"โน้สหมู่" ยอดขายบ็อกเซ็ท หล่นฮวบ วันแรกขายได้ไม่ถึงพันแผ่น ส่อทำเจ้าของเจ๊ง 20 ล้าน? เฟซบุ๊กไลฟ์ทำพิษ


แฟนเพจ Evs thailand วอนอย่าละเมิดลิขสิทธิ์ "โน้สหมู่" กรณีหลายเพจไลฟ์ดูฟรี "โน้สหมู่" ด้านหญิงลูกสองโพสต์เผยครอบครัวที่ทำธุรกิจแบรนด์ดังกล่าวกำลังเดือดร้อนหนัก หลังทุ่มเงินเก็บก้อนสุดท้าย 20 ล้านผลิตบ็อกเซ็ตแต่ยอดตกฮวบวันแรกขายได้ไม่ถึงพันแผ่น
       
           กำลังกลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์อยู่ในตอนนี้ภายหลังจากที่แฟนเพจ Evs thailand ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้ลิขสิทธิ์ในการจัดทำบ็อกเซ็ท "โน้สหมู่" ที่มีการเปิดขายไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมาโดยระบุว่าหลังการเปิดขายนั้นปรากฏว่าได้มีแฟนเพจหลายเพจได้ทำการละเมิดลิขสิทธิ์ต่างๆ นานา โดยเฉพาะการไลฟ์สดการแสดงดังกล่าวไปเป็นจำนวนมากจนแอดมินเพจ Evs thailand ต้องออกมาขอร้องให้หยุดกระทำการดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดกฏหมายก่อนจะมีหลายแฟนเพจแชร์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกไปมากมาย


พร้อมกันนี้ก็ได้มีหญิงสาวที่ระบุว่าตนเองเป็นคุณแม่ลูกสองและครอบครัวทำธุรกิจจัดจำหน่าย CD DVDในชื่อ EVS Thailand ก็ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเวบบอร์ดแห่งหน่งโดยระบุว่าตอนนี้ครอบครัวตนเองกำลังได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากหลังเงินเก็บก้อนสุดท้ายจำนวน 20 ล้านบาทที่ลงทุนไปกับการซื้อลิขสิทธิ์เพื่อผลิต บ็อกเซ็ท ซีดี ดีวีดี "โน้สหมู่" มียอดขายที่ตกลงไปอย่างน่าใจหาย โดยมียอดขายในวันที่เปิดขายวันแรกไม่ถึง 1000 แผ่นแต่อย่างใด
           
           ทั้งนี้ผู้โพสต์ยังระบุด้วยว่าสาเหตุดังกล่าวนั้นก็มาจากการละเมิดลิขสิทธิ์ทางโลกโซเชียลนั่นเอง ซึ่งข้อความส่วนหนึ่งจากการโพสต์ของเจ้าตัวนั้นระบุว่า...
       
           "ที่ผ่านมา การจัดจำหน่าย CD มีเวลาทำยอดขายแค่ 5-10 วันแรกเท่านั้น
           หลังจากนั้นก็จะโดนก๊อปปี้ไปขายกันทั่วทุกหัวมุม
           แต่วันนี้มันแย่กว่านั้น การละเมิดลิขสิทธิ์ผ่าน FB live
           หรือแพร่ภาพรับชมผ่านกล่องสตรีมเถื่อน
           จะสามารถดับความหวังของคนทำงานได้ในเวลาไม่ถึงวัน
           เพราะยอดแชร์และยอดวิวมหาศาล จนตัวเองก็ทำอะไรไม่ถูก
       
           ดิฉันพยายามส่งข้อความไปยังเพจต่างๆ ขอความเห็นใจ    
           ซึ่งหลายๆคนให้ความร่วมมือดีมาก แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด
           เรื่องของการดาวโหลดเพื่อการรับชมอย่างผิดกฎหมายยังคงมีอยู่
           และมีเข้ามาเรื่อยๆ ในแบบที่ไม่สามารถควบคุมได้
       
