็วและง่ายมากๆ บนเน็ตข้อมูลเพียบ เพราะเหตุนี้เราควรใช้เครื่องมือที่มีให้เป็นประโยชน์นะคะ ไม่ใช่ว่าไม่มีความรู้ด้านนี้ ไม่ได้เรียนมา ไม่มีคนรู้จักอธิบายให้ฟัง ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่สามารถเรียนรู้ได้นะคะ แค่พิมพ์หาข้อมูลบนเน็ตมันไม่ได้ยากเลย มันมีแค่ความขี้เกียจมากกว่าค่ะ ขี้เกียจค้นขว้า ขี้เกียจอ่านอะไรยาวๆ ขี้เกียจทำความเข้าใจ สุดท้ายก็จบแบบไม่รุ้อะไรทั้งนั้น ไม่ได้ทำความฝันสะทีเพราะขี้เกียจเริ่ม
แพลทกล้าพูดเลยนะคะว่าแพลทมาถึงทุกวันนี้ได้เพราะนั่งหาข้อมูลบนเน็ตเยอะมากๆ ยอมรับว่ามันไม่ง่ายเลยนะคะที่จะนั่งอ่าน นั่งหา แต่ถ้าหากเราไม่มีผู้รู้ หรือคนให้คำแนะนำทางนี่ก็เป็นทางแรกและอาจเป็นทางเดียวที่เราจะทำได้ เพราะฉะนั้นพยายามอย่าขี้เกียจทำอะไรที่มันดีต่ออนาคตตัวเองเลยนะคะ ทีเรื่องเผือกดารา เน็ตไอดอล เรื่องจับผิดคนอื่นนี้ยาวสามหน้า แถมบางทีต้องรอ จขกท มาพิมพ์เรื่องต่อข้ามวันข้ามคีนยังทำได้เลย กับเรื่องอนาคตตัวเองแค่นี้ต้องทำได้สิเนอะ