สวัสดีอีกครั้งนะคะ หลังจากไปเที่ยวประเทศใน AEC มา 3 ประเทศแล้ว คราวนี้ถึงตาของ ประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์
ทริปเดียวเก็บได้ 2 ประเทศ ถือว่าคุ้มมาก (เราเคยไปมาเลเซียมารอบนึงแล้วค่ะ ตอนต้นปี แต่ไปแค่ปีนัง คราวนี้เราจะมา
เก็บมาเลเซียยาวๆอีกรอบ จะได้ไม่มีอะไรค้างคาอีก) ทริปนี้เป็นทริปแรกที่เดินทางคนเดียว ไม่เค้ยไม่เคยมาก่อน
เป็นทริปที่ขัดใจคนที่บ้าน ขัดใจเพื่อน ขัดใจทุกคนที่รู้ว่าเราจะไป ทำให้เกือบถอดใจ เททริปหลายรอบแล้วไปที่อื่นแทน
แต่สุดท้าย ไปก็ไป ถ้าอยากรู้ว่าเที่ยวคนเดียวเป็นยังไง ต้องลองซักที !! เป็นการฉลองปิดเทอมแรกของปี 4 ก่อนไปฝึกงาน
จะได้รู้ว่า เราจะเอาตัวรอดได้แค่ไหน เวลาต่างถิ่น ต่างภาษา
แพลน 8 วัน 7 คืนของเรา
Day 1
ตอนแรกเราจะไปมาเลด้วยรถไฟจากหัวลำโพง แต่คุยกับที่บ้านยังไง
ก็ไม่ยอม จากข่าวของรถไฟหลายข่าว ทำให้เค้าเป็นห่วงมาก เราก็เลยไปหาดใหญ่ก็ได้
เรื่องตื่นเต้นของทริปคือ เราจำเวลา boarding time ผิดไปหนึ่งชั่วโมง เราถึง bts หมอชิตตอน 7 โมงนิดๆ
พี่วินมอไซต์คือที่พึ่ง โดนไป 300 บาท แต่ก็แลกมากับการถึงสนามบินใน 15 นาที เข้าไปแล้วรีบวิ่งเลยค่ะ
มาถึงเกตทันเวลาพอดีเด๊ะ เหตุการณ์นี้ทำให้เรารู้ว่าเราเป็นคนสะเพร่าแค่ไหน ปกติไปกับเพื่อนไม่เคยพลาด
ไปคนเดียวรู้เรื่องเลย
พาน้องแกะมาขึ้นเครื่องครั้งแรก
เราถึงหาดใหญ่ตอน 8.50 ตามเวลาเป๊ะ ทีนี้ก็หารถเข้าขนส่งหาดใหญ่ เพื่อต่อรถไปปาดังเบซาร์ ฝั่งมาเลเซีย
เพราะว่าเราจองรถไฟจากปาดัง ไป อิโปห์ รอบ 16.15
เราจองออนไลน์ไปก่อนค่ะ เพราะเท่าที่อ่านรีวิวมา รถไฟมาเลเต็มไวมาก
เวลามาเลเซียเร็วกว่าประเทศเรา 1 ชม.ค่ะ เท่ากับว่า 16.15 มาเลเซียคือ 15.15 เวลาไทย
คำนวณเวลาให้ดีนะคะ
ถึงขนส่งที่หาดใหญ่ ถามได้เลยค่ะว่า รถไปปาดังคันไหน มีแค่เจ้าเดียว
หาง่ายไม่หลง รถออกทุก 20 หรือ 30 นาทีไม่แน่ใจเหมือนกัน
คนขับจะจอดหน้าด่านปาดัง ให้เราเข้าไปเองนะคะ เดินตามทาง ผ่านตม.ทั้งไทยและมาเลเซีย
เมื่อผ่านตม.มาเล ก็ถามต่อค่ะว่า รถไฟไปทางไหน ใกล้ๆ ถ้าเจอสะพานนี้แสดงว่าถูกทางแล้ว
มันเป็นคล้ายๆสะพานลอยต่อเข้าไปในสถานี
ระหว่างรอเจอมุมถ่ายภาพสวยๆเยอะมาก แต่ว่าอากาศก็ร้อนมากๆเหมือนกัน ไม่สู้
ประมาณ 4 โมงรถไฟเปิดให้เข้าแล้ว ตอนเข้าไปในรถไฟถือว่าประทับใจมาก
อยากให้รถไฟบ้านเราเป็นแบบนี้
ตอนนั่งรอก็มีคิดนะคะ ว่าจะเหมือนในเรื่อง before sunrise หรือเปล่าที่จะเจอคนคล้ายๆกัน