           คือดิฉันเข้าใจและเห็นใจนะคะ ว่า CD ราคา 199 บาท
           และ DVD 299 บาทมันอาจจะแพงเกินไปสำหรับบางคน
           อย่างเช่นคนที่มีรายได้น้อย หรืออาจไม่ได้รับความรู้ในเรื่องลิขสิทธิ์มากนัก
           แต่จากหลายๆข้อความที่ผ่านตาอย่างเช่น
           “ค่าแรงวันละ 300 ไม่มีจ่าย”
           “ซื้อแผ่น 50 บาทชัดเหมือนกัน”
           “ได้ค่าตั๋วไปตั้งเยอะแล้ว แค่นี้มันไม่ขาดทุนหรอก”
       
           มันรู้สึกบอกไม่ถูก ไม่รู้จะบรรยายเป็นคำพูดว่าอะไร    
           เพียงเพราะคนหนึ่งไม่มี ทำให้อีกคนถูกเอาเปรียบ
           เอาเปรียบกันได้ค่ะ แต่อย่าทำเหมือนเป็นเรื่องถูกต้อง
           เรื่องธรรมดา เรื่องที่ทำได้กันแบบไม่รู้สึกผิด
       
           ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวา ดิฉันกินไม่ได้นอนไม่หลับ
           มันเป็นการต่อสู้ที่ยาวนาน และความหวังที่จะชนะมันริบหรี่เต็มที
           เราสู้อยู่กับสิ่งที่สู้ลำบากมากเหลือเกินคือ
           จิตสำนึกคนไทย เพราะมีคนไทยจำนวนไม่น้อย
           ที่รู้สึกว่าการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นเรื่องธรรมดา
       
           ดิฉันในฐานะที่เป็นหนึ่งในครอบครัว EVS Thailand
           อยากจะกราบขอความเห็นใจทุกท่านที่มีโอกาส
           ผ่านมาและเสียสละเวลาอ่านถึงตรงนี้ค่ะว่า
       
           หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่เคยได้รับความสนุกสนาน รอยยิ้ม
           เสียงหัวเราะจาก โน้สเดี่ยว หรือ โน้สหมู่
           อยากให้ทุกท่านช่วยกันอุดหนุน CD DVD ถูกกฎหมาย
           อย่างน้อยก็เพื่อเป็นที่ระลึกเป็นความทรงจำ
           เป็นคุณค่าทางใจ ที่ในอนาคตข้างหน้าทุกอย่างจะถูกโอนย้าย
           ไปอยู่บนโลกออนไลน์ทั้งหมด...
       
           อย่าให้รักแท้ที่เรามีต่อผลงานที่เราชื่นชอบ
           พ่ายแพ้กับสิ่งผิดกฎหมายเลยค่ะ
       
           หากแผ่นที่ท่านซื้อไปมีปัญหาสามารถนำมาเปลี่ยนได้ที่ EVS Thailand เลยนะคะ
           ขอบคุณค่ะ"
       
           สำหรับ บริษัท อีวีเอส เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (EVS Entertainment) นั้นมี "ดร.เสกสรร สุนันท์กิ่งเพชร" หรือ "เฮียเอี๋ยม" เป็นประธานกรรมการบริษัท เริ่มต้นกิจการตั้งแต่ปี 2523 จากการเป็นศูนย์เช่าวิดีโอ ก่อนที่ในช่วงปี 2530 ก็ได้เริ่มทำม้วนวิดีโอไปขายในคลองถม, มาบุญครอง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหนังการ์ตูนที่ตอนนั้นยังไม่มีใครมาดูแลในเรื่องลิขสิทธิ์มากนัก    
       
           ช่วงปี 2539-2540 หลังการล่มสลายของม้วนวิดีโอ บริษัทจึงได้ปรับเปลี่ยนมาผลิตวีซีดีและดีวีดีแทน โดยเน้นไปที่ตลาดคาราโอเกะ และเมื่อตลาดคาราโอเกะมีคู่แข่งและต้นทุนสูงขึ้น ทางอีวีเอสจึงหันไปผลิตการแสดงสดหมอลำเป็นเจ้าแรกๆ และประสบความสำเร็จอย่างมากถึงขนาดถูกยกว่าเป็น "เจ้าพ่อบันทึกการแสดงสด" เลยทีเดียว (อ้างอิงจาก EVS เจ้าพ่อบันทึกการแสดงสด)


http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9590000126530
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่