มาเที่ยวแนวเดียวกัน และไปเที่ยวต่อ แต่หนังก็คือหนัง ข้างๆ ข้างหน้า ข้างหลัง คนจีนค่าา
คุยกันข้ามหัวเราตลอด เสียงดังมาก เดินไปมา เตะเก้าอี้
เราพยายามจะใจเย็น เข้าใจในวัฒนธรรมเค้า แต่ก็มีบ้างที่หงุดหงิด
พาน้องแกะมานั่งรถไฟ
รถไฟในมาเล ตรงตามเวลาเป๊ะมาก มากจนอดเทียบกับประเทศไทยไม่ได้
พอไปถึงอย่างแรกที่ทำคือ หาทางไป hostel ค่ะ การเดินทางคนเดียวทำให้รู้ว่า
เราพลาดที่ไม่ได้แคปแผนที่ไปโรงแรมมา มีแค่ชื่อถนน ตอนนั้นไม่มีเน็ตด้วย
เราเลยเดินถามทางไปเรื่อยๆ คนมาเลเซียพูดภาษาอังกฤษได้แทบทุกคน
นี่คือที่พักเราค่ะ เราจองผ่าน booking มาก่อน ประทับใจกับที่พักที่นี่มาก
ทางลงจากชั้น 2 เป็นสไลด์เดอร์ที่ ไม่ค่อยลื่น หรือเพราะเราตัวหนักก็ไม่รู้
เราชอบพักแบบ box หรือว่า แคปซูลมากค่ะ มีความฝันด้วยว่าอนาคตอยากเปิดแบบนี้
box เล็กๆ แต่สบายมาก ดูเป็นส่วนตัวมากกว่าโฮสเทลแบบเตียงไม่มีอะไรปิด
จบไปแล้วหนึ่งวันที่แสนยาวนาน ถือว่าเริ่มต้นได้ดี
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ค่าใช้จ่าย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตั๋วเครื่องบิน ดอนเมือง - หาดใหญ่ 943.50 บาท
ค่ารถตู้จากหาดใหญ่ไปปาดัง 50 บาท
ตั๋วรถไฟ ktmb จากปาดังเบซาร์ - อิโปห์ 476 บาท
ค่าห้องพัก 42 ริงกิต = 336 บาท
รวม 1,805.50 บาท
( เราเทียบ 1 ริงกิต = 8 บาท )
[CR] คนเดียวก็เที่ยวได้ | จากหาดใหญ่ ไป มาเลเซีย จบที่ สิงคโปร์ | 8 วัน 7 คืน (:
ทริปเดียวเก็บได้ 2 ประเทศ ถือว่าคุ้มมาก (เราเคยไปมาเลเซียมารอบนึงแล้วค่ะ ตอนต้นปี แต่ไปแค่ปีนัง คราวนี้เราจะมา
เก็บมาเลเซียยาวๆอีกรอบ จะได้ไม่มีอะไรค้างคาอีก) ทริปนี้เป็นทริปแรกที่เดินทางคนเดียว ไม่เค้ยไม่เคยมาก่อน
เป็นทริปที่ขัดใจคนที่บ้าน ขัดใจเพื่อน ขัดใจทุกคนที่รู้ว่าเราจะไป ทำให้เกือบถอดใจ เททริปหลายรอบแล้วไปที่อื่นแทน
แต่สุดท้าย ไปก็ไป ถ้าอยากรู้ว่าเที่ยวคนเดียวเป็นยังไง ต้องลองซักที !! เป็นการฉลองปิดเทอมแรกของปี 4 ก่อนไปฝึกงาน
จะได้รู้ว่า เราจะเอาตัวรอดได้แค่ไหน เวลาต่างถิ่น ต่างภาษา
แพลน 8 วัน 7 คืนของเรา
Day 1
ตอนแรกเราจะไปมาเลด้วยรถไฟจากหัวลำโพง แต่คุยกับที่บ้านยังไง
ก็ไม่ยอม จากข่าวของรถไฟหลายข่าว ทำให้เค้าเป็นห่วงมาก เราก็เลยไปหาดใหญ่ก็ได้
เรื่องตื่นเต้นของทริปคือ เราจำเวลา boarding time ผิดไปหนึ่งชั่วโมง เราถึง bts หมอชิตตอน 7 โมงนิดๆ
พี่วินมอไซต์คือที่พึ่ง โดนไป 300 บาท แต่ก็แลกมากับการถึงสนามบินใน 15 นาที เข้าไปแล้วรีบวิ่งเลยค่ะ
มาถึงเกตทันเวลาพอดีเด๊ะ เหตุการณ์นี้ทำให้เรารู้ว่าเราเป็นคนสะเพร่าแค่ไหน ปกติไปกับเพื่อนไม่เคยพลาด
ไปคนเดียวรู้เรื่องเลย
พาน้องแกะมาขึ้นเครื่องครั้งแรก
เราถึงหาดใหญ่ตอน 8.50 ตามเวลาเป๊ะ ทีนี้ก็หารถเข้าขนส่งหาดใหญ่ เพื่อต่อรถไปปาดังเบซาร์ ฝั่งมาเลเซีย
เพราะว่าเราจองรถไฟจากปาดัง ไป อิโปห์ รอบ 16.15
เราจองออนไลน์ไปก่อนค่ะ เพราะเท่าที่อ่านรีวิวมา รถไฟมาเลเต็มไวมาก
เวลามาเลเซียเร็วกว่าประเทศเรา 1 ชม.ค่ะ เท่ากับว่า 16.15 มาเลเซียคือ 15.15 เวลาไทย
คำนวณเวลาให้ดีนะคะ
ถึงขนส่งที่หาดใหญ่ ถามได้เลยค่ะว่า รถไปปาดังคันไหน มีแค่เจ้าเดียว
หาง่ายไม่หลง รถออกทุก 20 หรือ 30 นาทีไม่แน่ใจเหมือนกัน
คนขับจะจอดหน้าด่านปาดัง ให้เราเข้าไปเองนะคะ เดินตามทาง ผ่านตม.ทั้งไทยและมาเลเซีย
เมื่อผ่านตม.มาเล ก็ถามต่อค่ะว่า รถไฟไปทางไหน ใกล้ๆ ถ้าเจอสะพานนี้แสดงว่าถูกทางแล้ว
มันเป็นคล้ายๆสะพานลอยต่อเข้าไปในสถานี
ระหว่างรอเจอมุมถ่ายภาพสวยๆเยอะมาก แต่ว่าอากาศก็ร้อนมากๆเหมือนกัน ไม่สู้
ประมาณ 4 โมงรถไฟเปิดให้เข้าแล้ว ตอนเข้าไปในรถไฟถือว่าประทับใจมาก
อยากให้รถไฟบ้านเราเป็นแบบนี้
ตอนนั่งรอก็มีคิดนะคะ ว่าจะเหมือนในเรื่อง before sunrise หรือเปล่าที่จะเจอคนคล้ายๆกัน
มาเที่ยวแนวเดียวกัน และไปเที่ยวต่อ แต่หนังก็คือหนัง ข้างๆ ข้างหน้า ข้างหลัง คนจีนค่าา
คุยกันข้ามหัวเราตลอด เสียงดังมาก เดินไปมา เตะเก้าอี้
เราพยายามจะใจเย็น เข้าใจในวัฒนธรรมเค้า แต่ก็มีบ้างที่หงุดหงิด
พาน้องแกะมานั่งรถไฟ
รถไฟในมาเล ตรงตามเวลาเป๊ะมาก มากจนอดเทียบกับประเทศไทยไม่ได้
พอไปถึงอย่างแรกที่ทำคือ หาทางไป hostel ค่ะ การเดินทางคนเดียวทำให้รู้ว่า
เราพลาดที่ไม่ได้แคปแผนที่ไปโรงแรมมา มีแค่ชื่อถนน ตอนนั้นไม่มีเน็ตด้วย
เราเลยเดินถามทางไปเรื่อยๆ คนมาเลเซียพูดภาษาอังกฤษได้แทบทุกคน
นี่คือที่พักเราค่ะ เราจองผ่าน booking มาก่อน ประทับใจกับที่พักที่นี่มาก
ทางลงจากชั้น 2 เป็นสไลด์เดอร์ที่ ไม่ค่อยลื่น หรือเพราะเราตัวหนักก็ไม่รู้
เราชอบพักแบบ box หรือว่า แคปซูลมากค่ะ มีความฝันด้วยว่าอนาคตอยากเปิดแบบนี้
box เล็กๆ แต่สบายมาก ดูเป็นส่วนตัวมากกว่าโฮสเทลแบบเตียงไม่มีอะไรปิด
จบไปแล้วหนึ่งวันที่แสนยาวนาน ถือว่าเริ่มต้นได้ดี
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ค่าใช้จ่าย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้